สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าเอาตามความเห็นส่วนตัว ก็ต้องขอเปรียบเทียบกับต้นฉบับคือเวอร์ชั่นญี่ปุ่นละกัน เพราะขึ้นชื่อว่ารีเมคมา
ต้องบอกก่อนว่าเสน่ห์ของ Liar Game นับแต่ตั้งเวอร์ชั่น Manga จนถึงเป็นละครของญี่ปุ่น อยู่ที่การหลอกลวงสมชื่อจริงๆ
เราแทบจะไม่ได้เจอบรรยากาศที่ผ่อนคลายเท่าไรเวลาที่อ่านหรือดู Liar Game รวมถึงเดาทางตัวละครไม่ค่อยออกด้วยซ้ำว่าจะมาไม้ไหน
มันเลยให้ความรู้สึก ตื่นเต้น กดดัน น่าติดตาม และไม่เหมือนใคร เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะเกิดการหลอกลวงขึ้นอีก เรียกได้ว่าไม่ได้ขายความฟินเลยแม้แต่น้อย
กลับมาดูเวอร์ชั่นเกาหลี
อย่างแรก ผมว่าบทตัวละครแต่ละตัวมันจะค่อนอยู่ครึ่งๆกลางๆ ไม่ค่อยสุด (ไม่ได้หมายถึงนักแสดงนะ)
อย่างชาวูจิน ที่ดูจะฉลาดมันก็ดูฉลาดไม่สุด ถ้าคนไม่รู้จักอากิยามะในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น จะรู้สึกว่าวูจินค่อนข้างฉลาด
แต่ถ้าเทียบกับอากิยามะแล้ว อากิยามะจะดูฉลาดและเยือกเย็นเรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะที่เย็นชาด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ไม่ได้มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากมายนัก แต่ชาวูจินให้ความรู้สึกเหมือนคนที่หัวดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นอัจฉริยะเท่าไหร่
ต่อมานัมดาจอง ที่ให้ความรู้สึกคือเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเกินไปเท่านั้น ไม่ได้ซื่อบื้อ ในขณะที่นาโอะนั้นเรียกได้ว่าซื่อบื้อด้วยซ้ำ สิ่งที่นาโอะคิดหรือแสดงจะทำให้คนที่ดูรู้สึกว่า เออ คนที่คิดแบบนี้ก็มีด้วยนะ มันทำให้เกิดเสน่ห์ของนาโอะที่ว่า ความซื่อบื้อนี่แหละที่ชนะใจคนได้ในเกมหลอกลวงจริงๆ เพราะสิ่งที่คิดและแสดงออกดูบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเหมือนเดิมตลอด เนื่องจากอยู่กับอากิยามะตลอด ทำให้เห็นการพัฒนาไปจากเดิมค่อนข้างมากที่แลดูจะทันคนมากขึ้นนั่นเอง
กลับมาที่นัมดาจอง นอกจากจะให้ความรู้สึกที่เป็นแค่คนมองโลกในแง่ดีแล้ว ยังแทบไม่ค่อยเห็นการพัฒนาจากตัวละครตัวนี้เท่าไหร่จนรู้สึกว่าหลังๆมันน่ารำคาญด้วยซ้ำ เหมือนรอความช่วยเหลือจากชาวูจินอย่างเดียวเท่านั้น มันเลยทำให้ตัวละครตัวนี้ขาดเสน่ห์ไปอย่างสิ้นเชิง
และบทตัวละครอื่นๆที่เหลือ ด้วยความที่รีเมคมา จึงเพิ่มสไตล์ละครเกาหลีเข้าไปที่เหมือนจะให้คนดูได้จิ้นชาวูจินกับนัมดาจอง บทตัวละครอื่นๆมันเลยซอฟลงมาหมด เป็นแค่เกมโชว์ที่ให้ความบันเทิงเท่านั้น ทำให้เสน่ห์ของ Liar Game มันหายไป
การเสริมเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครเข้าไปให้คนดูได้จิ้น ซึ่งเอาจริงๆเรื่องอื่นทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นละครโรแมนติกจริงๆมันจึงทำได้ไม่ยาก แต่เรื่องนี้แต่เดิมมันไม่ใช่ จึงไม่แปลกที่พอใส่เข้าไปมันจะครึ่งกลางๆเพราะแกนของเรื่องมันไม่ได้ส่งเสริมให้ทำได้สักเท่าไหร่
