[ดักแก่] โทรศัพท์ยุคไหนที่คุณคิดว่า เป็นการสื่อสารที่ "ละมุน" ในอารมณ์ที่สุด

เริ่มจาก..โทรศัพท์บ้านแบบหยอดเหรียญตามร้านค้า  เครื่องสีแดงๆตัวอ้วนๆสั้นๆปุ่มสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวๆเหลืองๆพร้อมคราบดำๆ ต้องหยอดระรัวเหรียญห้า แพงมาก  คุยไม่ทันได้รู้เรื่องก็ตัดซะแล้ว


[ คหสต. โทรศัพท์อันนี้ ไม่มีความละเลียดทางอารมณ์เล๊ยยยยย เน้นโทรธุระด่วนๆ ฮัลโหล..มารับหน่อย เร็วๆนะ แค่นี้เหรียญหมด จะตัดละ...ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ]

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ต่อมา.. โทรศัพท์สาธารณะ ใครอยากประหยัดกด 1234 แล้วตามด้วยเลขหมายปลายทาง เสน่ห์ร้ายกาจ การคุยแต่ละครั้งนี่มีค่ามาก ต้องเตรียมแลกเหรียญ หยอดเหรียญบาทก่อน ถ้าคุยนานตามด้วยเหรียญห้า ยิ่งช่วงตะวันตกดิน ยิ่งต้องต่อแถว ยิ่งทุ่มสองทุ่มแถวยิ่งยาว ได้ยืนมองคนในตู้ยิ้มหวานให้ปลายสายพิงตู้มั่ง ตบยุงมั่ง เราเห็นเค้าในตู้มีความสุขนะ แต่เราดันอยากให้รีบวาง 555+ ร้อนมั่ง หนาวมั่ง ยุงมั่ง ฝนมั่ง นี่แหละเสน่ห์ของชีวิต

ปล.ใครไม่อยากขนเหรียญไป ใช้พินโฟน108คุยเนิบจนลืมว่ามีคนต่อคิวไปเลย

หลังๆมีทั้งแบบบัตรแถบเลเซอร์(บัตรนี่เอามาทำปิ๊กกีตาร์ดีมาก) แล้วต่อมาก็มีก็แบบบัตรชิพสมาร์ทการ์ด





[ คหสต.ผมชอบยุคหยอดเหรียญนี่สุดแล้ว การโทรแต่ละครั้งมันต้องเตรียมตัว ต้องเดินทาง คุยเร็วมากก็ไม่คุ้ม คุยนานมากก็เกรงใจคนอื่น การสนทนามันเลยดูมีค่า เหมือนกับได้สัมผัสถึงความเป็นโลกในขณะคุยอีกด้วย ]


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

หลังจากนั้น..ก็เริ่มมีโต๊ะมือถือ นาทีละ 1 บาท ชีวิตเริ่มง่ายขึ้น ไม่มีสายผูกมัด เดินไปนั่งคุยวิเวกได้ระดับนึง รู้ตัวอีกทีเวลาผ่านไปเร็วเกือบๆชั่วโมงแล้ว คุยเพลินเงินหมดกระเป๋ากันเลย
[ คหสต. บริการโต๊ะมือถือนี่เหมือนจะหายไปเพราะผิดกฏหมายหรือยังไงไม่แน่ใจ มันก็เหมือนจะโอเคนะ แต่โนดูดเงินไปกับบริการนี้เยอะเลย 555+ ]

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ยุคก่อนล่าสุด..มือถือจอขาวดำ//จอสีแรกเริ่ม เริ่มมีเอสเอ็มเอสละ ส่งเป็นภาษาไทยได้ทีละไม่เกิน 30 ตัวอักษร ส่งแต่ละที แต่งแล้วแต่งอีก มีเอาตัวอักษรมาเรียงเป็นภาพ สนุกสนานดีนะ เริ่มมีโมเมนท์โทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัว คุยที่ไหนก็ได้ ริมระเบียง ใต้ผ้าห่ม ในห้องเรียน แต่หลักๆมันก็ยังเป็นไม่ได้มากกว่าเครื่องโทรฯ เอาไว้คุยสนทนาด้วยเสียง หรือ short message สั้นๆ



[ คหสห. มันชักเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคนไกลได้มากขึ้น แต่ความเป็นปัจเจกเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว เริ่มสามารถคุยกับคนคนเดียวยาวเป็น ชม.ๆ ได้ นั่นก็ทำให้เวาลากับคนรอบข้างลดลงไป ]

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ยุคปัจจุบัน..มันเป็นสมาร์ทโฟน มันฟังเพลงได้ ถ่ายรูปได้ ดูหนังได้ เล่นอินเตอร์เน็ตได้ แชทได้ แล้วมันก็ดึงมนุษษ์ให้ก้มหน้าไปกับมันแทบทั้งวัน กับข่าวสาร/ข้อมูล/สนทนาผ่านตัวอักษรและรูปภาพ เหมือนมันจะตอบโจทย์การสื่อสารของมนุษย์ได้ดีนะ ด้วยความง่าย รวดเร็ว และหลากหลาย มันทำให้คุณค่าในการสนทนากันลดลงไปเยอะ เยอะเลยทีเดียวเชียว แตในขณะเดียวกัน่มันก็ทำให้คนส่วนใหญ่ แทบจะห่างจากมันไม่ได้กันเลย



[ คหสต. ไม่ชอบยุคนี้เลยจริงๆสิ อะไรๆมันง่ายไปจนเราลืมความสำคัญของสิ่งที่ควรจะใส่ใจหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง หลายๆคนแข็งกระด้าง เห็นแก่ตัว ให้ความสำคัญกับตัวเองมากจนลืมความเป็นสังคมในโลกจริงไปแล้ว]

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ส่งท้าย .. เทคโนโลยีเปลี่ยนสังคมก็เปลี่ยน..นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ทุกวันนี้การติดต่อสื่อสารระหว่างคนกับคน มันมีเทคโนโลยีดิจิตอลเป็นช่องทางของการสื่อสาร ซึ่งความเป็นดิจิตอลที่มันตอบสนองได้รวดเร็วมาก จนจิตใจคนมันแข็งกระด้างเป็นดิจิตอลกันไปหมดแล้ว
ด้วยคุณสมบัติที่รวดเร็วของมันทำให้การฉุกคิดต่างๆของคนหายไปเยอะ(ไม่มีสติ) คุณค่าทางจิตใจในสิ่งต่างๆถูกลดทอนลงไปจนเกิดขาดความใส่ใจคนรอบข้างไปด้วย

ผมไม่ไได้โทษเทคโนโลยีนะ..แต่ผมรู้สึกว่ามนุษย์หลงงมงายกับเทคโนโลยีมากไปเท่านั้นเอง

ผมเองยังโหยหาความเป็นอนาลอคอยู่นะ ถึงมันจะไม่แน่นอน ขาดๆ-เกินๆ ไปบ้าง แต่นี่แหละ เป็นเสน่ห์พื้นฐานของ "ชีวิต" ตามธรรมชาติ
...........
..........

พล่ามมาซะยาวเลย..คุณล่ะ ชอบโทรศัพท์ยุคไหนกันบ้าง?????

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่