สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
..สิ่งที่พี่ "ได้เลือกแล้ว" คือ ..เป็นแม่บ้านเต็มเวลา ที่สามารถมีรายได้ ด้วยการทำงานที่บ้านค่ะ
..เพราะพี่ให้ความสำคัญกับการให้เวลากับครอบครัว
สิ่งที่มีเงินมากมายแค่ไหน ก็หาซื้อไม่ได้ คือ ความรัก ความเข้าใจ ของคนในครอบครัว
..และพี่ดีใจ ที่เมื่อ 14 ปีก่อน พี่ตัดสินใจแบบนี้
เพราะวันนี้ ครอบครัวพี่ ..พ่อ-แม่-ลูก 2 หนุ่มน้อย .. ใกล้ชิด ผูกพัน
ลูกพี่ไม่เกเร รู้คิด มีวินัย มีสัมมาคารวะ ..เพราะเราเลี้ยงดู อบรมเค้าด้วยความรัก ..ใส่ input ดีๆ ให้เค้า
พี่เป็นแม่บ้านเต็มเวลา จนกระทั่งลูกพี่เข้าโรงเรียน พี่เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น
และแน่นอน ค่าใช้จ่ายในบ้าน ก็มากขึ้นด้วย จากเรื่องของการศึกษาลูก และลูกๆ ก็โตขึ้นทุกวันๆ
..แต่พี่ก็ยังติดข้อจำกัด ต้องดูแลลูก ดูแลบ้าน .. พี่ก็หางานที่พี่ทำได้ โดยไม่ต้องออกไปนอกบ้าน
และพี่เลือกทำงานฝีมือ ที่เป็นงานอดิเรกสมัยสาวๆ ..
เริ่มจากทำ หาค่าขนมลูก ..ทำงานบ้านไป พี่ก็ทำ SWOT analysis ไป .. ไล่ดู Marketing mix ไป ..
ค่อยเป็นค่อยไป ..ผ่านการลองผิดลองถูก จนเริ่มหาจุดแข็งเจอ
และประกอบกับได้รับโอกาสที่ดี ที่เราสามารถทำงาน ตามโจทย์ของลูกค้ารายใหญ่ได้
จากงานฝีมือ หาค่าขนมลูก หาค่ากับข้าว ..
ก็เติบโตจนต้องจดเป็นนิติบุคคล รายได้เกินเกณฑ์ต้องจด vat ต้องจ้าง สนง.บัญชี ช่วยดูแล - ให้คำปรึกษา
สินค้าเป็น OTOP มีใบดาวแปะข้างฝา ตั้งแต่ 51
ขยายทีมงาน จนวันนี้ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แม่บ้าน 100++ ชีวิต กระจายกันอยู่ในหลายจังหวัด
..ยอดขายเติบโตทุกปี ..ปีนี้โตกว่าปีที่แล้ว เกือบ 100%
และปีหน้า ก็มีแนวโน้มว่าจะดีกว่าปีนี้ เพราะลูกค้าที่ซื้อสินค้าของเรา ขายดิบขายดี สั่งงานเพิ่ม
บางเจ้าเปิดร้านสาขาเพิ่ม ..บางเจ้า ยกระดับเป็นขายส่งด้วย ..
..การที่เรา ไม่ได้นั่งงอมืองอเท้า กินๆ นอนๆ รอขอเงินสามีใช้ ..และยังทำหน้าที่ทุกอย่างของแม่บ้าน ไม่ขาดตกบกพร่อง
ถึงจะไม่ perfect นัก ..เพราะสวมหมวกหลายใบ ..
..แต่ก็น่าจะมากพอ ที่คุณสามีจะรัก และเกรงใจ ..เพราะตำแหน่งในนามบัตรของพี่ ใหญ่โตมาก 555
..และพี่เอง เห็นความผิดพลาดของคนรอบตัว โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยชินกับการมีสามีคอยหยิบยื่นเงินให้..มามากมาย
ถ้าได้สามีดี ..ก็ดีไป ..
