คุณเคยสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไหม ไม่ใช่เงินทอง ไม่ใช่อะไร แต่เป็นหัวใจที่สลายไปพร้อมกับทุกสิ่ง

นี่เป็นเรื่องจริงจังนะครับ มันเกิดขึ้นกับผมจริง ๆ ไม่ได้แต่งเติมแต่อย่างใด มันอาจจะยาวหน่อย ไม่หน่อยล่ะ ยาวมาก กรุณาอ่านให้จบนะครับ ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมอาจจะใช้คำที่มันดูอลังการเกินจริงไปหน่อยในการเล่า บางครั้ง ผมทุกข์มากจริง ๆ ครับ

สวัดสีครับ ผมจะขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ เมอร์ทั่ม[นามสมมติ]นะครับ ผมมีความสามารถนี้มันเป็นความสามารถติดตัวที่ผมค้นพบช้าเกินไป นั่นคือ อารมณ์ศิลปินนั่นเอง ใช่มันวิเศษมากในเรื่องการออกแบบ เราสามารถระเบิดอารมณ์ออกมาในรูปแบบผลงานได้อย่างงดงาม แต่มันก็มีข้อเสียเช่นกัน ใช่ผมเป็นคนเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว แบบที่ศิลปินเขาเป็นกัน และผมอารมณ์อ่อนไหวง่าย มันเป็นข้อดีที่ดีมาก และเป็นข้อเสียที่ร้ายมาก ๆ เช่นกัน การที่อารมณ์อ่อนไหวน่ะนะ

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คือตอนนี้จากเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้น ที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ เรื่องมันได้ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วซึ่งมันยังตราตรึงในจิตใจผม และเป็นบาดแผลที่อาจจะถาวรเลยก็ได้ ผมได้ทำบาป มหันต์ และนั่นมันอาจเป็นกรรมที่ผมสมควรได้รับ แต่มันสาหัสเกินกว่าที่ผมจะทนรับมันใว้ได้ ถึงแม้มันจะเป็นกรรมก็เถอะ

โลกเปลี่ยนไปแล้ว . . . ข้าสัมผัสได้จากน้ำ . . . ข้าสัมผัสได้จากดิน . . . ข้าได้กลิ่นอายในอากาศ เรื่องราวเก่า ๆ ไม่เหลือร่องรอย เพราะ ณ บัดนี้ ไร้แล้วซึ่งผู้จดจำ มันเริ่มด้วยพลังซึ่งมีอำนาจควบคุมชีวิต พลังหนึ่งเดียวซึ่งจะทำให้บรรลุได้ทุกสิ่ง แม้แต่จะเกินกว่าที่กำลังของเรานั้นจะทำได้ พลังที่เกินกว่ามนุษย์จะมีใว้ครอบครองได้ แต่หารู้ไม่ว่า พลังนี้มันครอบงำ และกัดกินไปทีละส่วนเสี้ยวในจิตใจ ณ ช่วงเวลาที่ยังไม่สาย จิตลึก ๆ ส่วนหนึ่ง ส่วนที่ยังคงสติเอาใว้ ได้ต่อสู้อย่างสุดกำลัง กับอำนาจนั้น มิให้มันครอบงำจิตใจทั้งมวลได้

เรื่องได้เริ่มเมื่อ 1 ปีที่แล้ว อาจจะเหมือนไม่นานมากสำหรับใครหลายคน แต่ในความทุกข์ทน มันนานนับอนันต์ในจิตใจ มันเริ่มอย่างเรียบง่าย เมื่อผมได้คบกับเด็กหญิงคนนึง มันดูเหมือนจะสวยงาม ณ เริ่มต้น ทุกอย่างเหมือนจะจบสิ้น ความเหงาที่ครอบงำเรามานาน กำลังสลายสิ้นไป ตอนนั้นผมอายุได้ 20 และเด็กหญิงที่ผมคบด้วย ผมขอไม่บอกอายุ แต่เธออายุน้อยกว่าผมกว่า 7 ปีได้ ใช่ความรักที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ในโลกปัจจุบัน เรื่องมันควรจะจบตั้งแต่ตอนนั้น แต่ ไม่ใช่เลย มันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก ใช่ เราต่างมีความสุขกัน ในช่วงต้นของความรัก ผมรักเธอมาก ซึ่งเธอ ก็อาจจะรักผมมากเช่นกัน ผมใช้คำว่าอาจเพราะว่าผมมิอาจล่วงรู้จิตใจคนอื่นได้ ต่อมาไม่นาน ความแตกต่างเริ่มเกิดขึ้น อาจเพราะด้วยความเยาวัยของเธอ จึงมิได้คิดอะไรมากมาย แต่การกระทำที่ผมก็มิอาจรับได้ มันก็ฝังลึกในจิตใจผมเรื่อย ๆ อาจเพราะความเยาวัยมีชายอื่นมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอ ซึ่งทำให้เธอเหมือนจะห่างจากผมไป แต่เราก็ยังคบกัน ด้วยเพราะผมรักเธอมากผมจึงยื้อเธอใว้แต่ด้วยความแตกต่างของความคิด ทำให้ผมคิดว่าความรักของเรานั้นมิอาจเป็นได้ หากอยู่ด้วยกันจริง เราอาจจะไม่มีความสุขได้เป็นแน่

