ใครยังไม่ได้ฟัง ลองตามไปดูในลิ้งค์นี้ครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418108641
จะไม่ให้ผมส่ายหน้าได้อย่างไรครับ เมื่อได้ยินคุณสมบัติพูดถึง ส.ส.จำนวนมาก ซึ่งมาจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และเมื่อ ส.ส.เหล่านี้ก็จะให้เกิดผลประโยชน์ต่างตอบแทน รวมทั้งพรรคการเมืองเสียงข้างมากในสภา การตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติจะไม่สามารถทำได้
นี่เป็นความคิดของคนที่ไม่เคยมั่นใจการเลือกตั้ง นี่เป็นแนวคิดของคนที่ไม่เคยเคารพเสียงส่วนใหญ่ และนี่ยังเป็นความคิดของคนที่ไม่มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยขนานแท้ แต่กลับได้เป็นประธานในการปฏิรูปการเมือง เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญ เฮ่อ เวรกรรมของประเทศไทยจริงๆเลยนะครับ
คุณสมบัติครับ ถามจริงเถิดครับ การใช้เสียงข้างมากในสภา มันก็เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่สังคมโลกเขาทำกันไม่ใช่หรือครับ ดังนั้นการตรวจสอบในสภาทั่วโลก ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านที่มีเสียงน้อยกว่ารัฐบาลอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ แล้วประเทศไทยมันแตกต่างกับทั่วโลกตรงไหนหรือครับ แปลกจริงเชียว
คุณสมบัติครับ ผมจะบอกอะไรให้นะครับ การตรวจสอบรัฐบาลนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเสียงหรอกนะครับ แต่มันต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลต่างหากครับ ข้อมูลที่แม่นยำและถูกต้องเท่านั้น จึงจะสามารถล้มรัฐบาลได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะมีมากแค่ไหนก็ตาม ดูอย่างสมัยรัฐบาลชวนสิครับ พอเจอข้อมูลหนักแน่นอย่าง สปก.4-01 สิครับ รัฐบาลชวนก็อยู่ไม่ได้
หรือดูอย่าง พรบ.นิรโทษกรรมก็ได้ ต่อให้มีเสียงในสภามากแค่ไหน เมื่อประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วย สุดท้ายคุณยิ่งลักษณ์ก็ต้องยุบสภา ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน
เห็นหรือยังครับคุณสมบัติ การตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคน มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการล้อมกรอบประธานสภา มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการขว้างแฟ้มหรือขว้างเก้าอี้แต่อย่างไร
แต่มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของฝ่ายค้านต่างหากครับ ถ้าเพียงแต่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือ เพียงแค่หวังชนะคะคานกันทางการเมือง จนนำไปสู่การค้านในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ก็ตาม นี่ต่างหากครับที่ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย นี่ต่างหากครับที่ทำให้ประชาชนไม่อยากรับรู้ ดังนั้นต่อให้รัฐบาลมีเสียงปิ่มน้ำ ก็ไม่สามารถระคายรัฐบาลได้หรอกครับ ขอบอก
และการตรวจสอบรัฐบาลก็ใช่แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่กันครับ เรายังมีภาคประชาชน เรายังมีองค์กรอิสระที่พร้อมจะตรวจสอบอยู่แล้วนี่ครับ
หรือคุณสมบัติกำลังจะบอกว่า กกต. ของเราไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จึงทำให้ ส.ส.ซื้อเสียงเข้าสภาได้เป็นจำนวนมาก
หรือคุณสมบัติกำลังจะบอกว่า ปปช.ไม่มีคุณภาพเพียงพอ จึงไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้
ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณสมบัติจึงควรจะปฏิรูปองค์กรอิสระก่อนเป็นลำดับแรกไม่ใช่หรือครับ
ดังนั้นถ้าโจทย์ของคุณสมบัติต้องการปฏิรูปเพื่อสกัดการซื้อเสียงล่ะก้อ การแถลงของคุณสมบัติในครั้งนี้ คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้หรอกนะครับ เพราะคุณสมบัติเองก็ย้อนแย้งในตัวเองอยู่แล้วว่า เพื่อทำให้การซื้อเสียงทำได้ยาก และใช้เงินมากขึ้น นั่นหมายความว่า ยังคงซื้อเสียงได้อยู่ ถึงจะใช้เงินมากขึ้นก็ตาม และก็คงกลับไปสู่วังวนเก่าๆ ใช้เงินมากก็ต้องโกงมากอีกเช่นเคย สุดท้ายคงหนีไม่พ้น ต้องออกมาชุมนุมกลางถนนเพื่อขับไล่อีก จริงไหม