แต่บางคนไม่งั้นสิ ..สามีนิสัยแย่ ถือโอกาสเบื่อนังเมียที่นั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้าน .. วันไหนสามี "ดีแตก" ไม่ให้เงิน
..เมียประเภทนี้ ตายหยังเขียดสถานเดียว .. อยากเลิกกับผัวเฮงซวย ก็เลิกไม่ได้ เพราะตัวเอง ไม่มีปัญญาหาเลี้ยงตัวเอง หาเลี้ยงลูก
ก็ต้องทนน้ำตาเช็ดหัวเข่าไป
หรือแม้แต่สามีเป็นคนดี รักลูกรักเมีย ..แต่ชีวิตคนเราแน่นอนเสียที่ไหน .. ไม่ "จากเป็น" วันหนึ่งก็ต้อง "จากตาย"
..เมียที่ไม่มีความสามารถในการหาเลี้ยงชีพเองได้ ...เมื่อขาดเสาหลัก ก็พังกันทั้งครอบครัว
แบบนี้ พี่ก็ถือว่า ดำเนินชีวิตอยู่บนความประมาทเกินไป
..ในเมื่อตัวเรา มีความรู้ มีความสามารถ พ่อแม่อุตส่าห์ส่งเสียให้เรียน ให้เคยทำงาน หาเงินเองได้
ทำไมแต่งงานแล้ว จึงทิ้งความรู้ - ความสามารถที่มี ..ทิ้งเวลาระหว่างลูกไปโรงเรียนครึ่งค่อนวัน
ทิ้งเวลาตอนลูกเข้านอนแล้ว ให้หมดไปกับการถูบ้าน ซักผ้า หรือนั่งเสพละคร ..
แต่ก็นะ ..แล้วแต่แนวคิดของแต่ละครอบครัว ความพร้อมของแต่ละครอบครัวอีกนั่นแหละค่ะ
..ครอบครัวใคร ครอบครัวมันจ้า .. ต้องพูดคุยให้เข้าใจกัน ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท
แล้วจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขค่ะ ^^

..เพราะพี่ให้ความสำคัญกับการให้เวลากับครอบครัว
สิ่งที่มีเงินมากมายแค่ไหน ก็หาซื้อไม่ได้ คือ ความรัก ความเข้าใจ ของคนในครอบครัว
..และพี่ดีใจ ที่เมื่อ 14 ปีก่อน พี่ตัดสินใจแบบนี้
เพราะวันนี้ ครอบครัวพี่ ..พ่อ-แม่-ลูก 2 หนุ่มน้อย .. ใกล้ชิด ผูกพัน
ลูกพี่ไม่เกเร รู้คิด มีวินัย มีสัมมาคารวะ ..เพราะเราเลี้ยงดู อบรมเค้าด้วยความรัก ..ใส่ input ดีๆ ให้เค้า
พี่เป็นแม่บ้านเต็มเวลา จนกระทั่งลูกพี่เข้าโรงเรียน พี่เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น
และแน่นอน ค่าใช้จ่ายในบ้าน ก็มากขึ้นด้วย จากเรื่องของการศึกษาลูก และลูกๆ ก็โตขึ้นทุกวันๆ
..แต่พี่ก็ยังติดข้อจำกัด ต้องดูแลลูก ดูแลบ้าน .. พี่ก็หางานที่พี่ทำได้ โดยไม่ต้องออกไปนอกบ้าน
และพี่เลือกทำงานฝีมือ ที่เป็นงานอดิเรกสมัยสาวๆ ..
เริ่มจากทำ หาค่าขนมลูก ..ทำงานบ้านไป พี่ก็ทำ SWOT analysis ไป .. ไล่ดู Marketing mix ไป ..
ค่อยเป็นค่อยไป ..ผ่านการลองผิดลองถูก จนเริ่มหาจุดแข็งเจอ
และประกอบกับได้รับโอกาสที่ดี ที่เราสามารถทำงาน ตามโจทย์ของลูกค้ารายใหญ่ได้
จากงานฝีมือ หาค่าขนมลูก หาค่ากับข้าว ..
