เห็นข่าวคุณอลงกรณ์ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ผมคิดถึงคำพูดสองคำของนายอภิสิทธิ์หนีทหาร

กระทู้สนทนา
ไม่ว่าจะลาออกเพราะทับซ้อนกับตำแหน่ง สปช.  หรือลาออกเพราะหันหลังให้พรรคประชาธิปัตย์
ก็ทำให้ผมนึกถึงคำพูดสองคำของนายอภิสิทธิ์หนีหทาร


คำแรก   ตอนนายอภิสิทธิ์พูดถึงคำอวยพรวันเกินทักษิณว่า  "ขอให้ดวงตาเห็นธรรม"

คำสอง  ตอนนายอภิสิทธิ์แสดงอาการริษยาเหน็บคุณชัชชาติว่า "รับใช้ระบบเลวร้าย"


ครับ  สองคำนี้   ผมว่าเหมาะที่สุดคือคุณอภิสิทธิ์หนีทหารนั่นแหละ   ควรจำใส่กะโหลกไว้เอง



คุณอภิสิทธิ์รับใช้ระบบอะไรอยู่ ?     เคยรู้ตัวไหม  เคยเป็นตัวของตัวเองไหม  นอกจากดีแต่พูด

หนีทหาร   เข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย   เป็นนายร้อยเก๊   น่าอับอาย  แต่ยังด้านได้อยู่นี่
เพราะคุณอภิสิทธิ์อยู่ในระบบอะไร

ได้ขึ้นเป็นนายกฯ  เพราะระบบอะไรอุ้มขึ้นมา
99 ศพ เพราะระบบอะไรเป็นแรงจูงใจให้เกิดเหตุ

เสียผู้เสียคนจนกู่ไม่กลับแล้ว  ดีแต่สร้างภาพ  ดีแต่พูดไปวัน ๆ    เพราะคุณอภิสิทธิ์เกลือกกลั้วอยู่กับระบบอะไร

เมื่อไรจะดวงตาเห็นธรรม ?



คุณอภิสิทธิ์อาจไม่เคยคิด  ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้   ในเรื่องที่ว่าคุณอภิสิทธิ์นั้นก็แค่ "หุ่นเชิด"
ไม่ใช่ผู้นำ  ไม่ใช่ผู้บริหารอะไรเลย

ลองดูสิครับ  ลองขัดสุเทพดูสิ  แล้วจะได้เห็นว่า  นายชวนจะเลือกใคร  ระหว่างสุเทพกับอภิสิทธิ์

ลองทำดูครับ  แล้วดวงตาจะเห็นธรรม



เขียนถึงตรงนี้    ก็แว่บนึกถึงคำพูดของท่านสมัคร  สุนทรเวช  ขึ้นมาครับ

"มะม่วงจำบ่ม"

เป็นอมตะวาจาที่จะบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยตลอดไป
เป็น  Trio  กับคำว่า  แหลหลักลอย  ดีแต่พูด  




สิ่งที่คุณอลงกรณ์นำเสนอต่อพรรค ปชป. ในช่วงที่ผ่านมา
ล้วนเป็นคุณูปการต่อพรรคทั้งนั้น
แต่ไม่ได้รับการตอบรับ  เพราะวัฒนธรรม ปชป. คือดักดาน  อิงอำนาจนอกระบบ  มากกว่าจะพัฒนาตนเอง
ใช้ปากมากกว่าปัญญา
หากจะใช้ปัญญา  ก็ไปในทางฉ้อฉล

ปากใช้ทำลาย   ปัญญาใช้ฉ้อฉล   ไม่ใช่สร้างสรรค์
คำว่าสร้างสรรค์  ไม่มีในพรรคประชาธิปัตย์


โชคดีครับคุณองลกรณ์

ด้วยความนับถือ
อมยิ้ม29
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่