แต่ถ้าโจทย์ของคุณสมบัติต้องการปฏิรูปเพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นความต้องการของ กปปส.มาตั้งแต่ต้น และคุณสมบัติก็เป็นหนึ่งในแกนนำเสียด้วย ดังนั้นผมคงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าโจทย์จะเป็นเช่นนี้
แต่ผมอยากบอกคุณสมบัติว่า มันเป็นการตั้งโจทย์ผิดนะครับ ผิดเหมือนกับการทำรัฐประหารเมื่อปี 49 ที่ใครๆบอกว่า “เสียของ” ผมจึงหวังว่าคุณสมบัติจะไม่ทำให้ครั้งนี้ “เสียของ”เหมือนกับพวกของคุณสมบัติทำทิ้งไว้เมื่อครั้งก่อนนะครับ
ถ้าโจทย์เอา ทักษิณ เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีทักษิณ ทุกอย่างก็จะจบ
ถ้าโจทย์เอา ทรัพย์สมบัติของคุณทักษิณ เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการยึดทรัพย์ สกัดท่อน้ำเลี้ยง ทุกอย่างก็จบ
ถ้าโจทย์เอา การซื้อเสียงขายเสียง เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการสกัดไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามซื้อเสียงได้ ทุกอย่างก็จบ
ถ้าโจทย์เอา เครือข่ายทักษิณ เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการตัดสิทธิตัดหนทางๆการเมือง ทุกอย่างก็จบ
แล้วสุดท้ายเป็นไงครับ จบไหมครับ?
ที่มันไม่จบก็คือ การตั้งโจทย์ผิดไงครับ ดังนั้นทุกวิธีในการแก้โจทย์จึงผิดไปด้วย ถามจริงเถิดครับคุณสมบัติ จนถึงทุกวันนี้ คุณสมบัติยังไม่สำเหนียกอีกหรือครับว่า ควรตั้งโจทย์ข้อนี้อย่างไร
โจทย์ข้อนี้ มันต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้งต่างหากเล่า จะแก้โจทย์ให้ได้คำตอบ
คุณสมบัติจึงควรจะเร่งแนะให้ประชาชนรู้จักเคารพกติกา แทนการเอาแต่ใจตัวเอง
คุณสมบัติจึงควรจะเร่งแนะนำให้ประชาชนรู้จักยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ให้ทำตามเสียงส่วนน้อย
คุณสมบัติจึงควรจะเร่งให้พรรคการเมืองปฏิรูปพรรคเพื่อชนะใจประชาชน แทนการใส่ร้ายป้ายสีพรรคอื่น เพื่อให้พรรคตัวเองดูดีขึ้น
ข้อสำคัญคุณสมบัติต้องพยายามอย่างแรงที่จะอบรมสั่งสอนบรรดากลุ่มนักวิชาการทั้งหลาย ที่ชอบอาศัยความวุ่นวายของประเทศ แล้วเกาะกระแสคนดี เข้ามาทำงานการเมืองโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง เรื่องเหล่านี้ต่างหากครับเป็นปัญหาของการเมืองไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับคุณสมบัติ
ส่วนที่หลายฝ่ายเกิดข้อกังวลในเรื่องผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาจากประชาชนจำนวนมาก อาจทำให้เหิมเกริมตีตนเสมอประมุขของรัฐนั้น มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับคุณสมบัติ ดังนั้นคุณสมบัติจะมาอาศัยความเชื่อเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ อีกทั้งอาจเป็นข้ออ้างให้กลุ่มคนบางกลุ่มบางคณะนำมาใช้ในการขับไล่นายกฯเหมือนที่ผ่านมาก็เป็นได้ ดังนั้นผมคิดว่าคุณสมบัติควรจะตัดไฟเสียแต่ต้นลมเสียดีกว่านะครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมา ผมพบว่า ก่อนจะเล่นเรื่องอะไร มักจะมีการนำอีกเรื่องให้สังคมเกิดกระแสเสียก่อน แล้วค่อยนำเรื่องที่ต้องการเล่นจริงๆออกมาทีหลัง และมักจะประสบความสำเร็จเสียด้วยสิครับ
ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกัน เรื่องที่เล่นกันอยู่นี้น่าจะเป็นกลลวง กลจริงน่าจะเป็นการโหวตนายกฯโดยไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคเสียงข้างมาก แต่ขึ้นอยู่การโหวตในสภาเสียมากกว่า แหะๆ ก็ผมยังแหยงกับอำนาจที่ยากปฏิเสธที่ออกมาจากปากคุณชุมพลนี่นา คุณสมบัติควรจะเข้าใจนะครับ
