แชร์ประสบการณ์การซื้อ iPhone 6+ 64 GB จากร้านตู้แห่งหนึ่งใน MBK ครับ!! (ภาพประกอบโหดนะครับ)

กระทู้ข่าว
ก่อนอื่นผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับ ว่าผมไม่ใช่ม้า เพราะผมจะไม่บอกว่าผมไปซื้อมาจากร้านไหน หรือตู้ไหน และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ด้วยนะครับ เพราะผมเพิ่งมาตั้งเป็นกระทู้แรก เพื่ออยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆฟังกันครับ

ป.ล. เหตุผลที่ผมยอมเสียเงินมากกว่า เพื่อซื้อจากร้านตู้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากการที่ผมอยากได้ iPhone 6+ อยู่นาน ในช่วงแรกๆที่ออกมา ผมก็เล็งตัว Top ไว้เลย คือ 6+ 128 GB ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ผมก็เริ่ม Walk-IN ตามหาของเลยครับ เริ่มหาจากทั้ง Central รัตนา แล้วย้อนกลับไป Central แจ้ง สรุป ทั้งค่าย 3 สี ทั้ง iStudio ไม่มีของที่ผมต้องการเลย (เหลือแต่ 16 G มันน้อยเกินไปครับสำหรับผม เพราะได้ยินเพื่อนบอกมาว่า ลง OS ก็ล่อไปจะ 8 GB แล้วว่างั้น)

สรุปแห้วกินครับ วันนั้นทั้งวันได้แต่จับ ของโชว์ในร้านสะงั้น ถอดใจกลับมาบ้าน นอนดีกว่า

##################################################################################################

หลังจากนั้นก็มาศึกษาข้อมูลอยู่เป็นระยะๆ ก็เจอข่าว MLC 128 GB ของ 6+ อีก ผมเลยถอดใจอีกรอบ และเปลี่ยนใจเล็งตัว 64 GB ดีกว่า เพราะเป็นรุ่นที่น่าขะซื้อง่าย ขายคล่อง และไม่โดน MLC ด้วย

หลังจากนั้นก็ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อยๆ อ่านใน Pantip และกระทู้ฝรั่ง ก็ได้รู้ว่าซื้อ iPhone 6 และ 6+ ตอนนี้ อาจจะเจอปุ่มโค-รตหลวม, ปุ่ม Home หลวม หรือกดยาก, Dead Pixel, Bright Pixel, จอเหลือง, กล้องสั่น, ขอบดำหม่น, งานเป็นรอย, สีไม่เนียน, ดับเอง, รีบูตและอื่นๆ

ผมเลยขอสรุปให้ตัวเองสั้นๆว่า ซื้อ iPhone 6 และ 6+ ตอนนี้ เหมือนเสี่ยงดวงชิงโชค ว่าชาติปางก่อน เราทำบุญมาแค่ไหนครับ เพราะเจอขายไม่ดี ก็คงปวดหัวไปตามๆกัน

หลังจากนั้นผมก็เลยเล็งไว้ว่า คงจะสั่งผ่าน Apple Store TH ล่ะครับ ได้ประกันเทพ (ส่วนค่าย 3 สีผมนี่ ขอนำออกจากตัวเลือกเลยนะครับ อ่านกระทู้เพื่อนๆใน Pantip แล้วเสียวสันหลัง)

แต่แล้ว... พระเจ้า.... iPhone 6+ 64 GB เวลา พร้อมจัดส่ง:3 - 4 สัปดาห์.... คือแบบว่างานส่วนตัวของผม ถ้าต้องรอนานขนาดนี้ เจ๊งพอดีครับ ผมเลยตัดสินใจว่า เอาฟระ ยอมเสียเงินมากกว่า ไปหาตามร้านตู้ดีกว่า ถึงจะตู้ ก็ขอตู้แบบ Apple Store TH ล่ะกัน จ่ายแพงกว่าก็ยอม งานมันรอไม่ได้แล้ว...

