ต่อจากกระทู้แรก
http://pantip.com/topic/32906761
ผมก็พักที่ Inle Lake ที่นี่มีรีสอร์ทหลายแห่งให้เลือกตามต้องการ และที่สำคัญมี Home Stay ด้วยแต่ผมไม่ได้ลองในครั้งนี้ ผมชอบที่นี่มากครับ หากเปรียบเทียบก็น่าจะประมาณเขื่อนรัชชประภาบ้านเราแต่บรรยากาศคนละแบบกันครับ แต่อากาศที่นี่จะค่อนข้างเย็นกว่า หากดูที่ตั้งแล้วก็อยู่แนวเดียวกับ เชียงรายบ้านเรา ดังนั้นอากาศค่อนข้างเย็นเลยในช่วงนี้ ถ้าใครชอบเย็นๆก็แนะนำเลยครับ
การเดินทางที่นี่ต้องอาศัยเรือหางยาวเป็นหลัก สิ่งที่เราได้เห็นระหว่างทาง เป็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่นี่ที่อยู่กินกันอย่างพอมีพอกิน พายเรือเก็บพืชผักมาทานและทำเครื่องใช้ภายในครัวเรือนและทำขายสำหรับนักท่องเที่ยว การพายเรือที่นี่เป็นเอกลักษณ์ โดยใช้เท้าพายเรือ(Leg Roll) และทิวทัศน์ก็สวยงามและทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากเลย ... ทะเลสาบ ภูเขา ต้นไม้ ฝูงนก ชาวบ้านพายเรือ .... So Beautiful & Peaceful.
พอถึงที่รีสอร์ทแล้วเราก็ติดต่อพี่ที่ขับเรือเพื่อ Seight Seeing ต่อ เราได้รับข้อมูลว่า ราคาขึ้นกับการต่อรองและสถานที่เราจะไปเที่ยว อยู่ระหว่าง 20-30 US dollar สำหรับ 1 เที่ยว เรือสามารถเดินทางได้ 4-6 คนต่อลำ ซึ่งแล้วแต่ว่าลำไหนจัดที่นั่งอย่างไร แต่ผมว่าสัก 3-4 คนต่อลำกำลังดีครับ ไม่เยอะไม่น้อยเกิน เราโชคดีที่ครอบครัวชาวพม่าเขียนแผนการเที่ยวให้เราเรียบร้อย และโชคดีที่คนขับเรือใจดี อัธยาศัยดี และขับเรือดีด้วย
ที่แรกที่เราไปกันก็หาอะไรลงท้องก่อนเลย ... ร้านชื่อ EYEFULL Lake Restaurant ที่นี่ผมแนะนำครับวิวสวยมาก บรรยากาศดีมาก ต้องเห็นด้วยตาเท่านั้นกล้องและฝีมือถ่ายของผมไม่สามารถสื่อได้ครับ ส่วนอาหารก็พอทานได้ แต่ราคาถือว่าถูกเลยครับ
หลังจากอิ่มท้องเราก็ไป ทัวร์ดูชาวบ้านนำใยบัวมาท่อเป็นผื่นผ้า ซึ่งเป็นที่แนะนำต้องมาชม และหยิบไปเป็นของฝากสักผืนได้
นี่คือผืนผ้าที่ผลิตจากใยบัว 100% เนื้อผ้าค่อนข้างดิบ ถ้าซักและใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มน่าจะดีกว่านี้ แต่ที่น่าสนใจคือ ผืนเล็กต้องใช้ใยบัว 4,000 สาย ส่วนผืนเล็กต้องใช้ใยบัว 8,000 สาย และต้องใช้เวลาในการทำ ประมาณ 20 และ 40 วันตามลำดับ ราคาก็สมเหตุผลตามความพยายามและเวลา 90 และ 170 US dollar
เดินดูชาวบ้านทอผ้ากันเสร็จ ก็ไปเที่ยววัดกันต่อเลย ชาวบ้านที่นี่ค่อนข้างผูกผันกับวัดมาก เพราะส่วนใหญ่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวแต่เป็นคนพม่าเองที่มาสักการะกัน
ที่นี่ก็มีชาวบ้านมาขายของกันตามปกติเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป แต่ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นมารบกวนเรามากอาจจะมีตื้อสัก 1-2 ครั้งก็ไป และที่สำคัญไม่มีเด็กหรือคนด้อยโอกาสมาขอทาน แต่เป็นชาวบ้านมาขายผลไม้ที่ปลูกเอง ดอกบัวที่ปลูกเอง หรือขนมทำเองแล้วมาขายกัน เดินๆอยู่เจอเด็กน้อยน่ารักมาเสนอขายส้ม กล้วย ... เห็นน่ารักดี มาช่วยขายของ แถมเป็นนายแบบจำเป็น ผมเลยอุดหนุน กล้วย 1 หวี ... แอบแพงนิดนึง ถือว่าให้เด็กน้อยน่ารักล่ะกัน
ออกจากวัดนี้ก็ไปอีกวัด...ระหว่างก็ประมาณนี้ครับ...ผมชอบ
พอมาถึงวัด...แต่ผมว่าเหมือนพิพิธภัณฑ์มากกว่านะ แต่พระพุทธรูปสมัยก่อนก็สวยงดงามมากเลย แต่ผมไม่มีข้อมูลประวัติใดๆเลย แอบไปฟังไกด์ต่างชาติซะส่วนใหญ่(เดี๋ยวมาต่อครับ)
[CR][SR] Wonderful Myanmar Trip2
ผมก็พักที่ Inle Lake ที่นี่มีรีสอร์ทหลายแห่งให้เลือกตามต้องการ และที่สำคัญมี Home Stay ด้วยแต่ผมไม่ได้ลองในครั้งนี้ ผมชอบที่นี่มากครับ หากเปรียบเทียบก็น่าจะประมาณเขื่อนรัชชประภาบ้านเราแต่บรรยากาศคนละแบบกันครับ แต่อากาศที่นี่จะค่อนข้างเย็นกว่า หากดูที่ตั้งแล้วก็อยู่แนวเดียวกับ เชียงรายบ้านเรา ดังนั้นอากาศค่อนข้างเย็นเลยในช่วงนี้ ถ้าใครชอบเย็นๆก็แนะนำเลยครับ
การเดินทางที่นี่ต้องอาศัยเรือหางยาวเป็นหลัก สิ่งที่เราได้เห็นระหว่างทาง เป็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่นี่ที่อยู่กินกันอย่างพอมีพอกิน พายเรือเก็บพืชผักมาทานและทำเครื่องใช้ภายในครัวเรือนและทำขายสำหรับนักท่องเที่ยว การพายเรือที่นี่เป็นเอกลักษณ์ โดยใช้เท้าพายเรือ(Leg Roll) และทิวทัศน์ก็สวยงามและทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากเลย ... ทะเลสาบ ภูเขา ต้นไม้ ฝูงนก ชาวบ้านพายเรือ .... So Beautiful & Peaceful.
