ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ช่วยโหวตและออกความเห็นครับ


เป็นหุ้นในพอร์ตตอนนี้
ที่มีคนถาม คำถามมาทางหลังไมค์และหน้าไมค์ บ่อยที่สุด
ล่าสุด คุณ _ss ถามไว้ดังนี้
ความคิดเห็นที่ 23
.............................................................................................
มีคำถามขอถามคุณอา endorphin ครับ
จากพอตที่เห็น ifec ทุน 1.27 แสดงว่าน่าจะถือมาตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนธุรกิจไปทำโซล่าฟาร์ม หรือเปล่าครับ?
คำตอบ
บางส่วนได้ตอบไว้แล้วในความคิดเห็นที่ 25 ของกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32915420
เมื่อคืน ผมลองไปหาเอกสารที่โบรกเกอร์ส่งมาทางไปรษณีย์ และหาจากภาพประกอบที่เคยเซพเก็บไว้
เอามาเรียงอันดับเหตุการณ์ ได้ประมาณนี้ครับ
ให้ทายกันเล่นๆว่า
จริงๆแล้ว ผมเคยใส่เงินตัวเอง เข้าไปในหุ้นตัวนี้ทั้งหมดเท่าไร ?
๑ เอกสารรายงานพอร์ตประจำเดือน
สะสมได้หนึ่งล้านหุ้น จากการซื้อเฉลี่ยขาลง ไปตามยีลด์เงินปันผลที่เพิ่มขึ้น
เพราะราคาหุ้นลด แต่เงินปันผลไม่ได้ลด
เป็นหุ้นที่ต้องการซื้อกินปันผล จากธุรกิจเครื่องอัดสำเนา
ผมจะไม่ซื้อเฉลี่ยเพียงเพราะแค่ราคาหุ้นลดลง
เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
จากหุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น ซื้อเฉลี่ยขาลง ถูกลงไปเท่าไร ยีลด์ปันผลก็ไม่มีทางขยับขึ้น
เพราะมันไม่เคยจ่ายปันผล
ในความเห็นของผม การซื้อเฉลี่ยขาลง หุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น เป็นวิธีการที่แย่มากๆ
ยอมขายตัดขาดทุน น่าจะดีกว่า ?




๒ ขายเอาทุนขึ้นมาก่อน เพื่อลดแรงกดดันจากการกระทำของคนในตลาดหุ้นและลดความกลัวในใจเรา
ตอนนั้น ยังไม่ได้เปลี่ยนแนวคิด ราคาหุ้นขึ้นหนึ่งเท่า ก็ขายเอาทุนคืนเลย
เดี๋ยวนี้จะขายไปตามยีลด์ปันผล ที่ลดลงไปจนใกล้เงินฝากประจำธนาคาร ค่อยเริ่มขาย
ซึ่งมันให้ผลดีกับพอร์ตมากกว่าการทำแบบเดิมมากๆ
บางตัวสามารถขายเอาทุนคืน ตอนมันขึ้นไปแล้วสองเท่าตัว
เลยไม่ต้องใช้จำนวนหุ้นถึงครึ่งของที่ถือไว้ มาขายเอาทุนคืน
บางทีขายแค่ สามสิบเปอร์เซนต์ ก็ได้เงินต้นคืนแล้ว
๓ หุ้นและวอร์แรนท์ที่ถือไว้ หลังจากขายคลายเครียดเรโชไปแล้ว
๔ ทำไมต้นทุนของราคาหุ้นคงเหลือในพอร์ต จึงขยับขึ้น
มันขยับขึ้น เป็นไปตามกฏวิธีคิดต้นทุนแบบ หุ้นเข้าพอร์ตก่อน ก็ออกจากพอร์ตก่อน
๕ เริ่มขายทำกำไร เพื่อลดแรงกดดันจากการกระทำของคนในตลาดหุ้น และลดความเครียดในการถือหุ้นของตัวเอง
ดังนั้น ผมจะคิดเอาตามใจชอบว่า เหลือกำไรเงินมายาในหุ้นตัวนี้
เท่ากับ ราคาหุ้นห้าแสนหุ้น ราคาวอร์แรนท์ หนึ่งแสน หน่วย
เจ้ามือจะทำอย่างไรต่อไป ก็ตามใจเจ้ามือครับ
ในเมื่อมันเป็นเงินมายา ผมก็รอแค่ว่า
พอเปลี่ยนเป็นเงินจริงแล้ว มันเหลือเท่าไร ก็พอใจตามนั่นครับ
ไม่มีคำว่า รู้งี้ หรือขายหมู
เพราะผมจะไม่เอาอนาคตที่รู้ผลลัพธ์แล้ว
กลับไปตัดสินการกระทำในอดีต
ถ้าใช่ ผมขอถามว่าคุณอาคิดจะขายหุ้นแต่ละตัวที่ถืออย่างไรครับ?