และนั่นทำให้ผมเริ่มคุยกับใครคนหนึ่ง ระบายให้กับเธอคนนั้นฟัง เธอเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับผมมาตลอด เธอเปรียบเสมือนน้องสาวของผม เรื่องราวที่แท้จริงเกิดขึ้นที่ตรงนี้ต่างหาก เธอให้คำแนะนำผม ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไป สู้ต่อไปเพื่อคนที่ผมรัก แต่แล้วเรื่องมันโหดร้ายกว่านั้นเยอะ เอาล่ะเดี๋ยวจะงงซะปล่อย ๆ ผมขอสมมติชื่อของเธอคนนั้นเลยก็แล้วกัน คนที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผมน่ะนะ เธอชื่อว่า ว่าน[นามสมมติ] ใช่เราสนิดกันมากหลังจากนั้น แต่ผมก็ยังคบกับแฟนผมอยู่นะ แล้วก็รักมากด้วย แต่กับว่านนี่ เธอเปรียบเหมือนน้องสาว ดั่งที่เคยบอกใว้ แต่ผมมักจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนมากกว่าแฟนนะ เพราะเธอยังเด็ก ไม่ค่อยมีเวลาเข้ากลุ่มมากเท่าไร และทัศนคติก็ต่างจากผู้ใหญ่อย่างเรามากเลย คงนึกออกนะ ผมอยู่กับกลุ่มเพื่อน อยู่กับว่านจนสนิดกันมาก มีครั้งหนึ่งเราสนิดกันมากพอที่จะคุยเปิดใจ เปิดเรื่องราวที่เป็นทุกข์ให้กันฟัง และให้ตายสิ ว่านเธอมีความคิดที่เหมือนผมมาก ๆ มีบาดแผลในใจคล้าย ๆ กันกับผมและคติที่มีต่อโลก และสังคมเหมือนกับผมมากจนว่าได้ว่าแทบจะเหมือนคน ๆ เดียวกันเลย นั่นมันวิเศษสุด ๆ ผมอยากให้แฟนของผม มีความคิดเหมือนกับว่านจัง นั่นคือสิ่งที่ผมคิด ใช่ แรก ๆ เลยผมไม่เคยคิดนอกใจเลย เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ ตัวผมมีแฟนแล้ว ตัวว่าน ก็มีแฟนแล้วเช่นกัน เอ่อ แต่ว่านนี่ไม่ถือว่าเด็กมากเหมือนแฟนผมนะ เธออายุ เกือบจะ 17 ได้ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่พอสมควร ใช่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะคิดเกินเลยกัน นอกจากเพื่อน หรือว่าพี่น้อง แต่นานเข้า นานเข้า ไม่รุ้ว่าทำไม เราเปิดใจคุยกันบ่อยครั้งขึ้น มันทำให้ผมรู้สึกว่า เหมือนกับตัวผมนั้นสำคัญ แต่ผมก็ยับยั้งความคิดอันตรายนั้นใว้อยู่ ส่วนแฟนผมน่ะหรอ เธอก็ยังไปเรื่อย ๆ ครั้งหนึ่งผมจับได้ว่าเธอ แอบคุยกับชายอื่น เชิงชู้สาว กับคนอื่น ผมรับไม่ได้จริง ๆ ผมไม่รู้ว่าเธอรักผมจริงหรือเปล่า แต่ผมน่ะรักเธอจริงแน่นอน หรือไม่แน่ที่เธอยังอยู่กับผม หมายถึงยังคบกันน่ะนะ คือเธอยังเด็กเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอะไรแบบนั้นหรอก ที่ยังคบกันอาจะเพราะเงินของผมก็ได้ เมื่อผมมีเงินที่ผมทำงานหามาได้เองน่ะนะ ก็ไม่มากอะไรจากการทำงานเชิงศิลป์อะไรประมาณนั้น ฮ่า ๆ อ้อใช่ ๆ ความฝันของแฟนผมผมลืมบอกเลย เธออยากจะ cosplay ที่สุด และผมก็ได้เติมเต็มความฝันนั้นให้ ผมซื้อชุด cosplay ให้เธอ แทบทุกเดือน นั้นอาจเป็นสาเหตุที่เธอยังอยู่กับผม คือ ให้ผมซื้อของให้ T^T ตีเป็นเงินทั้งหมดก็ เกือบหมื่นผมบอกได้แค่นั้น แต่ผมไม่เสียดายหรอก ผมให้เพราะว่า รัก

