ขึ้นชื่อหัวข้อกระทู้ให้งงเล่นๆ ค่ะ😄
เลนส์ตัวนี้ทำเอาป้างอกเลนส์ตัวอื่นไม่ได้เพราะแค่ตัวเดียวก็ล่อซะทำเอาป้าจนไปอีกนาน เอ ต้องเรียกว่าสองตัวถึงจะถูก อิอิ ป้าหมายถึงเลนส์ตาที่หมอใส่ให้หลังจากลอกต้อกระจกออกแล้ว หมอบอกว่าเพราะลูกตาป้าไม่กลม แต่ออกรี ๆเลยต้องใช้เลนส์พิเศษนี้ มองไกลชัดแบบไม่ต้องใส่แว่นแต่ใกล้ต้องใช้แว่น นอกจากชัดแจ๋วแล้ว ยังมองสว่างขึ้นด้วย (เอากะเค้าซิ) เรียกว่าค่าเอฟเปิดได้เกินกว่า 2.8 แน่ๆป้าคิดในใจ สงสัยงานนี้ป้าไม่ต้องถ่ายรูป แค่มองไปรอบ ๆก็เห็นโบเก้สวย ๆ แล้วมั้ง 😄
ตอนนี้อาการของตาข้างขวาที่ผ่าไปดีขึ้นมากแล้วค่ะ ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ใจป้าก็ยังไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่เพราะป้าไม่ชอบให้มีอะไรแปลกปลอมมาอยู่ในร่างกาย ป้าก็ชอบมีความคิดที่ว่าที่เค้าว่าดี อีกสิบปียี่สิบปียังจะดีอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ลุงบอกว่าคิดไปทำไมกว่าจะถึงวันนั้นเค้าก็มีเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขแล้วล่ะ ก็จริงของลุงเค้านะป้าว่า เอ้าไม่คิดก็ไม่คิด
ป้ายังไม่ได้ลองถ่ายรูป คงจะรอให้ครบสองสัปดาห์ก่อนค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั่งดูรูปในคอมอยู่พักใหญ่ก็คิดว่าตั้งกระทู้ดีกว่า ใจนึงก็คิดว่าจะเอารูปอะไรลงดีเพราะมีเยอะแต่มีแต่รูปแย่ๆ ป้าเอารูปลงคอมผ่าน
ไลท์รูม จากนั้นก็ทิ้งไว้อย่างนั้นจนเต็มไปหมด เหมือนในรูปที่เห็น ป้าดูรูปแบบสไลด์โชว์ดูครั้งสองครั้งแล้วเลือกรูปแต่งเล่นๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรกับรูป เป็นแบบนี้มาตลอด ไลท์รูมป้าเลยรกแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ นี่แค่บางส่วนเท่านั้น ป้าแยกโฟลเดอร์ตามเลนส์และกล้องที่ใช้ค่ะ
ปล. พรุ่งนี้ป้ามาต่อนะคะ เพิ่งเห็นว่าตีสองกว่าแล้ว ป้าจะเอารูปที่โชว์ในรูปข้างบนมาลงให้ดูกันค่ะ
***************************************************************************
มาต่อตามสัญญาค่ะ ตื่นมารู้สึกตาขัดๆ สงสัยบู๊เยอะไปหน่อยเมื่อวานเพราะลุงชวนไปเอาซื้อไก่งวงที่ฟาร์มนั่งรถจากบ้านป้าไปประมาณ 40 นาที ก็เลยใจง่ายไปกับลุง เฮ้อ ก็หวังว่าคงไม่เป็นอะไรมาก
รูปในโฟลเดอร์ข้างบนเป็นรูปที่ป้าไปเดินเขากับลุงและลูกชาย ช่วงใบไม้ร่วงและโรยไปเกือบหมด ถึงป้าจะทำงานแบบไม่มีวันหยุด แต่ช่วงก่อนไปทำงานก็พยายามหากิจกรรมที่ทำให้ลุงได้ออกกำลังกายบ้างเพราะเค้านั่งซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าในแลปหรือในบ้าน เลยไปเดินป่าปีนเขากันทั้งที่ป้าแทบจะหอบสังขารไม่ไหว แต่ชอบไปเพราะได้เปิดหูเปิดตาและได้ถ่ายรูป
ชุดนั้นจากเลนส์มินอลต้า 35-105/3.5 ค่ะ กล้องก็ตัวเดิม นิคดี700
ก่อนลุยก็ชักภาพสองหนุ่มซักหน่อย วันนั้นแสงสว่างบ้างมืดบ้าง สถานที่ที่ไปเรียกว่า เขื่อนที่สาม ป้าไปเดินมาหลายรอบแต่วันนี้เลือกเส้นทางใหม่เพราะลุงอยากเดินขึ้นไปดูต้นน้ำ แค่คำว่าขึ้น เข่าป้าก็เริ่มบ่นว่า คงต้องลากสังขารแน่ๆ ชั้น อิอิ
ต้นนี้ต้นเดียวที่ยังไม่ร่วงไปจนหมด ป้าเลยหมุนมาหลายรูป อยากได้นางแบบแต่ไม่มี จะเอานายแบบมาแทนก็ไม่เข้ากับบรรยากาศเท่าไหร่
ลำธารเล็กๆ ที่เสียงของน้ำทำให้ป้ามีกำลังเดิน ส่วนลุงเค้าอยากรู้ว่าต้นน้ำมาจากไหน เลยเดินไปแวะข้างทางไป ตอนหลังเลยรู้ว่าน้ำมาจากใต้ดิน เค้าวิจัยว่าคงเป็นดินถล่มทับต้นน้ำเลยเห็นแบบนี้ ป้าเป็นคนปีนลงไปถ่ายรูปมาให้เค้าดูเพราะขานั้นกลัวความสูง ก๊ากสสสส์ รูปนี้ป้าหมุนตามมีตามเกิดอยากให้น้ำพริ้วๆ แต่ไม่ได้เอาทั้งขาตั้งและฟิลเตอร์ไป ก็เลยได้แค่นี้
ตอนปีนลงไปดูต้นน้ำ แสงน้อยมาก ป้าหมุนมาเบลอทั้งหมด ภาพนี้เป็นภาพที่ดูได้หน่อย วันหลังป้าจะไปใหม่คราวนี้เอาขาตั้งไปด้วยดีกว่า
ปีนกลับขึ้นมาก็เดินต่อ เจอทางแยกเลยเลือกทางนี้ เดินไปหน่อยสองตายายยกธงยอมแพ้ ลูกชายที่เดินไปไกลเลยเดินกลับมาแซว ทางเดินเลียบไหล่เขาและลุงกลัวความสูงเลยผิดแผน ส่วนเข่าป้าร้องโอดโอยตั้งแต่ปีนลงไปดูต้นน้ำแล้ว
คนนึงหันหลังกลับ อิอิ ส่วนป้าอยู่ตรงกลางพร้อมกลับเหมือนกัน อิอิ
เดินไม่ไหวก็หมุนโน่นนี้รอบตัวไป รอลูก วิวตรงจุดที่ป้ายืนได้มาแค่นี้แหละค่ะ พอแสงจัดตาต้อของป้าก็เบลอมองอะไรไม่เห็น
ใบไม้สีสวยๆ ที่ยังไม่ลาต้น แสงแดดเริ่มจัดเลยได้ภาพแบบนี้
กลับมาตรงเขื่อนเลยหมุนมาอีกนิดหน่อย
ใบไม้ลอย
ใบไม้จมใต้น้ำ กว่าจะหมุนได้เล็งซะนาน น้ำใสมากๆ
กลับมาถึงบ้านเก็บแอปเปิ้ลมาเป็นนางแบบกับใบเมเปิลที่ร่วงหน้าบ้าน ป้าชอบแอปเปิลพันธุ์นี้เพราะสีคลาสสิคดี
ป้าเข้ามาดูรูปจากน้าๆ ป้าๆ บ่อย ได้เอารูปมาช่วยกันปั่นห้องมือหมุนของเราบ้างรู้สึกดีจังค่ะ จำนวนรูปที่โชว์ในไลท์รูมของป้า 99 เปอร์เซนต์มาจากเลนส์มือหมุน อาการบ้าถ่ายรูปของป้าหนักเอาการอยู่ อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาชมกระทู้ป้าค่ะ วันนี้คงกลับไปนอนพักอีกรอบ พรุ่งนี้วันขอบคุณพระเจ้า สงสัยป้านอนรอกินไก่งวงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยทำ อิอิ
ขอให้น้าๆ ป้าๆ ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะคะ
(103) 🍃🌺🍂🍃🌺🍂เลนส์ Toric อิอิ🍃🌺🍂🍃🌺🍂
เลนส์ตัวนี้ทำเอาป้างอกเลนส์ตัวอื่นไม่ได้เพราะแค่ตัวเดียวก็ล่อซะทำเอาป้าจนไปอีกนาน เอ ต้องเรียกว่าสองตัวถึงจะถูก อิอิ ป้าหมายถึงเลนส์ตาที่หมอใส่ให้หลังจากลอกต้อกระจกออกแล้ว หมอบอกว่าเพราะลูกตาป้าไม่กลม แต่ออกรี ๆเลยต้องใช้เลนส์พิเศษนี้ มองไกลชัดแบบไม่ต้องใส่แว่นแต่ใกล้ต้องใช้แว่น นอกจากชัดแจ๋วแล้ว ยังมองสว่างขึ้นด้วย (เอากะเค้าซิ) เรียกว่าค่าเอฟเปิดได้เกินกว่า 2.8 แน่ๆป้าคิดในใจ สงสัยงานนี้ป้าไม่ต้องถ่ายรูป แค่มองไปรอบ ๆก็เห็นโบเก้สวย ๆ แล้วมั้ง 😄
ตอนนี้อาการของตาข้างขวาที่ผ่าไปดีขึ้นมากแล้วค่ะ ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ใจป้าก็ยังไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่เพราะป้าไม่ชอบให้มีอะไรแปลกปลอมมาอยู่ในร่างกาย ป้าก็ชอบมีความคิดที่ว่าที่เค้าว่าดี อีกสิบปียี่สิบปียังจะดีอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ลุงบอกว่าคิดไปทำไมกว่าจะถึงวันนั้นเค้าก็มีเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขแล้วล่ะ ก็จริงของลุงเค้านะป้าว่า เอ้าไม่คิดก็ไม่คิด
ป้ายังไม่ได้ลองถ่ายรูป คงจะรอให้ครบสองสัปดาห์ก่อนค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั่งดูรูปในคอมอยู่พักใหญ่ก็คิดว่าตั้งกระทู้ดีกว่า ใจนึงก็คิดว่าจะเอารูปอะไรลงดีเพราะมีเยอะแต่มีแต่รูปแย่ๆ ป้าเอารูปลงคอมผ่าน
ไลท์รูม จากนั้นก็ทิ้งไว้อย่างนั้นจนเต็มไปหมด เหมือนในรูปที่เห็น ป้าดูรูปแบบสไลด์โชว์ดูครั้งสองครั้งแล้วเลือกรูปแต่งเล่นๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรกับรูป เป็นแบบนี้มาตลอด ไลท์รูมป้าเลยรกแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ นี่แค่บางส่วนเท่านั้น ป้าแยกโฟลเดอร์ตามเลนส์และกล้องที่ใช้ค่ะ
ปล. พรุ่งนี้ป้ามาต่อนะคะ เพิ่งเห็นว่าตีสองกว่าแล้ว ป้าจะเอารูปที่โชว์ในรูปข้างบนมาลงให้ดูกันค่ะ
***************************************************************************
มาต่อตามสัญญาค่ะ ตื่นมารู้สึกตาขัดๆ สงสัยบู๊เยอะไปหน่อยเมื่อวานเพราะลุงชวนไปเอาซื้อไก่งวงที่ฟาร์มนั่งรถจากบ้านป้าไปประมาณ 40 นาที ก็เลยใจง่ายไปกับลุง เฮ้อ ก็หวังว่าคงไม่เป็นอะไรมาก
รูปในโฟลเดอร์ข้างบนเป็นรูปที่ป้าไปเดินเขากับลุงและลูกชาย ช่วงใบไม้ร่วงและโรยไปเกือบหมด ถึงป้าจะทำงานแบบไม่มีวันหยุด แต่ช่วงก่อนไปทำงานก็พยายามหากิจกรรมที่ทำให้ลุงได้ออกกำลังกายบ้างเพราะเค้านั่งซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าในแลปหรือในบ้าน เลยไปเดินป่าปีนเขากันทั้งที่ป้าแทบจะหอบสังขารไม่ไหว แต่ชอบไปเพราะได้เปิดหูเปิดตาและได้ถ่ายรูป
ชุดนั้นจากเลนส์มินอลต้า 35-105/3.5 ค่ะ กล้องก็ตัวเดิม นิคดี700
ก่อนลุยก็ชักภาพสองหนุ่มซักหน่อย วันนั้นแสงสว่างบ้างมืดบ้าง สถานที่ที่ไปเรียกว่า เขื่อนที่สาม ป้าไปเดินมาหลายรอบแต่วันนี้เลือกเส้นทางใหม่เพราะลุงอยากเดินขึ้นไปดูต้นน้ำ แค่คำว่าขึ้น เข่าป้าก็เริ่มบ่นว่า คงต้องลากสังขารแน่ๆ ชั้น อิอิ
ต้นนี้ต้นเดียวที่ยังไม่ร่วงไปจนหมด ป้าเลยหมุนมาหลายรูป อยากได้นางแบบแต่ไม่มี จะเอานายแบบมาแทนก็ไม่เข้ากับบรรยากาศเท่าไหร่
ลำธารเล็กๆ ที่เสียงของน้ำทำให้ป้ามีกำลังเดิน ส่วนลุงเค้าอยากรู้ว่าต้นน้ำมาจากไหน เลยเดินไปแวะข้างทางไป ตอนหลังเลยรู้ว่าน้ำมาจากใต้ดิน เค้าวิจัยว่าคงเป็นดินถล่มทับต้นน้ำเลยเห็นแบบนี้ ป้าเป็นคนปีนลงไปถ่ายรูปมาให้เค้าดูเพราะขานั้นกลัวความสูง ก๊ากสสสส์ รูปนี้ป้าหมุนตามมีตามเกิดอยากให้น้ำพริ้วๆ แต่ไม่ได้เอาทั้งขาตั้งและฟิลเตอร์ไป ก็เลยได้แค่นี้
ตอนปีนลงไปดูต้นน้ำ แสงน้อยมาก ป้าหมุนมาเบลอทั้งหมด ภาพนี้เป็นภาพที่ดูได้หน่อย วันหลังป้าจะไปใหม่คราวนี้เอาขาตั้งไปด้วยดีกว่า
ปีนกลับขึ้นมาก็เดินต่อ เจอทางแยกเลยเลือกทางนี้ เดินไปหน่อยสองตายายยกธงยอมแพ้ ลูกชายที่เดินไปไกลเลยเดินกลับมาแซว ทางเดินเลียบไหล่เขาและลุงกลัวความสูงเลยผิดแผน ส่วนเข่าป้าร้องโอดโอยตั้งแต่ปีนลงไปดูต้นน้ำแล้ว
คนนึงหันหลังกลับ อิอิ ส่วนป้าอยู่ตรงกลางพร้อมกลับเหมือนกัน อิอิ
เดินไม่ไหวก็หมุนโน่นนี้รอบตัวไป รอลูก วิวตรงจุดที่ป้ายืนได้มาแค่นี้แหละค่ะ พอแสงจัดตาต้อของป้าก็เบลอมองอะไรไม่เห็น
ใบไม้สีสวยๆ ที่ยังไม่ลาต้น แสงแดดเริ่มจัดเลยได้ภาพแบบนี้
กลับมาตรงเขื่อนเลยหมุนมาอีกนิดหน่อย
ใบไม้ลอย
ใบไม้จมใต้น้ำ กว่าจะหมุนได้เล็งซะนาน น้ำใสมากๆ
กลับมาถึงบ้านเก็บแอปเปิ้ลมาเป็นนางแบบกับใบเมเปิลที่ร่วงหน้าบ้าน ป้าชอบแอปเปิลพันธุ์นี้เพราะสีคลาสสิคดี
ป้าเข้ามาดูรูปจากน้าๆ ป้าๆ บ่อย ได้เอารูปมาช่วยกันปั่นห้องมือหมุนของเราบ้างรู้สึกดีจังค่ะ จำนวนรูปที่โชว์ในไลท์รูมของป้า 99 เปอร์เซนต์มาจากเลนส์มือหมุน อาการบ้าถ่ายรูปของป้าหนักเอาการอยู่ อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาชมกระทู้ป้าค่ะ วันนี้คงกลับไปนอนพักอีกรอบ พรุ่งนี้วันขอบคุณพระเจ้า สงสัยป้านอนรอกินไก่งวงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยทำ อิอิ
ขอให้น้าๆ ป้าๆ ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะคะ