ปกติเราจะเข้ามาอ่านเรื่องราวที่เพื่อนๆแชร์นี้กันในนี้บ่อยมาก ถ้าว่างก็เป็นต้องเข้ามา…… และในวันนี้เราก็เข้ามาเหมือนเคย แต่ในฐานะผู้ที่ต้องการเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับเราเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และขอยืนยันว่าเป็นความจริงทุกประการ
เราผิดด้วยหรอ ที่ความรักของเรา ไม่ใช่ความรักระหว่าง หญิงกับชาย แต่เป็นความรักระหว่าง หญิงกับหญิง....เป็นเรื่องราวความรัก ที่ไม่เคยคิดว่าเราจะต้องมาเจอกับตัวเอง….นึกถึงเรื่องเก่าๆทีไรก็ยังคงเหมือนฝันร้ายอยู่ทุกๆวัน….ความรักของเราภายนอกมันสวยหรูมาก แต่ความจริงแล้ว ภายในมีแต่ความปวดร้าว และในการตั้งกระทู้ของเรา จะไม่มีการระบุชื่อบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันของคนนั้นๆได้…
จุดประสงค์ของเราก็คือเราอยากจะแชร์เรื่องราวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ให้ใช้สติ ให้คิด ก่อนจะรักใครสักคนหนึ่ง….เพราะถ้าวันหนึ่งความรักมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เราวาดฝันไว้…..อย่างน้อยคุณจะได้มีสติในการรับมือกับความเจ็บปวด และจะได้รู้ว่า “ การเจ็บปวดจากความรัก มันมาได้ทุกรูปแบบ ทุกเวลา และทุกเพศ” จริงๆ…..
ย้อนกลับไปเมื่อ2ปีก่อน ตอนนั้นเราอยู่ยังอยู่ในช่วงปี 1 เป็นช่วงที่วัยกำลังระเริงเลยค่ะ ตอนนั้นเรากำลังอกหักจากคนๆหนึ่งอยู่ นอนเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย เพราะอยู่ๆก็ถูกบอกเลิกโดยไม่ทันตั้งตัว…..รู้สึกท้อแท้ อ่อนแอ แพ้พ่าย รู้สึกเข็ดขยาดและกลัวในความรักอย่างมาก คิดไว้ว่าต่อไปนี้จะไม่รักใครอีกแล้ว…..และก็เอา ID Line ไปโพสท์ไว้หน้าวอลล์เฟสบบุ๊ค (เหมือนประชดชีวิต) บอกก่อนว่าปกติเราจะตั้งเฟสบุ๊คให้เป็น Privacy ซึ่งคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันก็จะไม่สามารถกดแอดเรามาได้ แต่คราวนี้เราเปลี่ยนมาตั้งเป็น Public และถ้าใครที่ไม่รู้จักแล้วแอดเรามา เราก็จะสามารถเห็นข้อมูลต่างๆ ของเรา เห็นโพสท์จากหน้าวอลล์ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้รู้จักกับคนๆนึง….ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งแอดเราเข้ามา หน้าตาน่ารักดี เราก็นั่งดูเฟสพี่เค้าอยู่นานมาก ดูไปได้สักพักเลยกดรับ…… ก็แค่กดรับ ไม่ได้ไปเม้นอะไร แต่เราก็แอบเข้าไปส่องรูปพี่เค้า คือก็อยากรู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน……ดูไปสักพักก็รู้แล้วว่า เป็นเฟสปลอม…..ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่กี่วัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะสมองมันยังเบลอกับอาการอกหักอยู่…..นอนเคว้งคว้างคนเดียวในห้อง สมองว่างปล่าว หัวใจว่างปล่าวคิดอะไรไม่ออก รู้สึกแสบกระเพาะมาก เพราะยังไม่ได้กินข้าวเลย (จริงๆก็พยายามกินแล้วนะ แต่มันกินไม่ลงอ่ะ )ตอนนี้อยากมีใครก็ได้สักคนมาปลอบใจ แต่ก็คงได้แค่คิด…..เพราะไม่กล้าจะเปิดใจให้ใครอีกแล้ว…นั่งฟังเพลงเศร้า นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย..สักพัก ได้ยินเสียง Line ก็ดัง “ตี๊--ดึ่งงงงงง” ด้วยความเคยชิน จึงหยิบมันขึ้นมาดู…….สิ่งที่เราเห็นคือ มีคนแอดเรามา ซึ่งก็คือพี่ผู้หญิงคนนั้นในเฟสบุ๊ค……ในใจก็คิดว่า เค้าแอดมาทำไมวะ หรือว่าจะมาหลอกขายยาลดน้ำหนัก หรืออะไรยังไง 5555+ ตอนนั้นสมง สมองไปหมดละ ไม่ไว้ใจใครเลย นอกจากตัวเอง……แต่เราก็เลือกที่จะกดรับแอดพี่เค้า และก็ทักไปตามมารยาท มีการพูดคุยกัน…….
