ก่อนอื่นต้องขอแสดงความชื่นชม LVG ว่า เป็นผู้จัดการทีมที่หายากที่ (เพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวันก่อน) ยอมปล่อยเวลเบ็คออกไปเพื่อให้ได้ลงเล่นบ่อยๆ และพัฒนาฟอร์มการเล่นให้กับคู่แข่งที่จะชิงพื้นที่ไป UCL โดยไม่โก่งราคาอีกด้วย ... หายากจริงๆ ครับ ที่เห็นแก่อนาคตของนักเตะมากกว่าทีม นับถือๆ (สำรองเลยเหลือแค่วิลสันคนเดียวที่เป็นกองหน้าอาชีพ)
1. แมทช์เยือนปืน LVG ใช้ระบบ 3-4-3 ที่ผมเคยแจ้งไว้ว่า การใช้กองหลัง 3 คนมีจุดอ่อนตรงที่ช่องว่างที่มีมากระหว่างปีก/วิงแบ็คกับเซ็นเตอร์แบ็ค ยังดีที่อาร์เซน่อลยุคหลังใช้ระบบ 4-3-3 แบบไร้ปีก แถมวัลคอตต์ก็ยังเดี้ยงไม่เลิก ไม่อย่างนั้น กองหลังวัยเด็กของเราจะต้องเจองานหนักกว่านี้แน่ๆ และ LVG ก็น่าจะออกมาชอบใจที่ตัดสินใจใช้ระบบนี้ไม่ได้ โดยส่วนใหญ่อาร์เซน่อลก็ได้ยิงจากแนวกลางๆ ประตูนี่แหล่ะ ... อ้อ แล้วระบบการเล่นของปืนก็เคาะกันมากเกินไปด้วย ทำให้ง้างยิงได้ค่อนข้างช้า
2. แผงหน้าใช้ 3 ตัว RVP, รูนีย์ และดิ มาเรีย โดย RVP ฟอร์มยังไม่เข้าที่ แม้ว่าเพิ่งยิงให้ฮอลแลนด์ไปในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถูกเปลี่ยนให้วิลสันลงแทน
รูนีย์ทำตามที่ LVG ขอให้ยิงประตูแบบที่เล่นให้อังกฤษได้ โดยไม่ลงต่ำมากเกินไปแบบในแมทช์ก่อนๆ และคอยเติมขึ้นไปสับไกหลายครั้ง
ส่วน ดิ มาเรียดูจะไม่ชินกับระบบนี้ (เขาเล่นเป็นตัวฟรี ไม่ได้ปักหลักอยู่ที่ปีก) จึงทำเกมและ cross บอลไม่ได้เท่าที่ควร
รวมถึงวิงแบ็คทั้ง 2 ข้าง (ชอว์ และเปลี่ยนเป็นยัง เมื่อชอว์เจ็บ กับ วาเลนเซีย) ก็เช่นกัน
โดยยานาไซด์ที่โดนดร๊อปไปเป็นสำรองอย่างที่หลายๆคนต้องการ และไม่ได้ถูกเปลี่ยนตัวเข้ามาแต่อย่างไร
3. กองกลางของทีม 2 ตัว (คาริกกับเฟไลนี่) สู้กองกลาง 3 ตัวของอาร์เซน่อลไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด ทำให้กองหลังต้องใช้วิธีโยนไปข้างหน้าให้เฟไลนี่ที่ขยันเติมขึ้นไปบ่อยๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ไม่ต้องพูดถึงการเชื่อมบอลจากกลางไปแผงหน้าที่แทบไม่มีให้เห็น
4. จุดเปลี่ยนเกิดราวนาทีที่ 56 เมื่อยัง cross จากฝั่งซ้ายมากรอบเขตโทษด้านขวาให้เฟไลนี่ เชสนี่ (ประตูอาร์เซน่อล) ออกมากระโดดชกบอลโดยไม่ให้เสียงกับกิ๊บบ์ทำให้ล้มลงไปทั้ง 2 คน โดยวาเลนเซียยิงเข้ามาอย่างแรง (แต่ทิศทางไม่เข้ากรอบ) กิ๊บที่กองอยู่กับพื้นพยายามสกัด แต่กลับทำให้บอลเปลี่บนทางเข้าประตูไป
5. จากนั้น แมนฯยูก็หันมาเน้นตั้งรับเต็มตัว โดยมีรูนีย์กับดิ มาเรียรับหน้าที่โต้กลับ ซึ่งทำได้ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเฟไลนี่จ่ายบอลได้สวยมาให้ดิมาเรียที่จ่ายให้รูนีย์หลุดกองหลังอาร์เซน่อลที่เหลือ 1 ตัวชิบข้ามตัวประตูสำรองของปืนไปได้ แต่ครั้งที่สองรูนีย์จ่ายให้ดิมาเรียหลุดไปบ้างแต่กลับชิพออกข้างขวาไปอย่างน่าเสียดายและไม่น่าเชื่อ
6. ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชิรูด์ได้บอลจากการจ่ายยาวของอาร์เตต้าที่กรอบประตูด้านขวา (ของแมนฯยู) ยิงเข้าไป โดยแม็คแนร์หันไปมองว่าล้ำหน้าหรือไม่ (ขอบคุณคห.5 ที่ remind ผม) ทำให้ไม่ทันเข้าประกบ (ประสบการณ์จะสอนว่า ควรเข้าไปประกบเลย จะมัวแต่ดูว่าล้ำหน้าหรือฟาลว์หรือไม่ มันไม่ทันสถานการณ์) ลูกเข้าเสาแรก โดยที่เดเกอาที่โชว์ฟอร์มเซฟมาร่วม 10 ครั้งไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้น่าสงสัยอยู่บ้างว่า ถ้าเวนเกอร์ส่งชิรูด์มาเสริมเป็นหน้า 2 คนแต่เนิ่นๆกว่านี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
สรุปสุดท้ายว่า ด้วยทีมมีนักเตะบาดเจ็บเยอะมาก แต่แมทช์นี้มีโชคเล็กน้อยทำให้ชนะไปได้ (อาร์เซน่อลน่าจะเป็นทีมที่มีนักเตะบาดเจ็บน้อยกว่าทีมเราทีมเดียว)
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าชอว์ (แบ็คซ้ายอาชีพตัวเดียว) จะหายเจ็บเมื่อไหร่ แบ็คคนอื่นๆ อย่างโจนส์หรืออีแวนส์จะฟิตลงเล่นได้เมื่อไหร่ ?
และผมภาวนาให้ LVG อย่าใช้ระบบหลัง 3 บ่อยๆ อีกเลย (ตอนนี้เหลืออยู่ในซีรีย์อาของอิตาลีที่เดียวที่ใช้กันเป็นส่วนมาก) ไม่อย่างนั้น เจอทีมอื่นใน EPL ที่นิยมใช้ระบบปีก จะทำให้แฟนบอลอย่างพวกรเาต้องลุ้นหนักมากกว่านี้
แล้วพวกเราหล่ะครับ มีความคิดว่าอย่างไรกันบ้าง ?
[กระทู้สนทนาผีแดง 2014-11-23] มาสนทนาหลังแมทช์อาร์เซน่อล 1-2 แมนฯยู กัน
1. แมทช์เยือนปืน LVG ใช้ระบบ 3-4-3 ที่ผมเคยแจ้งไว้ว่า การใช้กองหลัง 3 คนมีจุดอ่อนตรงที่ช่องว่างที่มีมากระหว่างปีก/วิงแบ็คกับเซ็นเตอร์แบ็ค ยังดีที่อาร์เซน่อลยุคหลังใช้ระบบ 4-3-3 แบบไร้ปีก แถมวัลคอตต์ก็ยังเดี้ยงไม่เลิก ไม่อย่างนั้น กองหลังวัยเด็กของเราจะต้องเจองานหนักกว่านี้แน่ๆ และ LVG ก็น่าจะออกมาชอบใจที่ตัดสินใจใช้ระบบนี้ไม่ได้ โดยส่วนใหญ่อาร์เซน่อลก็ได้ยิงจากแนวกลางๆ ประตูนี่แหล่ะ ... อ้อ แล้วระบบการเล่นของปืนก็เคาะกันมากเกินไปด้วย ทำให้ง้างยิงได้ค่อนข้างช้า
2. แผงหน้าใช้ 3 ตัว RVP, รูนีย์ และดิ มาเรีย โดย RVP ฟอร์มยังไม่เข้าที่ แม้ว่าเพิ่งยิงให้ฮอลแลนด์ไปในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถูกเปลี่ยนให้วิลสันลงแทน
รูนีย์ทำตามที่ LVG ขอให้ยิงประตูแบบที่เล่นให้อังกฤษได้ โดยไม่ลงต่ำมากเกินไปแบบในแมทช์ก่อนๆ และคอยเติมขึ้นไปสับไกหลายครั้ง
ส่วน ดิ มาเรียดูจะไม่ชินกับระบบนี้ (เขาเล่นเป็นตัวฟรี ไม่ได้ปักหลักอยู่ที่ปีก) จึงทำเกมและ cross บอลไม่ได้เท่าที่ควร
