ที่สำนักอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วยนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข่าวกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า หลังจากที่คณะทำงานผู้แทนอัยการสูงสุดและคณะทำงานผู้แทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ร่วมกันประชุมเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์กันครั้งสุดท้าย มีผลสรุปว่า คณะทำงานผู้แทนอัยการสูงสุด เห็นว่า ควรสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติมและส่งพยานเอกสารให้ครบถ้วนตามที่ได้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ไว้ทุกประเด็น ส่วนคณะทำงานผู้แทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าจะส่งพยานเอกสารเพิ่มเติม และสอบพยานบุคคลบางปากที่เกี่ยวข้องกับเอกสารเท่านั้น โดยเบื้องต้นคณะทำงานผู้แทนแต่ละฝ่ายจะนำประเด็นที่พิจารณากันไปเสนออัยการสูงสุดและคณะกรรมการป.ป.ช. ว่า อัยการสูงสุดและคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเห็นพ้องด้วยกับแนวทางดังกล่าวหรือไม่
ทั้งนี้ อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่า หากมีการรวบรวมพยานเอกสารเพิ่มเติมและมีการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเด็นที่คณะทำงานผู้แทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบด้วย และมีการสอบเพิ่มเติมในประเด็นของคณะทำงานผู้แทนอัยการสูงสุดเรื่องการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีให้สิ้นกระแสความแล้ว คดีน่าจะมีพยานหลักฐานสมบูรณ์พอที่จะดำเนินการคดีอาญาในชั้นศาล พร้อมกันนี้อัยการสูงสุดจะดำเนินการพิจารณาคดีดังกล่าวโดยยึดหลักกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปจรงมาด้วยความถูกต้อง ชอบธรรม และความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางคณะทำงานผู้แทนแต่ละฝ่าย จะต้องดำเนินการพิจารณาคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งเตรียมนัดประชุมคณะทำงานผู้แทนแต่ละฝ่ายภายในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้คดีดังกล่าวได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ปปช กลับไปทำการบ้านมาใหม่นะเพราะ อัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้อง... จำนำข้าว
ทั้งนี้ อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว เห็นว่า หากมีการรวบรวมพยานเอกสารเพิ่มเติมและมีการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเด็นที่คณะทำงานผู้แทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบด้วย และมีการสอบเพิ่มเติมในประเด็นของคณะทำงานผู้แทนอัยการสูงสุดเรื่องการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีให้สิ้นกระแสความแล้ว คดีน่าจะมีพยานหลักฐานสมบูรณ์พอที่จะดำเนินการคดีอาญาในชั้นศาล พร้อมกันนี้อัยการสูงสุดจะดำเนินการพิจารณาคดีดังกล่าวโดยยึดหลักกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปจรงมาด้วยความถูกต้อง ชอบธรรม และความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางคณะทำงานผู้แทนแต่ละฝ่าย จะต้องดำเนินการพิจารณาคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งเตรียมนัดประชุมคณะทำงานผู้แทนแต่ละฝ่ายภายในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้คดีดังกล่าวได้ข้อสรุปที่ชัดเจน