๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ จริงๆแล้ว ผมเคยใส่เงินตัวเองให้กับหุ้นตัวนี้เท่าไรกันแน่ ????

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ช่วยโหวตและออกความเห็นครับ
อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17


เป็นหุ้นในพอร์ตตอนนี้   
ที่มีคนถาม คำถามมาทางหลังไมค์และหน้าไมค์ บ่อยที่สุด

ล่าสุด คุณ _ss    ถามไว้ดังนี้


ความคิดเห็นที่ 23


.............................................................................................

มีคำถามขอถามคุณอา endorphin ครับ

จากพอตที่เห็น ifec ทุน 1.27 แสดงว่าน่าจะถือมาตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนธุรกิจไปทำโซล่าฟาร์ม หรือเปล่าครับ?


คำตอบ

บางส่วนได้ตอบไว้แล้วในความคิดเห็นที่ 25  ของกระทู้นี้

http://pantip.com/topic/32915420

เมื่อคืน ผมลองไปหาเอกสารที่โบรกเกอร์ส่งมาทางไปรษณีย์ และหาจากภาพประกอบที่เคยเซพเก็บไว้
เอามาเรียงอันดับเหตุการณ์  ได้ประมาณนี้ครับ

ให้ทายกันเล่นๆว่า  
จริงๆแล้ว ผมเคยใส่เงินตัวเอง  เข้าไปในหุ้นตัวนี้ทั้งหมดเท่าไร ?



๑  เอกสารรายงานพอร์ตประจำเดือน  
สะสมได้หนึ่งล้านหุ้น  จากการซื้อเฉลี่ยขาลง ไปตามยีลด์เงินปันผลที่เพิ่มขึ้น
เพราะราคาหุ้นลด แต่เงินปันผลไม่ได้ลด  
เป็นหุ้นที่ต้องการซื้อกินปันผล  จากธุรกิจเครื่องอัดสำเนา

ผมจะไม่ซื้อเฉลี่ยเพียงเพราะแค่ราคาหุ้นลดลง
เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
จากหุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น   ซื้อเฉลี่ยขาลง ถูกลงไปเท่าไร  ยีลด์ปันผลก็ไม่มีทางขยับขึ้น
เพราะมันไม่เคยจ่ายปันผล   
ในความเห็นของผม  การซื้อเฉลี่ยขาลง  หุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น  เป็นวิธีการที่แย่มากๆ
ยอมขายตัดขาดทุน น่าจะดีกว่า ?
  

อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06






๒  ขายเอาทุนขึ้นมาก่อน  เพื่อลดแรงกดดันจากการกระทำของคนในตลาดหุ้นและลดความกลัวในใจเรา
ตอนนั้น ยังไม่ได้เปลี่ยนแนวคิด  ราคาหุ้นขึ้นหนึ่งเท่า ก็ขายเอาทุนคืนเลย
เดี๋ยวนี้จะขายไปตามยีลด์ปันผล ที่ลดลงไปจนใกล้เงินฝากประจำธนาคาร ค่อยเริ่มขาย
ซึ่งมันให้ผลดีกับพอร์ตมากกว่าการทำแบบเดิมมากๆ   
บางตัวสามารถขายเอาทุนคืน ตอนมันขึ้นไปแล้วสองเท่าตัว  
เลยไม่ต้องใช้จำนวนหุ้นถึงครึ่งของที่ถือไว้  มาขายเอาทุนคืน
บางทีขายแค่ สามสิบเปอร์เซนต์ ก็ได้เงินต้นคืนแล้ว








๓   หุ้นและวอร์แรนท์ที่ถือไว้ หลังจากขายคลายเครียดเรโชไปแล้ว





๔  ทำไมต้นทุนของราคาหุ้นคงเหลือในพอร์ต จึงขยับขึ้น
มันขยับขึ้น เป็นไปตามกฏวิธีคิดต้นทุนแบบ หุ้นเข้าพอร์ตก่อน ก็ออกจากพอร์ตก่อน   





๕  เริ่มขายทำกำไร เพื่อลดแรงกดดันจากการกระทำของคนในตลาดหุ้น และลดความเครียดในการถือหุ้นของตัวเอง

ดังนั้น  ผมจะคิดเอาตามใจชอบว่า   เหลือกำไรเงินมายาในหุ้นตัวนี้
เท่ากับ  ราคาหุ้นห้าแสนหุ้น  ราคาวอร์แรนท์ หนึ่งแสน หน่วย
เจ้ามือจะทำอย่างไรต่อไป  ก็ตามใจเจ้ามือครับ
ในเมื่อมันเป็นเงินมายา  ผมก็รอแค่ว่า
พอเปลี่ยนเป็นเงินจริงแล้ว มันเหลือเท่าไร  ก็พอใจตามนั่นครับ

ไม่มีคำว่า  รู้งี้  หรือขายหมู  
เพราะผมจะไม่เอาอนาคตที่รู้ผลลัพธ์แล้ว
กลับไปตัดสินการกระทำในอดีต






ถ้าใช่ ผมขอถามว่าคุณอาคิดจะขายหุ้นแต่ละตัวที่ถืออย่างไรครับ?


คำตอบ    ขอเอาภาพประกอบมาโพสต์สนุกๆ นะครับ




ก ขายตามใจชอบ  ถ้าเป็นหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก จนเราจับทางไม่ถูกแล้ว  (ไอเฟคอยู่ในข้อนี้)

ข ขายเมื่อตัวชี้วัดสามตัว  ร่วมทางกันเดินอย่างทำลายล้างคือ

รายได้ลด

กำไรลด

ไม่จ่ายเงินปันผล หรือจ่ายน้อยลงมาก




ถ้าธุรกิจเปลี่ยนแปลงจากที่เราเคยวิเคราะห์ข้อมูลไปแล้วควรขายหรือไม่ครับ?

คำตอบ  

ถ้าเป็นแบบข้อ ก ข้างบน  ถือรอดูการกระทำของคนในตลาดหุ้น ประกอบผลประกอบการที่จะตามมาจริงๆ
ถ้าเป็นแบบข้อ ข  ขายทิ้งทุกราคา ที่มีคนเสนอซื่อ  เมื่อครบสามตัวชี้วัด


และถ้ากำไรของบริษัทที่เราถือกลายเป็นลดลงมาก (หรือขาดทุน)  ควรตัดสินใจอย่างไรครับ?

คำตอบ  ขายทิ้งทุกราคา  ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน  
โดยให้เวลาเจ้ามือตัวจริงพิสูจน์ฝีมือซักสองไตรมาส ไม่เกินสามไตรมาส

นี่เป็นเหตุผล  ที่ทำให้ผม  ขายตัดขาดทุน btnc  ทิ้งทุกราคาที่มีคนเสนอซื้อ  
และยังถือ pap อย่หนึ่งล้านหุ้น



แก้ไขข้อความเมื่อ 29 พฤศจิกายน เวลา 10:54 น.


i_ss
29 พฤศจิกายน เวลา 10:53 น.


ถ้ามีเพื่อนสมาชิกท่านใด อ่านแล้วสงสัยจะถามเพิ่มเติม
ยินดีตอบให้  เท่าที่รู้และสามารถตอบได้
ถ้าไม่รุ้  ก็จะบอกว่าไม่รู้ครับ

อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่