"อย่าให้เหมือนคดีเพชรซาอุ" สุรพงษ์ กองจันทึก
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
การเข้ามารับหน้าที่ช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่สองผู้ต้องสงสัยชาวพม่าในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ท่ามกลางสถานการณ์แหลมคม ส่งผลให้ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกจับตามองจากคนทั้งประเทศทันที คดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ระดับชาติมากด้วยเงื่อนงำซับซ้อน สร้างความเคลือบแคลงสงสัย ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมมากที่สุดคดีหนึ่งในรอบหลายปี
วันนี้ สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยคดีเกาะเต่า จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับภารกิจอันหนักอึ้งที่อาจพลิกโฉมวงการยุติธรรมไทย
จุดที่ทำให้สภาทนายความตัดสินใจยื่นมือเข้ามารับทำหน้าที่ดูแลคดีนี้คืออะไร
สภาทนายความเป็นองค์กรที่ทำงานด้านกฎหมาย โดยพ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 กำหนดให้เราทำหน้าที่ตามกฎหมาย หน้าที่เขียนไว้ชัดเจนคือช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย หากมีการละเมิดสิทธิ์ และคนผู้นั้นมีฐานะยากจน ไม่ทำไม่ได้จะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เหมือนหน่วยงานรัฐทั้งหลาย ทำไม่ดีเขาก็ฟ้องร้องเราต่อศาลปกครองเหมือนกัน
คดีนี้มีการร้องเรียนเข้ามาถึง 2-3 ช่องทาง สุดท้ายทางผู้ต้องสงสัยก็เซ็นแต่งตั้งให้ทางเราเป็นทนายความหลังจากที่เราเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิ์ เราแค่เข้าไปตรวจสอบ ไม่ได้เข้าไปช่วยให้ผู้กระทำผิดพ้นผิด ถ้าเขาทำผิดจริง เราก็แนะนำให้เขารับสารภาพ โทษทัณฑ์ทั้งหลายจะได้ลดน้อยลง ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำผิด เราก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันว่าเขาไม่ได้กระทำผิด ขณะเดียวกันถ้ามีการกล่าวหาว่าเขากระทำผิด เราก็มีหน้าที่ดูว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นความจริงไหม ถ้าจริงก็สนับสนุน ถ้ามีข้อสงสัยว่าไม่จริงเราก็มีหน้าที่ทักท้วง เพื่อให้ศาลตัดสินต่อไป
ทำไมดูเหมือนรัฐบาลพม่าก็ให้ความสำคัญกับคนของเขาเป็นพิเศษ
เมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทยยกทีมใหญ่พร้อมพ่อแม่ผู้ต้องสงสัยเข้ามาหาเราที่สภาทนายความ เขาบอกว่ามาในฐานะของรัฐบาลพม่า ในฐานะของสถานทูตพม่า และในฐานะของประชาชนชาวพม่าที่จะมอบอำนาจให้สภาทนายความดำเนินการในเรื่องกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เขาตรวจสอบแล้วว่า คดีนี้ควรจะมีใครเข้ามาดูแลรับผิดชอบหาความเป็นธรรมให้คนของเขา และพบว่าที่ผ่านมาสภาทนายความได้ช่วยเหลือชาวพม่าด้วยความเป็นธรรมจนสามารถนำความสำเร็จในการช่วยเหลือคนพม่าให้พ้นข้อกล่าวหาได้เป็นจำนวนมาก เขาจึงไว้วางใจเราจากผลงานที่ผ่านมา