##################################################################################################

วันที่ 20 พ.ย. 2557 (เมื่อวาน) ผมจึงดิ่งตรงไปที่ MBK ก่อนเลยครับ เพราะคิดว่าร้านตู้ที่นี่ น่าจะมีของเยอะกว่าที่อื่นๆ แล้วก็มุ่งตรงไป ชั้นที่มีตู้ขายโทรศัพท์เยอะๆเลยครับ ชั้น 3 หรือ 4 จำไม่ได้ เพราะผมไม่เคยไป MBK เลย ไปครั้งแรกนี่โค-รต งง บันใดเลื่อนที่ห้างนี้ ทางขึ้น ทางลง มันชอบอยู่คนละที่

ในใจผมมีร้าน ที่เล็งๆไว้ โดยอ่านตามเน็ตที่รีวิวไว้ แล้วก็มุ่งตรงไปร้านเหล่านั้นครับ เดินหลงๆอยู่หลายสิบนาที เพราะหาร้านไม่เจอ สรุปพอเจอร้านตู้ที่เล็งๆไว้ ร้านกับไม่มีของสะงั้น เฟลอีกรอบ...

ผมก็เลยเดินออกมาจากโซนนั้น แล้วก็พูดในใจ ประมาณว่าเรามาไกลถึงขนาดนี้แล้ว ของมันยังไม่มี อะไรมันจะขนาดนี้... หลังจากนั้นมองไปข้างๆก็เห็นร้านๆนึง ที่ดูแล้วเหมือนจะไม่มีของที่ผมต้องการหรอก ร้านเล็กมาก และก็หน้าร้านก็มีแต่โทสับมือ 2...

ไหนๆก็ไหนๆละ เซ็งๆ จะกลับบ้านเลยก็กระไรอยู่ เลยเข้าไปถามเลยครับ ว่า มี iPhone 6+ 64 GB สีทองไหมครับ...
คำตอบที่ได้กลับมานะครับ มี 37,500 น้องจะเอาไหม... (ผมคิดในใจ เหยด... นี่ตูโดนชาต 4,000+ แน่ๆ)

แต่ เนื่องจากผมอยู่เกือบจะต่างจังหวัด นั่งรถๆไปๆกลับๆ ตามหาของแบบนี้ ผมหมดค่ารถนี่หลายพันละคับ เลยคิดในใจว่า โดนชาร์จ 4,000+ แต่ได้ของกลับบ้านก็โอเค เอาว่ะ ลุย!!

ผมก็เลยตอบพี่แกไปว่า ถ้ามีประกับ Apple Store TH ของแท้ โมเดล TH ผมเอาครับ เน้นนะครับพี่เอาของ Apple Store TH ไม่เอาของค่าย 3 สี พี่เขาก็ยืนยันว่า Apple Store ไทยแท้ แน่นอน ผมก็คอนเฟิร์มกลับไปครับ ว่าเอาครับ
(อย่างน้อยเปิดกล่องมา มีรอย มีตำหนิ เครื่องไม่ดี ก็ขอเอากลับไปเคลม Apple Store TH เองละกัน ขี้เกียจจะตามหามันแล้ว เหนื่อยครับ)

หลังจากนั้นก็สักพักพี่แก ก็เดินไปไหนไม่รู้ ไปเอาของมาวางต่อหน้าผม แกะซีลให้ผม ผมก็ดูซีลนะครับ ว่าซีลมีการเนียน ตุกติก เหมือนกระทู้ที่ผ่านๆมาใน Pantip หรือป่าว ดูแล้วก็ซีลแท้ครับ ไม่ใช่ซีลกาวน้ำ เหมือนกระทู้ที่เพื่อนๆดราม่ากันที่ผ่านมา

และหลังจากนั้นผมก็ตรวจสภาพเครื่องโดยรอบ มีฝุ่นค้างตามปุ่มต่างๆนิดหน่อย ตอนแรกผมก็นึกว่าของมีตำหนิ เลยบอกพี่แกไปว่า นี่มันรอยอะไรคับ เขาก็บอก ว่าอ๋อ ฝุ่นน่ะน้อง สักพักแกก็เอาแปรงสีฟัน มาถูๆ ออกให้ ฝุ่นเหล่านั้นมันก็ออกไปจริงๆ สรุปโล่งใจครับ วัสดุภายนอกไม่มีตำหนิใดๆทั้งสิ้น

ต่อมาพี่แกก็ถามผมนะ ว่าติดฟิลม์เลยไหม ผมเลยบอกว่า ยังครับ ขอเช็คในเครื่องก่อน ถ้ามีปัญหาจะได้ส่งเคลมเลย Apple Store เลยไม่อยากติดให้เสียเงิน ถ้าเจอของไม่ดี

##################################################################################################

หลังจากนั้นผมก็ไล่ตรวจสอบตามนี้นะครับ
1. ผมไล่เช็คกล้อง โดยการเริ่มถ่ายภาพน้องของผมที่ติดผมไปด้วย สรุปก็ OK ครับ เปิด HDR แล้วกล้องไม่สั่น แบบในบางรายใน Youtube ปกติดี
2. เช็คการโทรออก โดยการโทรไปหาเพื่อน เสียงก็ได้ยินปกติดีครับ
3. เช็คจอเหลือง ไม่เหลืองครับ
4. เช็ค Dead และ Bright Pixel โดยการเข้าซาฟารี แล้วเช็คจากภาพในเว็บ ปกติดีครับ ไม่มีจุดดำ ไม่มีจุดขาว
5. เช็ค อีมี่ กล่องกับเครื่องตรงกันครับ
6. เช็ค โมเดล รหัส TH ครับ
7. ลองเล่นไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีปันหาครับ
8. เช็คปุ่มหลวม ก๊อกแก๊กๆ ทุกปุ่มปกติดี ยกเว้นปุ่มตรงขวาบนสุด ผมเรียกว่าปุ่ม Stanby ละกัน จะเหมือนหลวมๆไปนิด ไม่ฟิต แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะหลุด หรือดังก๊อกๆแก๊กๆ เหมือนหลายๆท่านที่เจอมา

สรุปผมคิดว่า ผมทำบุญไว้เยอะครับ เพราะเปิดของกับร้านตู้ แล้วได้ของที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย หลังจากนั้นผมก็ให้พี่เต้าติดฟิลม์กระจก ฟิล์มหลัง แล้วก็สั่ง Nokia Lumia 1020 เพิ่มอีกเครื่อง โดนไป 14,000 ผมรู้ว่ามันแพงแปลกๆ เพราะมันเคยมีโปรลดราคาเหลือ 9,900 กับ 12,000 มาแล้ว แต่ผมขี้เกียจไปตามหาของครับ เพราะเท่าที่ดูใน OCZ ราคามือ 2 ก็ยังอยู่ที่ 8,500 - 9,900 ครับ

หลังจากนั้นก็พาเจ้า 6+ ตัวใหม่ ไปหาซื้อเคสใส่สักหน่อย ผมอยากได้ ยางนุ่มๆ คับ ไม่กัดเคส ไม่ทำรอยขนแมว ไปถามร้านๆนึง ก็จบที่ Ringke Fusion ครับ 1,090 บาท สวยและใสมาก มองเห็นความงามของ iPhone 6+ สีทองอย่างชัดเจนครับ รูปก็ตามที่ผมแปะไว้ให้ดูเลยครับ

##################################################################################################

ดังนั้นผมจะขอสรุปข้อดี ข้อเสียของร้านตู้ไว้ให้เลยนะครับ จากความคิดเห็นส่วนตัวของผม
ข้อดี
1. หาของง่าย (เพราะเขาต้องการจะขายของแพงๆให้คุณยังไงล่ะคับ)
2. คำแนะนำดี (เพราะอยากจะขายของให้คุณอีกนั่นแหละคับ)
3. พาไปหาร้านขายเคส และอุปกรณ์เสริมอื่นๆได้ทั้นที หลังจากจ่ายเงิน (พาคุณไปเสียเงินอีกทอด)
4. ประหยัดเวลาในการหาของ (แต่เสียเงินเพิ่ม)