รวมถึงวิงแบ็คทั้ง 2 ข้าง (ชอว์ และเปลี่ยนเป็นยัง เมื่อชอว์เจ็บ กับ วาเลนเซีย) ก็เช่นกัน
โดยยานาไซด์ที่โดนดร๊อปไปเป็นสำรองอย่างที่หลายๆคนต้องการ และไม่ได้ถูกเปลี่ยนตัวเข้ามาแต่อย่างไร
3. กองกลางของทีม 2 ตัว (คาริกกับเฟไลนี่) สู้กองกลาง 3 ตัวของอาร์เซน่อลไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด ทำให้กองหลังต้องใช้วิธีโยนไปข้างหน้าให้เฟไลนี่ที่ขยันเติมขึ้นไปบ่อยๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ไม่ต้องพูดถึงการเชื่อมบอลจากกลางไปแผงหน้าที่แทบไม่มีให้เห็น
4. จุดเปลี่ยนเกิดราวนาทีที่ 56 เมื่อยัง cross จากฝั่งซ้ายมากรอบเขตโทษด้านขวาให้เฟไลนี่ เชสนี่ (ประตูอาร์เซน่อล) ออกมากระโดดชกบอลโดยไม่ให้เสียงกับกิ๊บบ์ทำให้ล้มลงไปทั้ง 2 คน โดยวาเลนเซียยิงเข้ามาอย่างแรง (แต่ทิศทางไม่เข้ากรอบ) กิ๊บที่กองอยู่กับพื้นพยายามสกัด แต่กลับทำให้บอลเปลี่บนทางเข้าประตูไป
5. จากนั้น แมนฯยูก็หันมาเน้นตั้งรับเต็มตัว โดยมีรูนีย์กับดิ มาเรียรับหน้าที่โต้กลับ ซึ่งทำได้ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเฟไลนี่จ่ายบอลได้สวยมาให้ดิมาเรียที่จ่ายให้รูนีย์หลุดกองหลังอาร์เซน่อลที่เหลือ 1 ตัวชิบข้ามตัวประตูสำรองของปืนไปได้ แต่ครั้งที่สองรูนีย์จ่ายให้ดิมาเรียหลุดไปบ้างแต่กลับชิพออกข้างขวาไปอย่างน่าเสียดายและไม่น่าเชื่อ
6. ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชิรูด์ได้บอลจากการจ่ายยาวของอาร์เตต้าที่กรอบประตูด้านขวา (ของแมนฯยู) ยิงเข้าไป โดยแม็คแนร์หันไปมองว่าล้ำหน้าหรือไม่ (ขอบคุณคห.5 ที่ remind ผม) ทำให้ไม่ทันเข้าประกบ (ประสบการณ์จะสอนว่า ควรเข้าไปประกบเลย จะมัวแต่ดูว่าล้ำหน้าหรือฟาลว์หรือไม่ มันไม่ทันสถานการณ์) ลูกเข้าเสาแรก โดยที่เดเกอาที่โชว์ฟอร์มเซฟมาร่วม 10 ครั้งไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้น่าสงสัยอยู่บ้างว่า ถ้าเวนเกอร์ส่งชิรูด์มาเสริมเป็นหน้า 2 คนแต่เนิ่นๆกว่านี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
สรุปสุดท้ายว่า ด้วยทีมมีนักเตะบาดเจ็บเยอะมาก แต่แมทช์นี้มีโชคเล็กน้อยทำให้ชนะไปได้ (อาร์เซน่อลน่าจะเป็นทีมที่มีนักเตะบาดเจ็บน้อยกว่าทีมเราทีมเดียว)
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าชอว์ (แบ็คซ้ายอาชีพตัวเดียว) จะหายเจ็บเมื่อไหร่ แบ็คคนอื่นๆ อย่างโจนส์หรืออีแวนส์จะฟิตลงเล่นได้เมื่อไหร่ ?
และผมภาวนาให้ LVG อย่าใช้ระบบหลัง 3 บ่อยๆ อีกเลย (ตอนนี้เหลืออยู่ในซีรีย์อาของอิตาลีที่เดียวที่ใช้กันเป็นส่วนมาก) ไม่อย่างนั้น เจอทีมอื่นใน EPL ที่นิยมใช้ระบบปีก จะทำให้แฟนบอลอย่างพวกรเาต้องลุ้นหนักมากกว่านี้
แล้วพวกเราหล่ะครับ มีความคิดว่าอย่างไรกันบ้าง ?