ญี่ปุ่น7คืน4คน ไปไม่ง้อทัวร์แบบทุลักทุเลกับผู้หญิง,ผู้สูงวัยและเด็กไม่ถึง2ขวบ

***สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยวกระทู้แรก และตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเอามารีวิว รูปบางรูปจึงอาจไม่มีประกอบคำบรรยายนะครับ และอาจะมีทุลักทุเลบ้างก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ(ทุลักทุเลเรื่องแรกคือการตั้งกระทู้เนี่ยแหละครับ ฮ่าๆๆ)***

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยครับว่าครอบครัวผมมีกัน 4คน มีผม แฟน แม่ผมอายุ54สิ้นปีนี้ และลูกผมอายุ1ขวบ11เดือน

กว่าจะได้ไปก็เกือบไม่ได้ไปล่ะครับ เพราะผมมีไมล์แลกตั๋วเครื่องบินที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้เยอะมากแต่ไม่ได้วางแผนเที่ยวไหนเลยเพราะไม่เคยเช็กไมล์มาก่อนว่าจะหมดอายุเมื่อไหร่ แต่พอมาเช็กอีกทีก็แจ็คพ็อต เม่าอ่านหนังสือพิมพ์

ผมเลยต้องแลกให้ไมล์ที่จะหมดอายุเนี่ยหมดไปเพราะมันจะสิ้นปีแล้ว แลกภายในประเทศก็ไม่คุ้ม ก็เลยแลกไปญี่ปุ่นซะเลยเพราะอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วย

แต่ด้วยข้อจำกัดที่ว่าแลกให้ได้ที่นั่ง3คนทั้งไปและกลับจึงยากมากเพราะไม่ใช่เลขคู่และด้วยเวลาที่กระชั้นชิดประจวบกับเป็นช่วงที่คนเที่ยวกันเยอะมากจึงทำให้แทบทุกที่นั่งที่ใช้ไมล์แลกนั้นเต็มหมดแม้กระทั่งชั้นธุรกิจ

และข้อจำกัดอีกอย่างนั่นก็คือผมต้องการเดินทางกลับก่อนที่ลูกผมจะอายุครบ2ขวบจะได้ไม่เสียเงินค่าที่นั่งเด็ก(ขนาดเป็นแค่ทารกยังเสียบาน)นั่นคือไม่ให้เกินวันที่12ธันวาคม

แต่ขอบคุณพระเจ้า ผมได้ที่นั่ง3ที่แต่ไปกลับคนละสนามบิน คือขาไปออกจากไทยวันที่11พ.ย.ตอนค่ำ ออกจากที่นี่23.15แต่เครื่องดีเลย์ไปเป็น23.55 ลงที่สนามบินฮาเนดะตอนเช้าถึงประมาณ7โมงกว่าของวันที่12พ.ย. ขากลับๆสนามบินนาริตะวันที่19พ.ย.เครื่องออก10.45ถึงไทย15.45

ตั๋วได้แล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวลล่ะ วีซ่าก็ไม่ต้องทำกิ๊บกิ๊ววว.. เอาล่ะหาที่พักดีกว่า เม่ากิจกรรม

…….

ไม่มีที่พักแบบที่พักได้3คนแบบถูกๆ.. เต่าเอือม

..

มีถูกๆก็ห้องน้ำรวม แถมไม่ให้เด็กต่ำกว่า5ปีบ้าง 10ปีบ้างเข้าพัก

...

นี่มันหนักกว่าการจองตั๋วอีกนะเนี่ย การจะหารร.ที่ดีๆถูกๆ พักได้7คืนติดๆนี่มันลำบากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย หาๆๆๆๆ เม่าแพนด้า



ขอบคุณพระเจ้าาาา!! เจอแล้ววววว Vann Amor Ampartment ผู้ใหญ่พักได้4คนเด็กไม่คิดถ้าใช้เตียงที่มีอยู่แล้ว ราคาก็ไม่แพงเว่อ มีครัว ทีวี ตู้เย็น เตารีด เครื่องซักผ้า(มันก็คืออพาทเม้นดีๆเนี่ยแหละ) แถมใกล้รถไฟใต้ดินสถานีKodemmachoอย่างกะเดินไปหาเพื่อนบ้าน และยังมีร้านสะดวกซื้อใกล้ๆให้เราได้อิ่มกันยามค่ำคืน(ที่นี่มีขายมันเผาญี่ปุ่นทุกวัน อร่อยมากกกกกก) เพี้ยนmbpt



ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย ที่พักเรียบร้อย คราวนี้ก็ไกด์บุ๊คดีๆสักเล่มล่ะ

หลังจากได้ไกด์บุ๊คแล้วก็เตรียมเอกสารต่างๆ,สั่งรถเข็นเด็กคันใหม่ที่คันเล็กๆพับเก็บง่ายราคาไม่แพง,กระเป๋าใบใหญ่1ใบไว้ใส่เสื้อผ้าผม แฟนและลูก ส่วนของแม่ผมจะมีกระเป๋าใบเล็กต่างหาก1ใบ และกระเป๋าใบเล็กอีก1ใบสำหรับใส่เครื่องนึ่งนม นมผง,เช่าพ็อคเก็ทไวไฟ(สำคัญมากๆ)ไปรับและคืนเครื่องที่สุวรรณภูมิ ใช้ที่ไทยไม่ได้ใช้ได้แต่ที่ญี่ปุ่น

ทุกสิ่งพร้อม ออกเดินทางงงงง เพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊น

…………..

ตัดบทมาที่สนามบินฮาเนดะ

ถึงแล้ววว ท่าอากาศยานฮาเนดะ เข้าง่ายกะอย่างเข้าประเทศตัวเองอมยิ้ม22

ก่อนอื่นก็ไปซื้อบัตรซุยกะ(Suica)ของบริษัทJRเพื่อความสะดวกสบายเวลาขึ้นรถไฟและทุกสิ่งอย่าง จ่ายได้แม้กระทั่งตู้ขายน้ำอัตโนมัติ แต่ไม่มีรูปนะครับเพราะวุ่นวายเรื่องโทรศัพท์มาก เหตุเพราะหาสัญญาณไม่เจอ กว่าจะรู้ว่าต้องเปิด3gก็มึนมากเลย

การเดินทางไปที่พักก็ไม่ง่ายอีก ก็ครั้งแรกนี่นะ ทำไงดีไปสายนี้ใช่รึเปล่าหว่า?? เอ๊ะๆๆ เด๋วก่อน ได้ยินภาษาที่คุ้นเคยแถวๆม้านั่ง..

นั่นป่ะไรๆๆๆ ขอบคุณพระเจ้า คนไทย3คนนั่งสนทนากัน!!

"ขอโทษนะครับพี่ครับ ผมจะไปสถานี NINGYOCHO(ลงเพื่อต่อไปสถานีKODEMMACHOอีกที)ต้องขึ้นฝั่งนี้ใช่มั้ยครับ"

"ใช่ครับ ผมก็ลงสถานีนั้น เด๋วบอกให้ครับ"

และแล้วผมกับครอบครัวก็เดินทางไปกับกลุ่มพี่ๆเขา ผมประทับใจพวกพี่ๆเขามาก ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องโทรศัพท์ที่ใช้ในญี่ปุ่น การเดินทาง ตลอดจนเขาเดินไปส่งให้ถึงที่พัก(พี่เขาแนะนำว่าใกล้ๆ800เมตรเดินเอาก็ได้จะได้ไม่ต้องหอบกระเป๋าเปลี่ยนรถไฟ) พวกพี่เขาเป็นเจ้าของบริษัทพลังงานทางเลือก(หุ้นกัน3คน)มีออฟฟิตอยู่ที่ญี่ปุ่นและวันนั้นมาดูงานพอดี.. ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดีได้แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งคนดีๆมาให้ในวันแรกของการเดินทาง และขอบคุณพี่ๆเขาที่มีน้ำใจให้กันมากมายขนาดนี้ ผมจะไม่ลืมพวกพี่ๆทั้งสามคนจริงๆ[น้ำตาเริ่มนองหน้า(เว่อไป แค่รื้นๆหรอก)]

……

ตัดฉากมาที่ๆพัก(ไม่มีรูปอีกเหมือนเดิมเพราะต้องทำเวลาออกไปเที่ยวเนื่องจากเครื่องดีเลย์นาน)

โปรแกรมวันแรกก็จะมีสวนอุเอโนะ ตลาดอะเมโยโกะ และปิดท้ายด้วยวัดอาซากุสะยามค่ำคืน

….