คดีนี้เขายอมรับว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองเป็นคนของเขา ผมเข้าใจว่าเขาไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของเรา จึงติดตามอย่างละเอียดถึงขนาดตั้งทีมงานเพื่อมาดูแลเรื่องนี้ด้วยกันถึง 2 ชุด ประกอบด้วยชุดติดตามคดีกับชุดสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย เขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ซึ่งไม่เคยทำขนาดนี้มาก่อน ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ผมทำงานด้านนี้มาเลย สภาทนายความก่อตั้งมา 30 กว่าปี ไม่เคยมีที่เอกอัครราชทูตคนไหนเดินทางมาถึงสำนักงานสภาทนายความเลย เขาคือตัวแทนของประเทศ ไม่เฉพาะพม่า อังกฤษเองก็ให้ความสำคัญมากเช่นกัน
กรณีข่าวที่ผู้ต้องสงสัยกลับคำรับสารภาพ อ้างว่าถูกซ้อม จนทำให้เกิดกระแสสังคมตราหน้าว่ามีการจับแพะ มีความคิดเห็นอย่างไร
กว่าที่กระแสสังคมจะมาพูดคำว่า "แพะ" ต้องมีที่มาที่ไป พูดง่ายๆว่าเขาอาจมีข้อสงสัยในหลายๆเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่ทำให้สังคมไม่ไว้วางใจ
ต้องขอเรียนให้ทราบว่าผู้ต้องสงสัยไม่ได้กลับคำนะ สังคมเรามีวิธีการมองคน ให้ค่าของคนไม่เสมอกัน เรายังคิดว่าผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ มีชนักติดหลัง และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐเป็นฝ่ายถูกต้อง แทนที่จะชั่งน้ำหนักทั้งสองฝ่ายระหว่างฝ่ายที่กล่าวหาและฝ่ายที่ถูกกล่าวหา
ยกตัวอย่างเช่น คำว่า 'กลับคำ' เราไม่รู้ว่าที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การว่าอะไร มีสื่อมวลชนเคยเห็นไหมว่าผู้ต้องหาพูดว่ายังไง ไม่มีครับ มีแต่คำที่ตำรวจกล่าวอ้าง แต่ว่าสิ่งที่ผู้ต้องหาให้การยืนยันตลอดมาหลังจากที่ทนายความเข้าไปพบเขา เขาพูดผ่านทนายความด้วยการเขียนออกมาเป็นเอกสารปั๊ม ลงลายมือชื่อยื่นหนังสือถึงอัยการจังหวัดเกาะสมุย ต่อมาพ่อแม่เข้าไปเยี่ยม เขาก็ยืนยันคำเดิมฝากพ่อแม่เขามา สถานทูตพม่าเขาไปเยี่ยม เขาก็ฝากสถานทูตพม่าออกมาอีก โดยยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำ เขาบริสุทธิ์
ถ้าดูจากถ้อยคำเหล่านี้ จะพบว่าเขายืนยันตลอดมาเป็นเสียงเดียว ไม่มีเสียงอื่นเลย ไม่ใช่เขาเคยรับว่าทำแล้วกลับคำว่าไม่ทำ ซึ่งเขาก็ยืนยันในข้อมูลว่าเขาถูกบังคับให้เซ็นโดยที่ไม่รู้เรื่องเลย ล่ามก็ไม่ถูกต้อง กระบวนการก็ไม่ถูกต้อง ทนายที่ไหนก็ไม่รู้ แล้ลวก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นทนายให้เขารู้เลย นี่คือข้อเท็จจริง
ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการซ้อมทรมานให้รับสารภาพยังมีอยู่เยอะไหม
จากการทำงานของสภาทนายความพบว่า มีเคสที่ผู้ต้องหาถูกซ้อมทรมานเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือแถวกาฬสินธุ์ ภาคกลางแถวอ่างทอง ภาคใต้ในสี่จังหวัดชายแดน นี่คือเรื่องจริงทนายความที่พยายามพูดเรื่องเหล่านี้ว่ามีการซ้อมทรมานอย่างคุณสมชาย นีละไพจิตร ก็ยังถูกอุ้มหาย
ประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านทรมานและการบังคับคนให้สูญหาย ถือว่าดีขึ้นมาขั้นนึง ปัจจุบันเรากำลังอยู่ระหว่างการร่างพรบ.ป้องกันการทรมานและการถูกบังคับให้สูญหาย ให้เป็นกฎหมายของประเทศไทย
กลับมาที่คดีเกาะเต่า ผู้ต้องสงสัยอ้างอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังทำหนังสืออัยการจังหวัดเกาะสมุย รวมทั้งอัยการสูงสุดด้วยว่าเขาถูกซ้อมทรมาน ขั้นตอนการสอบสวนไม่ถูกต้อง ล่ามก็ไม่ใช่ล่ามที่เป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกับเขา นับถือศาสนาเดียวกับเขา ทนายก็ไม่ใช่คนของเขา เรียกร้องให้มีการสอบสวนใหม่ ใช้ล่ามที่พูดคุยภาษาเดียวกันกับเขา ใช้ทนายที่เป็นกลาง เขามีพยานอื่นๆอีกที่จะมายืนยันว่าตัวเขาไม่ได้กระทำ จะสอบพยานเพิ่มได้ไหม หลังจากเรียกร้องไปวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ
ก่อนรับทำคดี จากที่ดูข่าว ข้อมูลหลักฐานต่างๆ รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลไหม
เราเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ตัวความ ไม่รู้หรอกว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง เรามีหน้าที่นำความจริงออกมา แล้วความจริงในเรื่องนี้มันก็มีรายละเอียดอยู่เยอะมาก แม้กระทั่งตอนนี้เองผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็พูดไม่ได้ว่าเขากระทำความผิด หลักการทางกฎหมายคือคนที่ศาลยังไม่ตัดสินเป็นที่สิ้นสุดถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นใครที่มาพูดว่าเขาไม่บริสุทธิ์ เป็นการเหยียบย่ำรัฐธรรมนูญ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขา ยิ่งเป็นคนพูดเป็นผู้มีอำนาจตำแหน่งสูงๆก็อาจเป็นการชี้นำทางศาล ชี้นำทางสังคม ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ต้องขอเรียนว่าคดีนี้มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากมารับรองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำถูกแล้ว ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีก็มาพูดแบบนี้ไม่ได้ ตำรวจที่ทำคดีนี้โดยหลักการจะบอกว่าตัวเองเชื่อไม่ได้ ตำรวจพูดได้แต่เพียงว่า 'จากหลักฐานที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเชื่อได้ว่า เขาเป็นผู้กระทำผิด' ย้ำว่า 'จากหลักฐานเชื่อ' นะ ไม่ใช่ 'ตัวตำรวจ' เชื่อ ส่วนคนที่เหลือเขาไม่รู้หรอกครับ พูดได้แค่ว่าตามกฎหมายเขาถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เราพูดได้แค่นี้
ทำไมแรงงานข้ามชาติถึงตกเป็นแพะอยู่เรื่อย
กรณีแรงงานข้ามชาติทั่วไป ตัวของแรงงานเอง สถานะทางกฎหมายเขาถึงแม้โดยหลักการจะเท่าเทียมกับคนไทย มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเท่ากัน รัฐไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ แต่ในข้อเท็จจริง การให้ค่าคนของสังคมมันไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐมาเมืองไทย การคุ้มครองดูแลก็ขั้นนึง นายกรัฐมนตรีอังกฤษโดนคนวิ่งชนนิดเดียวเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก ถ้าเกิดชาวบ้านโดนคนวิ่งชนไม่เป็นข่าว อันนี้คือศักดิ์ศรีเท่ากัน แต่การให้ค่าแตกต่างกัน
