ฉันภูมิใจที่เป็นคนธรรมดา ( ความสำเร็จขั้นที่ 1)

กระทู้คำถาม
ฉันขอยิ้มก่อนแล้วกันนะ นานาเก่ง
ประเด็นของหัวข้อนี้คือต้องการให้กำลังใจคนที่ทำงานกินเงินเดือนทุกคน และอยากให้ข้อคิดแก่คนที่กำลังหลงตามใจตัวเองค่ะ อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างฉลาด และคิดถึงอนาคตให้มากๆ

Part 1 ชีวิตกับงาน
ท้าวความนิดนึงเราทำงานตั้งแต่เด็กค่ะ ตั้งแต่อายุ 15 เป็นเด็กเกเร เลยจบแค่ ม. 3 แล้วก็ทำงานค่ะ ระหว่างนั้นก็พยายามกลับเข้าไปเรียนตามระบบอีกครั้ง แต่พอได้ทำงานแล้ว ความอิสระมันมาเต็มพิกัด เลยไม่สามารถควบคุมตัวเองให้อยู่ในกฏระเบียบของโรงเรียนได้ คติง่ายๆ ก็คือ "กฎมีไว้แหกค่ะ" สรุปก็คือไม่ได้เรียนต่อค่ะ


จากนั้นมาก็ทำงานพาร์ทไทม์ชั่วโมงละ 23 บาท ค่ะ วันละ 9 ชั่วโมง  ยืนขาแข็งหน้าแคชเชียร์ เกือบ 3 ปี แต่เราก็สนุกกับมันนะอาจเป็นเพราะด้วยความอยากรู้อยากเห็นด้วยมั้งก็เลยแอบแวะเวียนช่วงเบรกไปช่วยงานเพื่อนบ่อยๆ เลยได้ลองทำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ล้อบบี้ ยันล้างจานในครัว อิอิ ข้อดีของมันก็คือทำให้การทำงานไม่น่าเบื่อค่ะ ส่วนความลำบาก หึๆ ไม่ต้องพูดถึงค่ะ  เรื่องเงินล้วนๆ อย่าว่าแต่เงินเก็บเลย  เงินเดือนที่ได้มา ต่อให้ประหยัดแค่ไหนก็แทบไม่พอใช้ ต้องหาเหรียญตามซอกเพื่อซื้อมาม่าเป็นประจำ (เศร้ามาก แต่ก็ทน)


และแล้วฟ้าก็มีตา ได้เวลาที่สมองเปิดค่ะ
อยู่ๆ เพื่อนสนิทก็แวะมาหา ใส่ชุดนักเรียนพาณิชย์  ติดกิ๊บแอ้บแบ้วมาเชียว ณ ตอนนั้น ทั้งดีใจและก็เศร้าในเวลาเดียวกันค่ะ


สวิตย์เปิด ตาสว่างขึ้นมาทันทีค่ะ เพื่อนเรียนจะจบแล้ว และเราล่ะ!! แงแง  พอคิดได้อย่างนั้น ถึงเวลาที่เปิดเทอมเราก็รีบลงเรียนอย่างไวค่ะ


ป๊าม๊าไม่มีแรงส่ง หรือกลัวว่าจะเห่อชั่วคราวก็ไม่แน่ใจค่ะ สุดท้ายก็คือมีที่พึ่งเดียวคือ กองทุนกู้เรียนของรัฐ ที่ทำให้เราได้เข้าเรียนอีกครั้ง


เป็นเด็กนักเรียนในระบบอีกครั้งค่ะ เลือกเรียนทั้งภาคค่ำและเสาร์อาทิตย์ จนจบ ปวส  เวลาปกติ ก็ทำงานค่ะ แต่เปลี่ยนงานจากเด็กพาร์ทไทม์
มาเป็นลูกจ้างชั่วคราวของรัฐ


จบ ป. ตรี แล้วจ้า
ช่วงก่อนจบชีวิตลำบากมาก พ่อป่วยหนักต้องผ่าตัด ตัดต่อเส้นเลือดที่หน้าแข้ง และต้องตัดนิ้วเท้าอีก 2 นิ้ว เพราะแผลเน่า อยู่โรงพยาบาล 2 เดือนกว่าหมอก็ให้กลับบ้าน เอาไงล่ะ พ่อแม่แยกทางกัน น้องก็ยังเด็ก ก็คงต้องเป็นเรานี่แหละที่ดูแลพ่อ ช่วงนี้แหละที่ชีวิตโหดอีกแล้ว เพิ่งตัดสินใจออกจากงานค่ะ แต่ต้องดูแลพ่อ ต้องล้างแผลให้พ่อทุกวัน  และไม่สามารถไปคลีนิคได้ค่ะเพราะถูกจำกัดด้วยเงิน แต่ไม่เป็นไรค่ะ ล้างเอง สวมบทพยาบาลทุกวัน แต่ที่เครียดคือเงินไม่พอใช้ค่ะ โชคดีที่มีพี่สาวคอยให้เงินจุนเจือเดือนละ 2000 บาท และเงินกองทุนรัฐที่ช่วยรายเดือนพอให้ประคองชีวิตไปได้ และเหมือนฟ้าเมตตาค่ะ เพื่อนชวนไปทำงานเพราะมีตำแหน่งว่างพอดี เย้ๆ


สาวแบงค์มาแล้วจ้า
สวรรค์สุดๆ รายได้วันละ 500 มันช่างฟิน ค่าคอมนู่นนี่ ต่อเดือนก็เยอะอยู่ สบายแล้วป๊าซื้อของสนองความต้องการแบบจัดเต็ม
ใช้เงินแบบไม่กลัวหมด หาง่ายใช้ง่าย


สุดท้ายยุคเฟื่องฟูก็จบลง
แม่รับป๊าไปดูแล  ส่วนเราก็เลือกทางเดินใหม่เปลี่ยนงาน เลือกไปทำงานต่างที่ ต่างจังหวัด เวลาผ่านไปไม่นาน ป๊าป่วยหนักและแม่เรียกกลับมาเพื่อให้มาอยู่พร้อมหน้ามาเป็นกำลังใจให้กัน ป๊าเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งจนเราชินและคิดว่าป๊าคงไม่เป็นอะไรมากก็เลยยังไม่ออกจากงานใช้เทียว ไปกลับ วันหยุดแทน  สิ่งที่เรารู้สึกผิดอยู่ในใจตลอดเวลา คือวันนั้นป๊าโทรมาหาบอกว่าอยากกินสุกี้ แต่เราไม่ได้กลับบ้านเพราะรู้อยู่ว่าป๊าไม่ค่อยกินอยู่แล้วเราต่างหากที่ชอบกิน เหตุผลเดียวที่รู้ตอนนี้คือป๊าอยากให้กลับบ้าน แต่เราไม่สามารถเพราะต้องรอวันหยุด ด้วยความล้า เราก็ผลัดไปอีกไว้วันหยุดครั้งหน้าแล้วกัน  ผ่านไปไม่กี่วันก่อนถึงวันหยุดรอบถัดไปแม่โทรมาด่วนให้รีบกลับบ้าน เราก็รีบกลับทันที คราวนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น ป๊ามีหน้ากากอ๊อกซิเจนครอบอยู่ สายชีพจรหนีบที่นิ้ว  ป๊านอนหลับอยู่ ครั้งแรกที่เห็นก็มีแต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แบบห้ามไม่อยู่ ทนเห็นไม่ไหว น้ำตามันไหลตลอดเวลา  กลัวป๊าตื่นมาเห็น ห่วงความรู้สึกป๊า.       เพราะป๊าเป็นพ่อที่เข้มแข็งและทำงานตลอดเวลา กลัวท่านรับตัวเองไม่ได้เราก็เลยออกมาอยู่ข้างนอก ป๊าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายหมอเพิ่งเจอเมื่อสามวันก่อน และหมอบอกว่าพวกเรามีเวลาอยู่กับป๊าอีกแค่ไม่เกิน 3 เดือน ยิ่งคิดยิ่งร้องไห้ ตอนเย็นเราตัดสินใจกลับต่างจังหวัดเพื่อทำเรื่องลาออก  ยังไม่ได้ทำธุระเรียบร้อย น้องก็ส่งข้อความมาว่าป๊าเสียแล้ว  ในใจเราก็ยังไม่เชื่ิอ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงน้องน่าจะโทรมา จากสามเดือนเหลือสามวัน ฉันนั่งโทษตัวเองทุกครั้ง คิดว่ายังมีเวลา ฉันยังมีโอกาสได้แก้ตัวฉันจะมีเวลาจะได้ทำสุกี้ให้ป๊ากินแน่นอน แต่มันไม่มีแล้ว และไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว


จบ Part 1ค่ะ

ขอแท็ก 2 ห้องนะคะ
แท็กมนุษย์เงินเดือน ชีวิตวัยรุ่นและปัญหาครอบครัว เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการทำงานค่ะ

Part 2 งานกับชีวิต ...  ไว้ค่อยมาต่อนะคะ ง่วงนอนแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่