เมื่อวานได้มีโอกาศดูหนังเรื่อง Lucy สวยสังหาร
ดูไปดูมา... ถึงตอนที่ Lucy ได้รับ CPH4 เยอะเกินขนาดทำให้สมองทำงานได้เกิน 20% ซึ่งปกติมนุษย์เราใช้กันเพียง 10% ของความสามารถจริงของสมองคนเราเท่านั้น (อ้างอิงถึงสิ่งที่ศาสตราจารย์ Norman ตามท้องเรื่องได้กล่าวไว้ตามทฤษฎี) แล้วมีความสามารถพิเศษต่างๆ เช่น
สามารถหยั่งรู้และรู้สึกได้ถึงทุกสิ่งในตัวและทุกสรรพสิ่งรอบตัวรวมถึงความคิดของคน มีอภินิหารแปลงกาย ควบคุมวัตถุ และควบคุมความคิด และจะตายใน 24 ชม.(ลูซี่รู้ด้วยตนเอง)
สิ่งเหล่านี้มันกระตุกอะไรสักอย่างแฟนผม แฟนผมพูดขึ้นว่า "เหมือนการบรรลุธรรมเลย!!"
ผมก็มานั่งคิด...เออเนอะ...จริงๆด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ตามหลักของศาสนาพุทธแต่เป็นความจริงสำหรับผู้ที่นับถือพุทธศาสนา
สิ่งเหล่านี้คือ อภินิหารที่เกิดจากสมาธิ การหยั่งรู้โดยการมีสัมมาสติและสัมมาสมาธิ และแน่นอนผู้ที่บรรลุพระนิพพานเป็นพระอรหันต์แล้วตามคำสอนของพระศาสดาจะมีกล่าวไว้ว่าผู้นั้นถ้าเป็นฆราวาสจะอยู่ได้ไม่เกิน 24 ชม. ก็ต้องละสังขาร เพราะสิ่งแวดล้อมมันไม่เหมาะกับสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น (สัปปายะ) ซึ่งตามหนังก็คือการใช้ 100% ของสมองมนุษย์เรา
ดูไปดูมาก็ใช่เลยในเรื่องของการหยั่งรู้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ลูซี่เห็นกระบวนการลำเลียงอาหารของต้นไม้ เห็นคลื่นมือถือ บอกแม่ว่ารู้สึกทุกอย่าง(ตอนคุยกับแม่ตอนให้หมอผ่าเอาถุง CPH4 ที่แตกในท้องออก) เห็นทุกสิ่งในร่างกายเพื่อนตอนที่แตะตัว รู้ถึงสิ่งที่เพื่อนจะพูด สามารถรู้ภาษาเอง ฯลฯ
ในเรื่องของอภินิหาร ก็เป็นการเดินทางผ่านอดีต อนาคต เปลี่ยนผม เปลี่ยนรูปร่างของร่างกายตามที่อยากจะให้มันเป็น หยุดเวลา ควบคุมวัตถุ ฯลฯ
ในใจก็คิดเออเนอะ แฟนผมก็คิดได้ เลยคิดเล่นๆว่า จะมีใครดูเรื่องนี้แล้วคิดแบบเดียวกันมั๊ย หาข้อมูลเล่นๆในเนต เออหวะ!!! มีจริงๆด้วย มีฝรั่งที่ดูแล้วก็คิดเหมือนเรา เช่น 2 เว็บนี้
http://www.observerbd.com/2014/08/17/37593.php
http://fieldingonfilm.com/wp/lucy/
เขาก็วิจารนะว่า ผู้ประพันธ์หนังเรื่องนี้เป็นพุทธศาสนิกชนหรือเปล่า ทำไมทุกสิ่งในเรื่องมันช่างเหมาะเจาะกับความเป็นจริงและคำสอนในศาสนาพุทธเสียจริง
ดูแล้วก็เพลิดเพลินไปกับความคิดของผู้ประพันธ์หนังเรื่องนี้จริงๆ เพราะเราเป็นชาวพุทธด้วยหละมั๊ง เลยนะ...โอ้โห...มันคิดได้แฮะ
แต่ก็นะดูแล้วก็นิดนึงคิดเล่นๆ อย่างนี้ถ้าเป็นไปตามหนัง คนเราคงไม่ต้องเจริญสติแล้วสิ ถ้ามี CPH4 มาขายจริง และมันทำให้คนบรรลุธรรมได้จริงนี่
คงได้ซื้อพระนิพพานกันหมด ขัดหลักการไปนิดนึง
เลยมาเขียนแชร์ทัศนะกับเพื่อนชาวพันทิปให้ลองคิดเล่นๆดูครับ
ปล. แท็กวิทยาศาสตร์ด้วยเพราะ หนังมันเกี่ยวเนื่องด้วยหลักวิทยาศาสตร์ และศาสนาพุทธเองก็เป็นศาสนาที่ได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่คำสอนเป็นหลักวิทยาศาสตร์
Lucy สวยสังหาร กับสิ่งที่ดูแล้วมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ
ดูไปดูมา... ถึงตอนที่ Lucy ได้รับ CPH4 เยอะเกินขนาดทำให้สมองทำงานได้เกิน 20% ซึ่งปกติมนุษย์เราใช้กันเพียง 10% ของความสามารถจริงของสมองคนเราเท่านั้น (อ้างอิงถึงสิ่งที่ศาสตราจารย์ Norman ตามท้องเรื่องได้กล่าวไว้ตามทฤษฎี) แล้วมีความสามารถพิเศษต่างๆ เช่น
สามารถหยั่งรู้และรู้สึกได้ถึงทุกสิ่งในตัวและทุกสรรพสิ่งรอบตัวรวมถึงความคิดของคน มีอภินิหารแปลงกาย ควบคุมวัตถุ และควบคุมความคิด และจะตายใน 24 ชม.(ลูซี่รู้ด้วยตนเอง)
สิ่งเหล่านี้มันกระตุกอะไรสักอย่างแฟนผม แฟนผมพูดขึ้นว่า "เหมือนการบรรลุธรรมเลย!!"
