ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด แต่จำทุกรายละเอียดที่ ..ทำ ;ประสบความความรักควายเผือกค่ะ

เนื่องจากเป็นกระทู้แรกค่ะ ถ้ามีไรผิดพลาด ขออภัยด้วยนะคะ

วันนี้จะมาบรรยายความควายเผือกของตัวเองให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เผื่อจะเป็นวิทยาทานให้สาวๆ หลายๆคนได้ค่ะ

เริ่มเลยค่ะ
เริ่มต้นจากการเล่นเกมออนไลน์ ไปเจอคนๆหนึ่งเข้า  เค้าชื่อเชน ค่ะ ไม่สมมงสมมุติ นี่คือชื่อมันเลยค่ะ ก็ได้คุยกัน อยู่คนละจังหวัดกัน คุยติดต่อจีบกัน
ทางโทรศัพท์ ไม่กี่เดือน เราก็ตกลงคบกันในวันเกิดของเค้าพอดี
ขอบรรยายนิสัยของมันให้เห็นภาพก่อนนะคะ

Part 1 เริ่มความสัมพันธ์
      เล่าแบบย่อๆค่ะ เริ่มแรกเค้าสร้างเรื่องว่าเค้าประสบอุบัติเหตุเจ็บหนักปางตาย ต้องใช้เงินในการรักษาจำนวนมาก ตอนนั้นเรายังไม่เคยได้เจอตัวกันจริงๆ ตอนที่รู้เรื่องเราโทรไปยัง รพ. ที่เค้าบอกมาเพื่อสอบถามอาการของเค้าด้วยความเป็นห่วง แต่ผลคือ ขอโทษค่ะ ไม่มีคนไข้ชื่อนี้นะคะ

      หลังจากเค้าบอกเราว่า รักษาตัวเรียบร้อย เค้าบอกว่าจะย้ายมาอยู่ที่จังหวัดที่เราอยู่ โดยจะโอนเงินให้เราเพื่อมัดจำค่าห้อง ( วางแผนจะอยู่ด้วยกันเลย ทีเดียว crazy ไหมคระ ? ) แต่วันสองวันผ่านมาเค้าก็ยิ้มเราค่ะ ว่าทำถุงเงิน 8 หมื่นหาย มันบอกกำลังจะออกไปธนาคาร และโอนตังให้เราแต่ดันทำหายซะก่อน  ( บังเอิ้นนนนบังเอิญเนอะ ) ทำท่าดราม่า เสียดายเงิน และบอกให้เราออกเงินให้ก่อน ซึ่งทางบ้านเราก็ไม่มีเงินอะไร ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับทางบ้าน ก็บอกไปว่าเราก็ไม่มีเงิน และแล้วเค้าก็มาหาเราค่ะ มาแบบ รถไฟฟรีด้วย ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นเท่าตามร่างกายของเค้าทำไม ไม่มีแผลสักกาติ๊ดดดเลยล่ะ ไหนบอกชนแรง ซี่โครงหัก ปางตาย ไม่เห็นมีแผลเลยวะ ?? แต่ก็พยายามไม่คิดติดใจอะไร เพราะรักจึงควายเผือกต่อไป โดยเค้ามีตังเพียง 2 พันกว่าบาทติดตัวเท่านั้น ไม่กี่วันเงินมันจึงหมดและเกาะเรากิน (ค่ากิน ค่า โรงแรมมันเราต้องออก) จนกระทั่งเราเองไม่มี จึงหางานพิเศษด้วยกันสองคนทำโดยทำงานเป็นเด็กเสริฟ (โดยเค้าพกเอกสารติดตัวแค่สองอย่างคือ บัตร ปชช และสำเนาทะเบียนบ้านเท่านั้น ไปมาๆตอนหลังเลยรู้ว่า ที่บอกๆมาว่าทำงานวิศวะ มันก็สตออ จริงๆแล้วมันยังไม่จบ ม 6 เลยด้วยซ้ำ  ) เลยเช่าห้องถูกๆ อยู่ด้วยกัน ไรงี้ สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะเค้าห่วงเล่นเกมส์ ลางานบ่อยๆ ที่ทำงานจึงติง เลยวางแผนไปทำงานกรุงเทพช่วงปิดเทอมกัน

