คือขอรับรู้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ตัวเองค่ะ ไม่ได้มีเจตนาจะซ้ำเติมหรือสะกิดแผลเก่านะคะ
ก่อนหน้าเราคิดว่าเราจะ "อดทน" และผ่านมันไปได้เพื่อลูกของเรา
แต่ ณ วันนี้เรารู้สึกว่ายิ่งเรา "อดทน" เท่าไหร่ เราก็เหมือน "ไร้ค่า" มากขึ้นเท่านั้น
วันที่ 5 ที่ผ่านมา เราบอกลูกว่าให้เตรียมไปกราบเท้าพ่อเพื่อขอพร
แต่ลูกก็ไม่ได้ทำค่ะเพราะพ่อเขารีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้าน
ทั้งที่เมื่อคืนก็กลับเกือบตี 3 มีเพื่อนผู้หญิงมารับไปเที่ยวค่ะ
วันหยุดยาวติดกันหลายวัน เขาไม่อยู่บ้านเลยออกไปเที่ยวตลอด
ไม่สนใจพาลูกเมียไปเที่ยวหรือทานข้าวนอกบ้านเลย แต่ไปกับเพื่อนแทน
กลับเกือบเช้านอนแป๊บนึงแล้วก็อาบน้ำออกไปต่อ
จนวันสุดท้ายคือวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปบ้านผู้หญิงที่บอกว่าเป็นเพื่อน
ไปซ่อมคอมพิวเตอร์ให้ผู้หญิง เพราะโทร.มาขอความช่วยเหลือบ่อยมาก
ไม่อยากจะคิดแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้หญิงเริ่มอ่อยชวนไปบ้านแล้ว
และคอมพิวเตอร์จะอยู่ห้องไหน?
เวลาไปไหนเราไม่ถามและเขาไม่เคยบอก นึกจะไปก็ไป
ส่วนมากก็จะพูดสั้น ๆ แค่ว่า "ไปกินข้าวกับเพื่อน"
สัปดาห์นึงก็ต้องกินกันอย่างน้อย 2 คืน คือ ศุกร์ เสาร์ หรือ เสาร์ อาทิตย์
เพราะผู้หญิงพวกนี้ต้องทำงานออฟฟิศค่ะ
วันธรรมดาก็เอาแต่คุยไลน์กัน แทบไม่เงยหน้าจากเครื่องโทรศัพท์เลย
เดี๋ยวนี้จากผู้ชายที่ไม่ค่อยสนใจดูแลสุขภาพ ก็หันมาดูแลสุขภาพ
ทั้งออกกำลังกาย คุมอาหาร วัน ๆ คอยชั่งแต่น้ำหนักแล้วก็ถ่ายรูป
เพื่อนผู้หญิงก็คอยสรรหาสลัดผักมาให้กิน วิตามิน อาหารเสริม ครีมบำรุงหน้า
ซึ่งพวกวิตามินเราเคยเอาให้กิน เขาก็ไม่สนใจ
แบบว่าน้อยใจค่ะว่าทุกสิ่งที่เขาทำอยู่ปัจจุบันนี้ เราเคยบอกเคยแนะนำให้เขาปฏิบัติ
แต่เขาไม่เคยเชื่อ เช่น ตื่นนอนตอนเช้าให้ทานน้ำอุณหภูมิห้องก่อน ทานผักเยอะ ๆ
แต่พอเพื่อนผู้หญิงบอกเขากลับทำตามได้อย่างง่ายดาย
แรก ๆ เราก็คิดแง่บวกว่าก็ดีกับสุขภาพเขาเอง
แต่หลัง ๆ รู้สึกว่าเพื่อนผู้หญิงจะบงการเขาทุกอย่างเลย
และพยายามจะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของสามีเรามากขึ้นทุกขณะ
คือเอาใจใส่ทั้งเรื่องเสื้อผ้าและสุขภาพตามที่เล่าให้ฟังค่ะ
ก่อนหน้าค่อนข้างมั่นใจว่าสามีคงไม่เหลวไหล
แต่ตอนนี้ชักเริ่มไม่ไว้ใจค่ะเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ขนาดวันพ่อเธอยังชวนสามีเราออกไปเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน
เดาได้ว่าเธอคนนั้นคงไม่มีพ่อแล้ว เลยไม่ต้องเอาเวลาไปเยี่ยมพ่อตัวเอง
สามีเราค่อนข้างอ่อนไหวง่ายค่ะ และเราก็เป็นคนเอาใจคนไม่เป็นด้วย
ไม่คิดจะเปลี่ยนไปอ้อนหรือเอาใจให้มากกว่าเดิม
เพราะคิดว่าทำอะไรไปคงไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าใจเขาไม่เหมือนเดิม ไม่มีใจให้ครอบครัวแล้ว