ฉะนั้นเหล่าบรรดาคู่แข่งที่อยู่ในเรื่องเลยไม่ได้เสริมให้เกมรู้สึกถึงความตื่นเต้นกดดัน แต่ให้ความรู้สึกสบายๆเหมือนแค่มาแข่งเกมโชว์เท่านั้น เนื่องจากถ้าดูจริงๆเราแทบจะไม่เห็นใครหลอกลวงที่เรียกว่าต้มตุ๋นจริงๆด้วยซ้ำ เหมือนเป็นตัวประกอบมาให้ชาวูจินกับคังโดยองสู้กันซะมากกว่า
อย่างที่สอง ส่วนสำคัญเลยคือเรื่องเกม
เนื่องจากเกมในต้นฉบับนั้นรายละเอียดจะค่อนข้างเยอะ เพราะเกมแต่ละเกม สร้างมาเพื่อให้เล่นช่องโหว่ได้โดยการหลอกลวงกัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเรื่องนี้
แต่ในเวอร์ชั่นเกาหลี นอกจากจะอธิบายได้ไม่ค่อยดีและไม่ค่อยเคลียร์แล้ว ในเรื่อง เห็นคนใช้ช่องโหว่มาหลอกกันมีอยู่แค่สองคนคือชาวูจินกับคังโดยองอีกนั่นแหละ คนที่แข่งด้วยก็หน้าเดิมๆ ชุดเดิมๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง ต้นเรื่องเป็นไงจบเรื่องก็เหมือนเดิม เกมมันเลยไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เหมือนมีคนเล่นเป็นจริงๆอยู่สองคน ที่เหลือก็ตามๆเค้าเอาแค่นั้นเอง
จากสองข้อที่ว่ามามันเลยทำให้อารมณ์โดยรวมของเรื่องมันไม่สุดสักอย่าง เหมือนกำลังเดินสามขาอยู่
ถ้าคนไม่รู้จัก Liar Game มาก่อน ได้ดูในเวอร์ชั่นเกาหลี ก็อาจจะรู้สึกสนุกอยู่ เพราะมันเป็นแนวที่ใหม่สำหรับละครเกาหลี
แต่ถ้าคนที่ดูเวอร์ชั่นญี่ปุ่นหรืออ่านการ์ตูนมาก่อนแล้ว จะรู้สึกว่าให้ดูเพลินๆก็พอได้ แต่ถ้าอยากดูให้สนุกได้อารมณ์จริงๆ ดูของญี่ปุ่นดีกว่า
ผมเลยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นเรตติ้งเรื่องนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
ต้องบอกก่อนว่าเสน่ห์ของ Liar Game นับแต่ตั้งเวอร์ชั่น Manga จนถึงเป็นละครของญี่ปุ่น อยู่ที่การหลอกลวงสมชื่อจริงๆ
เราแทบจะไม่ได้เจอบรรยากาศที่ผ่อนคลายเท่าไรเวลาที่อ่านหรือดู Liar Game รวมถึงเดาทางตัวละครไม่ค่อยออกด้วยซ้ำว่าจะมาไม้ไหน
มันเลยให้ความรู้สึก ตื่นเต้น กดดัน น่าติดตาม และไม่เหมือนใคร เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะเกิดการหลอกลวงขึ้นอีก เรียกได้ว่าไม่ได้ขายความฟินเลยแม้แต่น้อย
กลับมาดูเวอร์ชั่นเกาหลี
อย่างแรก ผมว่าบทตัวละครแต่ละตัวมันจะค่อนอยู่ครึ่งๆกลางๆ ไม่ค่อยสุด (ไม่ได้หมายถึงนักแสดงนะ)
อย่างชาวูจิน ที่ดูจะฉลาดมันก็ดูฉลาดไม่สุด ถ้าคนไม่รู้จักอากิยามะในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น จะรู้สึกว่าวูจินค่อนข้างฉลาด
แต่ถ้าเทียบกับอากิยามะแล้ว อากิยามะจะดูฉลาดและเยือกเย็นเรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะที่เย็นชาด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ไม่ได้มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากมายนัก แต่ชาวูจินให้ความรู้สึกเหมือนคนที่หัวดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นอัจฉริยะเท่าไหร่