ตัดฉากมาที่สวนอุเอโนะ

ศาลเจ้าชื่ออะไรบ้างผมก็จำไม่ได้เพราะทำไกด์บุ๊คหายวันสุดท้ายพอดีเลย เม่าฝนตก

เอาเป็นว่าชมรูปไปละกันเนอะ ฮ่าๆ









ภาพครอบครัวซะหน่อย








เจอเด็กฝรั่งก็ขอแชะภาพคู่ซะ



คู่สามี-ภรรยามากับชุดประจำชาติน่ารักดีครับ



ลานกว้างนี้ด้านหน้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเป็นพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่าง



ร้านกาแฟชื่อดังก็มาเปิดนะครับ บรรยากาศดีทีเดียว



สวนสัตว์อุเอโนะ



อันนี้คืออะไรไม่รู้แต่สวยดีเลยถ่ายครับ



เครปญี่ปุ่นร้านนี้อร่อยมากกกกกกกกก ร้านเครปที่เขาแนะนำๆกันชิดซ้ายตกคลองไปเลยครับ(ลิ้นใครลิ้นมัน) อยู่หน้าสวนสัตว์อุเอโนะเลยครับ



ลูกผมอยู่ที่นี่ทั้งวันได้เลยเหอะจะบอกให้(แต่ไม่ได้นะลูก เราต้องไปที่อื่นต่อป่ะป๊าขอร้อง)



ใกล้ๆกับร้านกาแฟชื่อดัง แต่ไม่ทราบว่าคืออะไร



เอาล่ะ เสพบรรยากาศที่สวนอุเอโนะกันแล้วก็ไปลุยกันต่อที่ตลาดอะเมโยะกะ



ด้านหลังพวกเรานี่เองคือตลาดอะเมโยะโกะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่ตื่นตาตืนใจกับของขายมากมายมหาศาล แหะๆ


แต่ก็ไม่ลืมเก็บภาพลูกชายภายในร้านHINOYA ร้านยีนส์ชื่อดังของที่นี่(คือตั้งใจมาที่ตลาดนี้เพราะจะมาซื้อแจ็คเก็ตยีนส์นี่แหละครับ ฮ่าๆๆ ซึ่งยีนส์สัญชาติญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดของโลกเลยครับ แต่ก็ได้ของไม่ครบดังนั้นวันอื่นจะต้องไปซื้อที่แหล่งอื่นเด๋วมีรีวิวครับ)


………

เอาล่ะ สถานีต่อไปคืออาซากุสะ ออกมาเดินไปทางซ้ายจะเห็นตึกอาซาฮี(ไม่ชัดเพราะมือไม่นิ่งพอครับ แหะๆ)



ประตูสายฟ้า



เนื่องด้วยไม่ดูเวลาว่าเขาปิดกันกี่โมงก็เลยเป็นดังในภาพครับ


….

ในเมื่อร้านค้าปิดกันหมดแล้วก็ไม่รู้จะเดินทำไมก็เลยกลับที่พักดีกว่า ก่อนกลับก็จัดร้านเทมปูระที่ไกด์บุ๊คแนะนำซะหน่อย แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะเป็นคนไม่ชอบถ่ายก่อนกินอยู่แล้ว ต้องขออภัยทุกท่านด้วยครับ

นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี KODEMMACHO ออกทางประตู1จะใกล้ที่พักที่สุด เดินมาไม่ไกลจะเจอร้านสะดวกซื้อ และที่นี่เองเราได้พบกับบ กับ กับ กับ!!



อ่ะจ๊ากกกก ชิ้นเดียวไม่เคยพอ!! ร้อนๆหวานๆอย่างกะน้ำผึ้ง อร่ยมากกกกก ที่ไทยขายกับแพงระยับหัวละ200+ แต่ที่นี่คิดเป็นเงินไทยแล้วแค่หัวละ30กว่า-40กว่าบาทเท่านั้นเอง!!!!!!! (ชั่งตามน้ำหนักครับ)

หมดไป1วัน เหนื่อยเหมือนกันครับเพราะเดินทางตลอด แต่ลูกผมนี่ใจสู้น่าดู(แต่ไปงอแงวันหลังๆ ฮ่าๆๆ)

**เด๋วมาต่อวันที่2ตอนดึกๆกน่อยนะครับ ขออนุญาติไปตีแบดก่อน ฮี่ๆ**

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่