ข้อที่เอื้อให้แรงงานข้ามชาติถูกละเมิดสิทธิ์ได้ง่าย หนึ่ง แรงงานอาจเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ไม่กล้าเรียกร้อง สอง พูดภาษาไทยก็ไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ โดนจับให้เซ็นอะไรเขาก็ไม่รู้ สาม แรงงานพวกนี้ไม่ค่อยมีญาติ ไปจับปุ๊บเพื่อนฝูงวิ่งหนีกระเจิงหมด ไม่มีใครกล้าช่วย กล้าประกันตัว หากถามว่าปัญหาใหญ่ของประเทศไทยมีปัญหาอะไรบ้าง ผมเชื่อว่าปัญหาแรงงานข้ามชาติก็จะถูกหยิบมาพูด เมื่อทัศนคติเป็นแบบนี้มันก็เกิดเหตุได้ง่าย
นอกจากนี้แรงงานจำนวนมากเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ความที่เป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายก็อาจเอื้อในหลายๆเรื่อง ประกอบกับสื่ออาจมองว่าจะเข้ามาสร้างปัญหาให้บ้านเมืองเรา เราจึงเห็นการพาดหัวข่าว พม่าโหด กะเหรี่ยงเหี้ยมอยู่เรื่อยๆ ทั้งที่เคยมีการห้ามปรามกันแล้วว่าคุณไม่มีสิทธิ์ไปเหยียดหยามเขาแบบนี้ได้
ประกอบกับการคุ้มครองของประเทศต้นทางก็ไม่ได้ดีมากเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว เช่น คดีที่คนอังกฤษถูกตัดสินจำคุกข้อหายาเสพติดที่ลาว ประเทศอังกฤษเขารณรงค์ทั่วโลกเพื่อเอาคนของเขากลับ แต่ถ้าเกิดกับแรงงานพม่า มีรัฐบาลพม่า มีหน่วยงานไหนออกมาร้องเรียนไหม ไม่มี นี่จึงทำให้สถานะของแรงงานต่างชาติเอื้อต่อการถูกละเมิดสิทธิ์ เป็นกลุ่มคนที่ถูกละเมิดสิทธิ์มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง เหตุเหล่านี้อาจส่งผลทำให้แรงงานต่างชาติกลายเป็นแพะ ต้องมารับกรรมในหลายๆเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
ยกตัวอย่างคดีจอบิ ชาวกะเหรี่ยงที่ถูกกล่าวหาว่ายิงรถโดยสารเด็กนักเรียนที่กิ่งอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต เมื่อสิบกว่าปีก่อน จับใครไม่ได้ แล้วมีการมาจับ 'จอบิ' สื่อทั้งหมดก็เชื่อเจ้าหน้าที่ จอบิรับสารภาพ จอบิถือปืนมาทำแผน มีสื่อเพียงช่องเดียวที่เข้าไปตรวจสอบว่าวันเกิดเหตุพบว่าจอบิไปเก็บพริก มีพยานรู้เห็นเยอะแยะหลายสิบคนบ่งชี้ว่าจอบิไม่ได้ทำ ไม่เคยมีประวัติรบราฆ่าฟันใคร ก็นำหลักฐานออกมาตีแผ่ให้แก่สังคม ทนายความก็เอาข้อมูลเหล่านี้ไปยืนยันกับศาล ปรากฎว่าท้ายที่สุดก็ยกฟ้องให้พ้นโทษ ทุกวันนี้คดีจบลง ยกฟ้องเสร็จ แต่ก็ไม่มีการหาคนผิดจริง จบแล้วจบเลย
ที่ผ่านมามีการช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดีแพะเยอะไหม
โดยหลักการ ถ้าเกิดมีแพะ อาจมีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ในกรณีที่ตัดสินไปแล้ว แต่เท่าที่ผมทราบมีคดีเดียวที่มีการรื้อใหม่คือ คดีเชอรี่แอน ดันแคน เพราะเป็นคดีใหญ่ของประเทศ ดังมาก คดีอื่นๆก็รื้อใหม่ แต่ไม่มีรื้อเลย
สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าทางศาลกลัวว่าถ้ารื้อกันง่ายๆ ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลจะลดค่าลง เรื่องนี้อาจต้องมานั่งคุยกันทางวิชาการว่าแท้จริงแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์มันจำเป็นไหม ความยุติธรรมความจริงมันน่าจะมีค่าเหนือกว่าความศักดิ์สิทธิ์ของศาลหรือเปล่า
