ไม่ได้เข้ามาเป็นปี วันนี้ขอมาม่านิดนึง
เมื่อหลายปีก่อนผมเขียนกระทู้เกี่ยวกับ E46 ในเว็บนี้ ในด้านการใช้งาน การซ่อมรถในแบบของผม ซึ่งผมก็ทราบดีกว่ามีผู้อ่านมากมายหลายท่านชอบ และไม่ชอบเป็นธรรมดา
กระทู้ที่ผมเขียนไว้เท่าที่ผมหาได้ในตอนนี้
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2011/05/V10596040/V10596040.html
หากว่ามันเป็นเพียงแค่คำตำหนิติชมทั่วไป ผมเองก็ไม่ได้คิดเอามาใส่ใจ ดีใจ หรือ เดือดร้อนอะไรมากไปกว่าที่ปุถุชนนึงที่ไม่รู้จักกันจะคิดไปได้
เรื่องมันไม่ใช่แค่นั้น
ประมาณปลายปีที่แล้ว มีบุคคลท่านนึง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เพราะบางทีก็ครับ บางทีก็คะ อายุเท่าไหร่ อาชีพอะไรผมก็ไม่รู้ เรียกว่าไม่รู้จักกันก็ว่าได้ เขียนข้อความมาหาผมใน Facebook ในแนวปรึกษาขอความเห็นในการเลือกซื้อรถ BMW E46 มือสอง ซักคัน ซึ่งผมก็ตอบไปตามแบบที่ผมมักจะใช้ คือ อ้างอิงจากรถผมไว้ก่อน
หายไปราว ๆ หกเดือน บุคคลท่านนี้ กลับมาส่งข้อความเชิงตำหนิผม ในทำนองที่ว่า หลอกลวง เพราะตัวเขาเองนั่น ซ่อมรถแพงมากและรถก็จุกจิกมาก ซึ่งผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพียงแต่หลายเดือนมานี้ผมก็ยุ่งวุ่นวายกับการงานที่ระดมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้ไม่มีเวลาได้มานั่งคิดเรื่องนี้เท่าไหร่นัก
จนเมื่อวานนี้กลับมาอ่านMessage ในFacebook อีก กลับมาคิดได้ว่า คงมีอีกหลายคนที่อาจจะเคืองผมกับ E46 นี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นการทำให้ชาติหน้าเรามาเจอะเจอกันแบบเคือง ๆ อีก
เอาเป็นว่า ผมขออนุญาติใช้พื้นที่ตรงนี้อีกครั้ง ในการอธิบาย ชัด ๆ ว่า E46 ไม่จุกจิก จะซ่อมก็ถูก ต้องทำอย่างไร
ก่อนอื่นเลย รถที่ผมเคยใช้ BMW E46 318i มันเป็นรถมือหนึ่ง ป้ายแดงออกศูนย์ปี 2001 ใช้จนถึงปี 2012 ระยะทางรวม 2แสนโลนิด ๆ จำเลขสุดท้ายตอนขายไม่ได้ แต่ประมาณว่า 23x,xxx ก็แล้วกัน เครื่องยนต์รหัส M43TU ทุกอย่างเดิม ๆ ติดแก๊ส ว่ิงไปแสนกว่าโล
ไม่เคยชน ไม่เคยคว่ำ ไม่เคยมีอุบัติเหตทางบก ในน้ำ และอากาศ ดังนั้นเนี่ย ชิ้นส่วนตัวถัง ไม่เคยซื้อครับ ไม่รู้ราคาด้วย ยกเว้นไฟเลี้ยวที่ซื้อวัดโสมคู่ละพันนิด ๆ จำราคาเป๊ะ ๆ ไม่ได้แล้วเช่นกัน แต่มั่นใจว่าสองพันมีเงินทอน หากมีอะไรแพงมาก ๆ ผมก็คงใช้บริการเซียงกง ที่หัวท้ายตัดทั้งคันไม่ถึงแสน
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ นึกไม่ออกเลยว่าเปลี่ยนอะไรไปนอกจากหัวเทียน ถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง ตามระยะทางที่เหมาะสม คือ 7พัน-15000กิโลเมตรแล้วแต่น้ำมันเครื่องที่ใช้ และ ลักษณะการขับขี่ น้ำมันเครื่องที่ไม่อยากใช้อีกเลยที่ได้เรียนรู้จากรถคันนี้คือ Castrol ที่แนะนำโดยบริษัท BMW เอง เพราะมันแพงเกินคุณภาพ
ช่วงล่าง ผมพอจะทำเองได้บ้าง ให้คนที่สนิทกันทำให้บ้าง เกียร์ที่เคยมีปัญหาก็ช่วย ๆ กันทำบ้าง เรียกว่าค่าแรงช่างแทบไม่เคยจ่าย อะไหล่บางตัวซื้อกับร้านที่เปลี่ยนให้ด้วย ซื้อผ้าเบรครวมค่าแรง
ระบบคอมพิวเตอร์ ผมพอมีความรู้อยู่บ้าง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเอาบ้าง ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเสียไปกว่ากดลบError code เปลี่ยนฟิวส์ ทำ Adaptation เวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ตัดต่อสายไฟเซนเซอร์ที่เกี่ยวถูกอะไรขาด ทั้งหมดนี้ ไม่รวมเครื่องมือวิเคราะห์* ใช้เงินไม่เกิน300 บาทเป็นค่าสายไฟ ค่าฟิวส์ ค่าอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น Resistor, Capacitor, Diode, Thermistor, Transistorสำหรับลัดวงจร seat occupancy sensor ก็ดี ซ่อมเซนเซอร์วัดอุณหภูมิของแอร์ภายในรถยนต์ เป็นต้น
