เนื่องจาก จนทก ไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน ไม่เคยเป็นสมาชิกพันทิป (ตอนนี้กำลังรอสมัครผ่านอยู่ อิอิ) จึงได้ยืมไอดีเพื่อนมาโพสนะคะ
ไม่รู้มีใครอยากอ่านไหม....แค่อยากระบายอะค่ะ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริง 100% และก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและมีอยู่จริงในสังคมไทย อาจจะเป็นเรื่องไม่แย่สำหรับบางครอบครัว แต่สำหรับดิฉันมันเป็นคำถามที่เกิดมาตลอดทั้งชีวิต ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ปัจจุบันดิฉันอายุ 27 แล้ว และยังเบื่อหน่ายกับปัญหานี้มากๆ
ตั้งแต่ดิฉันเกิดมา จำภาพได้ก็คือ ภาพพ่อทะเลาะกับแม่ แม่ไล่พ่อออกจากบ้านไป ตอนนั้นดิฉันเด็กมาก ไม่รู้เรื่องว่า พ่อแม่ เค้าเป็นอะไรกันทำไมต้องปาของใส่กันด้วย? พอโตมาหน่อย ก็รู้ว่า พ่อกับแม่เค้าแยกกันอยู่ แม่เป็นคนดุมาก เข้มงวดทุกอย่าง อารมณ์โมโหอะไรก็ดุด่าว่าตลอด แต่พ่อใจดี อยากได้อะไรถ้าพ่อซื้อได้ พ่อจะซื้อให้ ดิฉันเลยชอบอยู่กะพ่อมากกว่า แต่เรื่องจริงคือ พ่อเค้าไปมีแฟนใหม่แล้ว เราเลยต้องอยู่กะแม่ ทนสภาพไป
แฟนใหม่พ่อ นางเคยเป็น ครูพี่เลี้ยงเด็ก ให้ดิฉันสมัยอยู่ อนุบาล ด้วยล่ะ ไม่ต้องสืบนะ ว่านางเจอพ่อดิฉันได้ไง นางก็รู้จักแม่ดิฉันด้วยนะ แต่ก็ยังกล้าแอบคบกับพ่อฉันอีกหน่ะ สุดท้ายทางโรงเรียนจับได้ พร้อมกับหลายๆคนทราบถึงพฤติกรรม ของ นาง คนนี้ นางเลยโดนไล่ออกมา คราวนี้ก็เลยแยกมาอยู่กับพ่ออย่างเปิดเผย (กล้านะคนเรา)
สุดท้ายเค้าก็แอบหนีไปแต่งงานด้วยกันที่ จังหวัดบ้านเกิดของนาง ทั้งๆที่ยังไม่หย่ากับแม่ดิฉันเลยคร่า พอแม่รู้เรื่องนี้ แทบช็อค เพราะตอนพ่อไป พ่อบอกว่าจะไปซื้อของที่ กทม. หน่ะ พอกลับมาแม่เลยให้ไปหย่ากันทันที (แม่เล่าให้ฟังตอนดิฉันอยู่ ม.5) พ่อกับนางก็ไปตั้งรกราก สร้างงานกันที่ จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน พร้อมญาติทางบ้านนาง ส่วนดิฉันก็เรียน พร้อมอยู่กะแม่ มีแม่คนเดียวที่เลี้ยงและส่งเสียเลี้ยงดู พ่อไม่เคยสนใจเลย คิดถึงพ่อมาก พยายามหาเบอร์ เก็บเหรียญไปโทรตู้หาพ่อ ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง
จนกระทั่ง...จบ ป.6 พ่อกลับมาขอแม่ ว่าอยากพาดิฉันไปอยู่เรียนหนังสือด้วย สัญญาว่าจะเลี้ยงอย่างดี เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ดูแลเลย ญาติทางฝ่ายพ่อ ก็เกลี่ยมกล่อมอยู่นาน ดิฉันเองก็อยากไปด้วย สุดท้าย แม่ก็ให้ไปอยู่ด้วย
เริ่มต้น ม.1 กับพ่อ และ แม่เลี้ยง (ขอเรียกว่า นาง แล้วกัน) ไปใหม่ๆ พ่อเอาใจสุดๆ อยากได้อะไรซื้อให้ อยากไปไหนก็พาไป ส่วนนางก็เอาใจเหมือนกัน ซื้อนั่น ซื้อนี่ ให้ ดิฉันเห็นก็ดีใจ มีความสุข แต่พอลับหลัง ได้ยินนางคุยกับน้องสาวว่า "มาใหม่ๆก็ต้องทำดีกะมันนั่นละ เลือดแม่มันเยอะ" เท่านั้นละค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดจะชอบนางอีกเลย อยู่ๆไป นางเองก็อยากมีลูกบ้าง คงเพราะอยากจะมัดใจสามี (ที่แย่งเค้ามา) ทั้งๆที่ อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน พอดิฉันมาอยู่ด้วยไม่ทันไร ก็อยากมีลูกซะงั้น แล้วความฝันนางก็เป็นจริง นางมีลูก พร้อมวางใบฝากครรภ์เอาไว้ ดิฉันเห็นก็ไปบอกพ่อ พ่อตกใจ แต่จะทำยังไงได้ละ...
ดิฉันเริ่มหดหู่ โทรหาแม่ พ่อกำลังจะมีน้องอีกคนแล้วนะ แม่ก็โมโห บอกดูต่อไปเถอะ ลูกจะเป็น "หมาหัวเน่า" เพราะแม่ไม่เคยเห็นดีด้วยที่ให้มาอยู่นี่ แต่เป็นความต้องการของเราเอง T_T อยู่ที่นี่ พอมีน้อง พ่อก็ไม่ค่อยมีตังให้ไปเรียน ค่าเทอมตอนนั้นเป็นโรงเรียนรัฐบาล ไม่มีค่าเทอม เลยดีหน่อย แม่เลยจัดการเปิดบัญชีให้ แล้วส่งบัตรเอทีเอ็มมาให้ เอาไว้กดเงินไว้ใช้ ตอนนั้นเริ่มซึ้งมาก ก็มีแต่แม่จริงๆที่ดูแลเราไม่ห่างเลย
ช่วงที่นางท้อง นางโมโห วีน เหวี่ยง พูดประชดประชันใส่ดิฉัน แต่เฉพาะตอนพ่อไม่อยู่นะ เรานี่ยิ่งอึดอัด เริ่มเบื่อ เริ่มคิดได้ เราไม่ใช่ลูกนาง นางไม่มีทางดีกับเราได้หรอก เราไม่น่ามาอยู่นี่เลย ตอนนั้นก็ช็อคน่ะ แต่ก็ไม่กลัวหรอก ไม่ใช่แม่นิ เฉยๆไป ทนได้ทน ทนไม่ได้ก็ไม่ทน