คดีเกาะเต่า ความเห็นที่น่าสนใจ และความคืบหน้า(หรือถอยหลัง)
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
การเข้ามารับหน้าที่ช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่สองผู้ต้องสงสัยชาวพม่าในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ท่ามกลางสถานการณ์แหลมคม ส่งผลให้ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกจับตามองจากคนทั้งประเทศทันที คดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ระดับชาติมากด้วยเงื่อนงำซับซ้อน สร้างความเคลือบแคลงสงสัย ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมมากที่สุดคดีหนึ่งในรอบหลายปี
วันนี้ สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยคดีเกาะเต่า จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับภารกิจอันหนักอึ้งที่อาจพลิกโฉมวงการยุติธรรมไทย
จุดที่ทำให้สภาทนายความตัดสินใจยื่นมือเข้ามารับทำหน้าที่ดูแลคดีนี้คืออะไร
สภาทนายความเป็นองค์กรที่ทำงานด้านกฎหมาย โดยพ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 กำหนดให้เราทำหน้าที่ตามกฎหมาย หน้าที่เขียนไว้ชัดเจนคือช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย หากมีการละเมิดสิทธิ์ และคนผู้นั้นมีฐานะยากจน ไม่ทำไม่ได้จะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เหมือนหน่วยงานรัฐทั้งหลาย ทำไม่ดีเขาก็ฟ้องร้องเราต่อศาลปกครองเหมือนกัน
คดีนี้มีการร้องเรียนเข้ามาถึง 2-3 ช่องทาง สุดท้ายทางผู้ต้องสงสัยก็เซ็นแต่งตั้งให้ทางเราเป็นทนายความหลังจากที่เราเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิ์ เราแค่เข้าไปตรวจสอบ ไม่ได้เข้าไปช่วยให้ผู้กระทำผิดพ้นผิด ถ้าเขาทำผิดจริง เราก็แนะนำให้เขารับสารภาพ โทษทัณฑ์ทั้งหลายจะได้ลดน้อยลง ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำผิด เราก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันว่าเขาไม่ได้กระทำผิด ขณะเดียวกันถ้ามีการกล่าวหาว่าเขากระทำผิด เราก็มีหน้าที่ดูว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นความจริงไหม ถ้าจริงก็สนับสนุน ถ้ามีข้อสงสัยว่าไม่จริงเราก็มีหน้าที่ทักท้วง เพื่อให้ศาลตัดสินต่อไป
ทำไมดูเหมือนรัฐบาลพม่าก็ให้ความสำคัญกับคนของเขาเป็นพิเศษ
เมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทยยกทีมใหญ่พร้อมพ่อแม่ผู้ต้องสงสัยเข้ามาหาเราที่สภาทนายความ เขาบอกว่ามาในฐานะของรัฐบาลพม่า ในฐานะของสถานทูตพม่า และในฐานะของประชาชนชาวพม่าที่จะมอบอำนาจให้สภาทนายความดำเนินการในเรื่องกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เขาตรวจสอบแล้วว่า คดีนี้ควรจะมีใครเข้ามาดูแลรับผิดชอบหาความเป็นธรรมให้คนของเขา และพบว่าที่ผ่านมาสภาทนายความได้ช่วยเหลือชาวพม่าด้วยความเป็นธรรมจนสามารถนำความสำเร็จในการช่วยเหลือคนพม่าให้พ้นข้อกล่าวหาได้เป็นจำนวนมาก เขาจึงไว้วางใจเราจากผลงานที่ผ่านมา