เรา : หวัดดีค่ะ ใช่พี่คนที่แอดเฟสหนูมาป่ะคะ
พี่คนนั้น : ค่ะ หวัดดีค่ะ เป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไม๊
เรา : เอ่อออ อะไรดีคะ
พี่คนนั้น : อาการอกหักไง เป็นไงบ้าง
เรา : ไม่ดีขึ้นค่ะ มีแต่หนักกว่าเดิม รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเจ็บตรงหัวใจแปล๊บๆ
พี่คนนั้น : เจ็บปวดได้นะคะ แต่ต้องแป๊ปเดียว ต้องไม่ฟูมฟายมากมาย เราต้องรักตัวเองนะ พี่เป็นห่วงนะคะ ดูแลตัวเองดีๆ
เรา : ลุกพรวดดดจากที่นอน …..พยายามเพ่งตาอ่านข้อความอย่างจริงจัง……. ทำไมพี่เค้าบอกว่าห่วงเรา พี่เค้าเป็นใคร (แว๊บนึงที่คิด ใช่แฟนเก่าแอบมาหลอกถามเราหรือปล่าว?? ) ….เรายังคงถามกลับไปว่า
เรา : “พี่เป็นใครหรอ เอา Line หนูมาจากไหน แล้ว….เอิ่มม เราเคยรู้จักกันหรอคะ ?”
พี่คนนั้น “ เราไม่รู้จักกันหรอก พี่ก็เห็นน้องในเฟสบุ๊ค แล้วแปะID ไลน์เอาไว้ พี่เห็นโพสในเฟสว่าอกหัก บลาๆๆๆ พี่ก็เป็นห่วง ไม่อยากให้เราคิดมาก เลยแอดมาคุยเป็นเพื่อน
เรา : อ่อค่ะ ขอบคุณนะคะ แล้วพี่ชื่อไรอ่ะค่ะ
พี่คนนั้น : พี่ชื่อ……..ค่ะ เดี๋ยวมาคุยใหม่นะ พี่ไปทำงานแป๊ปนึงนะคะ ว่างแล้วจะทักมาใหม่ อย่าคิดมากหล่ะเรา
เรา : อ่อ….ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
สิ้นสุดบทสนทนา……เราก็ได้แต่ทอดกายที่แหลกสลายลงบนที่นอน ตอนนี้สับสนและก็ปวดหัวมาก คิดสลับไปมา ทั้งเรื่องแฟนเก่า และก็เรื่องพี่คนเมื่อกี๊ เค้าเป็นใครกันนะ….ทำไมดูเป็นห่วงเราจัง…..คิดไปต่างๆ นานาๆ รู้สึกเศร้าและเหงาอย่างบอกไม่ถูก ร้องไห้จนเหนื่อยและก็หลับไป…….
จนเวลาเที่ยงคืนกว่า…..
“ตี๊--ดึ่งงงงงง”” เสียงข้อความจาก Line เราดังขึ้น…..แอบตกใจตัวเองเล็กน้อย นี่เรานอนหลับไปทั้งๆที่มือยังกำโทรศัพท์อยู่เลยหรอ….รู้สึกสมเพสตัวเองจัง T^T เราหยิบโทรศัพท์มาดู…..ในใจขอให้เป็นข้อความจากแฟนเก่า…แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ แต่เป็นข้อความของพี่คนนั้น ส่งรูปกาแฟไข่มุกมาให้เรา แล้วบอกว่า…
พี่คนนั้น : นี่ดูสิ ร้านกาแฟเจ้าประจำพี่ อร่อยมากเลยนะ ไม่หวานมาก กินแล้วสดชื่นมากเลย พี่อยากให้หนูได้มาลองชิมดูนะ หรือถ้าว่างๆ พี่จะซื้อไปฝาก เคไม๊….^^
เรา : อ่อค่ะ….ได้ค่ะ ว่าแต่ว่า….พี่กลับบ้านยังคะ นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว
พี่คนนั้น : ยังไม่เลิกงานเลย เลิกตีสองโน่นแหล่ะค่ะ ตอนนี้ยังมีงานให้เคลียร์เพียบเลย
เรา : พี่ทำงานอะไรอ่ะคะ ทำไมถึงยังไม่เลิกงาน หนูถามได้ป่าว ?
