มีผู้หญิงคนหนึ่ง หิ้วถังสังฆทานมาเพื่อถวายท่านหลวงพ่อ
ใบหน้าของเธอหมองเศร้า ดวงตาตั้งสองแดงก่ำ
บ่งบอกว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา
“ถวายสังฆทานรึหนู?” ท่านหลวงพ่อเอ่ยถามหลังจากเธอก้มลงกราบเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะหลวงพ่อ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะแจ่มใสนัก
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจล่ะ ถึงคิดจะถวายสังฆทาน ?” ท่านถาม
เพราะเห็นว่าคนส่วนใหญ่มักจะถวายสังฆทานกันก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ให้ปรารภถึงเท่านั้น
ประเภทว่าเกิดอยากถวายขึ้นมาเฉย ๆ นั้นไม่ค่อยจะมี
“ถวายให้สามีที่เสียไปค่ะ” เธอตอบ
พร้อมกับยกมือขึ้นป้ายน้ำตาที่รินไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อต้องเอ่ยถึงสามีที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“อ้อ ถวายให้สามีเองหรอกเรอะ หลวงพ่อเข้าใจว่าจะถวายให้พระเสียอีก”
ท่านหลวงพ่อพูดปนตลก เพื่อหวังให้เธอคลายความเศร้าโศกลงบ้าง
แล้วก็ได้ผล เธอหัวเราะออกมาทั้ง ๆ ที่ยังมีน้ำตาอยู่
“ถวายให้พระนั่นแหละค่ะ แต่ขออุทิศส่วนบุญให้กับสามีที่ตายไป” เธอตอบ
“เขาเสียนานหรือยัง ?” ท่านชวนคุยต่อ
“เจ็ดวันแล้วค่ะ แต่หนูยังทำใจไม่ได้” เธอพูดคล้ายจะสารภาพผิด
สำหรับบางคนเมื่อมีความทุกข์มา
ท่านหลวงพ่อก็จะพูดปลอบใจอย่างอ่อนโยนเพื่อให้ลืมความทุกข์โศกนั้น
หรือหากยังมีการร้องไห้อยู่ ท่านก็จะพูดด้วยวิธีต่าง ๆ กันออกไป
จนคนนั้นลืมร้องไห้ไปเลยก็มี อย่างเช่นกรณีของผู้หญิงคนนี้
ท่านได้พูดปลอบใจเธอว่า
“ทำใจบ้างเถอะหนู ถึงร้องไห้ไปก็เอาน้ำตาอุทิศไปให้แก่คนตายไม่ได้หรอก
การร้องไห้ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตัวเราและแก่วิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว
คนเราไม่มีใครทั้งนั้น ที่จะบอกได้ว่าจะอยู่ด้วยกันกี่ปี”
แล้วท่านก็บอกให้เธอยกเอาสังฆทานเข้ามาประเคน
(ประเคน หมายถึง กิริยาที่ถวายของให้แก่พระ)
ตัวเธอก็ยังสะอื้นอยู่ไม่ยอมหยุด
ท่านหลวงพ่อจึงพูดเย้า ๆ อีกว่า “จะถวายให้พระแล้ว ยังจะร้องไห้เสียดายของอีกรึ ?”
คราวนี้เธอหัวเราะออกมาดัง ๆ จนลืมไปว่ากำลังร้องไห้อยู่
ท่านหลวงพ่อมักจะมองเห็นปัญหาชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา ๆ เช่นนี้เสมอ
โลกนี้จึงไม่มีอะไรมาทำให้ท่านต้องเป็นทุกข์กับมันได้เลย
ผู้เขียนเคยได้ยินท่านพูดอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันว่า
“จะเป็นทุกข์ให้โง่ทำไม คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นทุกข์ (สักหน่อย)”
เราเองก็น่าจะเอาอย่างท่านบ้าง
ในเมื่อโลกมันไม่เคยยินดีกับความสุขและไม่เคยเสียใจกับความทุกข์ของเราเลย
แล้วเราจะเป็นทุกข์กับโลกไปทำไม ?