พักก่อนก็ได้ครับ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ใกล้จะถึงจุดที่เป็นประเด็นแล้วครับ

ผมขอกลับมาที่ว่านนะครับ ผมกับแทนตอนนี้ก็สนิดกันมากเช่นกัน ว่าได้ว่าถ้าหากไม่มีเส้นคำว่าพี่น้องกั้นใว้ และ หากเราไม่ได้มีแฟนกันทั้งคู่ มันอาจสวยงามกว่านี้ ผมก็เล่าปัญหาให้ว่านฟัง ส่วนว่านก็เล่าให้ผมฟังเช่นเดียวกัน ปัญหาของว่านผมขอเก็บใว้นะครับ ผมจะเล่าส่วนของผมก็พอแล้ว แต่บอกได้ว่าปัญหานั้นมันคล้าย ๆ กัน เรื่องของแฟนนั่นล่ะ ของผมก็มีปัญหาดั่งที่กล่าว ส่วนของว่านผมขอบอกนิด ๆ ว่า แฟนว่านไมไ่ด้เจ้าชู้นะ จะเป็นปัญหาที่ว่าหึงหวงมากกว่า เขาหึงว่านมากจนทำให้ว่านไม่สบายใจก็ประมาณนั้น

แล้วเรื่องราวก็มาถึงวันนั้น วันที่ผม แพ้ให้กับพลังที่ต้านทานความรุ้สึกมิให้กล้ำกลายไปมากกว่าพี่น้อง (เราไม่ได้เป็นพี่น้องแท้นะเผื่อเข้าใจผิด) แค่สนิดกันมาก วันนั้นเองเป็นวันที่ว่านกับแฟนเขา ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก คิดแค่ว่าเขาคงมีความสุขด้วยกัน แต่แล้วหลังจากความเงียบงันเข้าครอบงำ ว่านไปทะเลแล้ว น้ำตาผมกลับไหลออกมา ไม่รุ้ว่าเพราะอะไร เราน่าจะยินดีกับเขานะ ผมคิดถึงว่านมาก จนแทบจะอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้หมด มันมากจริง ๆ ผมรู้สึกว่ากำลังจะเสียเขาไป แต่ด้วยโชคชะตา หรือพระเจ้าพยายามเล่นตลกอะไรกับพวกเราคืนนั้น ว่านมาคุยกับผม ผ่านทาง ts3 ผมคิดถึงมาก  แต่แล้วเหมือนฝัน เธอเข้ามา เธออยู่ที่ทะเลนั่นล่ะนะ แต่เธอมีเรื่องไม่สบายใจมาก มาเล่าให้ผมฟัง แฟนของว่านทำท่าทีแปลก ๆ เหมือนเงียบไปทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาหึงหวงมากขนาดไหนผมมิอาจรุ้ได้ แต่ ว่าการกระทำของเขาทำให้ว่านไม่สบายใจอย่างมาก ว่านเข้ามาคุยกับผมตอนเที่ยงคืนได้ เราคุยกับไปเรื่อยดั่งทุกวันที่คุยกัน ระบายความในใจของแต่ละคน แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็บังเกิด แม้ระยะทางจะห่างไกลกันมากเป็นร้อย ๆ ไมล์ แต่เหมือนกับจิตใจเราทั้งคู่นั้นได้เชื่อมถึงกัน ผมล่วงรุ้ความในใจของเธอ เสมือนว่าผมเป็นว่านยังไงยังงั้นเลย ผมจึงต้องคิดใหม่ว่า ที่ผมเคยบอกว่าผมอ่านใจคนไม่ได้ ผมคงคิดผิดไปแล้ว ด้วยความที่ว่านั้น ผมดันคิดขึ้นมาได้ว่า บางทีชาติที่แล้วเราอาจจะเป็นเนื้อคู่กันก็เป็นได้ แต่ผมพูดกับว่านไปไม่อย่างตรงกับใจนัก ผมบอกว่า ชาติที่แล้วเราอาจเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ก็ได้ ซึ่งผมอยากพูดอีกอย่างใจจะขาด นี่คือเรื่องมหัสจรรย์แรกที่เกิดขึ้น การเชื่อมโยงจิตใจ มันอาจฟังดูเพ้อฝัน แต่มันเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่น่ะนะ ให้ตายสิ เราคุยกันเกือบเช้า เธออยู่โรงแรมที่ทะเล ตะวันเริ่มสาดส่องทอแสงวันใหม่อีกครั้งแล้ว ผมรุ้ว่าเวลาของเราใกล้หมดแล้ว อีกไม่นานทุกคนที่นั่นคงตื่นกันหมดแล้ว เราคงไม่ได้คุยกันแล้วล่ะ แล้วเราก็จากกันไป ผมก็เข้านอนด้วยหัวใจที่พองโตแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ใช่มันเลวร้ายมาก ผมนอกใจแฟนผมซะแล้วล่ะ แต่ก็นะแฟนผมเธอก็นอกใจผมมานับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน เรื่องราวมันโหดร้าย อันไหนผิดอันไหนถูก ผมมิอาจรับรู้มันอีกต่อไปแล้ว ผมถูกครอบงำ จากสิ่งที่ผม ไม่เข้าใจไปแล้วล่ะ ผมได้รับพลังแห่งการหยั่งรู้ที่ผมไม่เข้าใจ พลังเชื่อมจิตที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ นั่นทำให้ผมเริ่มหลงทางภายในใจตัวเองแล้วล่ะ