พอถึงที่รีสอร์ทแล้วเราก็ติดต่อพี่ที่ขับเรือเพื่อ Seight Seeing ต่อ เราได้รับข้อมูลว่า ราคาขึ้นกับการต่อรองและสถานที่เราจะไปเที่ยว อยู่ระหว่าง 20-30 US dollar สำหรับ 1 เที่ยว เรือสามารถเดินทางได้ 4-6 คนต่อลำ ซึ่งแล้วแต่ว่าลำไหนจัดที่นั่งอย่างไร แต่ผมว่าสัก 3-4 คนต่อลำกำลังดีครับ ไม่เยอะไม่น้อยเกิน เราโชคดีที่ครอบครัวชาวพม่าเขียนแผนการเที่ยวให้เราเรียบร้อย และโชคดีที่คนขับเรือใจดี อัธยาศัยดี และขับเรือดีด้วย
ที่แรกที่เราไปกันก็หาอะไรลงท้องก่อนเลย ... ร้านชื่อ EYEFULL Lake Restaurant ที่นี่ผมแนะนำครับวิวสวยมาก บรรยากาศดีมาก ต้องเห็นด้วยตาเท่านั้นกล้องและฝีมือถ่ายของผมไม่สามารถสื่อได้ครับ ส่วนอาหารก็พอทานได้ แต่ราคาถือว่าถูกเลยครับ
หลังจากอิ่มท้องเราก็ไป ทัวร์ดูชาวบ้านนำใยบัวมาท่อเป็นผื่นผ้า ซึ่งเป็นที่แนะนำต้องมาชม และหยิบไปเป็นของฝากสักผืนได้
นี่คือผืนผ้าที่ผลิตจากใยบัว 100% เนื้อผ้าค่อนข้างดิบ ถ้าซักและใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มน่าจะดีกว่านี้ แต่ที่น่าสนใจคือ ผืนเล็กต้องใช้ใยบัว 4,000 สาย ส่วนผืนเล็กต้องใช้ใยบัว 8,000 สาย และต้องใช้เวลาในการทำ ประมาณ 20 และ 40 วันตามลำดับ ราคาก็สมเหตุผลตามความพยายามและเวลา 90 และ 170 US dollar
เดินดูชาวบ้านทอผ้ากันเสร็จ ก็ไปเที่ยววัดกันต่อเลย ชาวบ้านที่นี่ค่อนข้างผูกผันกับวัดมาก เพราะส่วนใหญ่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวแต่เป็นคนพม่าเองที่มาสักการะกัน
ที่นี่ก็มีชาวบ้านมาขายของกันตามปกติเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป แต่ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นมารบกวนเรามากอาจจะมีตื้อสัก 1-2 ครั้งก็ไป และที่สำคัญไม่มีเด็กหรือคนด้อยโอกาสมาขอทาน แต่เป็นชาวบ้านมาขายผลไม้ที่ปลูกเอง ดอกบัวที่ปลูกเอง หรือขนมทำเองแล้วมาขายกัน เดินๆอยู่เจอเด็กน้อยน่ารักมาเสนอขายส้ม กล้วย ... เห็นน่ารักดี มาช่วยขายของ แถมเป็นนายแบบจำเป็น ผมเลยอุดหนุน กล้วย 1 หวี ... แอบแพงนิดนึง ถือว่าให้เด็กน้อยน่ารักล่ะกัน
ออกจากวัดนี้ก็ไปอีกวัด...ระหว่างก็ประมาณนี้ครับ...ผมชอบ
พอมาถึงวัด...แต่ผมว่าเหมือนพิพิธภัณฑ์มากกว่านะ แต่พระพุทธรูปสมัยก่อนก็สวยงดงามมากเลย แต่ผมไม่มีข้อมูลประวัติใดๆเลย แอบไปฟังไกด์ต่างชาติซะส่วนใหญ่(เดี๋ยวมาต่อครับ)
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว