9 สัญญาณบอกเหตุโรคซึมเศร้า และการรักษา 2 ทางเลือกร่วมกัน part 3

สืบเนื่องจากกระทู้เดิม http://pantip.com/topic/32882933

ย้อนอ่านกระทู้ก่อนหน้า http://pantip.com/topic/32798336

อัพเดทเช้าวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2557
หัวใจ
อยากอ่านรายละเอียดก่อนหน้า กรุณากดที่ลิงค์ครับ

         ท้าวความเดิมเล็กน้อย จากการรักษาหลังจากผมเกิดแพนิคเมื่อหยุดยาไปได้ 3 วันเพราะโลกสดใสของผมกลับมาแล้ว คุณหมอท่านใหม่ ( 2nd opinion ) ได้จ่ายยาชุดใหม่ ซึ่งผมปฏิเสธไม่ใช้ยาโซลอฟอีก เพราะเกิด side effect กับผม คือ มือทั้ง 2 ข้างสั่นมาก และท้องเสียทุกวัน หมอ2nd จึงจ่ายยาต้านเศร้าตัวใหม่ให้แต่ปริมาณน้อยลง เพื่อป้องกันอาการขาดยากระทันหันหรือเรียกว่าอาการถอนยา หมอสันนิษฐานว่าอาการแพนิคของผม อาจมาจากการใช้ยาไม่ต่อเนื่อง ( Discontinuous...) นอนรพ.เฝ้าดูอาการสัก 3 วัน ผมปกติดีจึงให้กลับบ้านได้เยี่ยม

          ผมหลุดจากความซึมเศร้าหม่นหมองแล้ว รอบตัวมีชีวิตชีวาสดใส รอยยิ้มและความร่าเริงกลับคืนมาเหมือนก่อน หลังจากที่ผมเฝ้ารอมาเกือบ 8-9 เดือน ชีวิตแฮปปี้มากมาย มีเป้าหมายใหม่ในชีวิตที่ชัดเจนขึ้น คือการจัดตั้งกลุ่มไลน์มหัศจรรย์แห่งชีวิต เพื่อรองรับและช่วยเหลือเพื่อนๆที่มีปัญหาภาวะเคร่งเครียด, วิตกกังวล, ซึมเศร้า, หรืออะไรก็ตามที่ไม่สามารถระบายออกมา หรือหาคนเข้าใจยาก ณ ตอนนี้มีพื้นที่ให้เขาได้ระบายความอัดอั้นตันใจแบบเปิดอกคุยกันได้เลย เพราะสมาชิกของกลุ่มก็มาจากพันทิปที่อ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ครับ มีราวๆ 80-90 คนแล้วยิ้ม

          เพียงลำพังผมไม่สามารถช่วยรับฟังหรือพูดคุยชี้แนะได้หมด จึงได้ขอเชิญเพื่อนๆที่มีน้ำใจดีงามมาจากกลุ่มธรรมะและปัญหาสุขภาพจิตหลายท่าน มาช่วยเป็นพี่เลี้ยง คอยรับฟังและชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตต่อไป ซึ่งแต่ละคนก็มีความถนัดคนละแนว แต่โดนรวมสามารถนำพาเพื่อนๆที่มีปัญหากลับเข้าสู่เส้นทางเดินตามปกติได้ ถ้ารับฟังและพิจารณาทำตามคำแนะนำครับดอกไม้

          สมาชิกในกลุ่มหลายท่านดีใจมากที่มีพื้นที่ที่เขาสามารถระบายความในใจได้และบรรดาสมาชิกที่เข้ามาแล้วหลายท่านก็ให้คำปรึกษาด้วย ซึ่งกลายเป็นเพื่อนช่วยเพื่อนอีกที นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเกินความคาดหมายครับ หลายท่านเข้ามา สงวนท่าทีไม่พูดคุย แค่อ่านอย่างเดียว บางทีก็อาจเก็บเกี่ยวผลไปปรับใช้ได้บ้าง ในกลุ่มจะมีบันทึกกลุ่มที่ช่วยกันลงไว้ มีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหา เขียนจากประสบการณ์ผมเองบ้าง ของพี่เลี้ยงบ้าง มีมากมาย