คำตอบ ขอเอาภาพประกอบมาโพสต์สนุกๆ นะครับ
ก ขายตามใจชอบ ถ้าเป็นหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก จนเราจับทางไม่ถูกแล้ว (ไอเฟคอยู่ในข้อนี้)
ข ขายเมื่อตัวชี้วัดสามตัว ร่วมทางกันเดินอย่างทำลายล้างคือ
รายได้ลด
กำไรลด
ไม่จ่ายเงินปันผล หรือจ่ายน้อยลงมาก
ถ้าธุรกิจเปลี่ยนแปลงจากที่เราเคยวิเคราะห์ข้อมูลไปแล้วควรขายหรือไม่ครับ?
คำตอบ
ถ้าเป็นแบบข้อ ก ข้างบน ถือรอดูการกระทำของคนในตลาดหุ้น ประกอบผลประกอบการที่จะตามมาจริงๆ
ถ้าเป็นแบบข้อ ข ขายทิ้งทุกราคา ที่มีคนเสนอซื่อ เมื่อครบสามตัวชี้วัด
และถ้ากำไรของบริษัทที่เราถือกลายเป็นลดลงมาก (หรือขาดทุน) ควรตัดสินใจอย่างไรครับ?
คำตอบ ขายทิ้งทุกราคา ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน
โดยให้เวลาเจ้ามือตัวจริงพิสูจน์ฝีมือซักสองไตรมาส ไม่เกินสามไตรมาส
นี่เป็นเหตุผล ที่ทำให้ผม ขายตัดขาดทุน btnc ทิ้งทุกราคาที่มีคนเสนอซื้อ
และยังถือ pap อย่หนึ่งล้านหุ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ 29 พฤศจิกายน เวลา 10:54 น.
i_ss
29 พฤศจิกายน เวลา 10:53 น.
ถ้ามีเพื่อนสมาชิกท่านใด อ่านแล้วสงสัยจะถามเพิ่มเติม
ยินดีตอบให้ เท่าที่รู้และสามารถตอบได้
ถ้าไม่รุ้ ก็จะบอกว่าไม่รู้ครับ






๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ จริงๆแล้ว ผมเคยใส่เงินตัวเองให้กับหุ้นตัวนี้เท่าไรกันแน่ ????
เป็นหุ้นในพอร์ตตอนนี้
ที่มีคนถาม คำถามมาทางหลังไมค์และหน้าไมค์ บ่อยที่สุด
ล่าสุด คุณ _ss ถามไว้ดังนี้
ความคิดเห็นที่ 23
.............................................................................................
มีคำถามขอถามคุณอา endorphin ครับ
จากพอตที่เห็น ifec ทุน 1.27 แสดงว่าน่าจะถือมาตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนธุรกิจไปทำโซล่าฟาร์ม หรือเปล่าครับ?
บางส่วนได้ตอบไว้แล้วในความคิดเห็นที่ 25 ของกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32915420
เมื่อคืน ผมลองไปหาเอกสารที่โบรกเกอร์ส่งมาทางไปรษณีย์ และหาจากภาพประกอบที่เคยเซพเก็บไว้
เอามาเรียงอันดับเหตุการณ์ ได้ประมาณนี้ครับ
ให้ทายกันเล่นๆว่า
จริงๆแล้ว ผมเคยใส่เงินตัวเอง เข้าไปในหุ้นตัวนี้ทั้งหมดเท่าไร ?
๑ เอกสารรายงานพอร์ตประจำเดือน
สะสมได้หนึ่งล้านหุ้น จากการซื้อเฉลี่ยขาลง ไปตามยีลด์เงินปันผลที่เพิ่มขึ้น
เพราะราคาหุ้นลด แต่เงินปันผลไม่ได้ลด
เป็นหุ้นที่ต้องการซื้อกินปันผล จากธุรกิจเครื่องอัดสำเนา
ผมจะไม่ซื้อเฉลี่ยเพียงเพราะแค่ราคาหุ้นลดลง
เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
จากหุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น ซื้อเฉลี่ยขาลง ถูกลงไปเท่าไร ยีลด์ปันผลก็ไม่มีทางขยับขึ้น
เพราะมันไม่เคยจ่ายปันผล
ในความเห็นของผม การซื้อเฉลี่ยขาลง หุ้นปั่น หุ้นต้มตุ๋น เป็นวิธีการที่แย่มากๆ
ยอมขายตัดขาดทุน น่าจะดีกว่า ?