อ้อใช่ ที่ผมเป็นห่วง คิดถึงว่านเมื่อไปทะเลนั่นไม่ใช่อะไร เธอเคยพูดกับผมหลายครั้งว่า เธอไม่อยากอยู่บนโลกที่โหดร้ายใบนี้แล้ว จิตใจของเธอเปราะบางมากจริง ๆ ไม่ว่าเรื่องเลวร้ายเพียงใดที่เกิดขึ้นกับเธอ มันทำให้เธอทรมาณมากจริง ๆ บางครั้งเธอฝันเห็นตัวเอง เดินลงทะเลไปแล้วดำดิ่งสู่ห้วงอเวจี และบางครั้ง ก็มีคนฉุดรั้งมือเธอเอาใว้ บางครั้งเธอก็ตาย แล้วครั้งนี้ที่ไปทะเล ผมเป็นห่วงเธอมากจริง ๆ ผมกลัวว่าฝันของเธอนั้นจะเป็นจริงขึ้นมา ผมกลัวเหลือเกิน กลัวการที่จะเสียเธอไปไม่ว่าแบบใดก็ตาม ผมกลัวเหลือเกินให้ตายสิ กลัวว่าหากฝันเป็นจริง มันจะไม่มีมือนั่นที่ช่วยเธอเอาใว้ เพราะผมเองก็อยู่ห่างไกลเหลือเกิน ทำให้ผมรู้ดีแล้วว่ามือนั่นมิอาจใช่มือของผมอย่างแน่แท้  . . .

เรื่องราวมันผ่านมาแรมปี นี่อาจจะ 6 เดือนแล้วที่ผมรุ้จักกับว่าน แล้วก็คบกันแฟนเช่นเดียวกัน เรื่องราวคู่ขนานนี้มันเกิดขึ้นพร้อมกัน หากปราศจากสิ่งใดไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ก็มิอาจเกิดได้ มันเปราะบางที่สุด

นี่อาจเป็นเพราะความอ่อนไหวในอารมณ์ของผมเอง ที่ผมบอก มันมีทั้งข้อดีที่งดงาม และข้อเสียที่แสนเลวร้าย ความสามารถของศิลปินที่ผมมีนี้   และแล้ววันนี้ก็มาถึง ว่านเริ่มจะสังเกตุอะไรบางอย่าง สังเกตุว่าผม คงหลงรักว่านเข้าให้ซะแล้วล่ะ ว่านพยายามทุกอย่าง ทำให้ผมพูดความจริงนั้นออกมา แต่ผมเลือกที่จะไม่พูด ผมไม่อยากเสียอะไรไปมากกว่านี้แล้ว มันผิดมหันต์ แต่ผมรู้สึกได้เลยล่ะว่า ว่านคือพลังนั่น พลังที่ผมใฝ่หา ประหนึ่งแหวนแห่งประมุข ที่ลวงล่อให้เราเข้าไป มันมหาศาลจริง ๆ มันคือพลังที่จะผลักดันให้ชีวิตผมก้าวเดินต่อไปได้ แม้จะเป็นเช่นไร จะเลวร้ายแค่ไหน มันคือพลังมหาศาลที่ผมใฝ่หา ใช่ คือเธอ คือว่าน
ผมมิอาจจะอธิบายความยิ่งใหญ่นี้ได้หมด แต่ขอให้รู้ว่ามันยิ่งใหญ่มากจริง ๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่