พี่คนนั้น : ไม่ได้ตอบอะไร แต่ส่งรูปถ่ายของพี่เค้า ตอนใส่ชุดทำงานมาให้ดู แต่เราไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยตอนนี้ปวดหัวอย่างแรง อยากแต่จะนอนหลับๆ ให้มันลืมๆไป…..คุยกับพี่เค้าทาง Line นานมากก (ลืมบอกไปว่า พี่เค้าอายุ 34 ปี ส่วนเรา อายุ 20ปี) เราสองคนก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย พี่เค้าก็ชวนเราพูดเรื่องขำๆ เพื่อให้เราหายเหงาและลืมเรื่องราวเก่าๆ……พิมพ์ Line คุยกันมาตลอดตั้งแต่ที่ทำงานพี่เค้าจนถึงที่บ้าน และก็บอกลา Good Night ไปตามประสา…..ส่วนเราก็พักผ่อน และจัดพาราไปสองเม็ด เพราะว่ายังคงมีอาการปวดหัวอยู่ ผลก็คงมาจากการร้องไห้หนักติดต่อกัน 3-4 วัน…. ทำให้เราหลับยาวข้ามวันข้ามคืน……ตื่นมาอีกที ฟ้าก็มืดตึ๊ดตื๋อไปหมดเลย มองดูนาฬิกา ก็ปาเข้าไปจะสองทุ่มแล้ว เหลือบดูมิสคอลในมือถือ ก็ตกใจปนงง ไม่รู้ใครต่อใครที่โทรเข้ามาเกือบ จะ 60 สาย ไล่ดูชื่อเรื่อยๆ ก็มีทั้ง พ่อ แม่ เพื่อน อาจารย์ และก็น้องชาย……ไล่ดูรายชื่อ Miss Called ได้ไม่เท่าไหร่ น้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทางอีกแล้ว…..ทำไมไม่เห็นมีเบอร์แฟนเก่าโทรเข้ามาเลย…..หรือเค้าจะลืมเราไปแล้วจริงๆ….. นั่งคิดอะไรไปเรื่อย เป็นเรื่องเป็นราว ปวดหัว ปวดคอ แสบท้อง เพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พยายามพาร่างตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลผ่านหัว พยายามลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้น พยายามทำใจให้เรื่องราวร้ายๆมันผ่านไป…นึกถึงพ่อ แม่ เพื่อน อาจารย์ที่มหาลัย และนึกถึงอนาคตตัวเอง……….และสุดท้าย เราก็ทำได้……ลืมเรื่องทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น (ถึงแม้บางทีมันจะเจ็บแป๊บๆ จี๊ดๆบ้างก็ตาม)……เริ่มทำตัวใหม่ เป็นคนใหม่ สดใส ไฉไลกว่าเดิม 55555+ และก็เปิดใจให้คนใหม่ๆเข้ามา
ณ ช่วงเวลานี้เราและพี่คนนั้น มีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เรา Line หากันบ่อยขึ้น มีการถ่ายรูปและส่งให้ดูเป็นระยะๆ…ว่าใครทำอะไร อยู่ที่ไหน ทานข้าวหรือยัง คือเราและพี่เค้าจะ Line มาหาเราอยู่ตลอดเวลา…..ทำแบบนี้อยู่ทุกวัน จนวันหนึ่งเราได้แลกเบอร์โทรกัน และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไป…….จนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่เราแลกเบอร์โทรกัน พี่เค้าจะโทรหาเราอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะก่อนนอน ก่อนพี่เค้าจะไปทำงาน หรือแม้กระทั่งตอนที่พี่เค้าทำงานอยู่ ก็ยังโทรมาหาเรา พยายามพูดคุยกับเรา ให้เราลืมเรื่องราวเก่าๆ ชวนเราคุยเรื่องขำ และก็เล่าเรื่องการทำงานของพี่เค้าให้เราฟัง……เราคุยกันทางโทรศัพท์มาได้สักพัก……จนวันหนึ่งพี่เค้านัดเจอเรา…..เราก็ออกไปเจอ ซึ่งสถานที่เรานัดเจอก็ไม่ไกลจากบ้านเรามาก เราก็ออกไปเจอพี่เค้า สิ่งแรกที่ทำให้เราชะงักไปนิดหนึ่งคือ …..พี่เค้าดูไม่เหมือนเลสเลย….ดูบอบบาง ดูอ่อนโยนกว่าที่คิด …..เราก็ได้แต่คิดนั่นแหล่ะ ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ……รองสองคนนั่งอยู่บนรถ พี่เค้าก็ถามเราว่า จะดูหนังไหม เราก็บอกไปว่า ดูอะไรก็ได้ พาไปไหนก็ได้ (แลดูใจง่ายเนอะ 5555+ คือเราไม่ได้กลัวอะไรแล้วแหล่ะ อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด ) สรุปพี่เค้าเลยพาเราไปดูหนัง……ระหว่างที่เราดูหนังด้วยกัน เราก็นั่งจับมือกันตลอดเวลา บางครั้งก็สบตากันบ้าง บอกตรงๆนะว่าเขินมาก สมองก็คิดสลับไปมา หลายอย่าง คิดไปเรื่อยเปื่อย คิดว่าพี่เค้าชอบผู้หญิงด้วยกันจริงๆหรอ พี่เค้าจะโสดจริงไม๊น้า พี่เค้าชอบเราหรอ คิดเป็นเรื่องเป็นราวเลย จนกระทั่งหนังจบ……แต่อารมณ์เราสองคนมันไม่จบหน่ะสิ และก็………....ตามสเต็ป
