หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
...ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ... ประกาศบอกจะเลิกปรี๊ด...!!!
กระทู้คำถาม
การ์ตูนการเมือง
รัฐศาสตร์
...ท่านปู้นำประกาศบอกจะเลิกปรี๊ด
เราก็ประกาศมั่งแต่จะทำได้หรือไม่ได้นั่นอีกเรื่อง
อ่อ ล๊อคอินนี้ ตัวที่ 12 แล้วเด้อ...
...การยึดมั่น ถือมั่น ทำให้เกิดทุกข์...
...การยึดมั่นในสิ่งใด ย่อมนำไปสู่ทุกข์ได้ทั้งนั้น
เพราะการรู้ว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดถือมั่น
หรือก็คือ ว่างจากการยึดมั่น บางครั้ง
เราก็ปรุงแต่งจิตให้เป็นการยึดมั่นในความไม่ยึดมั่นไปเสียได้...
...การว่างจากความยึดมั่นนี้ มักมีผู้เข้าใจว่า
ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องไม่ยึดถือในทุกๆสิ่ง
ทว่าในความเป็นจริง ตราบที่ยังไม่บรรลุอรหันต์
แม้เราจะรู้ว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดถือมั่น
เราก็ยังไม่สามารถจะไม่มีสิ่งที่ยึดถือ หรือ ตัดความยึดมั่นลงได้
หากการปฏิบัติจะช่วยให้เราจะค่อยๆยึดน้อยลงเรื่อยๆ
เราจึงว่างมากขึ้นตามลำดับ แต่ก็เป็นความว่างลักษณะที่ว่า
ว่างจากสิ่งหนึ่ง ก็ไปยึดอีกสิ่งหนึ่ง
อันเป็นการยึดที่ทำให้กิเลสเบาบางลง
จนกระทั่งหมดความยึดได้ในที่สุด...
...กระบี่ว่าคมแค่ไหนใยตัดความรักไม่ยักกะขาด
สำเร็จคัมภีร์ปราบมารแต่มารในใจใยยิ่งผงาด
บูรพาไม่แพ้ใยแพ้เพลิงพิศวาส
มหาเวทย์ดูดดาวใยมิอาจดูดกลืนความพยาบาท
แสงแดดสาดมามองด้วยตาเปล่าก็หรี่เท่ากัน
มีดสั้น ดาบ ทวน จะใช้ยาพิษ กระบี่ เกาทัณฑ์
มันตายเพราะอาวุธใดพอท่านแก่ไปก็ตายเหมือนมัน
หาได้มีใครจะอยู่ค้ำฟ้า ยาจก เศรษฐี หรือจอมราชันย์
(และเพราะฉะนั้นข้าเห็นว่า)
ใยต้องแก่งแย่งกันทั้งปี เมื่อชีวิตนั้นสั้นลงทุกนาที
ยุทธภพได้แต่ฆ่า ได้แต่ฟัน ได้แต่แย่ง ได้แต่ชิง ได้แต่ต่อย ได้แต่ตี
บารมีมากไปใยเหมือนแบกสัมภาระแล้วเดินทางไกล
ปล่อยวางมายาลงเถิดสหาย แล้วใช้มือคู่นั้นยกจอกเมรัย
------------------------------------
เฮ้ย เสี่ยวเอ้อไปยกสุรามาอีกไห
ยกจอกย้อมใจให้ไมตรีไม่เฉไฉ
กอดคอฝ่าอุปสรรค ปล่อยวางความแค้นที่หนัก
คืนนี้ข้าจะนั่งดื่มแล้วยิ้มเยาะเย้ยให้ยุทธจักร
------------------------------------
สิ้นแสงตะวัน ผุดพลันแสงจันทรา
นี่แหล่ะหนา ร่ำสุราและยิ้มเย้ยในที
โลกไม่จีรัง ปล่อยวางเสียชีวี
ดั่งนที ที่ไหลมาแล้วก็ไหลไป
------------------------------------
ข้าขอยิ้มเยาะเย้ยให้ความปะปน
ในขาวมีดำ ในดำมีขาวทุกตัวคน
แม้เป็นพรรคมารก็อาจมีดีในดวงกมล
ชั่วช้าสามานย์อาจอยู่ในใจของวิญญูชน
เบื้องบนได้ลิขิตไว้ก็ล้วนแต่เป็นวาสนา
ใยยึดมั่นถือมั่นให้จริงจังกันนักหนา
กาลเวลาอันยาวนาน ผุกร่อนกระทั่งหินผา
หามีสิ่งใดในโลกจีรัง ชื่อเสียง ลาภ ยศ ศรีษะ แขน ขา
(ล้วนแตกดับสูญเป็นธุลี)
ใครกันจะค้ำปฐพี เมื่อชีวิตนั้นต้องตายทุกชีวี
ขอยกจอกให้ความไม่แท้ ความไม่แน่ ความไม่นอน ไม่อาทรความไม่มี
วัว ควายตายไปเหลือเขาหนัง คนตายเหลืออะไรเมื่อถูกฝัง
เหลือเพียงชื่อทิ้งไว้เบื้องหลัง แล้วจะแบกอะไรให้เมื่อยแผ่นหลัง
----------------------------------
ไม่มี สิ่งไหน
ยั่งยืน ตราบจน ชั่วกาลนาน
กี่รบ กี่รัก
ที่เคยผ่านมา ก็ผ่านเลยไป
ท่ามกลางหุบผา
หัวใจ ลิ่วลม ดุจดั่งใบไผ่
ปล่อยมัน ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย ตามลิขิตฟ้า...
