วันนี้วันพ่อ
เห็นใครๆเค้า คุยถึงพ่อกัน อยากคุยมั่ง แต่ผมไม่มีพ่อ อ่ะ
จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเรียกใครว่าพ่อเลย
ลืมตาดูโลกมา ก็มีแต่เตี่ย กับเค้าคนนึง
เตี่ยผม แซ่เตีย ผมก็เลย แซ่เตีย ตามเตี่ย
ตอนผมเด็กๆ เตี่ยผม ฐานะไม่ได้ดีนัก หาเช้ากินค่ำเลี้ยงลูก แต่แม้ว่าจะไม่ค่อยมีจะกิน แต่สำหรับลูกๆ นี่เท่าไรเท่ากัน ใจสปอร์ต สุดๆ
หาตังค์ได้ตอนเช้า เหลือ ติดบ้านซักร้อยสองร้อย เตี่ยชวนลูกออกไปหา หมูสะเต๊ะในตลาดกินกันแล้ว(หมูสะเต๊ะ เลยเป็นอาหารในฝัน อาหารหรูสุด ฝังใจพวกผมมาตั้งแต่เด็ก

)
ตั้งแต่เกิดมา ก็เห็นเตี่ย ไม่เหมือนพ่อคนอื่นเค้า
เตี่ยขาขาด เสมอเข่าข้างนึง จากอุบัติเหตุ โดนรถไฟทับขา ต้องตัดขา
เตี่ยเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนตัดขาวันแรกนอนแล้วปวดปลายนิ้วเท้าที่ถูกตัดหายไปทั้งที่มันไม่มีเท้า อยู่แล้ว
จนตอนมาเรียนหมอ อจ.สอนถึงตรงนี้ ว่าอาการปวด เท้า หรือ มือที่ถูกตัดออกไป แต่ปลายประสาท มันยังอยู่ คอยหลอกเรา นี่เค้าเรียกว่า Phantom Phenomenon เลยจำแม่น สอบเก็บแต้มได้มาเรื่อยๆ
เตี่ยขาขาด แต่ใส่ขาเทียม
ขาเทียมเตี่ยทำจาก อลูมิเนียมปีกเครื่องบินสมัยสงครามโลกคร้ังที่สอง ที่แกซื้อมาหล่อทำเอง เจ๋งมะ
ตอนออกตลาดแต่ล่ะคร้ัง เตี่ยจะเรียกหาขา พวกเรา ลูกๆ ก็คอยวิ่ง!!!!! หาขามาส่งให้เตี่ย
ตอนผมเริ่มโตขึ้นมาอยู่ชั้นมัธยม ผมกับพี่สาวช่วยงานทางบ้านร่วมกับเตี่ย ฝ่าวิกฤติ มาได้ เริ่มพอมี มีฐานะ มีกินมาบ้างแล้ว
เตี่ยเคยไปลองให้หมอวัดตัดขาเทียมให้ แต่ไม่ถนัดสุดท้าย เตี่ยก็ใช้ ขาเทียมอันเก่ง ของเตี่ยไปเรื่อยๆ
ตอนเด็กๆ ผมโดนเพื่อนล้อชื่อเตี่ย ว่าเจ๊กไขว้ (แปลว่าคนขาเป๋ ไรประมาณนั้น) อายเพื่อนที่มีเตี่ย พิการ ชิบเป๋ง
แต่มาถึงวันนี้ กลายเป็นภูมิใจสุดๆๆ ที่แม้เตี่ยพิการ แต่ก็หาเลี้ยงลูกและครอบครัว ได้ มาจนโต ได้ดิบได้ดี กันทุกๆคน
เตี่ยเป็นคนสปอร์ต มือเติบ แม้ ไม่ค่อยมีตังค์ แต่ชอบใช้ของดีๆ กินดีๆ นาฬิกา นี่ Mido เท่ห์สุด (สำหรับคนชั้นกลาง) ในยุคนั้น เตี่ยก็หามาใส่ และให้ลูกได้ใช้ จนโตมา ผมมาเก็บสะสมนาฬิกา แม้จะ มี Rolex , Patek และ Hi End Brand อื่นๆ อีกหลายเรือน แต่ก็ยังต้องขอเก็บ Mido ไว้เรือนนึง ระลึกถึงเตี่ย
http://www.2jfk.com/mido_baroncelli.htm
มานึกถึงว่าวันนี้เราประสพความสำเร็จในระดับนึง ถ้าเตี่ยยังอยู่ คงได้ตอบแทนเตี่ยให้ใช้ชีวิต ในสิ่งที่เตี่ยอยากได้เหมือนที่ เตี่ยเคยให้พวกเรา ตอนเด็กๆ
แต่วันนี้ เตี่ยไม่อยู่แล้ว เตี่ยจากไป ตั้งแต่ผมเรียน ปี 5 ราวๆ สามสิบกว่าปีก่อน
ทุกวันนี้ มีแต่รูปเตี่ยอยู่บนหิ้ง ให้พวกเรา ระลึกถึง
แต่เรายังนึกเสมอว่าเตี่ยคงสุขสบายอยู่เบื้องบน ดูพวกเราเติบโตกันต่อไป
แอบอิจฉาคนอื่นที่ ยังมีพ่อ มีเตี่ยให้ดูและนะ
ใครที่ยังมีโอกาสตอบแทนท่านให้ดีตลอดไปครับ
สำหรับผมเอง ไม่มีโอกาสตอบแทนทางกายแล้ว แต่ทางใจ ยังระลึกถึงเตี่ยตลอดไป
ตอนเด็กๆ เคยรู้สึกอายที่เพื่อนล้อใช้แซ่ จนขอเตี่ยเปลี่ยนเป็นนามสกุล ตามความนิยมสมัยนั้น
แต่ทุกวันนี้ อยากกลับไป ใช้ แซ่เตีย หรือ เตียเฉยๆ เหมือนเตี่ยจังวุ้ย
ว่าแล้ว เปลี่ยนชื่อเพจตัวเอง ดีกว่ามั้ง เป็น TIA JFK
อ้อทุกวันนี้ แม้ไม่ได้เปลี่ยนกับไปใช้ แซ่เตีย แต่ ส่วนตัวเอง คล้อง Pendent แซ่ตัวเองติดตัว ตลอดเวลา และทำแจกทุกคนในครอบครัวด้วย
==== วันหยุด งด เทรด งดทำกำไร มาคุยเรื่องพ่อกัน ซักวัน ===
เห็นใครๆเค้า คุยถึงพ่อกัน อยากคุยมั่ง แต่ผมไม่มีพ่อ อ่ะ
จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเรียกใครว่าพ่อเลย
ลืมตาดูโลกมา ก็มีแต่เตี่ย กับเค้าคนนึง
เตี่ยผม แซ่เตีย ผมก็เลย แซ่เตีย ตามเตี่ย
ตอนผมเด็กๆ เตี่ยผม ฐานะไม่ได้ดีนัก หาเช้ากินค่ำเลี้ยงลูก แต่แม้ว่าจะไม่ค่อยมีจะกิน แต่สำหรับลูกๆ นี่เท่าไรเท่ากัน ใจสปอร์ต สุดๆ
หาตังค์ได้ตอนเช้า เหลือ ติดบ้านซักร้อยสองร้อย เตี่ยชวนลูกออกไปหา หมูสะเต๊ะในตลาดกินกันแล้ว(หมูสะเต๊ะ เลยเป็นอาหารในฝัน อาหารหรูสุด ฝังใจพวกผมมาตั้งแต่เด็ก
ตั้งแต่เกิดมา ก็เห็นเตี่ย ไม่เหมือนพ่อคนอื่นเค้า
เตี่ยขาขาด เสมอเข่าข้างนึง จากอุบัติเหตุ โดนรถไฟทับขา ต้องตัดขา
เตี่ยเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนตัดขาวันแรกนอนแล้วปวดปลายนิ้วเท้าที่ถูกตัดหายไปทั้งที่มันไม่มีเท้า อยู่แล้ว
จนตอนมาเรียนหมอ อจ.สอนถึงตรงนี้ ว่าอาการปวด เท้า หรือ มือที่ถูกตัดออกไป แต่ปลายประสาท มันยังอยู่ คอยหลอกเรา นี่เค้าเรียกว่า Phantom Phenomenon เลยจำแม่น สอบเก็บแต้มได้มาเรื่อยๆ