เราชวนพี่เค้าขึ้นมาบนห้อง เพราะฝนตกหนักมาก ไม่อยากให้พี่เค้าขับรถฝ่าฝนไป กลัวจะเกิดอันตรายกับพี่เค้า ( คิดเอง เออเองตลอด ) …เรานั่งอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสอง…มองหน้ากันไป มองหน้ากันมา….…และสุดท้ายเราก็ทำในสิ่งที่ใจเราอยากจะทำ…(ทำอะไร ให้ไปคิดเอาเองค่ะ 5555+ ) … ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ พี่เค้าก็รีบขับรถกลับบ้าน ก่อนกลับก็ยังมีการจุ๊บแก้มเราก่อนกลับด้วย……ความรู้สึกตอนนี้เหมือนร่างกายมันเป็นสีชมพู ความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่…….รู้สึกหลงรักพี่เค้าอย่างแรง……แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก คิดว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เค้าก็คงหายไป……พี่เค้าอาจจะแค่เหงาก็ได้มั้ง……พยายามปลอบใจตัวเอง และได้แต่ทำใจ……เพราะสุดท้ายก็คงโดนทิ้งเหมือนเดิม…. (กลับสู่บทพารานอยด์)
ส่วนเราก็หลับยาวเพราะร่างกายเหนื่อยล้าหมดแรง……ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะบ่ายสาม (ดีที่วันนี้เป็นวันหยุด) ตื่นมาอันดับแรกก็ดูมือถือก่อนเลย…..ไม่เห็นมีใครทักมาใน Line สักคน เงียบเป็นเป่าสาก Line เงียบสงัดมาก ส่วนไอ้ที่เรา Line ไปหาพี่เค้าตั้งแต่เมื่อคืน พี่เค้าก็ได้แต่อ่าน แต่ไม่ตอบ…… เริ่มใจคอไม่ดีแล้ว เริ่มรู้สึกเหมือนโลกมันจะพังมาอีกรอบ….หรือว่าพี่เค้าจะทิ้งเราไปแล้ว ?? ไม่หรอกมั้ง พี่เค้าไม่น่าจะใจร้ายขนาดนั้น แต่เราก็ไม่รอช้านะ ทักLine ไปหาพี่เค้าอีกครั้ง…..
เรา : คิดถึงนะคะ พี่เป็นไงบ้าง วันนี้ทำงานไม๊คะ ?
พี่คนนั้น : (อ่านข้อความแล้ว แต่ไม่ตอบ)
เรา : (ใจคอไม่ดีแล้ว แต่พยายามนิ่งเข้าไว้ ) พี่เป็นอะไรหรอคะ ไม่ว่างหรอ ทำงานอยู่ใช่ม๊า งั้นหนูไม่กวนแล้วนะคะ ถ้าว่างก็ทักมานะ คิดถึงนะคะ บายๆๆ
พี่คนนั้น : ค่ะ…..เดี๋ยวพี่ทักกลับไปนะคะ
เรา : ค่ะ (ใจชื้นขึ้นมาหน่อย ค่อยยังชั่ว )
พักหลังมานี้ เราสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิม……คุยด้วยกันทุกวัน ไปทานข้าวด้วยกันตลอด โทรหากันทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นก่อนนอน หรือตอนนอน เหมือนพี่เค้าเป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว พูดได้เต็มปากเลยว่ารักหมดหัวใจไปแล้ว จริงๆก็ไม่ชอบอาการแบบนี้นะ แต่จะให้ทำไงได้….ถ้ามันรักไปแล้ว เราก็จะรักไปให้ถึงที่สุด อะไรจะเกิด ก็จะให้มันเกิด….. ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ที่เราคบกัน พี่เค้าจะไม่เคยเล่าเรื่องของเราให้เพื่อนเค้าฟังเลย มีแต่เราที่มีอะไรก็จะเล่าและเอาไปปรึกษาเพื่อนที่มหาลัย…..บางครั้งพี่เค้าก็จะมาหาเราที่มหาลัย มาช่วยทำรายงาน และก็มารับเราไปทานข้าวบ้างเวลาที่เรามีเวลาพัก 2-3 ชั่วโมง……กิจกรรมที่เรากับเค้าจะทำด้วยกัน ส่วนมากก็จะไปทานข้าวตามร้านอาหาร ไปดูหนัง นั่งเล่นกันบนรถ (พี่เค้าไม่เคยพาเราเข้าบ้าน ส่วนเราก็ไม่กล้าพาเข้าบ้านเช่นกัน เพราะเราไม่ได้เปิดเผยกับที่บ้าน) และบ่อยครั้ง ก็จะจบลงที่ห้อง……..ของเรา
ปล. เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะคะ..พอดีมันจำกัดตัวอักษร แต่ถ้ามีคนอยากติดตาม จะมาพิมพ์ต่อเรื่อยๆค่ะ.... ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าเลย (ถ้าหากตั้งกระทู้ผิดที่ ผิดทางไป ยังไงก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ )
ผิดไหมที่เราเป็น ญ รัก ญ ..... 9 เดือน หรือจะสู้ 9 ปี มันถูกที่แต่ผิดเวลาใช่ไหม ?
เราผิดด้วยหรอ ที่ความรักของเรา ไม่ใช่ความรักระหว่าง หญิงกับชาย แต่เป็นความรักระหว่าง หญิงกับหญิง....เป็นเรื่องราวความรัก ที่ไม่เคยคิดว่าเราจะต้องมาเจอกับตัวเอง….นึกถึงเรื่องเก่าๆทีไรก็ยังคงเหมือนฝันร้ายอยู่ทุกๆวัน….ความรักของเราภายนอกมันสวยหรูมาก แต่ความจริงแล้ว ภายในมีแต่ความปวดร้าว และในการตั้งกระทู้ของเรา จะไม่มีการระบุชื่อบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันของคนนั้นๆได้…
จุดประสงค์ของเราก็คือเราอยากจะแชร์เรื่องราวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ให้ใช้สติ ให้คิด ก่อนจะรักใครสักคนหนึ่ง….เพราะถ้าวันหนึ่งความรักมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เราวาดฝันไว้…..อย่างน้อยคุณจะได้มีสติในการรับมือกับความเจ็บปวด และจะได้รู้ว่า “ การเจ็บปวดจากความรัก มันมาได้ทุกรูปแบบ ทุกเวลา และทุกเพศ” จริงๆ…..
ย้อนกลับไปเมื่อ2ปีก่อน ตอนนั้นเราอยู่ยังอยู่ในช่วงปี 1 เป็นช่วงที่วัยกำลังระเริงเลยค่ะ ตอนนั้นเรากำลังอกหักจากคนๆหนึ่งอยู่ นอนเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย เพราะอยู่ๆก็ถูกบอกเลิกโดยไม่ทันตั้งตัว…..รู้สึกท้อแท้ อ่อนแอ แพ้พ่าย รู้สึกเข็ดขยาดและกลัวในความรักอย่างมาก คิดไว้ว่าต่อไปนี้จะไม่รักใครอีกแล้ว…..และก็เอา ID Line ไปโพสท์ไว้หน้าวอลล์เฟสบบุ๊ค (เหมือนประชดชีวิต) บอกก่อนว่าปกติเราจะตั้งเฟสบุ๊คให้เป็น Privacy ซึ่งคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันก็จะไม่สามารถกดแอดเรามาได้ แต่คราวนี้เราเปลี่ยนมาตั้งเป็น Public และถ้าใครที่ไม่รู้จักแล้วแอดเรามา เราก็จะสามารถเห็นข้อมูลต่างๆ ของเรา เห็นโพสท์จากหน้าวอลล์ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้รู้จักกับคนๆนึง….ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งแอดเราเข้ามา หน้าตาน่ารักดี เราก็นั่งดูเฟสพี่เค้าอยู่นานมาก ดูไปได้สักพักเลยกดรับ…… ก็แค่กดรับ ไม่ได้ไปเม้นอะไร แต่เราก็แอบเข้าไปส่องรูปพี่เค้า คือก็อยากรู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน……ดูไปสักพักก็รู้แล้วว่า เป็นเฟสปลอม…..ที่เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่กี่วัน แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะสมองมันยังเบลอกับอาการอกหักอยู่…..นอนเคว้งคว้างคนเดียวในห้อง สมองว่างปล่าว หัวใจว่างปล่าวคิดอะไรไม่ออก รู้สึกแสบกระเพาะมาก เพราะยังไม่ได้กินข้าวเลย (จริงๆก็พยายามกินแล้วนะ แต่มันกินไม่ลงอ่ะ )ตอนนี้อยากมีใครก็ได้สักคนมาปลอบใจ แต่ก็คงได้แค่คิด…..เพราะไม่กล้าจะเปิดใจให้ใครอีกแล้ว…นั่งฟังเพลงเศร้า นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย..สักพัก ได้ยินเสียง Line ก็ดัง “ตี๊--ดึ่งงงงงง” ด้วยความเคยชิน จึงหยิบมันขึ้นมาดู…….สิ่งที่เราเห็นคือ มีคนแอดเรามา ซึ่งก็คือพี่ผู้หญิงคนนั้นในเฟสบุ๊ค……ในใจก็คิดว่า เค้าแอดมาทำไมวะ หรือว่าจะมาหลอกขายยาลดน้ำหนัก หรืออะไรยังไง 5555+ ตอนนั้นสมง สมองไปหมดละ ไม่ไว้ใจใครเลย นอกจากตัวเอง……แต่เราก็เลือกที่จะกดรับแอดพี่เค้า และก็ทักไปตามมารยาท มีการพูดคุยกัน…….
เรา : หวัดดีค่ะ ใช่พี่คนที่แอดเฟสหนูมาป่ะคะ
พี่คนนั้น : ค่ะ หวัดดีค่ะ เป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไม๊
เรา : เอ่อออ อะไรดีคะ
พี่คนนั้น : อาการอกหักไง เป็นไงบ้าง
เรา : ไม่ดีขึ้นค่ะ มีแต่หนักกว่าเดิม รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเจ็บตรงหัวใจแปล๊บๆ
พี่คนนั้น : เจ็บปวดได้นะคะ แต่ต้องแป๊ปเดียว ต้องไม่ฟูมฟายมากมาย เราต้องรักตัวเองนะ พี่เป็นห่วงนะคะ ดูแลตัวเองดีๆ
เรา : ลุกพรวดดดจากที่นอน …..พยายามเพ่งตาอ่านข้อความอย่างจริงจัง……. ทำไมพี่เค้าบอกว่าห่วงเรา พี่เค้าเป็นใคร (แว๊บนึงที่คิด ใช่แฟนเก่าแอบมาหลอกถามเราหรือปล่าว?? ) ….เรายังคงถามกลับไปว่า
เรา : “พี่เป็นใครหรอ เอา Line หนูมาจากไหน แล้ว….เอิ่มม เราเคยรู้จักกันหรอคะ ?”
พี่คนนั้น “ เราไม่รู้จักกันหรอก พี่ก็เห็นน้องในเฟสบุ๊ค แล้วแปะID ไลน์เอาไว้ พี่เห็นโพสในเฟสว่าอกหัก บลาๆๆๆ พี่ก็เป็นห่วง ไม่อยากให้เราคิดมาก เลยแอดมาคุยเป็นเพื่อน
เรา : อ่อค่ะ ขอบคุณนะคะ แล้วพี่ชื่อไรอ่ะค่ะ
พี่คนนั้น : พี่ชื่อ……..ค่ะ เดี๋ยวมาคุยใหม่นะ พี่ไปทำงานแป๊ปนึงนะคะ ว่างแล้วจะทักมาใหม่ อย่าคิดมากหล่ะเรา
เรา : อ่อ….ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
สิ้นสุดบทสนทนา……เราก็ได้แต่ทอดกายที่แหลกสลายลงบนที่นอน ตอนนี้สับสนและก็ปวดหัวมาก คิดสลับไปมา ทั้งเรื่องแฟนเก่า และก็เรื่องพี่คนเมื่อกี๊ เค้าเป็นใครกันนะ….ทำไมดูเป็นห่วงเราจัง…..คิดไปต่างๆ นานาๆ รู้สึกเศร้าและเหงาอย่างบอกไม่ถูก ร้องไห้จนเหนื่อยและก็หลับไป…….
จนเวลาเที่ยงคืนกว่า…..
“ตี๊--ดึ่งงงงงง”” เสียงข้อความจาก Line เราดังขึ้น…..แอบตกใจตัวเองเล็กน้อย นี่เรานอนหลับไปทั้งๆที่มือยังกำโทรศัพท์อยู่เลยหรอ….รู้สึกสมเพสตัวเองจัง T^T เราหยิบโทรศัพท์มาดู…..ในใจขอให้เป็นข้อความจากแฟนเก่า…แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ แต่เป็นข้อความของพี่คนนั้น ส่งรูปกาแฟไข่มุกมาให้เรา แล้วบอกว่า…
พี่คนนั้น : นี่ดูสิ ร้านกาแฟเจ้าประจำพี่ อร่อยมากเลยนะ ไม่หวานมาก กินแล้วสดชื่นมากเลย พี่อยากให้หนูได้มาลองชิมดูนะ หรือถ้าว่างๆ พี่จะซื้อไปฝาก เคไม๊….^^
เรา : อ่อค่ะ….ได้ค่ะ ว่าแต่ว่า….พี่กลับบ้านยังคะ นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว
พี่คนนั้น : ยังไม่เลิกงานเลย เลิกตีสองโน่นแหล่ะค่ะ ตอนนี้ยังมีงานให้เคลียร์เพียบเลย
เรา : พี่ทำงานอะไรอ่ะคะ ทำไมถึงยังไม่เลิกงาน หนูถามได้ป่าว ?