คดีนี้เขายอมรับว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองเป็นคนของเขา ผมเข้าใจว่าเขาไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของเรา จึงติดตามอย่างละเอียดถึงขนาดตั้งทีมงานเพื่อมาดูแลเรื่องนี้ด้วยกันถึง 2 ชุด ประกอบด้วยชุดติดตามคดีกับชุดสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย เขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ซึ่งไม่เคยทำขนาดนี้มาก่อน ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ผมทำงานด้านนี้มาเลย สภาทนายความก่อตั้งมา 30 กว่าปี ไม่เคยมีที่เอกอัครราชทูตคนไหนเดินทางมาถึงสำนักงานสภาทนายความเลย เขาคือตัวแทนของประเทศ ไม่เฉพาะพม่า อังกฤษเองก็ให้ความสำคัญมากเช่นกัน
กรณีข่าวที่ผู้ต้องสงสัยกลับคำรับสารภาพ อ้างว่าถูกซ้อม จนทำให้เกิดกระแสสังคมตราหน้าว่ามีการจับแพะ มีความคิดเห็นอย่างไร
กว่าที่กระแสสังคมจะมาพูดคำว่า "แพะ" ต้องมีที่มาที่ไป พูดง่ายๆว่าเขาอาจมีข้อสงสัยในหลายๆเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่ทำให้สังคมไม่ไว้วางใจ
ต้องขอเรียนให้ทราบว่าผู้ต้องสงสัยไม่ได้กลับคำนะ สังคมเรามีวิธีการมองคน ให้ค่าของคนไม่เสมอกัน เรายังคิดว่าผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ มีชนักติดหลัง และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐเป็นฝ่ายถูกต้อง แทนที่จะชั่งน้ำหนักทั้งสองฝ่ายระหว่างฝ่ายที่กล่าวหาและฝ่ายที่ถูกกล่าวหา
ยกตัวอย่างเช่น คำว่า 'กลับคำ' เราไม่รู้ว่าที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การว่าอะไร มีสื่อมวลชนเคยเห็นไหมว่าผู้ต้องหาพูดว่ายังไง ไม่มีครับ มีแต่คำที่ตำรวจกล่าวอ้าง แต่ว่าสิ่งที่ผู้ต้องหาให้การยืนยันตลอดมาหลังจากที่ทนายความเข้าไปพบเขา เขาพูดผ่านทนายความด้วยการเขียนออกมาเป็นเอกสารปั๊ม ลงลายมือชื่อยื่นหนังสือถึงอัยการจังหวัดเกาะสมุย ต่อมาพ่อแม่เข้าไปเยี่ยม เขาก็ยืนยันคำเดิมฝากพ่อแม่เขามา สถานทูตพม่าเขาไปเยี่ยม เขาก็ฝากสถานทูตพม่าออกมาอีก โดยยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำ เขาบริสุทธิ์
ถ้าดูจากถ้อยคำเหล่านี้ จะพบว่าเขายืนยันตลอดมาเป็นเสียงเดียว ไม่มีเสียงอื่นเลย ไม่ใช่เขาเคยรับว่าทำแล้วกลับคำว่าไม่ทำ ซึ่งเขาก็ยืนยันในข้อมูลว่าเขาถูกบังคับให้เซ็นโดยที่ไม่รู้เรื่องเลย ล่ามก็ไม่ถูกต้อง กระบวนการก็ไม่ถูกต้อง ทนายที่ไหนก็ไม่รู้ แล้ลวก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นทนายให้เขารู้เลย นี่คือข้อเท็จจริง
ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการซ้อมทรมานให้รับสารภาพยังมีอยู่เยอะไหม
จากการทำงานของสภาทนายความพบว่า มีเคสที่ผู้ต้องหาถูกซ้อมทรมานเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือแถวกาฬสินธุ์ ภาคกลางแถวอ่างทอง ภาคใต้ในสี่จังหวัดชายแดน นี่คือเรื่องจริงทนายความที่พยายามพูดเรื่องเหล่านี้ว่ามีการซ้อมทรมานอย่างคุณสมชาย นีละไพจิตร ก็ยังถูกอุ้มหาย
ประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านทรมานและการบังคับคนให้สูญหาย ถือว่าดีขึ้นมาขั้นนึง ปัจจุบันเรากำลังอยู่ระหว่างการร่างพรบ.ป้องกันการทรมานและการถูกบังคับให้สูญหาย ให้เป็นกฎหมายของประเทศไทย