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
📝ปริยัติ : ความตั้งใจแน่วแน่ กับความยึดติดต่างกันอย่างไร
ความตั้งใจแน่วแน่ กับความยึดติด ต่างกันอย่างไร? ต่างกันตรงที่ ยึดติดมันเป็นเรื่องของอุปาทานซึ่งเป็นอกุศล ยึดถือยึดมั่น ผูกพัน ยึดในความเป็นของเราเป็นตัวเรา เป็นของเที่ยง 📌สิ่งใดไม่เที่ยงก็ยึดว่าม
RIGO RIGHI
ชีวิตคน
ชีวิตคน สับสน วุ่นวายนัก มีความแค้น และความรัก มักผสม เกิดมาแล้ว คงไม่แคล้ว พ้นโคลนตม มือโสมม ผสมชั่ว ทั่วทุกราย แม้เพื่อนตาย กลับกลาย เป็นคู่แค้น คนเป็นแฟน เคยรักกัน พลันหนีหาย เคยร่วมยิ้ม ร่าเริงกั
Green Arrow
การยึดถือ
ปัญญา Dh
จิตของเราหลุดพ้นแล้ว เพราะสิ้น สำรอก ดับสละ และสลัดคืนในวิญญาณในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ จิตของเราหลุดพ้นแล้ว เพราะสิ้น สำรอก ดับสละ และสลัดคืนในวิญญาณในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้ ข้าพเจ้ารู้แจ้งวิญญาณแล้วแลว่า ไม่มีกำลัง
สมาชิกหมายเลข 2748147
นักลงทุนจีนเย้ย ไทกั๋วกระจอกงอกง่อย ยึดได้ในเวลาแค่ 5 ปีเศษ ง่ายกว่าทุกเมืองใหญ่ในอาเซียน
ทัพหลวงยังแค่เดินทางมาใกล้ถึงเชียงรายแล้ว ขนาดเงินซื้อประเทศหมดยังได้ กรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ที่ยึดเศรษฐกิจง่ายสุดในบรรดาเมืองใหญ่ทั้งหลายในอาเซียน
สมาชิกหมายเลข 8669953
การหลุดพ้นแห่งจิต
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ว่าด้วย “การหลุดพ้นแห่งจิต” ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าจิตของภิกษุคลายกำหนัดแล้วจากรูปธาตุ หลุดพ้นแล้ว จากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น. ถ้าจิตของ
สมาชิกหมายเลข 2748147
zzz ทำใจให้สงบก็พบกับความสว่าง ทำใจให้ปล่อยวางใจก็ว่างกับทุกข์ใจ zzz
ทำใจดี มีแต่ได้ ใครอยากคบ ให้สงบ แแสนสบาย ไปหลายอย่าง ก็พบกับ นับแต่ดี มีทุกทาง ความสว่าง กระจ่างแจ้ง แห่งจิตใจ ทำใจให้ ไม่ทุกข์ สุขจึงได้ ปล่อยวางใจ ให้ว่าง อย่างสดใส ก็ว่างกับ ทุกอย่าง ห่างทุกข์ไกล
ทองรำไร
ความขัดแย้งระหว่างความเชื่อกับความจริง เรื่องความยึดมั่นถือมั่น
ชาวพุทธที่ไม่ได้ศึกษาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ก็จะมีความเชื่อกัน (ผิดๆ) อุปาทาน ที่แปลว่า ความยึดมั่นถือมั่น ก็คืออาการที่จิตไปยึดถือทั้งจิตใจและร่างกายรวมกันว่าเป็น “ตัวตน ห
เตชปัญโญ ภิกขุ
zzz ปล่อยวางว่างเว้น อยู่เย็นเป็นสุข zzz
ปล่อยไปได้ ไม่ยึดถือ คือความสุข วางความทุกข์ ทั้งปวง ไม่ห่วงหา ว่างจากสีง มัวเมา เศร้าอุรา เว้นเวียนหา พาไกล สีงไม่ดี อยู่อย่างดี มีสุข ไม่ทุกข์ท้อ เย็นอย่างพอ เพียงได้ ใจสุขขี เป็นอย่างที่ ควรเป็น เ
ทองรำไร
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การ์ตูนการเมือง
รัฐศาสตร์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
...ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ... ประกาศบอกจะเลิกปรี๊ด...!!!
เราก็ประกาศมั่งแต่จะทำได้หรือไม่ได้นั่นอีกเรื่อง
อ่อ ล๊อคอินนี้ ตัวที่ 12 แล้วเด้อ...