๒ ขายเอาทุนขึ้นมาก่อน เพื่อลดแรงกดดันจากการกระทำของคนในตลาดหุ้นและลดความกลัวในใจเรา
ตอนนั้น ยังไม่ได้เปลี่ยนแนวคิด ราคาหุ้นขึ้นหนึ่งเท่า ก็ขายเอาทุนคืนเลย
เดี๋ยวนี้จะขายไปตามยีลด์ปันผล ที่ลดลงไปจนใกล้เงินฝากประจำธนาคาร ค่อยเริ่มขาย
ซึ่งมันให้ผลดีกับพอร์ตมากกว่าการทำแบบเดิมมากๆ
บางตัวสามารถขายเอาทุนคืน ตอนมันขึ้นไปแล้วสองเท่าตัว
เลยไม่ต้องใช้จำนวนหุ้นถึงครึ่งของที่ถือไว้ มาขายเอาทุนคืน
บางทีขายแค่ สามสิบเปอร์เซนต์ ก็ได้เงินต้นคืนแล้ว
๓ หุ้นและวอร์แรนท์ที่ถือไว้ หลังจากขายคลายเครียดเรโชไปแล้ว
๔ ทำไมต้นทุนของราคาหุ้นคงเหลือในพอร์ต จึงขยับขึ้น
มันขยับขึ้น เป็นไปตามกฏวิธีคิดต้นทุนแบบ หุ้นเข้าพอร์ตก่อน ก็ออกจากพอร์ตก่อน
๕ เริ่มขายทำกำไร เพื่อลดแรงกดดันจากการกระทำของคนในตลาดหุ้น และลดความเครียดในการถือหุ้นของตัวเอง
ดังนั้น ผมจะคิดเอาตามใจชอบว่า เหลือกำไรเงินมายาในหุ้นตัวนี้
เท่ากับ ราคาหุ้นห้าแสนหุ้น ราคาวอร์แรนท์ หนึ่งแสน หน่วย
เจ้ามือจะทำอย่างไรต่อไป ก็ตามใจเจ้ามือครับ
ในเมื่อมันเป็นเงินมายา ผมก็รอแค่ว่า
พอเปลี่ยนเป็นเงินจริงแล้ว มันเหลือเท่าไร ก็พอใจตามนั่นครับ
ไม่มีคำว่า รู้งี้ หรือขายหมู
เพราะผมจะไม่เอาอนาคตที่รู้ผลลัพธ์แล้ว
กลับไปตัดสินการกระทำในอดีต
ถ้าใช่ ผมขอถามว่าคุณอาคิดจะขายหุ้นแต่ละตัวที่ถืออย่างไรครับ?
ก ขายตามใจชอบ ถ้าเป็นหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก จนเราจับทางไม่ถูกแล้ว (ไอเฟคอยู่ในข้อนี้)
ข ขายเมื่อตัวชี้วัดสามตัว ร่วมทางกันเดินอย่างทำลายล้างคือ
รายได้ลด
กำไรลด
ไม่จ่ายเงินปันผล หรือจ่ายน้อยลงมาก
ถ้าธุรกิจเปลี่ยนแปลงจากที่เราเคยวิเคราะห์ข้อมูลไปแล้วควรขายหรือไม่ครับ?
คำตอบ
ถ้าเป็นแบบข้อ ก ข้างบน ถือรอดูการกระทำของคนในตลาดหุ้น ประกอบผลประกอบการที่จะตามมาจริงๆ
ถ้าเป็นแบบข้อ ข ขายทิ้งทุกราคา ที่มีคนเสนอซื่อ เมื่อครบสามตัวชี้วัด
และถ้ากำไรของบริษัทที่เราถือกลายเป็นลดลงมาก (หรือขาดทุน) ควรตัดสินใจอย่างไรครับ?
คำตอบ ขายทิ้งทุกราคา ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน
โดยให้เวลาเจ้ามือตัวจริงพิสูจน์ฝีมือซักสองไตรมาส ไม่เกินสามไตรมาส
นี่เป็นเหตุผล ที่ทำให้ผม ขายตัดขาดทุน btnc ทิ้งทุกราคาที่มีคนเสนอซื้อ
และยังถือ pap อย่หนึ่งล้านหุ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ 29 พฤศจิกายน เวลา 10:54 น.
i_ss
29 พฤศจิกายน เวลา 10:53 น.
ถ้ามีเพื่อนสมาชิกท่านใด อ่านแล้วสงสัยจะถามเพิ่มเติม
ยินดีตอบให้ เท่าที่รู้และสามารถตอบได้
ถ้าไม่รุ้ ก็จะบอกว่าไม่รู้ครับ