กลับมาที่คดีเกาะเต่า ผู้ต้องสงสัยอ้างอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังทำหนังสืออัยการจังหวัดเกาะสมุย รวมทั้งอัยการสูงสุดด้วยว่าเขาถูกซ้อมทรมาน ขั้นตอนการสอบสวนไม่ถูกต้อง ล่ามก็ไม่ใช่ล่ามที่เป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกับเขา นับถือศาสนาเดียวกับเขา ทนายก็ไม่ใช่คนของเขา เรียกร้องให้มีการสอบสวนใหม่ ใช้ล่ามที่พูดคุยภาษาเดียวกันกับเขา ใช้ทนายที่เป็นกลาง เขามีพยานอื่นๆอีกที่จะมายืนยันว่าตัวเขาไม่ได้กระทำ จะสอบพยานเพิ่มได้ไหม หลังจากเรียกร้องไปวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ
ก่อนรับทำคดี จากที่ดูข่าว ข้อมูลหลักฐานต่างๆ รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลไหม
เราเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ตัวความ ไม่รู้หรอกว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง เรามีหน้าที่นำความจริงออกมา แล้วความจริงในเรื่องนี้มันก็มีรายละเอียดอยู่เยอะมาก แม้กระทั่งตอนนี้เองผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็พูดไม่ได้ว่าเขากระทำความผิด หลักการทางกฎหมายคือคนที่ศาลยังไม่ตัดสินเป็นที่สิ้นสุดถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นใครที่มาพูดว่าเขาไม่บริสุทธิ์ เป็นการเหยียบย่ำรัฐธรรมนูญ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขา ยิ่งเป็นคนพูดเป็นผู้มีอำนาจตำแหน่งสูงๆก็อาจเป็นการชี้นำทางศาล ชี้นำทางสังคม ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ต้องขอเรียนว่าคดีนี้มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากมารับรองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำถูกแล้ว ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีก็มาพูดแบบนี้ไม่ได้ ตำรวจที่ทำคดีนี้โดยหลักการจะบอกว่าตัวเองเชื่อไม่ได้ ตำรวจพูดได้แต่เพียงว่า 'จากหลักฐานที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเชื่อได้ว่า เขาเป็นผู้กระทำผิด' ย้ำว่า 'จากหลักฐานเชื่อ' นะ ไม่ใช่ 'ตัวตำรวจ' เชื่อ ส่วนคนที่เหลือเขาไม่รู้หรอกครับ พูดได้แค่ว่าตามกฎหมายเขาถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เราพูดได้แค่นี้
ทำไมแรงงานข้ามชาติถึงตกเป็นแพะอยู่เรื่อย
กรณีแรงงานข้ามชาติทั่วไป ตัวของแรงงานเอง สถานะทางกฎหมายเขาถึงแม้โดยหลักการจะเท่าเทียมกับคนไทย มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเท่ากัน รัฐไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ แต่ในข้อเท็จจริง การให้ค่าคนของสังคมมันไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐมาเมืองไทย การคุ้มครองดูแลก็ขั้นนึง นายกรัฐมนตรีอังกฤษโดนคนวิ่งชนนิดเดียวเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก ถ้าเกิดชาวบ้านโดนคนวิ่งชนไม่เป็นข่าว อันนี้คือศักดิ์ศรีเท่ากัน แต่การให้ค่าแตกต่างกัน