พี่คนนั้น : ไม่ได้ตอบอะไร แต่ส่งรูปถ่ายของพี่เค้า ตอนใส่ชุดทำงานมาให้ดู แต่เราไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยตอนนี้ปวดหัวอย่างแรง อยากแต่จะนอนหลับๆ ให้มันลืมๆไป…..คุยกับพี่เค้าทาง Line นานมากก (ลืมบอกไปว่า พี่เค้าอายุ 34 ปี ส่วนเรา อายุ 20ปี) เราสองคนก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย พี่เค้าก็ชวนเราพูดเรื่องขำๆ เพื่อให้เราหายเหงาและลืมเรื่องราวเก่าๆ……พิมพ์ Line คุยกันมาตลอดตั้งแต่ที่ทำงานพี่เค้าจนถึงที่บ้าน และก็บอกลา Good Night ไปตามประสา…..ส่วนเราก็พักผ่อน และจัดพาราไปสองเม็ด เพราะว่ายังคงมีอาการปวดหัวอยู่ ผลก็คงมาจากการร้องไห้หนักติดต่อกัน 3-4 วัน…. ทำให้เราหลับยาวข้ามวันข้ามคืน……ตื่นมาอีกที ฟ้าก็มืดตึ๊ดตื๋อไปหมดเลย มองดูนาฬิกา ก็ปาเข้าไปจะสองทุ่มแล้ว เหลือบดูมิสคอลในมือถือ ก็ตกใจปนงง ไม่รู้ใครต่อใครที่โทรเข้ามาเกือบ จะ 60 สาย ไล่ดูชื่อเรื่อยๆ ก็มีทั้ง พ่อ แม่ เพื่อน อาจารย์ และก็น้องชาย……ไล่ดูรายชื่อ Miss Called ได้ไม่เท่าไหร่ น้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทางอีกแล้ว…..ทำไมไม่เห็นมีเบอร์แฟนเก่าโทรเข้ามาเลย…..หรือเค้าจะลืมเราไปแล้วจริงๆ….. นั่งคิดอะไรไปเรื่อย เป็นเรื่องเป็นราว ปวดหัว ปวดคอ แสบท้อง เพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พยายามพาร่างตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลผ่านหัว พยายามลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้น พยายามทำใจให้เรื่องราวร้ายๆมันผ่านไป…นึกถึงพ่อ แม่ เพื่อน อาจารย์ที่มหาลัย และนึกถึงอนาคตตัวเอง……….และสุดท้าย เราก็ทำได้……ลืมเรื่องทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น (ถึงแม้บางทีมันจะเจ็บแป๊บๆ จี๊ดๆบ้างก็ตาม)……เริ่มทำตัวใหม่ เป็นคนใหม่ สดใส ไฉไลกว่าเดิม 55555+ และก็เปิดใจให้คนใหม่ๆเข้ามา
ณ ช่วงเวลานี้เราและพี่คนนั้น มีความสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เรา Line หากันบ่อยขึ้น มีการถ่ายรูปและส่งให้ดูเป็นระยะๆ…ว่าใครทำอะไร อยู่ที่ไหน ทานข้าวหรือยัง คือเราและพี่เค้าจะ Line มาหาเราอยู่ตลอดเวลา…..ทำแบบนี้อยู่ทุกวัน จนวันหนึ่งเราได้แลกเบอร์โทรกัน และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไป…….จนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่เราแลกเบอร์โทรกัน พี่เค้าจะโทรหาเราอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะก่อนนอน ก่อนพี่เค้าจะไปทำงาน หรือแม้กระทั่งตอนที่พี่เค้าทำงานอยู่ ก็ยังโทรมาหาเรา พยายามพูดคุยกับเรา ให้เราลืมเรื่องราวเก่าๆ ชวนเราคุยเรื่องขำ และก็เล่าเรื่องการทำงานของพี่เค้าให้เราฟัง……เราคุยกันทางโทรศัพท์มาได้สักพัก……จนวันหนึ่งพี่เค้านัดเจอเรา…..เราก็ออกไปเจอ ซึ่งสถานที่เรานัดเจอก็ไม่ไกลจากบ้านเรามาก เราก็ออกไปเจอพี่เค้า สิ่งแรกที่ทำให้เราชะงักไปนิดหนึ่งคือ …..พี่เค้าดูไม่เหมือนเลสเลย….ดูบอบบาง ดูอ่อนโยนกว่าที่คิด …..เราก็ได้แต่คิดนั่นแหล่ะ ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ……รองสองคนนั่งอยู่บนรถ พี่เค้าก็ถามเราว่า จะดูหนังไหม เราก็บอกไปว่า ดูอะไรก็ได้ พาไปไหนก็ได้ (แลดูใจง่ายเนอะ 5555+ คือเราไม่ได้กลัวอะไรแล้วแหล่ะ อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด ) สรุปพี่เค้าเลยพาเราไปดูหนัง……ระหว่างที่เราดูหนังด้วยกัน เราก็นั่งจับมือกันตลอดเวลา บางครั้งก็สบตากันบ้าง บอกตรงๆนะว่าเขินมาก สมองก็คิดสลับไปมา หลายอย่าง คิดไปเรื่อยเปื่อย คิดว่าพี่เค้าชอบผู้หญิงด้วยกันจริงๆหรอ พี่เค้าจะโสดจริงไม๊น้า พี่เค้าชอบเราหรอ คิดเป็นเรื่องเป็นราวเลย จนกระทั่งหนังจบ……แต่อารมณ์เราสองคนมันไม่จบหน่ะสิ และก็………....ตามสเต็ป
เราชวนพี่เค้าขึ้นมาบนห้อง เพราะฝนตกหนักมาก ไม่อยากให้พี่เค้าขับรถฝ่าฝนไป กลัวจะเกิดอันตรายกับพี่เค้า ( คิดเอง เออเองตลอด ) …เรานั่งอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสอง…มองหน้ากันไป มองหน้ากันมา….…และสุดท้ายเราก็ทำในสิ่งที่ใจเราอยากจะทำ…(ทำอะไร ให้ไปคิดเอาเองค่ะ 5555+ ) … ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ พี่เค้าก็รีบขับรถกลับบ้าน ก่อนกลับก็ยังมีการจุ๊บแก้มเราก่อนกลับด้วย……ความรู้สึกตอนนี้เหมือนร่างกายมันเป็นสีชมพู ความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่…….รู้สึกหลงรักพี่เค้าอย่างแรง……แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก คิดว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เค้าก็คงหายไป……พี่เค้าอาจจะแค่เหงาก็ได้มั้ง……พยายามปลอบใจตัวเอง และได้แต่ทำใจ……เพราะสุดท้ายก็คงโดนทิ้งเหมือนเดิม…. (กลับสู่บทพารานอยด์)
ส่วนเราก็หลับยาวเพราะร่างกายเหนื่อยล้าหมดแรง……ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะบ่ายสาม (ดีที่วันนี้เป็นวันหยุด) ตื่นมาอันดับแรกก็ดูมือถือก่อนเลย…..ไม่เห็นมีใครทักมาใน Line สักคน เงียบเป็นเป่าสาก Line เงียบสงัดมาก ส่วนไอ้ที่เรา Line ไปหาพี่เค้าตั้งแต่เมื่อคืน พี่เค้าก็ได้แต่อ่าน แต่ไม่ตอบ…… เริ่มใจคอไม่ดีแล้ว เริ่มรู้สึกเหมือนโลกมันจะพังมาอีกรอบ….หรือว่าพี่เค้าจะทิ้งเราไปแล้ว ?? ไม่หรอกมั้ง พี่เค้าไม่น่าจะใจร้ายขนาดนั้น แต่เราก็ไม่รอช้านะ ทักLine ไปหาพี่เค้าอีกครั้ง…..
เรา : คิดถึงนะคะ พี่เป็นไงบ้าง วันนี้ทำงานไม๊คะ ?
พี่คนนั้น : (อ่านข้อความแล้ว แต่ไม่ตอบ)
เรา : (ใจคอไม่ดีแล้ว แต่พยายามนิ่งเข้าไว้ ) พี่เป็นอะไรหรอคะ ไม่ว่างหรอ ทำงานอยู่ใช่ม๊า งั้นหนูไม่กวนแล้วนะคะ ถ้าว่างก็ทักมานะ คิดถึงนะคะ บายๆๆ
พี่คนนั้น : ค่ะ…..เดี๋ยวพี่ทักกลับไปนะคะ
เรา : ค่ะ (ใจชื้นขึ้นมาหน่อย ค่อยยังชั่ว )
พักหลังมานี้ เราสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิม……คุยด้วยกันทุกวัน ไปทานข้าวด้วยกันตลอด โทรหากันทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นก่อนนอน หรือตอนนอน เหมือนพี่เค้าเป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว พูดได้เต็มปากเลยว่ารักหมดหัวใจไปแล้ว จริงๆก็ไม่ชอบอาการแบบนี้นะ แต่จะให้ทำไงได้….ถ้ามันรักไปแล้ว เราก็จะรักไปให้ถึงที่สุด อะไรจะเกิด ก็จะให้มันเกิด….. ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ที่เราคบกัน พี่เค้าจะไม่เคยเล่าเรื่องของเราให้เพื่อนเค้าฟังเลย มีแต่เราที่มีอะไรก็จะเล่าและเอาไปปรึกษาเพื่อนที่มหาลัย…..บางครั้งพี่เค้าก็จะมาหาเราที่มหาลัย มาช่วยทำรายงาน และก็มารับเราไปทานข้าวบ้างเวลาที่เรามีเวลาพัก 2-3 ชั่วโมง……กิจกรรมที่เรากับเค้าจะทำด้วยกัน ส่วนมากก็จะไปทานข้าวตามร้านอาหาร ไปดูหนัง นั่งเล่นกันบนรถ (พี่เค้าไม่เคยพาเราเข้าบ้าน ส่วนเราก็ไม่กล้าพาเข้าบ้านเช่นกัน เพราะเราไม่ได้เปิดเผยกับที่บ้าน) และบ่อยครั้ง ก็จะจบลงที่ห้อง……..ของเรา
ปล. เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะคะ..พอดีมันจำกัดตัวอักษร แต่ถ้ามีคนอยากติดตาม จะมาพิมพ์ต่อเรื่อยๆค่ะ.... ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าเลย (ถ้าหากตั้งกระทู้ผิดที่ ผิดทางไป ยังไงก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ )