อยากทราบวิธีการลงทุนหุ้นของท่านที่เรียกตัวเองว่า VI ในปัจจุบันนี้

กระทู้คำถาม
คือไม่ได้จะลบหลู่ VI อะไรนะครับ แต่ผมสงสัยจริงๆว่า วิธีการลงทุนหุ้นของท่านที่เรียกตัวเองว่า VI ในปัจจุบันนี้ เป็นอย่างไร ?
เหตุที่ผมสงสัยเพราะ ผมเคยพยายามจะถือยาวๆ หลายๆ ครั้งแต่ผมรู้สึกว่า มันไม่สามารถใช้ในปัจจุบันได้
ถามว่า เพราะอะไร ?
ผมยกตัวอย่างนะครับ
ครั้งนึงผมซื้อหุ้น A มา ( เอาแบบหุ้นพื้นฐานเลยนะครับ ) ราคา 10 บาท
พอถือข้ามวัน ราคาเช้าอีกวันพุ่งไปตั้ง 10.6 - 10.7 จากนั้นก็นิ่งๆๆ 10.7 ก็มีคนมารินขายตลอด
พอจะหมด แมร่งก็เอา offer มาเพิ่มอีก ซ้ำ 10.6 ก็โดนถล่มขายจนจะหมด
ถามว่าผมจะถือรออะไรครับ 6% อยู่ในมือแล้ว ผมก็ขายทิ้งเอาเงินสดสิครับ
ถามว่าต่อมาเกิดอะไรขึ้น ??
ราคามันก็ลงต่ำไปเรื่อยๆจนใกล้ทุน หรืออาจจะขาดทุนกว่า 10 บาท หรือไม่ก็วนไปวนมา
ถ้าผมถือทิ้งๆไว้  มันก็ไม่มีอะไรคืบหน้า หรือไม่ก็อาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ
แต่ถ้าโชคดีราคาอาจจะทะลุขึ้นไป 11-12-13 บาทเรื่อยๆ แต่ยังไงมันก็ต้องย่อ ผมเลยเล่นรอบดีกว่ามั๊ยครับ?
- อีกครั้งนึงในอดีตหลายปีก่อน ผมเคยซื้อ CPF ผมตั้งใจ ถือยาวๆๆๆ หุ้นดี เซียนเล่น ฝรั่งถือ ธุรกิจโต จ้าวสัวๆๆๆ
จัดไป 4 ไม้ 100 จนวันนี้ ราคาแมร่งก็อยู่แถวนี้ ถ้าผมยังถือจนวันนี้ เงินผมแมร่งก็อยู่แค่นี้
- อีกหลายๆตัวในอดีต เช่น PTT , SCC , ESSO , CPALL  บางตัวก็ขึ้น บางตัวก็ทรง แต่ถามว่ามันคุ้มมั๊ยกับการรอคอย
บางตัวถ้าผมรอ ก้ 2-3 ปีได้กำไร 30%-50%..
ผมก็เลยเปลี่ยนวิธีการเล่นเป็นเล่ยรอบเล็กๆ จากวันนั้น มาวันนี้กำไรไปหลายเท่าตัวแล้ว
แต่ใจผมก็ยังอยากจะซื้อแล้วถทิยาวๆ แบบ VI อยู่ดี เพราะ เหนื่อย..... ก็การเทรด กับการนั่งจ้องจอ รอจังหวะหุ้นขึ้นลง ซื้อขายเสียบช้อน
หรือคัทลอส...
ดังนั้น ผมเลยตั้งกระทู้มาเพื่อถาม VI ท่านทั้งหลายว่า ณ.ปัจจุบัน ที่ตลาดมันเป็นแบบนี้ ท่าน VI กันยังไง
เวลากำไรขึ้นมา 10% 20% ท่านไม่ขายเหรอ เพราะบางครั้ง มันจะกลายเป็นติดลบ
ตลาดทุกวันนี้ มันขึ้นลงหวือหวามาก ไม่เว้นแม้แต่หุ้นพื้นฐาน
แล้วท่านวางแผนการลงเลินสำหรับ VI หรือมีวิธีการอย่างไรให้ได้กำไรมากสุดครับ
ขอคำแนะนำ จะได้เอาไปประยุกต์กับวิธีการของผม เผื่อจะต่อยอดในอนาคต หรือคนอื่นมาอ่านกระทู้
อาจจะได่แนวคิดหลายๆทางควบคู่กันไปครับ