ได้ฟังประธาน สปช.แถลง ข้อเสนอแนะเพื่อปฏิรูปการเมืองแล้ว “ทวดเอง”ได้แต่ส่ายหน้า
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418108641
จะไม่ให้ผมส่ายหน้าได้อย่างไรครับ เมื่อได้ยินคุณสมบัติพูดถึง ส.ส.จำนวนมาก ซึ่งมาจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และเมื่อ ส.ส.เหล่านี้ก็จะให้เกิดผลประโยชน์ต่างตอบแทน รวมทั้งพรรคการเมืองเสียงข้างมากในสภา การตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติจะไม่สามารถทำได้
นี่เป็นความคิดของคนที่ไม่เคยมั่นใจการเลือกตั้ง นี่เป็นแนวคิดของคนที่ไม่เคยเคารพเสียงส่วนใหญ่ และนี่ยังเป็นความคิดของคนที่ไม่มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยขนานแท้ แต่กลับได้เป็นประธานในการปฏิรูปการเมือง เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญ เฮ่อ เวรกรรมของประเทศไทยจริงๆเลยนะครับ
คุณสมบัติครับ ถามจริงเถิดครับ การใช้เสียงข้างมากในสภา มันก็เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่สังคมโลกเขาทำกันไม่ใช่หรือครับ ดังนั้นการตรวจสอบในสภาทั่วโลก ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านที่มีเสียงน้อยกว่ารัฐบาลอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ แล้วประเทศไทยมันแตกต่างกับทั่วโลกตรงไหนหรือครับ แปลกจริงเชียว
คุณสมบัติครับ ผมจะบอกอะไรให้นะครับ การตรวจสอบรัฐบาลนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเสียงหรอกนะครับ แต่มันต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลต่างหากครับ ข้อมูลที่แม่นยำและถูกต้องเท่านั้น จึงจะสามารถล้มรัฐบาลได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะมีมากแค่ไหนก็ตาม ดูอย่างสมัยรัฐบาลชวนสิครับ พอเจอข้อมูลหนักแน่นอย่าง สปก.4-01 สิครับ รัฐบาลชวนก็อยู่ไม่ได้
หรือดูอย่าง พรบ.นิรโทษกรรมก็ได้ ต่อให้มีเสียงในสภามากแค่ไหน เมื่อประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วย สุดท้ายคุณยิ่งลักษณ์ก็ต้องยุบสภา ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน
เห็นหรือยังครับคุณสมบัติ การตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคน มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการล้อมกรอบประธานสภา มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการขว้างแฟ้มหรือขว้างเก้าอี้แต่อย่างไร
แต่มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของฝ่ายค้านต่างหากครับ ถ้าเพียงแต่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือ เพียงแค่หวังชนะคะคานกันทางการเมือง จนนำไปสู่การค้านในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ก็ตาม นี่ต่างหากครับที่ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย นี่ต่างหากครับที่ทำให้ประชาชนไม่อยากรับรู้ ดังนั้นต่อให้รัฐบาลมีเสียงปิ่มน้ำ ก็ไม่สามารถระคายรัฐบาลได้หรอกครับ ขอบอก
และการตรวจสอบรัฐบาลก็ใช่แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่กันครับ เรายังมีภาคประชาชน เรายังมีองค์กรอิสระที่พร้อมจะตรวจสอบอยู่แล้วนี่ครับ
หรือคุณสมบัติกำลังจะบอกว่า กกต. ของเราไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จึงทำให้ ส.ส.ซื้อเสียงเข้าสภาได้เป็นจำนวนมาก
หรือคุณสมบัติกำลังจะบอกว่า ปปช.ไม่มีคุณภาพเพียงพอ จึงไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้
ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณสมบัติจึงควรจะปฏิรูปองค์กรอิสระก่อนเป็นลำดับแรกไม่ใช่หรือครับ