Part 2 ออกผจญภัย
     มากรุงเทพโดยรถไฟฟรี นั่งตากแดดลม 10 ชม พร้อมเงินติดกระเป๋าไม่ถึง 200 พักในอพาทเมนเล็กๆ แล้วทำงานเป็นเด็กเสริฟโดยทำงานคนละร้านกัน(ร้านอาหารกลางคืนไรงี้อะค่ะ ) แต่ร้านไม่ไกลกันมากเท่าไหร่ เราทำงานได้ไม่นาน เนื่องจากร้านที่มันทำงานเพิ่งเปิดใหม่นักร้องไม่พอ ทางร้านนั้นเลยให้ไปช่วยร้องเพลง เราจึงได้ทำงานร้านเดียวกับมัน โดยมันเป็นเด็กเสริฟเราเป็นนักร้อง ไปมาๆ เราเลยหาเงินได้มากกว่าเค้า เลยเป็นเหตุให้มันขี้เกียจทำงาน โดยอ้างกับเราว่าไม่สบาย ลาหยุดบ่อยๆ เพราะเห็นว่าเรามีรายได้ดีพอสมควร สุดท้ายมันก็เจอ ผจก ร้านนั้นให้ออก

Part 3
    เนื่องจากมันติดเกมมาก หลังจากโดนไล่ออก ชีวิตมันก็ไม่ได้ทำไรนอกจาก นอน ตื่น กิน เล่นเกมส์ โดยบอกกับเราว่ามันป่วย ขอเวลาพักแปบ เดี๋ยวหางานทำใหม่ วันเวลาล่วงเลยผ่านไป 4 เดือน มันก็ยังคงไม่ทำอะไร เราก็ทำงานทุกวัน หลังจากเราเลิกงานก็ต้องวิ่งแจ้นไปหามันทันที เนื่องจากมักมี ลูกค้า ผู้ชาย จ้องจะกินเรา อยู่เรื่อย ระหว่างที่มันว่างงาน มันจะมาส่งเราที่ทำงาน ช่วง 1 ทุ่ม แล้วมันก็ไปนั่งเล่นเกมส์ รอเราเลิกงาน โดยเราจะให้เงินมันเล่นเกมและค่าข้าว 200 ทุกวันๆ มันไม่ห่านทำอะไร ก็อยู่อย่างนั้นไป
   ตามประสางานกลางคืน ก็มี ผู้ชายมาสนใจเราเยอะแยะ ไอเราเวลารักใคร ก็ไม่สนใจใครหรอก มุ่งหาเงินเก็บตัง กะจะเก็บตังเรียนเอง ไปมาๆจึงดรอป มหาลัย แล้วตั้งใจว่าขอทำงาน 1 เทอม เต็ม ๆ แล้วค่อยลงเรียนต่อ เพราะสภาพการเงินทางบ้านเราตอนนั้นค่อนข้างลำบาก เราเลยไม่อยากจะขอที่บ้านอีกต่อไป และตั้งใจจะใช้ชีวิตคู่กับคนนี้ แต่ไม่นานความอดทนเราก็เริ่มหมด เมื่อเราป่วยยาวสุขภาพแย่ เราไม่ได้ทำงาน มันก็นอนอยู่บ้านเฉยๆ เงินจึงเริ่มหมด ค่าเช่าห้อง ค่ากิน บลาๆ ไม่นานเงินจึงเริ่มหมด เริ่มทะเลาะกันมากขึ้น วันวาเลนไทน์ก็ทะเลาะกัน มันปามือถือมันทิ้ง เราเลยเอามือถือเราให้มันใช้ เนื่องจากมือถือเก่าที่มันปาไป เป็นรุ่นเก่าทำไรไม่ได้ พอเราเอาเครื่องเราให้ใช้ ซึ่งสามารถเล่นไลน์ได้ มันจึงเริ่มคุยแต่ไลน์มากขึ้น วันๆเอาแต่คุย ขอตังเราไปเติมมือถือ บอกจะคุยกับเพื่อน เพื่อนจะหางานให้เราก็เติมให้ มันก็คุยทั้งวี่ทั้งวัน เราก็คุยนะ คุยเฉพาะงาน ลค ให้จองโต๊ะ นู้นนี่ไรงี้ แต่มันอะ จะคุยห่านไรนักหนาา