          หลายท่านเห็นผมบอกว่าหายจากโรคซึมเศร้าแล้ว แต่ผมยังมีปัญหาเรื่องการนอนสั้น ประมาณ 4 ช.ม.ตื่น ทุกวัน หมอจ่ายยานอนหลับและยาควบคุมเกี่ยวกับต้านเศร้านิดหน่อย เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำอีก ซึ่งผมยอมรับยาและยอมรับภาวะการนอนสั้น แม้ตื่นก็ไม่เครียด หาทางอยู่ร่วมกับมันโดยใช้หลากหลายวิธี

          จริงๆกลุ่มใหญ่แล้วไม่อยากรับสมาชิกเพิ่มเพราะดูแลได้ไม่ทั่วถึง สมาชิกหลายท่านก็ออกไปโดยไม่บอกกล่าวใดๆ คงไม่ถูกใจหรืออะไรก็ตาม ผมขอให้คนที่จะเข้าร่วมกลุ่มในครั้งถัดๆไป อดทนอยู่ร่วมในกลุ่มสักระยะนึง 7 วันก็ยังดี ไม่พูดคุย จะแอบอ่านก็ได้ แต่ผลประโยชน์โดยตรงที่คุณได้จะไม่มี ได้แต่นำคำแนะนำของคนอื่นมาปรับใช้ เนื่องด้วยเป็นวันพ่อหลวง ผมขอเปิดรับสมาชิกใหม่อีกครั้งครับ ไม่ต้องห่วง ในกลุ่มไม่ได้มีแต่ความเครียด มีเฮฮา สนุกสนาน เม้ามอย กิจกรรมร่วมกันในไลน์กลุ่มบ้าง เพื่อเพิ่มสีสันให้ชีวิต มีธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ มีเสียงเพลง (แอบฮา) พาพันเคลิ้ม

          อนึ่ง ท่านที่สนใจจะเข้าร่วมกลุ่มมหัศจรรย์แห่งชีวิต ต้องเข้าใจด้วยว่า เรารู้ว่าท่านใจร้อน ทนมานาน อยากระบาย อยากหาย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องใช้เวลานะครับ ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองว่าจะรับฟังคำชี้แนะหรือไม่อย่างไร หลายท่านได้ระบายออกมาก็ดีใจมากแล้ว เพราะที่แห่งนี้ไม่มีการซ้ำเติมท่าน มีแต่คนเข้าใจท่าน เข้าใจในความรู้สึกของท่านแบบจริงใจ ไม่ต้องเสแสร้งใดๆ

          วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ( 30 พ.ย. 57 ) ผมเกิดภาวะเครียดจากการผิดหวังหลายๆเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกันมาก ทำให้เกิดภาวะสับสนและซึมลงอีกครั้ง ซึ่งผมไม่ต้องการให้กลับไปเป็นเหมือนก่อน ได้พบหมออีกท่าน 3rd opinion คุยกันแล้วท่านขอรีเซ็ตยาที่ผมทานอยู่ทั้งหมด จ่ายให้ใหม่ เป็นยาต้านเศร้า 2 ตัว+ยานอนหลับ 1 ตัว ให้ทาน 7 วันแล้วมาดูผล แต่หลังจากทานยาได้ 2 dose ผมเกิดอาการซึมลงหนักกว่าเดิม เงียบขรึม เชื่องช้าลงมาก พูดจาช้าลง การคิดการตอบสนองการเดินเหิน แทบทุกอย่างช้าลงมาก จนผมเครียดจัดต้องหาซื้อยาคลายเครียดมาทานจากร้านขายยาเศร้า

          วันถัดมาลาหยุดงาน โทร.ไปรพ.ที่หมอ 2nd ทำงานอยู่ ปรากฏว่าคิวเต็ม ผมร้อนใจมากจึงทิ้งเบอร์โทรไว้ให้คุณหมอเผื่อมีเวลาว่างจะได้โทรกลับมา (พยาบาลเป็นคนชี้แนะ)  ไม่ช้าไม่นาน คุณหมอ 2nd ก็โทรมา ผมดีใจมาก คุยปรึกษา และปรับยาใหม่อีกรอบนึง จากคุยกันจนถึงตอนนี้ ผมแฮปปี้กับชีวิตมากครับ กลับมาปกติอีกครัง ยกเว้นเรื่องเรี่ยวแรงที่น้อยลง ( น.น. หายไป 10 ก.ก. ) กับอาการวงจรการนอนหลับไม่ปกติ กำลังปรับยากับปรับตัวอยู่ครับ ไม่ซีเรียสเท่าก่อนหน้าแล้วหัวเราะ