ขอวิธีคิดและปฏิบัติเพื่อให้อยู่กับสถานการณ์แบบนี้โดยทุกข์น้อยที่สุดด้วยค่ะ
ภรรยาท่านใด มีประสบการณ์แย่ ๆ กับสามี เล่าสู่กันฟังบ้างค่ะ
ก่อนหน้าเราคิดว่าเราจะ "อดทน" และผ่านมันไปได้เพื่อลูกของเรา
แต่ ณ วันนี้เรารู้สึกว่ายิ่งเรา "อดทน" เท่าไหร่ เราก็เหมือน "ไร้ค่า" มากขึ้นเท่านั้น
วันที่ 5 ที่ผ่านมา เราบอกลูกว่าให้เตรียมไปกราบเท้าพ่อเพื่อขอพร
แต่ลูกก็ไม่ได้ทำค่ะเพราะพ่อเขารีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้าน
ทั้งที่เมื่อคืนก็กลับเกือบตี 3 มีเพื่อนผู้หญิงมารับไปเที่ยวค่ะ
วันหยุดยาวติดกันหลายวัน เขาไม่อยู่บ้านเลยออกไปเที่ยวตลอด
ไม่สนใจพาลูกเมียไปเที่ยวหรือทานข้าวนอกบ้านเลย แต่ไปกับเพื่อนแทน
กลับเกือบเช้านอนแป๊บนึงแล้วก็อาบน้ำออกไปต่อ
จนวันสุดท้ายคือวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปบ้านผู้หญิงที่บอกว่าเป็นเพื่อน
ไปซ่อมคอมพิวเตอร์ให้ผู้หญิง เพราะโทร.มาขอความช่วยเหลือบ่อยมาก
ไม่อยากจะคิดแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้หญิงเริ่มอ่อยชวนไปบ้านแล้ว
และคอมพิวเตอร์จะอยู่ห้องไหน?
เวลาไปไหนเราไม่ถามและเขาไม่เคยบอก นึกจะไปก็ไป
ส่วนมากก็จะพูดสั้น ๆ แค่ว่า "ไปกินข้าวกับเพื่อน"
สัปดาห์นึงก็ต้องกินกันอย่างน้อย 2 คืน คือ ศุกร์ เสาร์ หรือ เสาร์ อาทิตย์
เพราะผู้หญิงพวกนี้ต้องทำงานออฟฟิศค่ะ
วันธรรมดาก็เอาแต่คุยไลน์กัน แทบไม่เงยหน้าจากเครื่องโทรศัพท์เลย
เดี๋ยวนี้จากผู้ชายที่ไม่ค่อยสนใจดูแลสุขภาพ ก็หันมาดูแลสุขภาพ
ทั้งออกกำลังกาย คุมอาหาร วัน ๆ คอยชั่งแต่น้ำหนักแล้วก็ถ่ายรูป
เพื่อนผู้หญิงก็คอยสรรหาสลัดผักมาให้กิน วิตามิน อาหารเสริม ครีมบำรุงหน้า
ซึ่งพวกวิตามินเราเคยเอาให้กิน เขาก็ไม่สนใจ
แบบว่าน้อยใจค่ะว่าทุกสิ่งที่เขาทำอยู่ปัจจุบันนี้ เราเคยบอกเคยแนะนำให้เขาปฏิบัติ
แต่เขาไม่เคยเชื่อ เช่น ตื่นนอนตอนเช้าให้ทานน้ำอุณหภูมิห้องก่อน ทานผักเยอะ ๆ
แต่พอเพื่อนผู้หญิงบอกเขากลับทำตามได้อย่างง่ายดาย
แรก ๆ เราก็คิดแง่บวกว่าก็ดีกับสุขภาพเขาเอง
แต่หลัง ๆ รู้สึกว่าเพื่อนผู้หญิงจะบงการเขาทุกอย่างเลย
และพยายามจะเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของสามีเรามากขึ้นทุกขณะ
คือเอาใจใส่ทั้งเรื่องเสื้อผ้าและสุขภาพตามที่เล่าให้ฟังค่ะ
ก่อนหน้าค่อนข้างมั่นใจว่าสามีคงไม่เหลวไหล
แต่ตอนนี้ชักเริ่มไม่ไว้ใจค่ะเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ขนาดวันพ่อเธอยังชวนสามีเราออกไปเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน
เดาได้ว่าเธอคนนั้นคงไม่มีพ่อแล้ว เลยไม่ต้องเอาเวลาไปเยี่ยมพ่อตัวเอง
สามีเราค่อนข้างอ่อนไหวง่ายค่ะ และเราก็เป็นคนเอาใจคนไม่เป็นด้วย
ไม่คิดจะเปลี่ยนไปอ้อนหรือเอาใจให้มากกว่าเดิม
เพราะคิดว่าทำอะไรไปคงไม่มีอะไรดีขึ้น ถ้าใจเขาไม่เหมือนเดิม ไม่มีใจให้ครอบครัวแล้ว
ขอวิธีคิดและปฏิบัติเพื่อให้อยู่กับสถานการณ์แบบนี้โดยทุกข์น้อยที่สุดด้วยค่ะ