Part 4 บทจบบริบูรณ์ เย้ !!!!  
       คือ ระหว่างนั้น เราก็เหนื่อยไงคะก็กดดันมันให้หางานสักทีเถ่ออออ ตรูเหนื่อยยยย มีคนหลายคนบอก จะทำงานเลี้ยงมันทำไม หน้าตาอย่างแกหาคนเลี้ยงสบายยๆ เพื๊อออ?? ทำงานเลี้ยงแม่เลี้ยครอบครัวดีกว่ามะ ?? เออออออ พอได้ยินเรานี่ลุกเลยค่ะ แบบตาเริ่มสว่างงง ( ซึ่งจริงๆควรจะคิดได้ตั้งนานละ )
    
       วันหนึ่งเค้าบอกเราว่า ' จะไปขับรถให้เพื่อน เพื่อนมันเจ็บแขน มันบอกจะจ้าง ไหนว่าอยากให้หางาน ก็หาแล้วนี่ไง ' มันกล่าว
ไอเราก็เอออ ดีใจ ทำสะที มันบอกขอตังไปตัดผมหน่อยสิ ก็ให้ตังไปตัดผม ก่อนจะไปมันก็ขอตังติดตัวไป เราก็ให้ไปอีก จากนั้นเค้าก็หายยยยยยยยไป
3 วัน 2 คืน ประเด็นคือ โทรไปไม่รับ และไม่มีการโทรกลับด้วย คือระ ??????
    
จุดพีคของเรื่องคือช่วงนี้ค่ะ
     ช่วงที่เค้าหายไปไร้การติดต่อ หลังจากเลิกงานเราก็ไปรอเค้าที่ร้านเกมตลอด 3 วัน 2 คืนที่มันหายไป ร้องไห้และคิดมากไปต่างๆนาๆ ชัดเจนค่ะ ว่าต้องหายไปกับผู้หญิงแน่ๆ หลังจากกลับมา เราก็ทะเลาะกับเค้า เค้าทำเป็นโชว์เงิน 4-5 พัน ว่านี่คือเงินจากการทำงานระหว่างที่เค้าขาดการติดต่อ
      เมื่อไม่มีหลักฐาน ก็คงต้องปล่อยให้เรื่องนี้มันผ่านไป... หรอคะ? ไม่หรอกค่ะ เพราะตั้งแต่เค้าหายไป เค้าก็ไปเหมือนเดิม ตัวเราเองก็เช่นกัน เราสองคนเริ่มกลายเป็นคนอื่น ต่างคนต่างสนใจแต่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง เรามุ่งทำงานเก็บเงิน หวังจะออกไปอยู่คนเดียว ส่วนเค้า...? ก็ไม่รู้สินะคะ
จนกระทั่ง...วันหนึ่งเราตัดสินใจหยิบโทรศัพท์เค้ามาแอบอ่าน แล้วความจริงทุกอย่างก็เปิดเผยค่ะ      
      มีหลายประโยคที่ทำเอา..พูดไม่ออกอยู่หลายประโยค..
      ' น่ารักจัง มีแฟนยัง พี่นี่ เหงามากๆเลย '  อ่อหรออ เหงามากๆเลยหรอ -_-
      ' อ้อ วันนี้พี่ไปดูหนังคนเดียวมาด้วย เหงามากๆเลยครับ ว่างๆ มาดูด้วยกันไหมครับ ' เลื่อนไปดูวันที่ อ้อ วันนั้นไปดูกับฉันไม่ใช่หรออล?
      บลาๆ มากมาย ถ้อยคำสตอบอแหล แถจนสีข้างแทบไหม้ อ่านไปน้ำตาไหลไป คุยกับผู้หญิงหลายคน ก็ม่อมันซะทุกคน จนกระทั่ง .. ไปเจอ
      ' เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น ให้เชนรับผิดชอบนะ ' ....น้ำตาไหลพรากจนจอพร่า ปาดมันออกก่อนเลื่อนไปดูชัดว่าเธอคนนั้นคือใคร

     เธอคือคนที่มันบอกจะรับผิดชอบ คือคนที่มันบอกจะไปขับรถให้ แล้วหายไป 3 วัน 2 คืนค่ะ story  แบบนี้คงไม่ต้องเดาให้ยากแล้วค่ะ ชัด!!
หลังจากร้องไห้จนสาแก่ใจก็เปิดประตูออกมา โดดถรีบมัน ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง โดยไม่ลืมจะหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นออกมาด้วย