เม่าเริงร่า ^^ เม่าเริงร่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ผมว่าการลงทุน แนวคิด วิธีการ และต้นทุนของคนต่างกัน สถานะการณ์ของตลาดแต่ละช่วงก็ต่างกัน
คงเอามาบอกเล่นแนวไหนดีกว่าไม่ได้ คือเราต้องปรับตัวกันไป

ยกตัวอย่างการลงทุนของผมมี scc ซื้อตอนต้นปี ตอนนี้ก็ได้มา 22% มันจะขึ้นมันจะลงผม ก็ไม่สนใจผมรู้ว่าผมมีปันผล ดีกว่าเอาเงินไปเก็บธนาคาร ถ้าหุ้นตกลงมาต่ำกว่าที่ผมมีผมก็ซื้อเพิ่ม เพราะรู้ว่าเป็นบริษัทที่แกร่ง และผมซื้อได้ราคาถูก ถ้ามันจะตกลงมาผมจะได้มีปันผลเพิ่ม ยิ่งดีใจใหญ่

ผมเคยมีตัวอื่นๆ อย่าง AOT ที่ผมซื้อมาตอนช่วงมกราคม ผมขายออกช่วงกันยายน เพราะผมซื้อของถูก ราคามันไปไกล เก็บไว้ก็ไม่มีปันผล ผมก็ขาย วีไอไม่ได้บอกว่าห้ามขาย แต่ถ้ามันเกินมูลค่า และเห็นตัวอื่นๆ ราคาถูกกว่า ผมก็มาเข้า TSE, IEC, GEL มันก็เด้งไป 10 ถึง 70 เปอร์เซนต์ ในเวลาสั้นๆ เห็นคนขายกันผมก็ไม่ขาย ถ้าจะลงก็เฉยๆ เพราะๆ
ผมยังมองถึงอนาคตของธุรกิจยังไปได้ดี

เดือนที่แล้ว มีคนบ่นเรื่อง NOK ผมก็เข้าซื้อราคาต่ำสุด สองวันมันก็เด้งกลับมาที่สิบกว่า % เพราะผมรู้อย่างไรราคามันก็ขึ้น ถ้าราคาน้ำมันถูก กองทุนมันก็ต้องกลับเข้ามา แต่ผมก็คงไม่ถือนาน เพราะรู้อนาคต คงไม่ไปไกล

อีกตัว หุ้นบ้านปู  ผมจะซื้อเก็บไว้ปีสองปี ถ้าเศรษฐกิจจีนดี ราคาถ่านหินก็กลับมา หรือโรงไฟฟ้าที่หงสาขึ้นราคามันก็ต้องกลับมา ถ้ามันจะตกกว่านี้ผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะผมได้ปันผลเก็บไว้ ไม่เดือดร้อนอะไร ถือว่าไอ้ที่ผมนั่งอ่านธุรกิจถ่านหินของโลกเป็นอาทิตย์ และซื้อในราคาต่ำ ถือว่าผิดพลาด เพราะที่ราคาต่ำมันก็ยังมีต่ำกว่านั้นได้

แนววีไอในความคิดผมคือการศึกษาอ่าน และเข้าใจธุรกิจ ซื้อในราคาถูก และปล่อยให้เวลามันทำงานของมัน
ถ้าราคาเป็นที่น่าพอใจก็ขาย ถ้าผมซื้อแล้วขาดทุน แสดงว่าผมศึกษาไม่ดี ก็ต้องมาทบทวน
ว่าผิดพลาดตรงไหน จดบันทึกไว้ แล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น

ส่วนเพื่อนๆ จะเล่นแบบเทคนิคัล ผมก็ว่ามีเหตุมีผล และไม่ผิด เพราะบางทีผมมีเวลาผมก็เข้าเล่นเหมือนกัน แต่ไม่ได้จริงจังมากนัก เพราะไม่มีเวลา และไม่ถนัดทางกราฟ  

สรุป จะเป็นแมวสีไหน ขอให้จับหนูเก่งก็พอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่