...การยึดมั่นในสิ่งใด ย่อมนำไปสู่ทุกข์ได้ทั้งนั้น
เพราะการรู้ว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดถือมั่น
หรือก็คือ ว่างจากการยึดมั่น บางครั้ง
เราก็ปรุงแต่งจิตให้เป็นการยึดมั่นในความไม่ยึดมั่นไปเสียได้...
...การว่างจากความยึดมั่นนี้ มักมีผู้เข้าใจว่า
ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องไม่ยึดถือในทุกๆสิ่ง
ทว่าในความเป็นจริง ตราบที่ยังไม่บรรลุอรหันต์
แม้เราจะรู้ว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดถือมั่น
เราก็ยังไม่สามารถจะไม่มีสิ่งที่ยึดถือ หรือ ตัดความยึดมั่นลงได้
หากการปฏิบัติจะช่วยให้เราจะค่อยๆยึดน้อยลงเรื่อยๆ
เราจึงว่างมากขึ้นตามลำดับ แต่ก็เป็นความว่างลักษณะที่ว่า
ว่างจากสิ่งหนึ่ง ก็ไปยึดอีกสิ่งหนึ่ง
อันเป็นการยึดที่ทำให้กิเลสเบาบางลง
จนกระทั่งหมดความยึดได้ในที่สุด...
สำเร็จคัมภีร์ปราบมารแต่มารในใจใยยิ่งผงาด
บูรพาไม่แพ้ใยแพ้เพลิงพิศวาส
มหาเวทย์ดูดดาวใยมิอาจดูดกลืนความพยาบาท
แสงแดดสาดมามองด้วยตาเปล่าก็หรี่เท่ากัน
มีดสั้น ดาบ ทวน จะใช้ยาพิษ กระบี่ เกาทัณฑ์
มันตายเพราะอาวุธใดพอท่านแก่ไปก็ตายเหมือนมัน
หาได้มีใครจะอยู่ค้ำฟ้า ยาจก เศรษฐี หรือจอมราชันย์
(และเพราะฉะนั้นข้าเห็นว่า)
ใยต้องแก่งแย่งกันทั้งปี เมื่อชีวิตนั้นสั้นลงทุกนาที
ยุทธภพได้แต่ฆ่า ได้แต่ฟัน ได้แต่แย่ง ได้แต่ชิง ได้แต่ต่อย ได้แต่ตี
บารมีมากไปใยเหมือนแบกสัมภาระแล้วเดินทางไกล
ปล่อยวางมายาลงเถิดสหาย แล้วใช้มือคู่นั้นยกจอกเมรัย
------------------------------------
เฮ้ย เสี่ยวเอ้อไปยกสุรามาอีกไห
ยกจอกย้อมใจให้ไมตรีไม่เฉไฉ
กอดคอฝ่าอุปสรรค ปล่อยวางความแค้นที่หนัก
คืนนี้ข้าจะนั่งดื่มแล้วยิ้มเยาะเย้ยให้ยุทธจักร
------------------------------------
สิ้นแสงตะวัน ผุดพลันแสงจันทรา
นี่แหล่ะหนา ร่ำสุราและยิ้มเย้ยในที
โลกไม่จีรัง ปล่อยวางเสียชีวี
ดั่งนที ที่ไหลมาแล้วก็ไหลไป
------------------------------------
ข้าขอยิ้มเยาะเย้ยให้ความปะปน
ในขาวมีดำ ในดำมีขาวทุกตัวคน
แม้เป็นพรรคมารก็อาจมีดีในดวงกมล
ชั่วช้าสามานย์อาจอยู่ในใจของวิญญูชน
เบื้องบนได้ลิขิตไว้ก็ล้วนแต่เป็นวาสนา
ใยยึดมั่นถือมั่นให้จริงจังกันนักหนา
กาลเวลาอันยาวนาน ผุกร่อนกระทั่งหินผา
หามีสิ่งใดในโลกจีรัง ชื่อเสียง ลาภ ยศ ศรีษะ แขน ขา
(ล้วนแตกดับสูญเป็นธุลี)
ใครกันจะค้ำปฐพี เมื่อชีวิตนั้นต้องตายทุกชีวี
ขอยกจอกให้ความไม่แท้ ความไม่แน่ ความไม่นอน ไม่อาทรความไม่มี
วัว ควายตายไปเหลือเขาหนัง คนตายเหลืออะไรเมื่อถูกฝัง
เหลือเพียงชื่อทิ้งไว้เบื้องหลัง แล้วจะแบกอะไรให้เมื่อยแผ่นหลัง
----------------------------------
ไม่มี สิ่งไหน
ยั่งยืน ตราบจน ชั่วกาลนาน
กี่รบ กี่รัก
ที่เคยผ่านมา ก็ผ่านเลยไป
ท่ามกลางหุบผา
หัวใจ ลิ่วลม ดุจดั่งใบไผ่
ปล่อยมัน ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย ตามลิขิตฟ้า...