ขอแชร์ประสบการณ์ฟรีแลนซ์โดนโกง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราจริงๆ เมื่อ 2 ปีก่อนได้ค่ะ จริงๆแล้วเราลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำถ้าเราไม่บังเอิญไปเจอผลงานที่เราเคยทำไว้วางขายอยู่ เรื่องมีอยู่ว่า...ประมาณ 2 ปีก่อนตอนนั้นเราทำงานที่สำนักพิมพ์การ์ตูนแห่งนึงแต่ด้วยความที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือและคิดไว้ว่าอาจจะเปลี่ยนสายงานมาทำหนังสือพ็อกเกตบุ๊กในอนาคต เราจึงได้ลองหางานฟรีแลนซ์ที่เกี่ยวกับหนังสือเล่มดู ตอนนั้นเรายังไม่มีคอนเน็กชั่นกับคนที่ทำงานในวงการหนังสือเล่มสักเท่าไหร่เลยใช้วิธีหางานผ่านเน็ตเอาค่ะ จนกระทั่งมาเจอว่าสำนักพิมพ์หนึ่งรับสมัครบรรณาธิการฟรีแลนซ์เราก็ลองสมัครไปดูโดยไม่ลังเล เพราะสำนักพิมพ์นี้เป็นสำนักพิมพ์ชื่อดังอันดับต้นๆ เราเองก็เป็นแฟนหนังสือของที่นี่หลายเล่มเหมือนกัน

    ปรากฏว่า 2-3 เดือนต่อมาเราได้รับโทรศัพท์จากสำนักพิมพ์นี้เรียกให้ไปคุยงานด้วยค่ะ งานที่เราได้รับเป็นหนังสือแปลเล่มหนึ่งค่ะ หน้าที่ของเราก็คือต้องอ่านแล้วเกลาภาษา แก้คำต่างๆ ทำหน้าที่เหมือนบรรณาธิการคนหนึ่งค่ะ หนังสือหนาประมาณ 300 กว่าหน้า หลังจากที่เราทำงานเสร็จแล้วเราโทรติดต่อกลับไปยังสำนักพิมพ์เพื่อจะส่งงานให้ตรวจและพูดคุยเพื่อปรับปรุงแก้ไข แต่กลายเป็นว่าทางสำนักพิมพ์บ่ายเบี่ยงที่จะพบเราตลอด ตอนนั้นคิดว่าคงงานยุ่งเพราะมันเป็นช่วงงานสัปดาห์หนังสือด้วย เราพอจะเข้าใจดีค่ะว่าช่วงงานหนังสือทุกสำนักพิมพ์จะวุ่นวายขนาดไหน ยิ่งสำนักพิมพ์นี้เป็นสำนักพิมพ์ใหญ่ด้วยแล้วความวุ่นวายจะเพิ่มทวีคูณเป็นสองเท่าเลยค่ะ เราก็เลยคิดว่าจะกลับมาใหม่หลังจากงานหนังสือผ่านไปแล้ว เราก็เลยส่งงานที่เป็นไฟล์ที่เราแก้เสร็จหมดแล้วไปทางอีเมลก่อน เผื่อว่าทางสำนักพิมพ์จะได้อ่านก่อน     หลังจากงานสัปดาห์หนังสือเราพยายามโทรติดต่อพี่ที่เป็นผู้จัดการสำนักพิมพ์และบรรณาธิการเพื่อจะนัดแนะส่งงาน แต่กลายเป็นว่าทางโน้นบอกว่าไม่สะดวกต้อนรับหากจะมาให้ฝากต้นฉบับที่เป็นเปเปอร์ไว้ที่ประชาสัมพันธ์ด้านล่าง แล้วเดี๋ยวทางกองจะติดต่อกลับไปเอง...งงตึ้บค่ะ ตอนแรกคิดว่า เอ หรือว่าทางสำนักพิมพ์จะเห็นว่างานเราแย่แล้วหาคนใหม่มาทำแทนแล้วหรือเปล่า แต่ถ้าได้คนใหม่มาทำก็น่าจะบอกเราตรงๆ สิ ไม่เห็นต้องบ่ายเบี่ยงไม่พบกันเลย ตั้งแต่วันนั้นเราก็รอโทรศัพท์ติดต่อกลับจากสำนักพิมพ์ค่ะ เพื่อจะคุยกันเรื่องงานชิ้นต่อไป(ลืมบอกไปว่าครั้งแรกที่คุยกันเขาจะให้เราทำหนังสือ 5 เล่มค่ะ)แต่ก็ไม่มีวี่แววเลยค่ะ เราเองมีโทรไปหาบ้างแต่ก็ไม่เจอพี่ที่เคยคุยกันเลยบอกว่าติดงานบ้าง ติดประชุมบ้าง จนถึงวันนี้เวลาผ่านไป 2 ปีกว่าเราเริ่มปลงและปล่อยวางว่าหนังสือเล่มนั้นคงจะไม่ได้ตีพิมพ์ละมั้งเพราะไม่เห็นตามแผงหนังสือเลย จนวันนี้เราไปเดินร้านหนังสือแล้วก็เจอกับ...ใช่ค่ะ หนังสือที่เราทำ!! เรานี่มือสั่นรีบหยิบมาเปิดอ่าน อาห์...มันคืองานที่เราทำจริงๆ T^T เป็นงานที่ทำฟรี เจ็บฟรีด้วย ไม่ได้เงินไม่ว่า(จริงๆก็ว่านะ)แต่ทำไมถึงเอางานเราไปแบบเนนนน้ เสียความรู้สึกมากกว่า