ผมก็มานั่งคิด...เออเนอะ...จริงๆด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ตามหลักของศาสนาพุทธแต่เป็นความจริงสำหรับผู้ที่นับถือพุทธศาสนา
สิ่งเหล่านี้คือ อภินิหารที่เกิดจากสมาธิ การหยั่งรู้โดยการมีสัมมาสติและสัมมาสมาธิ และแน่นอนผู้ที่บรรลุพระนิพพานเป็นพระอรหันต์แล้วตามคำสอนของพระศาสดาจะมีกล่าวไว้ว่าผู้นั้นถ้าเป็นฆราวาสจะอยู่ได้ไม่เกิน 24 ชม. ก็ต้องละสังขาร เพราะสิ่งแวดล้อมมันไม่เหมาะกับสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น (สัปปายะ) ซึ่งตามหนังก็คือการใช้ 100% ของสมองมนุษย์เรา
ดูไปดูมาก็ใช่เลยในเรื่องของการหยั่งรู้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ลูซี่เห็นกระบวนการลำเลียงอาหารของต้นไม้ เห็นคลื่นมือถือ บอกแม่ว่ารู้สึกทุกอย่าง(ตอนคุยกับแม่ตอนให้หมอผ่าเอาถุง CPH4 ที่แตกในท้องออก) เห็นทุกสิ่งในร่างกายเพื่อนตอนที่แตะตัว รู้ถึงสิ่งที่เพื่อนจะพูด สามารถรู้ภาษาเอง ฯลฯ
ในเรื่องของอภินิหาร ก็เป็นการเดินทางผ่านอดีต อนาคต เปลี่ยนผม เปลี่ยนรูปร่างของร่างกายตามที่อยากจะให้มันเป็น หยุดเวลา ควบคุมวัตถุ ฯลฯ
ในใจก็คิดเออเนอะ แฟนผมก็คิดได้ เลยคิดเล่นๆว่า จะมีใครดูเรื่องนี้แล้วคิดแบบเดียวกันมั๊ย หาข้อมูลเล่นๆในเนต เออหวะ!!! มีจริงๆด้วย มีฝรั่งที่ดูแล้วก็คิดเหมือนเรา เช่น 2 เว็บนี้
http://www.observerbd.com/2014/08/17/37593.php
http://fieldingonfilm.com/wp/lucy/
เขาก็วิจารนะว่า ผู้ประพันธ์หนังเรื่องนี้เป็นพุทธศาสนิกชนหรือเปล่า ทำไมทุกสิ่งในเรื่องมันช่างเหมาะเจาะกับความเป็นจริงและคำสอนในศาสนาพุทธเสียจริง
ดูแล้วก็เพลิดเพลินไปกับความคิดของผู้ประพันธ์หนังเรื่องนี้จริงๆ เพราะเราเป็นชาวพุทธด้วยหละมั๊ง เลยนะ...โอ้โห...มันคิดได้แฮะ
แต่ก็นะดูแล้วก็นิดนึงคิดเล่นๆ อย่างนี้ถ้าเป็นไปตามหนัง คนเราคงไม่ต้องเจริญสติแล้วสิ ถ้ามี CPH4 มาขายจริง และมันทำให้คนบรรลุธรรมได้จริงนี่
คงได้ซื้อพระนิพพานกันหมด ขัดหลักการไปนิดนึง
เลยมาเขียนแชร์ทัศนะกับเพื่อนชาวพันทิปให้ลองคิดเล่นๆดูครับ
ปล. แท็กวิทยาศาสตร์ด้วยเพราะ หนังมันเกี่ยวเนื่องด้วยหลักวิทยาศาสตร์ และศาสนาพุทธเองก็เป็นศาสนาที่ได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่คำสอนเป็นหลักวิทยาศาสตร์