ผ่านไป 2-3 ปี น้องเริ่มโต นางต้องขายของ ไม่มีเวลาดู ก็ต้องฝากเราช่วยดู ตอนนั้น เราไม่ชอบน้องนะ แต่พอได้เลี้ยง เราก็รักน้องมาก น้องเป็นเด็ก ผู้ชาย พาอาบน้ำ นอน ปะแป้ง ชงนม อะไรช่วยได้ก็ช่วย ส่วนเราเองก็วัยรุ่นติดเพื่อน มีผู้ชายมาติดพันค่อนข้างเยอะ พอพ่อรู้ ก็หวงมาก ห้ามคบเพื่อนผู้ชาย ห้ามมีแฟน ช่วงนั้นตอนปิดเทอมก็มีโอกาสได้กลับไปหาแม่บ้าง แม่เลยซื้อโทรศัพท์มือถือให้ไว้คุยกัน ไม่ต้องโทรเข้าเครื่องพ่ออีก พอพ่อรู้ก็ไม่พอใจอีก หาว่าเราจะเอาไว้คุยกับผู้ชาย แต่แล้วพอมีโทรศัพท์ มันก็ทำให้แย่จริงๆเลยละ ไม่รู้ใครนักหนา โทรมาคุย เราเองก็ไม่ได้ชอบให้เบอร์ใครหรอกนะ แต่มันรู้ได้ไง และมันเป็นใครวะ พอไม่บอก ก็วางไปแบบไม่แคร์เลย รำคาญมากจริงๆ จนวันหนึ่ง เจอสายแบบนี้อีก แต่ซวยว่าเราไปรับหน้าบ้าน พ่อเห็นรีบคว้าเอาไปคุย และยึดเครื่องไว้ 1 อาทิตย์ ซวยมากพูดเลย พ่อโคตรไม่มีเหตุผล ตอนนั้นมีปัญหากะพ่อมากจริงๆ
ขึ้น ม.4 สอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดได้ ก็มีปัญหาหนักข้อไปอีก ทะเลาะกันรุนแรง ดิฉันหนีออกจากบ้าน ครั้งที่ 2 โดยที่บอกแม่ทุกอย่าง แต่ครั้นจะหนีไปอยุ่กะแม่เลยก็ไม่ได้ มันอยู่ในช่วงจะสอบไล่ ม.4 ต้องอยู่สอบให้เสร็จ ก็เลยไปอยู่บ้านเพื่อน นอกเมืองมากๆ ไปเรียนได้ 2-3 วัน พ่อก็มาตามถึงบ้านเพื่อน ไม่รู้มาได้ไง แต่เราไม่กลับ บอกอยู่ที่นี่ ลำบาก แต่ก็ไม่อึดอัดเท่าที่บ้าน พ่อก็เลยกลับไป พอสอบไล่เสร็จ ก็นั่งรถทัวร์กลับไปหาแม่ และแม่ก็ให้เราเรียนต่อที่โรงเรียนประจำจังหวัดหนึ่ง
********
ปัญหาครอบครัวแตกแยก ในมุมมองของชีวิตคนเป็นลูก
ไม่รู้มีใครอยากอ่านไหม....แค่อยากระบายอะค่ะ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริง 100% และก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและมีอยู่จริงในสังคมไทย อาจจะเป็นเรื่องไม่แย่สำหรับบางครอบครัว แต่สำหรับดิฉันมันเป็นคำถามที่เกิดมาตลอดทั้งชีวิต ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ปัจจุบันดิฉันอายุ 27 แล้ว และยังเบื่อหน่ายกับปัญหานี้มากๆ
ตั้งแต่ดิฉันเกิดมา จำภาพได้ก็คือ ภาพพ่อทะเลาะกับแม่ แม่ไล่พ่อออกจากบ้านไป ตอนนั้นดิฉันเด็กมาก ไม่รู้เรื่องว่า พ่อแม่ เค้าเป็นอะไรกันทำไมต้องปาของใส่กันด้วย? พอโตมาหน่อย ก็รู้ว่า พ่อกับแม่เค้าแยกกันอยู่ แม่เป็นคนดุมาก เข้มงวดทุกอย่าง อารมณ์โมโหอะไรก็ดุด่าว่าตลอด แต่พ่อใจดี อยากได้อะไรถ้าพ่อซื้อได้ พ่อจะซื้อให้ ดิฉันเลยชอบอยู่กะพ่อมากกว่า แต่เรื่องจริงคือ พ่อเค้าไปมีแฟนใหม่แล้ว เราเลยต้องอยู่กะแม่ ทนสภาพไป
แฟนใหม่พ่อ นางเคยเป็น ครูพี่เลี้ยงเด็ก ให้ดิฉันสมัยอยู่ อนุบาล ด้วยล่ะ ไม่ต้องสืบนะ ว่านางเจอพ่อดิฉันได้ไง นางก็รู้จักแม่ดิฉันด้วยนะ แต่ก็ยังกล้าแอบคบกับพ่อฉันอีกหน่ะ สุดท้ายทางโรงเรียนจับได้ พร้อมกับหลายๆคนทราบถึงพฤติกรรม ของ นาง คนนี้ นางเลยโดนไล่ออกมา คราวนี้ก็เลยแยกมาอยู่กับพ่ออย่างเปิดเผย (กล้านะคนเรา)
สุดท้ายเค้าก็แอบหนีไปแต่งงานด้วยกันที่ จังหวัดบ้านเกิดของนาง ทั้งๆที่ยังไม่หย่ากับแม่ดิฉันเลยคร่า พอแม่รู้เรื่องนี้ แทบช็อค เพราะตอนพ่อไป พ่อบอกว่าจะไปซื้อของที่ กทม. หน่ะ พอกลับมาแม่เลยให้ไปหย่ากันทันที (แม่เล่าให้ฟังตอนดิฉันอยู่ ม.5) พ่อกับนางก็ไปตั้งรกราก สร้างงานกันที่ จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน พร้อมญาติทางบ้านนาง ส่วนดิฉันก็เรียน พร้อมอยู่กะแม่ มีแม่คนเดียวที่เลี้ยงและส่งเสียเลี้ยงดู พ่อไม่เคยสนใจเลย คิดถึงพ่อมาก พยายามหาเบอร์ เก็บเหรียญไปโทรตู้หาพ่อ ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง
จนกระทั่ง...จบ ป.6 พ่อกลับมาขอแม่ ว่าอยากพาดิฉันไปอยู่เรียนหนังสือด้วย สัญญาว่าจะเลี้ยงอย่างดี เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ดูแลเลย ญาติทางฝ่ายพ่อ ก็เกลี่ยมกล่อมอยู่นาน ดิฉันเองก็อยากไปด้วย สุดท้าย แม่ก็ให้ไปอยู่ด้วย
เริ่มต้น ม.1 กับพ่อ และ แม่เลี้ยง (ขอเรียกว่า นาง แล้วกัน) ไปใหม่ๆ พ่อเอาใจสุดๆ อยากได้อะไรซื้อให้ อยากไปไหนก็พาไป ส่วนนางก็เอาใจเหมือนกัน ซื้อนั่น ซื้อนี่ ให้ ดิฉันเห็นก็ดีใจ มีความสุข แต่พอลับหลัง ได้ยินนางคุยกับน้องสาวว่า "มาใหม่ๆก็ต้องทำดีกะมันนั่นละ เลือดแม่มันเยอะ" เท่านั้นละค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดจะชอบนางอีกเลย อยู่ๆไป นางเองก็อยากมีลูกบ้าง คงเพราะอยากจะมัดใจสามี (ที่แย่งเค้ามา) ทั้งๆที่ อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน พอดิฉันมาอยู่ด้วยไม่ทันไร ก็อยากมีลูกซะงั้น แล้วความฝันนางก็เป็นจริง นางมีลูก พร้อมวางใบฝากครรภ์เอาไว้ ดิฉันเห็นก็ไปบอกพ่อ พ่อตกใจ แต่จะทำยังไงได้ละ...
