จับตา GEL ผุดโรงไฟฟ้าพม่า หนุนอนาคตแกร่ง -เป้า1.80บ.
จับตา GEL ผุดโรงไฟฟ้าพม่า หนุนอนาคตแกร่ง -เป้า1.80บ.
20 พฤศจิกายน 2557 08:46
จับตา GEL ผุดโรงไฟฟ้าพม่า หนุนอนาคตแกร่ง -เป้า1.80บ.
ทันหุ้น - จับตาผลงาน GEL ปีนี้โตเกิน 100% จากปี 2556 ที่มีรายได้ 1,698 ล้านบาท หลัง 9 เดือน กวาดรายได้แล้วกว่า 2,926 ล้านบาท มีกำไรแล้ว 181 ล้านบาท กูรู ชี้การร่วมทุนที่พม่า สร้างโอกาสมากมาย ทั้งรับเหมาก่อสร้าง แถมมีลุ้นทำโรงไฟฟ้า วางเป้าหมาย 1.80 บาท
แหล่งข่าวจากวงการเงิน เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2557 ของบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL มีโอกาสเติบโตมากว่า 100% จากปี 2556 ที่มีรายได้ 1,698.22 ล้านบาท โดยเห็นได้จาก 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้แล้ว 2,926.76 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีเป้าหมายที่จะให้รายได้โตประมาณ 30% ทุกปี ในช่วง 2-3 ปีนับจากนี้(2558-2560) และเมื่อฐานรายได้บริษัทกว้างขึ้นการเติบโตของรายได้ก็จะอยู่ที่ประมาณ10-20%
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ GEL กล่าวว่าหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2557ไปแล้วปรากฏว่างบการเงินของ GEL นั้นออกมาดีกว่าที่คาดไว้ รวม 9 เดือน มีกำไร 181 ล้านบาท และสิ่งสำคัญที่ประเมินไว้ว่างบส่วนทุนจะเป็นบวก สามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด โดยผลของการปรับโครงสร้างทุนทำให้มีกำไรสะสมค่อนข้างมาก และ Book value เพิ่มขึ้นจาก 0.60 บาท เป็น 0.91 บาท หากประเมิน PBV อยู่ที่ 2 เท่า จะได้เป้าหมายราคากว่า 1.80 บาท
ขณะที่บริษัทมีแผนการไปร่วมทุนในประเทศพม่า ทำให้มองว่าเป็นโอกาสของบริษัท โดยเฉพาะด้านงานก่อสร้าง และมีลุ้นเรื่องโรงไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งอาจมีข่าวทำโรงไฟฟ้าในอนาคต ราคาหุ้นถึงแข็งแรงน่าสะสมต่อไป ให้แนวต้านที่ 1.30 บาท
ก่อนหน้านี้ดร.ธวัช อนันต์ธนวณิช กรรมการผู้จัดการ GEL กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของพม่าที่มีโอกาสขยายตัวได้อีก ทั้งภาคเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นนั้น บริษัทจึงมีแผนสร้างโรงงานผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณในพม่า เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 5,400,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 45 ของวงเงินลงทุนรวม 12,000,000 ดอลลาร์ กำลังการผลิต 48,000 ตันต่อปี ซึ่งร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจคือ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL ในสัดส่วนไม่เกิน 45% และ Myanmar Thiha Group of Companies 10%
โดยมั่นใจว่าการร่วมลงทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีช่องทางการกระจายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งจะเป็นการรองรับการกระจายสินค้าวัสดุก่อสร้างของบริษัทในอนาคต พร้อมช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทให้เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย
นายวุฒิชัย เศรษฐบุตร กรรมการ GEL รายงานว่า ผลการดำเนินงานไตรามาส 3/2557 บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 42.65 ล้านบาท ลดลง 29.63 ล้านบาท หรือ 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 72.28 ล้านบาท มีรายได้จาการขาย 857.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 517.41 ล้านบาท หรือ 152.22% เกิดจากการบันทึกรายได้ธุรกิจเศษเหล็กจากบริษัทย่อยในไตรมาสนี้ 460 ล้านบาท (บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยดังกล่าวตั้งแต่เดือนพ.ย.56) และไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จาการขายผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 200.26 ล้านบาท เกิดจากการบันทึกต้นทุนขายของธุรกิจเศษเหล็กในไตรมาสนี้ 450 ล้านบาทและบันทึกต้นทุนจาการขายผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นตามยอดขาย ส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 17.15 ล้านบาท เกิดจากการผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นตามยอดขายและกำไรจากการขายธุรกิจเศษเหล็กของบริษัท
ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2557 บริษัทมีดอกเบี้ยรับจำนวน 4.33 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 15.26 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรจากการขายและปรับมูลค่าเงินลงทุน **** คราว จำนวน 0.13 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 7.63 ล้านบาท ในไตรมาสนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 6.78 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนไม่มี
นอกจากนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 53.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 18.88 ล้านบาท หรือ 54.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 34.92 ล้านบาท เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทย่อย จำนวน 12.13 ล้านบาท และบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียม ลอื่นๆ ตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 14.19 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ไม่มีภาระภาษ๊ต้องจ่าย
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิ 181.70 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 199.31 ล้านบาท และมีรายได้ 2,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 849.44 ล้านบาท
จับตา GEL ผุดโรงไฟฟ้าพม่า หนุนอนาคตแกร่ง -เป้า1.80บ.