ดังนั้นถ้าโจทย์ของคุณสมบัติต้องการปฏิรูปเพื่อสกัดการซื้อเสียงล่ะก้อ การแถลงของคุณสมบัติในครั้งนี้ คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้หรอกนะครับ เพราะคุณสมบัติเองก็ย้อนแย้งในตัวเองอยู่แล้วว่า เพื่อทำให้การซื้อเสียงทำได้ยาก และใช้เงินมากขึ้น นั่นหมายความว่า ยังคงซื้อเสียงได้อยู่ ถึงจะใช้เงินมากขึ้นก็ตาม และก็คงกลับไปสู่วังวนเก่าๆ ใช้เงินมากก็ต้องโกงมากอีกเช่นเคย สุดท้ายคงหนีไม่พ้น ต้องออกมาชุมนุมกลางถนนเพื่อขับไล่อีก จริงไหม
แต่ถ้าโจทย์ของคุณสมบัติต้องการปฏิรูปเพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นความต้องการของ กปปส.มาตั้งแต่ต้น และคุณสมบัติก็เป็นหนึ่งในแกนนำเสียด้วย ดังนั้นผมคงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าโจทย์จะเป็นเช่นนี้
แต่ผมอยากบอกคุณสมบัติว่า มันเป็นการตั้งโจทย์ผิดนะครับ ผิดเหมือนกับการทำรัฐประหารเมื่อปี 49 ที่ใครๆบอกว่า “เสียของ” ผมจึงหวังว่าคุณสมบัติจะไม่ทำให้ครั้งนี้ “เสียของ”เหมือนกับพวกของคุณสมบัติทำทิ้งไว้เมื่อครั้งก่อนนะครับ
ถ้าโจทย์เอา ทักษิณ เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีทักษิณ ทุกอย่างก็จะจบ
ถ้าโจทย์เอา ทรัพย์สมบัติของคุณทักษิณ เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการยึดทรัพย์ สกัดท่อน้ำเลี้ยง ทุกอย่างก็จบ
ถ้าโจทย์เอา การซื้อเสียงขายเสียง เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการสกัดไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามซื้อเสียงได้ ทุกอย่างก็จบ
ถ้าโจทย์เอา เครือข่ายทักษิณ เป็นตัวตั้ง แล้วแก้โจทย์ด้วยการตัดสิทธิตัดหนทางๆการเมือง ทุกอย่างก็จบ
แล้วสุดท้ายเป็นไงครับ จบไหมครับ?
ที่มันไม่จบก็คือ การตั้งโจทย์ผิดไงครับ ดังนั้นทุกวิธีในการแก้โจทย์จึงผิดไปด้วย ถามจริงเถิดครับคุณสมบัติ จนถึงทุกวันนี้ คุณสมบัติยังไม่สำเหนียกอีกหรือครับว่า ควรตั้งโจทย์ข้อนี้อย่างไร
โจทย์ข้อนี้ มันต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้งต่างหากเล่า จะแก้โจทย์ให้ได้คำตอบ
คุณสมบัติจึงควรจะเร่งแนะให้ประชาชนรู้จักเคารพกติกา แทนการเอาแต่ใจตัวเอง
คุณสมบัติจึงควรจะเร่งแนะนำให้ประชาชนรู้จักยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ให้ทำตามเสียงส่วนน้อย
คุณสมบัติจึงควรจะเร่งให้พรรคการเมืองปฏิรูปพรรคเพื่อชนะใจประชาชน แทนการใส่ร้ายป้ายสีพรรคอื่น เพื่อให้พรรคตัวเองดูดีขึ้น
ข้อสำคัญคุณสมบัติต้องพยายามอย่างแรงที่จะอบรมสั่งสอนบรรดากลุ่มนักวิชาการทั้งหลาย ที่ชอบอาศัยความวุ่นวายของประเทศ แล้วเกาะกระแสคนดี เข้ามาทำงานการเมืองโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง เรื่องเหล่านี้ต่างหากครับเป็นปัญหาของการเมืองไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับคุณสมบัติ
ส่วนที่หลายฝ่ายเกิดข้อกังวลในเรื่องผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาจากประชาชนจำนวนมาก อาจทำให้เหิมเกริมตีตนเสมอประมุขของรัฐนั้น มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับคุณสมบัติ ดังนั้นคุณสมบัติจะมาอาศัยความเชื่อเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ อีกทั้งอาจเป็นข้ออ้างให้กลุ่มคนบางกลุ่มบางคณะนำมาใช้ในการขับไล่นายกฯเหมือนที่ผ่านมาก็เป็นได้ ดังนั้นผมคิดว่าคุณสมบัติควรจะตัดไฟเสียแต่ต้นลมเสียดีกว่านะครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมา ผมพบว่า ก่อนจะเล่นเรื่องอะไร มักจะมีการนำอีกเรื่องให้สังคมเกิดกระแสเสียก่อน แล้วค่อยนำเรื่องที่ต้องการเล่นจริงๆออกมาทีหลัง และมักจะประสบความสำเร็จเสียด้วยสิครับ
ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกัน เรื่องที่เล่นกันอยู่นี้น่าจะเป็นกลลวง กลจริงน่าจะเป็นการโหวตนายกฯโดยไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคเสียงข้างมาก แต่ขึ้นอยู่การโหวตในสภาเสียมากกว่า แหะๆ ก็ผมยังแหยงกับอำนาจที่ยากปฏิเสธที่ออกมาจากปากคุณชุมพลนี่นา คุณสมบัติควรจะเข้าใจนะครับ