เรื่องเงินค่าตอบแทน...ตอนแรกที่เราคุยกับบอกอเราถามเรื่องเงินตรงๆแต่ทางโน้นก็เลี่ยงที่จะพูดเรื่องเงินก่อน โดยบอกเราว่าอันนี้ขอลองไปประชุมกันก่อนแล้วจะบอกอีกที เราก็เลยไม่เซ้าซี้ค่ะเพราะไว้ใจด้วยว่าสำนักพิมพ์ใหญ่ๆแบบนี้คงมืออาชีพพอ ยอมรับว่าตอนนั้นตัวเองเพิ่งรับงานฟรีแลนซ์ ยังใหม่อยู่ด้วย แต่ถ้าจะให้พูดกันจริงๆเรื่องเงินสำหรับเรา(ตอนนั้น)มันไม่สำคัญเลยนะ เพราะเราอยากจะได้คอนเน็กชั่นดีๆ รู้จักคนในวงการหนังสือเยอะๆมีงานป้อนเรื่อยๆมากกว่า ที่มาเล่านี่ไม่ได้จะดิสเครดิตใครนะคะแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ หรือน้องรุ่นใหม่ๆ ที่รับงานฟรีแลนซ์อ่านไว้เป็นตัวอย่างค่ะ งานฟรีแลนซ์เป็นงานที่สบายก็จริง ไม่ต้องตอกบัตรเข้าออฟฟิศ สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ แต่ในโลกนี้ทุกอย่างมันก็มีสองด้านทั้งนั้นคนที่ดีจริงๆ ก็ยังมีอยู่ค่ะ บางคนดีมากเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่บอกล่ะค่ะว่าโลกนี้มันก็มีสองด้าน ครั้งหนึ่งในชีวิตเราอาจจะซวยที่ต้องโคจรมาพบกับคนประเภทนี้ เงินค่าตอบแทนเป็นอะไรที่เล็กน้อยมากแต่เสียความรู้สึกมากกว่าค่ะ ตอนนี้เราโตขึ้นมากเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เป็นบทเรียนสำหรับเราค่ะ ไม่ทราบว่าเพื่อนๆฟรีแลนซ์เคยเจอประสบการณ์อะไรแบบนี้มั้ยคะ ลองมาแชร์กันค่ะเผื่อได้เป็นอุทธาหรณ์ให้เพื่อนๆฟรีแลนซ์คนอื่น

ปล. ไม่รู้จะแท๊กห้องไหนดี ขอแท๊กห้องปัญหาชีวิต ปัญหาสังคมละกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่