จับตา GEL ผุดโรงไฟฟ้าพม่า หนุนอนาคตแกร่ง -เป้า1.80บ.
20 พฤศจิกายน 2557 08:46
จับตา GEL ผุดโรงไฟฟ้าพม่า หนุนอนาคตแกร่ง -เป้า1.80บ.
ทันหุ้น - จับตาผลงาน GEL ปีนี้โตเกิน 100% จากปี 2556 ที่มีรายได้ 1,698 ล้านบาท หลัง 9 เดือน กวาดรายได้แล้วกว่า 2,926 ล้านบาท มีกำไรแล้ว 181 ล้านบาท กูรู ชี้การร่วมทุนที่พม่า สร้างโอกาสมากมาย ทั้งรับเหมาก่อสร้าง แถมมีลุ้นทำโรงไฟฟ้า วางเป้าหมาย 1.80 บาท
แหล่งข่าวจากวงการเงิน เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2557 ของบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL มีโอกาสเติบโตมากว่า 100% จากปี 2556 ที่มีรายได้ 1,698.22 ล้านบาท โดยเห็นได้จาก 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้แล้ว 2,926.76 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีเป้าหมายที่จะให้รายได้โตประมาณ 30% ทุกปี ในช่วง 2-3 ปีนับจากนี้(2558-2560) และเมื่อฐานรายได้บริษัทกว้างขึ้นการเติบโตของรายได้ก็จะอยู่ที่ประมาณ10-20%
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ GEL กล่าวว่าหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2557ไปแล้วปรากฏว่างบการเงินของ GEL นั้นออกมาดีกว่าที่คาดไว้ รวม 9 เดือน มีกำไร 181 ล้านบาท และสิ่งสำคัญที่ประเมินไว้ว่างบส่วนทุนจะเป็นบวก สามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด โดยผลของการปรับโครงสร้างทุนทำให้มีกำไรสะสมค่อนข้างมาก และ Book value เพิ่มขึ้นจาก 0.60 บาท เป็น 0.91 บาท หากประเมิน PBV อยู่ที่ 2 เท่า จะได้เป้าหมายราคากว่า 1.80 บาท
ขณะที่บริษัทมีแผนการไปร่วมทุนในประเทศพม่า ทำให้มองว่าเป็นโอกาสของบริษัท โดยเฉพาะด้านงานก่อสร้าง และมีลุ้นเรื่องโรงไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งอาจมีข่าวทำโรงไฟฟ้าในอนาคต ราคาหุ้นถึงแข็งแรงน่าสะสมต่อไป ให้แนวต้านที่ 1.30 บาท
ก่อนหน้านี้ดร.ธวัช อนันต์ธนวณิช กรรมการผู้จัดการ GEL กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของพม่าที่มีโอกาสขยายตัวได้อีก ทั้งภาคเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นนั้น บริษัทจึงมีแผนสร้างโรงงานผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณในพม่า เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 5,400,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 45 ของวงเงินลงทุนรวม 12,000,000 ดอลลาร์ กำลังการผลิต 48,000 ตันต่อปี ซึ่งร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจคือ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL ในสัดส่วนไม่เกิน 45% และ Myanmar Thiha Group of Companies 10%
โดยมั่นใจว่าการร่วมลงทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีช่องทางการกระจายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งจะเป็นการรองรับการกระจายสินค้าวัสดุก่อสร้างของบริษัทในอนาคต พร้อมช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทให้เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย
นายวุฒิชัย เศรษฐบุตร กรรมการ GEL รายงานว่า ผลการดำเนินงานไตรามาส 3/2557 บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 42.65 ล้านบาท ลดลง 29.63 ล้านบาท หรือ 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 72.28 ล้านบาท มีรายได้จาการขาย 857.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 517.41 ล้านบาท หรือ 152.22% เกิดจากการบันทึกรายได้ธุรกิจเศษเหล็กจากบริษัทย่อยในไตรมาสนี้ 460 ล้านบาท (บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยดังกล่าวตั้งแต่เดือนพ.ย.56) และไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จาการขายผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 200.26 ล้านบาท เกิดจากการบันทึกต้นทุนขายของธุรกิจเศษเหล็กในไตรมาสนี้ 450 ล้านบาทและบันทึกต้นทุนจาการขายผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นตามยอดขาย ส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 17.15 ล้านบาท เกิดจากการผลิตภัณฑ์ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นตามยอดขายและกำไรจากการขายธุรกิจเศษเหล็กของบริษัท
ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2557 บริษัทมีดอกเบี้ยรับจำนวน 4.33 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 15.26 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรจากการขายและปรับมูลค่าเงินลงทุน **** คราว จำนวน 0.13 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 7.63 ล้านบาท ในไตรมาสนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 6.78 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนไม่มี
นอกจากนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 53.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 18.88 ล้านบาท หรือ 54.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 34.92 ล้านบาท เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัทย่อย จำนวน 12.13 ล้านบาท และบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าธรรมเนียม ลอื่นๆ ตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 14.19 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ไม่มีภาระภาษ๊ต้องจ่าย
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิ 181.70 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 199.31 ล้านบาท และมีรายได้ 2,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 849.44 ล้านบาท