ดิฉันเริ่มหดหู่ โทรหาแม่ พ่อกำลังจะมีน้องอีกคนแล้วนะ แม่ก็โมโห บอกดูต่อไปเถอะ ลูกจะเป็น "หมาหัวเน่า" เพราะแม่ไม่เคยเห็นดีด้วยที่ให้มาอยู่นี่ แต่เป็นความต้องการของเราเอง T_T อยู่ที่นี่ พอมีน้อง พ่อก็ไม่ค่อยมีตังให้ไปเรียน ค่าเทอมตอนนั้นเป็นโรงเรียนรัฐบาล ไม่มีค่าเทอม เลยดีหน่อย แม่เลยจัดการเปิดบัญชีให้ แล้วส่งบัตรเอทีเอ็มมาให้ เอาไว้กดเงินไว้ใช้ ตอนนั้นเริ่มซึ้งมาก ก็มีแต่แม่จริงๆที่ดูแลเราไม่ห่างเลย
ช่วงที่นางท้อง นางโมโห วีน เหวี่ยง พูดประชดประชันใส่ดิฉัน แต่เฉพาะตอนพ่อไม่อยู่นะ เรานี่ยิ่งอึดอัด เริ่มเบื่อ เริ่มคิดได้ เราไม่ใช่ลูกนาง นางไม่มีทางดีกับเราได้หรอก เราไม่น่ามาอยู่นี่เลย ตอนนั้นก็ช็อคน่ะ แต่ก็ไม่กลัวหรอก ไม่ใช่แม่นิ เฉยๆไป ทนได้ทน ทนไม่ได้ก็ไม่ทน
ผ่านไป 2-3 ปี น้องเริ่มโต นางต้องขายของ ไม่มีเวลาดู ก็ต้องฝากเราช่วยดู ตอนนั้น เราไม่ชอบน้องนะ แต่พอได้เลี้ยง เราก็รักน้องมาก น้องเป็นเด็ก ผู้ชาย พาอาบน้ำ นอน ปะแป้ง ชงนม อะไรช่วยได้ก็ช่วย ส่วนเราเองก็วัยรุ่นติดเพื่อน มีผู้ชายมาติดพันค่อนข้างเยอะ พอพ่อรู้ ก็หวงมาก ห้ามคบเพื่อนผู้ชาย ห้ามมีแฟน ช่วงนั้นตอนปิดเทอมก็มีโอกาสได้กลับไปหาแม่บ้าง แม่เลยซื้อโทรศัพท์มือถือให้ไว้คุยกัน ไม่ต้องโทรเข้าเครื่องพ่ออีก พอพ่อรู้ก็ไม่พอใจอีก หาว่าเราจะเอาไว้คุยกับผู้ชาย แต่แล้วพอมีโทรศัพท์ มันก็ทำให้แย่จริงๆเลยละ ไม่รู้ใครนักหนา โทรมาคุย เราเองก็ไม่ได้ชอบให้เบอร์ใครหรอกนะ แต่มันรู้ได้ไง และมันเป็นใครวะ พอไม่บอก ก็วางไปแบบไม่แคร์เลย รำคาญมากจริงๆ จนวันหนึ่ง เจอสายแบบนี้อีก แต่ซวยว่าเราไปรับหน้าบ้าน พ่อเห็นรีบคว้าเอาไปคุย และยึดเครื่องไว้ 1 อาทิตย์ ซวยมากพูดเลย พ่อโคตรไม่มีเหตุผล ตอนนั้นมีปัญหากะพ่อมากจริงๆ
ขึ้น ม.4 สอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดได้ ก็มีปัญหาหนักข้อไปอีก ทะเลาะกันรุนแรง ดิฉันหนีออกจากบ้าน ครั้งที่ 2 โดยที่บอกแม่ทุกอย่าง แต่ครั้นจะหนีไปอยุ่กะแม่เลยก็ไม่ได้ มันอยู่ในช่วงจะสอบไล่ ม.4 ต้องอยู่สอบให้เสร็จ ก็เลยไปอยู่บ้านเพื่อน นอกเมืองมากๆ ไปเรียนได้ 2-3 วัน พ่อก็มาตามถึงบ้านเพื่อน ไม่รู้มาได้ไง แต่เราไม่กลับ บอกอยู่ที่นี่ ลำบาก แต่ก็ไม่อึดอัดเท่าที่บ้าน พ่อก็เลยกลับไป พอสอบไล่เสร็จ ก็นั่งรถทัวร์กลับไปหาแม่ และแม่ก็ให้เราเรียนต่อที่โรงเรียนประจำจังหวัดหนึ่ง
********