สาระธรรมจาก..พระพรหมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญา)
วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ นนทบุรี
อ่านแล้วช่างทึ่งในปัญญา และความเมตตาของท่านเหลือประมาณ
>>ยังร้องไห้เสียดายของอีกหรือ ?<<
ใบหน้าของเธอหมองเศร้า ดวงตาตั้งสองแดงก่ำ
บ่งบอกว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา
“ถวายสังฆทานรึหนู?” ท่านหลวงพ่อเอ่ยถามหลังจากเธอก้มลงกราบเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะหลวงพ่อ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะแจ่มใสนัก
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจล่ะ ถึงคิดจะถวายสังฆทาน ?” ท่านถาม
เพราะเห็นว่าคนส่วนใหญ่มักจะถวายสังฆทานกันก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ให้ปรารภถึงเท่านั้น
ประเภทว่าเกิดอยากถวายขึ้นมาเฉย ๆ นั้นไม่ค่อยจะมี
“ถวายให้สามีที่เสียไปค่ะ” เธอตอบ
พร้อมกับยกมือขึ้นป้ายน้ำตาที่รินไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อต้องเอ่ยถึงสามีที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“อ้อ ถวายให้สามีเองหรอกเรอะ หลวงพ่อเข้าใจว่าจะถวายให้พระเสียอีก”
ท่านหลวงพ่อพูดปนตลก เพื่อหวังให้เธอคลายความเศร้าโศกลงบ้าง
แล้วก็ได้ผล เธอหัวเราะออกมาทั้ง ๆ ที่ยังมีน้ำตาอยู่
“ถวายให้พระนั่นแหละค่ะ แต่ขออุทิศส่วนบุญให้กับสามีที่ตายไป” เธอตอบ
“เขาเสียนานหรือยัง ?” ท่านชวนคุยต่อ
“เจ็ดวันแล้วค่ะ แต่หนูยังทำใจไม่ได้” เธอพูดคล้ายจะสารภาพผิด
สำหรับบางคนเมื่อมีความทุกข์มา
ท่านหลวงพ่อก็จะพูดปลอบใจอย่างอ่อนโยนเพื่อให้ลืมความทุกข์โศกนั้น
หรือหากยังมีการร้องไห้อยู่ ท่านก็จะพูดด้วยวิธีต่าง ๆ กันออกไป
จนคนนั้นลืมร้องไห้ไปเลยก็มี อย่างเช่นกรณีของผู้หญิงคนนี้
ท่านได้พูดปลอบใจเธอว่า
“ทำใจบ้างเถอะหนู ถึงร้องไห้ไปก็เอาน้ำตาอุทิศไปให้แก่คนตายไม่ได้หรอก
การร้องไห้ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตัวเราและแก่วิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว
คนเราไม่มีใครทั้งนั้น ที่จะบอกได้ว่าจะอยู่ด้วยกันกี่ปี”
แล้วท่านก็บอกให้เธอยกเอาสังฆทานเข้ามาประเคน
(ประเคน หมายถึง กิริยาที่ถวายของให้แก่พระ)
ตัวเธอก็ยังสะอื้นอยู่ไม่ยอมหยุด
ท่านหลวงพ่อจึงพูดเย้า ๆ อีกว่า “จะถวายให้พระแล้ว ยังจะร้องไห้เสียดายของอีกรึ ?”
คราวนี้เธอหัวเราะออกมาดัง ๆ จนลืมไปว่ากำลังร้องไห้อยู่
ท่านหลวงพ่อมักจะมองเห็นปัญหาชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา ๆ เช่นนี้เสมอ
โลกนี้จึงไม่มีอะไรมาทำให้ท่านต้องเป็นทุกข์กับมันได้เลย
ผู้เขียนเคยได้ยินท่านพูดอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันว่า
“จะเป็นทุกข์ให้โง่ทำไม คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นทุกข์ (สักหน่อย)”
เราเองก็น่าจะเอาอย่างท่านบ้าง
ในเมื่อโลกมันไม่เคยยินดีกับความสุขและไม่เคยเสียใจกับความทุกข์ของเราเลย
แล้วเราจะเป็นทุกข์กับโลกไปทำไม ?
สาระธรรมจาก..พระพรหมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญา)
วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ นนทบุรี
อ่านแล้วช่างทึ่งในปัญญา และความเมตตาของท่านเหลือประมาณ