ก็เติบโตจนต้องจดเป็นนิติบุคคล รายได้เกินเกณฑ์ต้องจด vat ต้องจ้าง สนง.บัญชี ช่วยดูแล - ให้คำปรึกษา
สินค้าเป็น OTOP มีใบดาวแปะข้างฝา ตั้งแต่ 51
ขยายทีมงาน จนวันนี้ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แม่บ้าน 100++ ชีวิต กระจายกันอยู่ในหลายจังหวัด
..ยอดขายเติบโตทุกปี ..ปีนี้โตกว่าปีที่แล้ว เกือบ 100%
และปีหน้า ก็มีแนวโน้มว่าจะดีกว่าปีนี้ เพราะลูกค้าที่ซื้อสินค้าของเรา ขายดิบขายดี สั่งงานเพิ่ม
บางเจ้าเปิดร้านสาขาเพิ่ม ..บางเจ้า ยกระดับเป็นขายส่งด้วย ..
..การที่เรา ไม่ได้นั่งงอมืองอเท้า กินๆ นอนๆ รอขอเงินสามีใช้ ..และยังทำหน้าที่ทุกอย่างของแม่บ้าน ไม่ขาดตกบกพร่อง
ถึงจะไม่ perfect นัก ..เพราะสวมหมวกหลายใบ ..
..แต่ก็น่าจะมากพอ ที่คุณสามีจะรัก และเกรงใจ ..เพราะตำแหน่งในนามบัตรของพี่ ใหญ่โตมาก 555
..และพี่เอง เห็นความผิดพลาดของคนรอบตัว โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยชินกับการมีสามีคอยหยิบยื่นเงินให้..มามากมาย
ถ้าได้สามีดี ..ก็ดีไป ..
แต่บางคนไม่งั้นสิ ..สามีนิสัยแย่ ถือโอกาสเบื่อนังเมียที่นั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้าน .. วันไหนสามี "ดีแตก" ไม่ให้เงิน
..เมียประเภทนี้ ตายหยังเขียดสถานเดียว .. อยากเลิกกับผัวเฮงซวย ก็เลิกไม่ได้ เพราะตัวเอง ไม่มีปัญญาหาเลี้ยงตัวเอง หาเลี้ยงลูก
ก็ต้องทนน้ำตาเช็ดหัวเข่าไป
หรือแม้แต่สามีเป็นคนดี รักลูกรักเมีย ..แต่ชีวิตคนเราแน่นอนเสียที่ไหน .. ไม่ "จากเป็น" วันหนึ่งก็ต้อง "จากตาย"
..เมียที่ไม่มีความสามารถในการหาเลี้ยงชีพเองได้ ...เมื่อขาดเสาหลัก ก็พังกันทั้งครอบครัว
แบบนี้ พี่ก็ถือว่า ดำเนินชีวิตอยู่บนความประมาทเกินไป
..ในเมื่อตัวเรา มีความรู้ มีความสามารถ พ่อแม่อุตส่าห์ส่งเสียให้เรียน ให้เคยทำงาน หาเงินเองได้
ทำไมแต่งงานแล้ว จึงทิ้งความรู้ - ความสามารถที่มี ..ทิ้งเวลาระหว่างลูกไปโรงเรียนครึ่งค่อนวัน
ทิ้งเวลาตอนลูกเข้านอนแล้ว ให้หมดไปกับการถูบ้าน ซักผ้า หรือนั่งเสพละคร ..
แต่ก็นะ ..แล้วแต่แนวคิดของแต่ละครอบครัว ความพร้อมของแต่ละครอบครัวอีกนั่นแหละค่ะ
..ครอบครัวใคร ครอบครัวมันจ้า .. ต้องพูดคุยให้เข้าใจกัน ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท
แล้วจะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขค่ะ ^^
ความคิดเห็นที่ 10
เลือกมาแล้วค่ะ จะว่าเลือกก็ไม่ถูกเท่าไร แต่ไม่ได้โดยบังคับนะ สามีขอตั้งแต่ก่อนแต่งเลยว่า แต่งงานไป ขอให้เราอยู่บ้าน
เค้าเลี้ยงเรากับลูกได้ ขอแค่กลับมาบ้านเจอเรากับลูกก็พอ
ทุกวันนี้เป็นแม่ฟลูไทม์ เลี้ยงลูก ทำงานบ้านเองทุกอย่าง เคยได้เป็นคุณนายอยู่ 1เดือน ช่วงท้องใหม่ๆ
สามีจ้างแม่บ้านให้ แต่ทำไม่ได้ดั่งใจ เลยเลิกจ้างไป ทำเอง ไหนๆ ก็อยู่ชมรมเกาะสามีกินละ
ตอบแทนด้วยการเป็นภรรยาที่ช่วยแบ่งเบาภาระหน่อยละกัน
สามียกเงินเดือนให้ทุกบาทค่ะ
จ่ายให้เค้าใช้วันละ 350 เหลือทุกวัน บางวันไม่ได้ใช้ ก็เอามาคืนเรา แต่บางวันก็เอาไปซื้อดอกไม้ให้เราซะงั้น
เค้าจะซื้ออะไรก็มาขอก่อน กลับมากินข้าวบ้านทุกมื้อ หากไม่สะดวกก็ใช้ปิ่นโตไปส่ง (บ้านอยู่ใกล้ทีทำงานมาก)
พาไปเที่ยว ตจว.กับตปท. ปีละ 2 ครั้ง
เวลาสามีกลับมาบ้าน ช่วยเลี้ยงลูก ช่วยทำงานบ้านไม่เคยอิดออด
เรื่องเงิน เราทำบัญชีชัดเจน มีแบ่งเงินเก็บให้ลูก ซื้อหุ้น ซื้อกองทุน ซื้อประกัน ฝากธนาคารสำหรับ2คน แถมแอบเก็บไว้ส่วนตัว
ข้อนี้ไม่ต้องห่วง หากวันหน้า เรากับเค้ามีเหตุให้เลิกกัน เราก็เตรียมพร้อมไว้แล้วค่ะ
เค้าเลี้ยงเรากับลูกได้ ขอแค่กลับมาบ้านเจอเรากับลูกก็พอ
ทุกวันนี้เป็นแม่ฟลูไทม์ เลี้ยงลูก ทำงานบ้านเองทุกอย่าง เคยได้เป็นคุณนายอยู่ 1เดือน ช่วงท้องใหม่ๆ
สามีจ้างแม่บ้านให้ แต่ทำไม่ได้ดั่งใจ เลยเลิกจ้างไป ทำเอง ไหนๆ ก็อยู่ชมรมเกาะสามีกินละ
ตอบแทนด้วยการเป็นภรรยาที่ช่วยแบ่งเบาภาระหน่อยละกัน
สามียกเงินเดือนให้ทุกบาทค่ะ
จ่ายให้เค้าใช้วันละ 350 เหลือทุกวัน บางวันไม่ได้ใช้ ก็เอามาคืนเรา แต่บางวันก็เอาไปซื้อดอกไม้ให้เราซะงั้น
เค้าจะซื้ออะไรก็มาขอก่อน กลับมากินข้าวบ้านทุกมื้อ หากไม่สะดวกก็ใช้ปิ่นโตไปส่ง (บ้านอยู่ใกล้ทีทำงานมาก)
พาไปเที่ยว ตจว.กับตปท. ปีละ 2 ครั้ง
เวลาสามีกลับมาบ้าน ช่วยเลี้ยงลูก ช่วยทำงานบ้านไม่เคยอิดออด
เรื่องเงิน เราทำบัญชีชัดเจน มีแบ่งเงินเก็บให้ลูก ซื้อหุ้น ซื้อกองทุน ซื้อประกัน ฝากธนาคารสำหรับ2คน แถมแอบเก็บไว้ส่วนตัว
ข้อนี้ไม่ต้องห่วง หากวันหน้า เรากับเค้ามีเหตุให้เลิกกัน เราก็เตรียมพร้อมไว้แล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถามคุณผู้หญิง ถ้ามีสามี แล้วให้เลือกระหว่าง สามีให้อยู่บ้านทำงานบ้านให้เงินใช้ VS หาเงินทำงานเอง เลือกแบบไหนกัน