         จบการอัพเดทแค่นี้ครับพาพันไฟท์ติ้ง

จากความเป็นจริงในปัจจุบัน ผู้คนส่วนนึงเกิดภาวะความเครียดสูงมาก จะเริ่มมีอาการอื่นแทรกซ้อนตามมา
เช่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ หรือตื่นกลางดึกแลัวหลับต่อยาก เช้ามาอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
ดีกรีอาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ และแล้วก็เข้าสู่ภาวะโรคซึมเศร้าแบบเต็มตัว
ท้องฟ้าที่เคยสดใส กลับมืดหม่นหมอง ไม่มีความสดใสร่าเริงเหลืออยู่ร้องไห้

เพิ่มเติมข้อมูลจากเวปเพื่อนบ้าน
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9540000122753เยี่ยม
9 พฤติกรรมบ่งบอกคุณกำลังเป็น“โรคซึมเศร้า”โดยไม่รู้ตัว!

คุณหมอคนสวยอดีตนางสาวไทยปี 2542 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือคุณหมอเบิร์ท จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลศรีธัญญา      

       สาเหตุการฆ่าตัวตายที่พบได้บ่อย และคนไม่ค่อยทราบกันคือ เรื่องของโรคซึมเศร้าเศร้า เนื่องจากมีคนจำนวนมาก ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแต่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย ซึ่งหากป่วยแล้วปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ได้รักษา ก็จะส่งผลให้คนไข้มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายได้” คุณหมออภิสมัยเกริ่นนำถึงภัยร้ายแรงของโรคซึมเศร้า

ต้นตอสำคัญมาจากพันธุกรรม!พาพันเศร้า
      
       อาการที่เด่นชัดของโรคซึมเศร้าคือ อาการหงุดหงิด ก้าวร้าว อารมณ์เศร้า ถ้าผู้ป่วยเป็นวัยรุ่น อาจจะมีอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว อยู่ๆ ก็อยากหงุดหงิด ซึ่งจุดนี้บางคนคิดว่าเมื่อไปเจอเรื่องราวมรสุมชีวิต เลยกลายเป็นโรคซึมเศร้า แต่จริงๆ ไม่ใช่ ปัจจุบันทางการแพทย์เราเชื่อว่า โรคซึมเศร้านี้ เมื่อคนเราเกิดมา ร่างกายก็มียีน (Gene) ติดตัวมาอยู่แล้ว ดังนั้นหากพ่อแม่เป็นโรคซึมเศร้า หรือปู่ ย่า ตา ยาย เป็นโรคซึมเศร้า คนๆ นั้นก็มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคู่แฝด ถ้าฝาแฝด คนใดคนหนึ่งเป็น แฝดอีกคนก็จะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากถึง 50% หรือมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า
      
       ดังนั้นโรคซึมเศร้าจึงไม่ใช่ว่าชีวิตต้องเจอกับมรสุมอะไร คนไข้หลายคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มักจะบอกกับหมอว่า ชีวิตก็ดี งานก็ดี ลูกก็ดี แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ถึงเศร้าขึ้นมา คำตอบก็คือ ยีน ที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดนี่แหละ แต่ปัจจัยภายนอกก็มีผลเช่นกัน เพราะบางคนที่มียีนอยู่แล้ว ติดตัวมาแต่เกิด และเมื่อโตขึ้นก็ไปเจอมรสุมชีวิตอีก มันก็ยิ่งเป็นเหมือนการกระตุ้นให้อาการป่วยแสดงออกมา จิตแพทย์แห่งโรงพยาบาลศรีธัญญาอธิบายถึงต้นตอของโรค

9 สัญญาณบอกเหตุโรคซึมเศร้านานาเสียใจเม่าตาสว่าง
       1. อารมณ์ซึมเศร้า หงุดหงิด ก้าวร้าว
       2. ขาดความสนใจสิ่งรอบข้าง
       3. สมาธิเสีย คือ ไม่ค่อยมีสมาธิเวลาทำสิ่งต่างๆ
       4. รู้สึกอ่อนเพลีย
       5. เชื่องช้า ทำอะไรก็เชื่องช้าไปหมด
       6. รับประทานอาหารมากขึ้น หรือรับประทานน้อยลง
       7. นอนมากขึ้น หรือนอนน้อยลง
       8. ตำหนิตัวเอง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่พบได้มากในคนเป็นโรคซึมเศร้า
       9. ฆ่าตัวตาย หากมีการพยายามฆ่าตัวตาย ก็ตั้งข้อสันนิษฐานได้เช่นกันว่า คนนั้นอาจเป็นโรคซึมเศร้า
      
       ทั้งนี้อาการของโรคซึมเศร้า ต้องมี 5 ใน 9 อย่างนี้นาน 2 สัปดาห์ติดต่อกัน

ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นจำนวนมาก ประมาณ 5-7% ของประชากรเลยทีเดียว แต่โรคนี้ก็รักษาได้ง่ายมากรักษา 2 สัปดาห์ก็เห็นผลชัด ซึ่งบางคน 2 สัปดาห์ก็กลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติแล้ว แต่หากไม่รักษาอาจจะชีวิตพัง เช่น หย่าร้างกับคู่ ต้องออกจากงาน หรือถึงขั้นฆ่าตัวตายแย่
      
       การรักษาโรคซึมเศร้ามี 3 องค์ประกอบด้วยกัน อย่างแรกคือ ยา ที่จะช่วยปรับสารสื่อประสาทในสมองให้สมดุล แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ องค์ประกอบที่ 2 นั่นคือ การทำจิตบำบัดให้คนไข้ เช่นคนไข้มีปัญหาที่การควบคุมอารมณ์ ก็แก้ที่การควบคุมอารมณ์
      
       นอกจากนี้องค์ประกอบที่ 3 คือ เรื่องของสังคม ก็มีส่วนช่วยบำบัดฟื้นฟูมาก เช่น คนไข้ที่เมื่อมารักษากับแพทย์ กลับบ้านไปแล้วมีกิจกรรมทำ กลับไปเรียนหนังสือตามปกติ ไปทำงานมีเพื่อนฝูงตรงนี้จะยิ่งทำให้คนไข้ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ไว เทียบกับคนที่กินยา แต่เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร แม้จะกินยาเหมือนกันแต่ว่าผลในการบำบัดรักษาฟื้นฟูจะแตกต่างกัน คือ กลุ่มที่เก็บเนื้อเก็บตัว ผลการรักษาจะไม่ดีเท่าไหร่Facepalm
      
       โรคซึมเศร้าจะมีเกณฑ์ว่ามักเริ่มเป็นตอนอายุ 25 ปี แล้วก็จะเป็นไประยะยาวเลย แม้จะรักษาแล้วก็ยังต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เหมือนโรคเบาหวาน ความดัน ที่ต่อให้ไม่มีอาการแล้วก็ต้องทานยาควบคุมไม่ให้อาการกำเริบ แต่โรคนี้ก็มีข้อดีตรงที่ เมื่อเข้ารับการรักษาแล้ว สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ เป็นคนเก่ง เรียนถึงปริญญาโท ปริญญาเอก เป็นผู้บริหารระดับสูง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในสังคมได้หมดเข้ามาดู
      
       ดังนั้นสำหรับการรักษา หากกินยาจนครบ หมอจะให้หยุดยา แต่ก็ยังต้องเฝ้าสังเกตอาการ เพราะมันอาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้ เหมือนอย่างโรคมะเร็ง พอเราฆ่าเชื้อมะเร็งหมดไป เราก็ต้องเฝ้าดูอาการว่ามะเร็งมันจะกลับมาเป็นซ้ำหรือเปล่า โรคซึมเศร้าก็เป็นลักษณะนั้น ดังนั้นการรับมือกับโรคนี้คือ หมั่นสังเกตอาการที่บอกไป 9 อย่าง อย่าละเลยจนให้ถึงกับว่าคนๆ หนึ่งต้องออกจากงาน หย่าร้างกับสามี ตีลูกโดยไม่มีเหตุผล เพราะแม่ที่เป็นลูกซึมเศร้า เลี้ยงลูก ลูกก็มีปัญหา ฉะนั้นหากเจอสัญญาณอันตราย การเป็นโรคนี้แต่เนิ่นๆ อย่ารอจนเขามีความคิดฆ่าตัวตาย ควรรีบเข้าสู่กระบวนการรักษาให้เร็วที่สุด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่