ข้อที่เอื้อให้แรงงานข้ามชาติถูกละเมิดสิทธิ์ได้ง่าย หนึ่ง แรงงานอาจเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ไม่กล้าเรียกร้อง สอง พูดภาษาไทยก็ไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ โดนจับให้เซ็นอะไรเขาก็ไม่รู้ สาม แรงงานพวกนี้ไม่ค่อยมีญาติ ไปจับปุ๊บเพื่อนฝูงวิ่งหนีกระเจิงหมด ไม่มีใครกล้าช่วย กล้าประกันตัว หากถามว่าปัญหาใหญ่ของประเทศไทยมีปัญหาอะไรบ้าง ผมเชื่อว่าปัญหาแรงงานข้ามชาติก็จะถูกหยิบมาพูด เมื่อทัศนคติเป็นแบบนี้มันก็เกิดเหตุได้ง่าย
นอกจากนี้แรงงานจำนวนมากเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ความที่เป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายก็อาจเอื้อในหลายๆเรื่อง ประกอบกับสื่ออาจมองว่าจะเข้ามาสร้างปัญหาให้บ้านเมืองเรา เราจึงเห็นการพาดหัวข่าว พม่าโหด กะเหรี่ยงเหี้ยมอยู่เรื่อยๆ ทั้งที่เคยมีการห้ามปรามกันแล้วว่าคุณไม่มีสิทธิ์ไปเหยียดหยามเขาแบบนี้ได้
ประกอบกับการคุ้มครองของประเทศต้นทางก็ไม่ได้ดีมากเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว เช่น คดีที่คนอังกฤษถูกตัดสินจำคุกข้อหายาเสพติดที่ลาว ประเทศอังกฤษเขารณรงค์ทั่วโลกเพื่อเอาคนของเขากลับ แต่ถ้าเกิดกับแรงงานพม่า มีรัฐบาลพม่า มีหน่วยงานไหนออกมาร้องเรียนไหม ไม่มี นี่จึงทำให้สถานะของแรงงานต่างชาติเอื้อต่อการถูกละเมิดสิทธิ์ เป็นกลุ่มคนที่ถูกละเมิดสิทธิ์มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง เหตุเหล่านี้อาจส่งผลทำให้แรงงานต่างชาติกลายเป็นแพะ ต้องมารับกรรมในหลายๆเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
ยกตัวอย่างคดีจอบิ ชาวกะเหรี่ยงที่ถูกกล่าวหาว่ายิงรถโดยสารเด็กนักเรียนที่กิ่งอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต เมื่อสิบกว่าปีก่อน จับใครไม่ได้ แล้วมีการมาจับ 'จอบิ' สื่อทั้งหมดก็เชื่อเจ้าหน้าที่ จอบิรับสารภาพ จอบิถือปืนมาทำแผน มีสื่อเพียงช่องเดียวที่เข้าไปตรวจสอบว่าวันเกิดเหตุพบว่าจอบิไปเก็บพริก มีพยานรู้เห็นเยอะแยะหลายสิบคนบ่งชี้ว่าจอบิไม่ได้ทำ ไม่เคยมีประวัติรบราฆ่าฟันใคร ก็นำหลักฐานออกมาตีแผ่ให้แก่สังคม ทนายความก็เอาข้อมูลเหล่านี้ไปยืนยันกับศาล ปรากฎว่าท้ายที่สุดก็ยกฟ้องให้พ้นโทษ ทุกวันนี้คดีจบลง ยกฟ้องเสร็จ แต่ก็ไม่มีการหาคนผิดจริง จบแล้วจบเลย
ที่ผ่านมามีการช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดีแพะเยอะไหม
โดยหลักการ ถ้าเกิดมีแพะ อาจมีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ในกรณีที่ตัดสินไปแล้ว แต่เท่าที่ผมทราบมีคดีเดียวที่มีการรื้อใหม่คือ คดีเชอรี่แอน ดันแคน เพราะเป็นคดีใหญ่ของประเทศ ดังมาก คดีอื่นๆก็รื้อใหม่ แต่ไม่มีรื้อเลย
สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าทางศาลกลัวว่าถ้ารื้อกันง่ายๆ ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลจะลดค่าลง เรื่องนี้อาจต้องมานั่งคุยกันทางวิชาการว่าแท้จริงแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์มันจำเป็นไหม ความยุติธรรมความจริงมันน่าจะมีค่าเหนือกว่าความศักดิ์สิทธิ์ของศาลหรือเปล่า