เตี่ยขาขาด แต่ใส่ขาเทียม
ขาเทียมเตี่ยทำจาก อลูมิเนียมปีกเครื่องบินสมัยสงครามโลกคร้ังที่สอง ที่แกซื้อมาหล่อทำเอง เจ๋งมะ
ตอนออกตลาดแต่ล่ะคร้ัง เตี่ยจะเรียกหาขา พวกเรา ลูกๆ ก็คอยวิ่ง!!!!! หาขามาส่งให้เตี่ย
ตอนผมเริ่มโตขึ้นมาอยู่ชั้นมัธยม ผมกับพี่สาวช่วยงานทางบ้านร่วมกับเตี่ย ฝ่าวิกฤติ มาได้ เริ่มพอมี มีฐานะ มีกินมาบ้างแล้ว
เตี่ยเคยไปลองให้หมอวัดตัดขาเทียมให้ แต่ไม่ถนัดสุดท้าย เตี่ยก็ใช้ ขาเทียมอันเก่ง ของเตี่ยไปเรื่อยๆ
ตอนเด็กๆ ผมโดนเพื่อนล้อชื่อเตี่ย ว่าเจ๊กไขว้ (แปลว่าคนขาเป๋ ไรประมาณนั้น) อายเพื่อนที่มีเตี่ย พิการ ชิบเป๋ง
แต่มาถึงวันนี้ กลายเป็นภูมิใจสุดๆๆ ที่แม้เตี่ยพิการ แต่ก็หาเลี้ยงลูกและครอบครัว ได้ มาจนโต ได้ดิบได้ดี กันทุกๆคน
เตี่ยเป็นคนสปอร์ต มือเติบ แม้ ไม่ค่อยมีตังค์ แต่ชอบใช้ของดีๆ กินดีๆ นาฬิกา นี่ Mido เท่ห์สุด (สำหรับคนชั้นกลาง) ในยุคนั้น เตี่ยก็หามาใส่ และให้ลูกได้ใช้ จนโตมา ผมมาเก็บสะสมนาฬิกา แม้จะ มี Rolex , Patek และ Hi End Brand อื่นๆ อีกหลายเรือน แต่ก็ยังต้องขอเก็บ Mido ไว้เรือนนึง ระลึกถึงเตี่ย
http://www.2jfk.com/mido_baroncelli.htm
มานึกถึงว่าวันนี้เราประสพความสำเร็จในระดับนึง ถ้าเตี่ยยังอยู่ คงได้ตอบแทนเตี่ยให้ใช้ชีวิต ในสิ่งที่เตี่ยอยากได้เหมือนที่ เตี่ยเคยให้พวกเรา ตอนเด็กๆ
แต่วันนี้ เตี่ยไม่อยู่แล้ว เตี่ยจากไป ตั้งแต่ผมเรียน ปี 5 ราวๆ สามสิบกว่าปีก่อน
ทุกวันนี้ มีแต่รูปเตี่ยอยู่บนหิ้ง ให้พวกเรา ระลึกถึง
แต่เรายังนึกเสมอว่าเตี่ยคงสุขสบายอยู่เบื้องบน ดูพวกเราเติบโตกันต่อไป
แอบอิจฉาคนอื่นที่ ยังมีพ่อ มีเตี่ยให้ดูและนะ
ใครที่ยังมีโอกาสตอบแทนท่านให้ดีตลอดไปครับ
สำหรับผมเอง ไม่มีโอกาสตอบแทนทางกายแล้ว แต่ทางใจ ยังระลึกถึงเตี่ยตลอดไป
ตอนเด็กๆ เคยรู้สึกอายที่เพื่อนล้อใช้แซ่ จนขอเตี่ยเปลี่ยนเป็นนามสกุล ตามความนิยมสมัยนั้น
แต่ทุกวันนี้ อยากกลับไป ใช้ แซ่เตีย หรือ เตียเฉยๆ เหมือนเตี่ยจังวุ้ย
ว่าแล้ว เปลี่ยนชื่อเพจตัวเอง ดีกว่ามั้ง เป็น TIA JFK
อ้อทุกวันนี้ แม้ไม่ได้เปลี่ยนกับไปใช้ แซ่เตีย แต่ ส่วนตัวเอง คล้อง Pendent แซ่ตัวเองติดตัว ตลอดเวลา และทำแจกทุกคนในครอบครัวด้วย