ข้อเสียนะครับ น่าจะมากกว่าข้อดี ในสายตาของผม และใครหลายๆคน
1. โดนชาร์จแน่นอนครับ 10-20% แล้วแต่ร้าน และแล้วแต่ดวงของคุณด้วย อย่างผมก็โดนไป 4,000+
2. ความเสี่ยงสูง เพราะตอนแกะซีลเสร็จแล้วนั้น คุณต้องรับผิดชอบเครื่องนั้นต่อเองทันที ร้านตู้น่าจะไม่รับผิดชอบในส่วนนี้ หากเครื่องมีปัญหาต่างๆ คุณก็ต้องไปเคลียกับ ค่ายสังกัด ของเครื่องนั้นๆ ที่ร้านตู้นำมาขายให้คุณเอง
3. เหนื่อย เพราะร้านตู้บางร้าน ก็ไม่มีของ คุณอาจจะต้องเสียเวลาในการตามหาร้านตู้เช่นกัน แต่ก็หาง่ายกว่าตามศูนย์ ค่าย 3 สี หรือ iStudio อยู่แน่นอน (เพราะเขาน่าจะตุนของไว้ขายคุณ แพงๆไงล่ะคับ)
4. อาจจะโดนเปลี่ยนของ เปลี่ยนอะไหล่แท้ ออกไป อันนี้ผมไม่เคยเจอนะครับ เพราะผมเช็คของด้วยตัวเองอย่างดี
5. หากคุณแต่งตัวเกรียนๆไปถามหาซื้อ เขาอาจจะถามคุณซ้ำหลายๆครั้ง ว่าราคานี้ คุณจะเอาแน่หรอ เพราะเขาไม่มั่นใจว่าคุณจะมีเงินซื้อของกับเขาหรือป่าว? (อันนี้ผมโดนมากับตัว เพราะผมใส่ เสื้อเชิต เกงนักศึกษา รองเท้าแตะคู่ละ 39 บาทไปซื้อ ผมโดนถามไป 2-3 รอบครับ)

ทั้งนี้ผมก็อยากออกมาบอกเพื่อนๆว่า จะซื้อร้านตู้ ก็ต้องยอมรับความเสี่ยง ข้อดี-ข้อเสียกันเอาเองนะครับ ถ้าก็จะให้ชัว ก็รอช้าๆจาก Apple Store TH ได้พร้าเล่มงามดีกว่าครับ เพราะถ้าเพื่อนๆไปซื้อมาจากร้านตู้ต่างๆ และไม่โชคดีแบบผม เจอของมีตำหนิ อาจจะเสียใจได้ครับ

มาแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกนะครับ ถูกหรือผิดไม่เข้าใจตรงไหนก็ขออภัยด้วยครับ

##################################################################################################

ภาพบรรยากาศหน้าร้านครับ เทสกล้อง โดยถ่ายน้องที่ทำงานผมเองครับ


ใบเสร็จครับ อันนี้กลับมาถ่ายที่บ้าน ขยะรกไม่ต้องสนใจนะครับ มันเป็นศิลปะ


สภาพกล่องครับ ในภาพนี่แกะไปแล้วนะ สังเกตซีลนะครับ ซีลแท้ ไม่ใช่ซีลกาวน้ำ แบบที่เคยเจอดราม่ากัน




ประกันครับ



สภาพเครื่องครับ






ภาพเก็บตกครับ ถ่ายระหว่างกลับบ้าน หลังจากได้เครื่อง ตามสถานที่ต่างๆ จากกล้อง I6+




ภาพโดนย่อขนาดนะครับ ไฟล์มันใหญ่เกินไปครับ ส่วนภาพที่ถ่ายตามกล่องและเครื่อง เป็นภาพจากก้อง Lumia 1020 นะครับ ตัวกล้องเทพครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่