ต่อมานัมดาจอง ที่ให้ความรู้สึกคือเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเกินไปเท่านั้น ไม่ได้ซื่อบื้อ ในขณะที่นาโอะนั้นเรียกได้ว่าซื่อบื้อด้วยซ้ำ สิ่งที่นาโอะคิดหรือแสดงจะทำให้คนที่ดูรู้สึกว่า เออ คนที่คิดแบบนี้ก็มีด้วยนะ มันทำให้เกิดเสน่ห์ของนาโอะที่ว่า ความซื่อบื้อนี่แหละที่ชนะใจคนได้ในเกมหลอกลวงจริงๆ เพราะสิ่งที่คิดและแสดงออกดูบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเหมือนเดิมตลอด เนื่องจากอยู่กับอากิยามะตลอด ทำให้เห็นการพัฒนาไปจากเดิมค่อนข้างมากที่แลดูจะทันคนมากขึ้นนั่นเอง
กลับมาที่นัมดาจอง นอกจากจะให้ความรู้สึกที่เป็นแค่คนมองโลกในแง่ดีแล้ว ยังแทบไม่ค่อยเห็นการพัฒนาจากตัวละครตัวนี้เท่าไหร่จนรู้สึกว่าหลังๆมันน่ารำคาญด้วยซ้ำ เหมือนรอความช่วยเหลือจากชาวูจินอย่างเดียวเท่านั้น มันเลยทำให้ตัวละครตัวนี้ขาดเสน่ห์ไปอย่างสิ้นเชิง
และบทตัวละครอื่นๆที่เหลือ ด้วยความที่รีเมคมา จึงเพิ่มสไตล์ละครเกาหลีเข้าไปที่เหมือนจะให้คนดูได้จิ้นชาวูจินกับนัมดาจอง บทตัวละครอื่นๆมันเลยซอฟลงมาหมด เป็นแค่เกมโชว์ที่ให้ความบันเทิงเท่านั้น ทำให้เสน่ห์ของ Liar Game มันหายไป
การเสริมเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครเข้าไปให้คนดูได้จิ้น ซึ่งเอาจริงๆเรื่องอื่นทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นละครโรแมนติกจริงๆมันจึงทำได้ไม่ยาก แต่เรื่องนี้แต่เดิมมันไม่ใช่ จึงไม่แปลกที่พอใส่เข้าไปมันจะครึ่งกลางๆเพราะแกนของเรื่องมันไม่ได้ส่งเสริมให้ทำได้สักเท่าไหร่
ฉะนั้นเหล่าบรรดาคู่แข่งที่อยู่ในเรื่องเลยไม่ได้เสริมให้เกมรู้สึกถึงความตื่นเต้นกดดัน แต่ให้ความรู้สึกสบายๆเหมือนแค่มาแข่งเกมโชว์เท่านั้น เนื่องจากถ้าดูจริงๆเราแทบจะไม่เห็นใครหลอกลวงที่เรียกว่าต้มตุ๋นจริงๆด้วยซ้ำ เหมือนเป็นตัวประกอบมาให้ชาวูจินกับคังโดยองสู้กันซะมากกว่า
อย่างที่สอง ส่วนสำคัญเลยคือเรื่องเกม
เนื่องจากเกมในต้นฉบับนั้นรายละเอียดจะค่อนข้างเยอะ เพราะเกมแต่ละเกม สร้างมาเพื่อให้เล่นช่องโหว่ได้โดยการหลอกลวงกัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเรื่องนี้
แต่ในเวอร์ชั่นเกาหลี นอกจากจะอธิบายได้ไม่ค่อยดีและไม่ค่อยเคลียร์แล้ว ในเรื่อง เห็นคนใช้ช่องโหว่มาหลอกกันมีอยู่แค่สองคนคือชาวูจินกับคังโดยองอีกนั่นแหละ คนที่แข่งด้วยก็หน้าเดิมๆ ชุดเดิมๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง ต้นเรื่องเป็นไงจบเรื่องก็เหมือนเดิม เกมมันเลยไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เหมือนมีคนเล่นเป็นจริงๆอยู่สองคน ที่เหลือก็ตามๆเค้าเอาแค่นั้นเอง
จากสองข้อที่ว่ามามันเลยทำให้อารมณ์โดยรวมของเรื่องมันไม่สุดสักอย่าง เหมือนกำลังเดินสามขาอยู่
ถ้าคนไม่รู้จัก Liar Game มาก่อน ได้ดูในเวอร์ชั่นเกาหลี ก็อาจจะรู้สึกสนุกอยู่ เพราะมันเป็นแนวที่ใหม่สำหรับละครเกาหลี
แต่ถ้าคนที่ดูเวอร์ชั่นญี่ปุ่นหรืออ่านการ์ตูนมาก่อนแล้ว จะรู้สึกว่าให้ดูเพลินๆก็พอได้ แต่ถ้าอยากดูให้สนุกได้อารมณ์จริงๆ ดูของญี่ปุ่นดีกว่า
ผมเลยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นเรตติ้งเรื่องนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
แสดงความคิดเห็น
ทำไม Liar Game Ver.เกาหลี กระแสถึงเงียบขนาดนี้ครับ ?
กระแสก็เบามากเหลือเกิน เบามากจนอยากให้อยากบอกให้โลกรู้ว่า มาดูเป็นเพื่อนเค้า แล้วมาเมาท์กับเค้าที 555
ทั้งที่โดยส่วนตัวแล้วสำหรับผม Liar Game Ver.เกาหลี นี้ถือเป็น Top5 ซีรีส์เกาหลีในดวงใจสำหรับผมเลยนะ
สนุกมาก ตื่นเต้นทุกตอน เกมพลิกไปพลิกมาตลอด ลุ้นทุกตอน ไม่น่าเบื่อ แถมยังฉีกจากซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นๆที่ ''น้ำเยอะ'' ไปซะส่วนใหญ่
คือมันดีมาก เนื้อเรื่องแน่นมาก เพราะมันเคยเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น และก็ได้ทำเป็นซีรีย์ของฝั่งยุ่นมาก่อนด้วย
เรียกได้ว่าปกติเวลาดูซีรีส์เกาหลี ผมจะกรอตลอด แต่เรื่องนี้ไม่กรอ เพราะดูแล้วลุ้น พลิกได้ตลอด อารมณ์คล้ายๆเรากำลังดูเกมส์โชว์อยู่
เรื่องย่อมีอยู่ว่า นัมดาจอง ผู้หญิงใส โลกสวยคนนึง ต้องมาแข่ง
รายการโทรทัศน์รายการนึงที่ชื่อว่า Liar Game คือเป็นเกมโกหก
แต่ละตอน ก็จะเปลี่ยนเกมกันไปเรื่อยๆ โดยที่ผู้เข้าแข่งขันสามารถ
โกหก บลัฟกัน เข้าข้างกัน หาพวก หักหลัง กันได้ตลอดเวลา
เพื่อเงินรางวัลที่มูลค่ามหาศาล
พระเอก - ฉลาดมาก เทพเวอร์ เป็น ศาสตราจารย์ด้านจิทวิทยา สามารถอ่านคนจากสีหน้าได้
นางเอก - สวย น่ารัก ใสๆ มองโลกในแง่ดีเสมอ แต่โลกสวยไปหน่อย มักจะเชื่อใจใครง่ายๆ ทำให้นางโดนหลอกอยู่บ่อยๆ - -*
ตัวร้าย - นี่แหละคำนิยามของตัวร้าย คือพี่แก เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ หน้าตาจะโรคจิตไปไหน -*- น่ากลัวมาก แต่เล่นดีมาก จิตมาก
อยากให้ทุกคนลองดูกันเยอะๆ ซีรีส์มีแค่ 12 ตอน ดูง่าย สนุก ใครยังไม่ดู ก็ดูกันนะครัช รับรองว่าติดใจแน่นอน
ถ้าใครชอบซีรีย์แนว ใช้ความคิด จิตวิทยา เนื้อเรื่องมันส์ๆ ห้ามพลาดครับ
ปล.ดูแล้วไม่อยากให้จบเลย และผมคิดว่าน่าจะมีภาค 2 ต่อนะ ...