▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การ์ตูนการเมือง
รัฐศาสตร์
...ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ... ประกาศบอกจะเลิกปรี๊ด...!!!
เราก็ประกาศมั่งแต่จะทำได้หรือไม่ได้นั่นอีกเรื่อง
อ่อ ล๊อคอินนี้ ตัวที่ 12 แล้วเด้อ...
...การยึดมั่นในสิ่งใด ย่อมนำไปสู่ทุกข์ได้ทั้งนั้น
เพราะการรู้ว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดถือมั่น
หรือก็คือ ว่างจากการยึดมั่น บางครั้ง
เราก็ปรุงแต่งจิตให้เป็นการยึดมั่นในความไม่ยึดมั่นไปเสียได้...
...การว่างจากความยึดมั่นนี้ มักมีผู้เข้าใจว่า
ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องไม่ยึดถือในทุกๆสิ่ง
ทว่าในความเป็นจริง ตราบที่ยังไม่บรรลุอรหันต์
แม้เราจะรู้ว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดถือมั่น
เราก็ยังไม่สามารถจะไม่มีสิ่งที่ยึดถือ หรือ ตัดความยึดมั่นลงได้
หากการปฏิบัติจะช่วยให้เราจะค่อยๆยึดน้อยลงเรื่อยๆ
เราจึงว่างมากขึ้นตามลำดับ แต่ก็เป็นความว่างลักษณะที่ว่า
ว่างจากสิ่งหนึ่ง ก็ไปยึดอีกสิ่งหนึ่ง
อันเป็นการยึดที่ทำให้กิเลสเบาบางลง
จนกระทั่งหมดความยึดได้ในที่สุด...
สำเร็จคัมภีร์ปราบมารแต่มารในใจใยยิ่งผงาด
บูรพาไม่แพ้ใยแพ้เพลิงพิศวาส
มหาเวทย์ดูดดาวใยมิอาจดูดกลืนความพยาบาท
แสงแดดสาดมามองด้วยตาเปล่าก็หรี่เท่ากัน
มีดสั้น ดาบ ทวน จะใช้ยาพิษ กระบี่ เกาทัณฑ์
มันตายเพราะอาวุธใดพอท่านแก่ไปก็ตายเหมือนมัน
หาได้มีใครจะอยู่ค้ำฟ้า ยาจก เศรษฐี หรือจอมราชันย์
(และเพราะฉะนั้นข้าเห็นว่า)
ใยต้องแก่งแย่งกันทั้งปี เมื่อชีวิตนั้นสั้นลงทุกนาที
ยุทธภพได้แต่ฆ่า ได้แต่ฟัน ได้แต่แย่ง ได้แต่ชิง ได้แต่ต่อย ได้แต่ตี
บารมีมากไปใยเหมือนแบกสัมภาระแล้วเดินทางไกล
ปล่อยวางมายาลงเถิดสหาย แล้วใช้มือคู่นั้นยกจอกเมรัย
------------------------------------
เฮ้ย เสี่ยวเอ้อไปยกสุรามาอีกไห
ยกจอกย้อมใจให้ไมตรีไม่เฉไฉ
กอดคอฝ่าอุปสรรค ปล่อยวางความแค้นที่หนัก
คืนนี้ข้าจะนั่งดื่มแล้วยิ้มเยาะเย้ยให้ยุทธจักร
------------------------------------
สิ้นแสงตะวัน ผุดพลันแสงจันทรา
นี่แหล่ะหนา ร่ำสุราและยิ้มเย้ยในที
โลกไม่จีรัง ปล่อยวางเสียชีวี
ดั่งนที ที่ไหลมาแล้วก็ไหลไป
------------------------------------
ข้าขอยิ้มเยาะเย้ยให้ความปะปน
ในขาวมีดำ ในดำมีขาวทุกตัวคน
แม้เป็นพรรคมารก็อาจมีดีในดวงกมล
ชั่วช้าสามานย์อาจอยู่ในใจของวิญญูชน
เบื้องบนได้ลิขิตไว้ก็ล้วนแต่เป็นวาสนา
ใยยึดมั่นถือมั่นให้จริงจังกันนักหนา
กาลเวลาอันยาวนาน ผุกร่อนกระทั่งหินผา
หามีสิ่งใดในโลกจีรัง ชื่อเสียง ลาภ ยศ ศรีษะ แขน ขา
(ล้วนแตกดับสูญเป็นธุลี)
ใครกันจะค้ำปฐพี เมื่อชีวิตนั้นต้องตายทุกชีวี
ขอยกจอกให้ความไม่แท้ ความไม่แน่ ความไม่นอน ไม่อาทรความไม่มี
วัว ควายตายไปเหลือเขาหนัง คนตายเหลืออะไรเมื่อถูกฝัง
เหลือเพียงชื่อทิ้งไว้เบื้องหลัง แล้วจะแบกอะไรให้เมื่อยแผ่นหลัง
----------------------------------
ไม่มี สิ่งไหน
ยั่งยืน ตราบจน ชั่วกาลนาน
กี่รบ กี่รัก
ที่เคยผ่านมา ก็ผ่านเลยไป
ท่ามกลางหุบผา
หัวใจ ลิ่วลม ดุจดั่งใบไผ่
ปล่อยมัน ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย ตามลิขิตฟ้า...