จากการปั่นมาเดือนกว่าๆ ฉันเห็นอะไรบ้าง

ฉันเริ่มปั่นวันแรกๆที่มาบ่นว่าเจ็บก้นทำไงดี พอใส่เบาะเจลก็ดีขึ้นและผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียวก็ไม่รู้สึกอะไรมาก เรียกว่าชิน

สิ่งที่ฉันเห็นสำหรับตัวเอง คือ
ฉันเห็นสุขภาพที่ดี มีแรงมากขึ้น ไม่นอนซม ไม่ป้อแป้ ไม่หมดแรง บ้าพลังมาก
นอนหลับสบาย หลับยาวนาน ตั้งแต่เข้านอนยันตอนเช้า
อารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใสไม่หงุดหงิด มีเป้าหมายว่าตอนเย็นฉันจะไปปั่น รู้สึกรักการปั่น

สิ่งที่ฉันเห็นข้างทาง ต่างจังหวัดคือ
สองข้างทางที่เขียวชอุ่ม วิวกว้างสุดสายตาพานอรามา
ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกดิน สวยงามไม่ต้องเดินทางไปหาที่ไหน
ผู้คนที่ปั่นสวนกันมายิ้มแย้มทักทาย
ผู้คนข้างทางต่างมองอย่างแปลกใจ หรือ มองจักรยาน หรือมองแบบให้กำลังใจ
ยามสายลมปะทะใบหน้า เหงื่อออก ลมพัดเย็นดี

สิ่งที่ฉันเจออีกที คือ
ผู้คนจุดไฟเผาขยะ เผาฟางข้าว เผาหญ้าและใบไม้ เผาๆๆกันทุกบ้าน สลับกันไป
บางบ้านนั่งล้อมวงก๊งเหล้ายามเย็นกันทุกวัน
เอาลูกน้อยเด็กทารก มาเข็นชมวิวบนถนน เอ่อ มันจะดีเหรอ
มีหมานอนเรียงรายตามข้างถนน บ้างก็มอง บ้างก็ไล่ขับ เซ็งนะเนี่ย ไม่ดูแลเลี้ยงในบ้าน
มีกองขยะเหม็นโฉ่ว กลิ่นของเน่าของเสีย มาประปราย
นักปั่นที่สวนมามองอย่างตั้งใจ แต่พอยิ้มให้สบัดหน้าพรืด เอ๊าแล้วมองทำไมเนี่ย?

แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความอยากปั่นลดลง ก็ลองเปลี่ยนเส้นทางไปเรื่อยๆ
อย่างน้อยที่ที่มีคนก็ไม่น่าอันตรายหากไปปั่นที่เปลี่ยวๆ คนเดียว
จากคันเล็ก 10 กิโล ก็เริ่มอัพเลเวลไปซื้อเสือหมอบมาปั่นเพิ่มระยะทาง 20 กิโล โดยค่อยๆเพิ่มวันละกิโลสองกิโล
แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่านั้น  เพราะ....เวลากลับมันมืดเร็ว 555

อีกอย่างที่ฉันอยากจะทำคือ การไปร่วมขบวนปั่น มินิมาราธอน เอาเบาะๆสัก ห้าสิบหกสิบกิโลจะไหวไหม
และเขาจะรับผู้ป่วยโรคไตปั่นไหม ใจหนึ่งก็กล้า ใจหนึ่งก็กลัว จะไปสร้างภาระให้ใคร
แต่ฉันอยากเป็นผู้ป่วยที่แข็งแรงที่สุดในปัฐพี 555




วิวสวยข้างทาง ปั่นไปหยุดถ่ายไป มืดอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่