     ไม่นานผู้หญิง 2-3 คน ก็โทรเข้าเครื่องมา ตอบไปว่าอ้อ อดีตแฟนมันค่ะ มันสตอบอแหลมาก จนกระทั่งผู้หญิงคนที่เค้าบอกจะรับผิดชอบโทรมา
    เราไม่ได้โกรธอะไรผู้หญิงคนนั้นเลย หัวอกเดียวกันคือโดนหลอกก!!!!! เราเล่าเรื่องของเราให้ผู้ญิงคนนั้นฟัง แล้วเธอก็เล่าเรื่องที่แฟน(เก่า)เราแต่งขึ้นว่า
เราเป็นน้องสาวของมัน ที่ชอบเที่ยวกลางคืน แรดๆไปวันๆ กลับทีเกือบเช้า ( ก็เราทำงานไง ร้านปิดตีสอง กลับทีก็เกือบเช้า) แล้วก็บอกว่าต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ไม่รู้ว่าสตอว่าอะไร แต่เธอคนนั้นก็ได้ให้ตังมันว่า 4 พันกว่า ( ไอตังที่มันได้มาหลังจากหายไป 2-3 วันนั่นแล ) แต่เธอก็มารู้ทีหลังว่าเราคือแฟนมัน ไม่ใช่น้องสาว เธอเลยบอกจะเลิกติดต่อกับมัน (ซึ่งก็คือตอนที่มันบอกว่ามันโดนไล่ออก ซึ่งจริงๆแล้วเค้ารู้ความจริงว่าเราเป็นแฟนมันคนนั้นเลยจะเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้) เราเลยบอกก่อนวางสายไปว่า
     " เราไม่โกรธและจะไม่ว่าอะไรเธอทั้งนั้น เพราะเธอไม่ผิด เราสองคนต่างโดนมันหลอกทั้งคู่ จะคบกับมันต่อก็ได้นะคะ เพราะเราเลิกกับมันแล้ว แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ หน้าตาอย่างคุณ หาได้ดีกว่านี้เยอะค่ะ "  ก่อนวางสายเค้าขอคุยเคลียร์กับแฟน(เก่า)เรา
      เรากลับมาที่ห้องเก็บเสื้อผ้าเก็บของลากกระเป๋าออก มันก็ยังจะแก้ตัวจนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นโทรมา เราเลยให้มันเปิดลำโพงคุยและยอมรับผิดกับผู้หญิงคนนั้น หลังจากวางสาย ดูเหมือนเรื่องจะจบ ? ยังหรอกค่ะ เราบอกกับมันว่า เราจะไปจากที่นี่วันนี้ มันก็ไม่ยอม แก้ตัวว่าเพราะเราขอให้มันหางาน มันก็ไม่รู้จะทำไง เห็นเธอคนนั้น มีหน้าที่การงานดี เลยจะหลอกเธอให้ฝากงาน และใช้ประโยนช์จากเธอคนนั้น แต่ยังไง ก็รักเราที่สุด ( ดู๊ดู ยังไม่หยุดยิ้มค่ะ ) แต่ถึงยังไงเราก็ไม่อยู่แล้ว ค่ะ ลากกระเป๋าออกมา มันก็เก็บกระเป๋าของมันเช่นกัน พร้อมบอกกับเราว่า ถ้าที่นี่ไม่มีเรา มันก็จะไม่อยู่เช่นกัน ฉากเราลากกระเป๋าออกมา มันก็สะพายกระเป๋าออกมา เดินแยกซ้ายกว่าไปคนละทาง เอ้อ ลืมบอกเราเอามือถือที่เคยให้มันใช้มาด้วย ยึดคืนมาแม่มมค่ะ  

เหมือนเรื่องจะจบละ แต่ยังค่ะ ความเลวของมันยังไม่จบ

บทส่งท้าย ท้ายสุด
      เราออกมาอยู่คนเดียว ช่วงแรกทรมานมาก เพราะเจ็บปวดกับสิ่งที่เจอ แต่ก็ยังรักเค้าอยู่ ไม่นานมันก็เอาโทรศัพท์แม่มันโทรมาบอกว่า ขอยืมใช้โทรศัพท์หน่อย ด้วยความที่เรายังรักเค้าอยู่เลยสงสารให้มันมาเอาที่ห้องใหม่เรา เค้าทำท่าจะมาอยู่ด้วยแต่เราไม่ยอม ไล่มันกลับไป
     ระหว่างที่อยู่คนเดียวเราก็ทำงานแทบทุกวัน เพราะไม่อยากอยู่ห้องคนเดียวกลัวฟุ๊งซ่าน ไม่กี่อาทตย์มันก็ไลน์ ขอตังเรา บอกไม่มีตังเลย กับข้าวกับไข่อย่างเดียวมาหลายวันแล้ว เจ้าน้ำตาล (แมวที่เราเลี้ยงที่บ้านแม่ผู้ชายคนนั้น) อาหารก็หมด เราเลยสงสารโอนตังไปให้
     แล้วก็มีพี่คนนึงโทรมา พี่คนนั้นเค้าเคยชอบเรา พอรู้ว่าเราเป็นแฟนกับเชน เลยพยายามสืบหาข้อมูลประวัติของเชน แล้วก็เล่าความจริงๆหลายๆอย่างของเชนให้ฟัง
    -  มันเรียนไม่จบ ม 6
    -  มันจนมีแต่ตัว
    -  มันไม่เคยประสบอุบัติเหตุ ตอน Part 1
    และอีกมากมาย จนเราอึ้งมากกกเห้ยย โกหกตรูแทบทุกอย่างเลยนี่หว่า ที่ผ่านมามีไรจริงบ้างวะ พี่เค้าบอกว่า อยากจะบอกนานละ แต่ไม่มีโอกาสบอกสักที เราโมโหมากเลยโทรไปทวงโทรศัพท์เราคืน รู้ไหมคะมันรพูดว่าไง
   ' ลองมาโผล่มาให้เห็นดู สิ จะกระทืบบแม้มมม '  
  อือ หือออออออออออ เรานี่ชอคคคคคคคคคคค่ะ เล... ว สส บัด โซ๊บบบบบบบบบ
ตั้งแต่นั้นมาเราบอกมัน ถ้าสะเออะ โผล่มาให้เห็น ตรุจะส่งคนไปกระทืบให้เละแน่ แล้วก็เปลี่ยนเบอร เปลี่ยนไลน์ ทิ้ง แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกับมันอีกเลยยยย

      ระหว่างช่วงที่เพิ่งผ่านความเจ็บปวดนั้น เราก็ได้นึกถึงครอบครัวที่บ้านค่ะ ทำไมเราจะต้องมาร้องไห้เสียอกเสียใจกับไอคนแบบนี้ด้วย ไม่นานจึงกลับตจว. ไปกราบขอโทษที่บ้าน ที่ออกมาอยู่ กทม แบบไม่บอกกล่าว เราเตรียมใจยอมรับก่อนมาแล้วว่าต่อให้โดนด่า รึตียังไงก็ช่าง เพราะเราทำผิดจริงๆ
      แต่เชื่อไหมคะ ว่าที่บ้านเราไม่ว่าอะไรเราสักคำ พูดแค่ว่า .. จำไว้ให้ดีให้เป็นบทเรียน  ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเอง และครอบครัวหรอก..แค่นั้นเองค่ะ ท่านไม่ดุด่าสักคำ จากนั้นมา เราเลยเข็ดขยาดกับความรัก มุ่งหน้าทำงานเก็บเงิน และเรียน โดยไม่ขอที่บ้านสักบาท ช่วงที่ไม่มีสอบกับที่ทำงานลงตัวก็จะขอลากลับ ตจว.

    ขอบคุณมากค่ะที่อุตส่าห์อ่านสตอรี่ควายเผือกของเราจนจบ อยากฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้หญิงหลายๆคนค่ะ

    ความรักเป็นสิ่งสวยงาม หากแต่ความรักนั้น ต้องมีสติและเหตุผลค่ะ และที่สำคัญคือ ไม่มีใครรักตัวคุณเท่าตัวคุณเองและครอบครัวของคุณเลย
    ก่อนจะคุยกับใครควรตรวจสอบข้อมูลประวัติที่มาของเค้าให้ละเอียดค่ะ โดยเฉพาะความรักในโลกของโซเชียลค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่