*เครื่องมือวิเคราะห์ตอนนั้นซื้อมา พันกว่าบาทครับ
ซึ่งถึงตรงนี้ คุณพอจะเห็นภาพนะครับว่ามันคือรถที่ดูแลเองได้ซะส่วนใหญ่ อะไรเสียก็เปลี่ยนเนิ่น ๆ
เท่าที่ผมได้ฟังมา จากคนที่มาบ่น ส่วนใหญ่ เอาเฉพาะคนที่ใช้รุ่นเดียวกับผมนะ คือ รถชนหนักมา รถเคยถูกชำแหละ ถูกซ่อมมั่ว ๆ จมน้ำ สภาพไม่ค่อยดีนักก็ว่าได้ บางคน ซื้อ E46 ที่เคยจมน้ำมา แต่เห็นราคาถูก เลยไม่ทันได้ดูว่ารถมันเน่ามาก ๆ เพิ่งมารู้ก็ตอนที่ผมแนะนำให้ไปหาอู่ที่ไว้ใจได้ดูรถให้นั่น ถ้าดูรถได้เองรู้ดูเป็นว่าดีไหม คงไม่ต้องบ่นกันระงมแบบนี้ เครื่องตัวอื่นโดยเฉพาะ N42 ที่ผมแอบไปอ่านในเว็บบอร์ด ที่บอกเทพ ๆ ใช้ไปปีสองปีก็มีซ่อมเครื่องกันแล้วครับ อันนี้มันเป็นเรื่องเฉพาะ ที่ทำให้ทะเลาะกันในคลับเลยทีเดียว ไม่ขอเล่า ไปหาอ่านกันเองครับ อ่านแล้วขำทุกทีไป และลาทีไม่ขอยุ่งครับ
อธิบายมาเยอะ ใช้พื้นที่เลอะเทอะ หวังว่าคงจะเข้าใจ และนำไปใช้ นำไปคิดได้ถูก หากเกิดประโยชน์ ก็ขอให้เป็นประโยชน์ของท่านเอง หากเป็นโทษบอกเล่ากันมาได้ยินดีรับฟัง แต่ให้ไปช่วยซ่อมช่วยจ่ายตัง อย่าหวังเลยครับ
สวัสดี
ขออธิบายเรื่อง BMW E46 ไม่จุกจิก ซ่อมไม่แพง
เมื่อหลายปีก่อนผมเขียนกระทู้เกี่ยวกับ E46 ในเว็บนี้ ในด้านการใช้งาน การซ่อมรถในแบบของผม ซึ่งผมก็ทราบดีกว่ามีผู้อ่านมากมายหลายท่านชอบ และไม่ชอบเป็นธรรมดา
กระทู้ที่ผมเขียนไว้เท่าที่ผมหาได้ในตอนนี้ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2011/05/V10596040/V10596040.html
หากว่ามันเป็นเพียงแค่คำตำหนิติชมทั่วไป ผมเองก็ไม่ได้คิดเอามาใส่ใจ ดีใจ หรือ เดือดร้อนอะไรมากไปกว่าที่ปุถุชนนึงที่ไม่รู้จักกันจะคิดไปได้
เรื่องมันไม่ใช่แค่นั้น
ประมาณปลายปีที่แล้ว มีบุคคลท่านนึง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เพราะบางทีก็ครับ บางทีก็คะ อายุเท่าไหร่ อาชีพอะไรผมก็ไม่รู้ เรียกว่าไม่รู้จักกันก็ว่าได้ เขียนข้อความมาหาผมใน Facebook ในแนวปรึกษาขอความเห็นในการเลือกซื้อรถ BMW E46 มือสอง ซักคัน ซึ่งผมก็ตอบไปตามแบบที่ผมมักจะใช้ คือ อ้างอิงจากรถผมไว้ก่อน
หายไปราว ๆ หกเดือน บุคคลท่านนี้ กลับมาส่งข้อความเชิงตำหนิผม ในทำนองที่ว่า หลอกลวง เพราะตัวเขาเองนั่น ซ่อมรถแพงมากและรถก็จุกจิกมาก ซึ่งผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพียงแต่หลายเดือนมานี้ผมก็ยุ่งวุ่นวายกับการงานที่ระดมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้ไม่มีเวลาได้มานั่งคิดเรื่องนี้เท่าไหร่นัก
จนเมื่อวานนี้กลับมาอ่านMessage ในFacebook อีก กลับมาคิดได้ว่า คงมีอีกหลายคนที่อาจจะเคืองผมกับ E46 นี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นการทำให้ชาติหน้าเรามาเจอะเจอกันแบบเคือง ๆ อีก
เอาเป็นว่า ผมขออนุญาติใช้พื้นที่ตรงนี้อีกครั้ง ในการอธิบาย ชัด ๆ ว่า E46 ไม่จุกจิก จะซ่อมก็ถูก ต้องทำอย่างไร
ก่อนอื่นเลย รถที่ผมเคยใช้ BMW E46 318i มันเป็นรถมือหนึ่ง ป้ายแดงออกศูนย์ปี 2001 ใช้จนถึงปี 2012 ระยะทางรวม 2แสนโลนิด ๆ จำเลขสุดท้ายตอนขายไม่ได้ แต่ประมาณว่า 23x,xxx ก็แล้วกัน เครื่องยนต์รหัส M43TU ทุกอย่างเดิม ๆ ติดแก๊ส ว่ิงไปแสนกว่าโล
ไม่เคยชน ไม่เคยคว่ำ ไม่เคยมีอุบัติเหตทางบก ในน้ำ และอากาศ ดังนั้นเนี่ย ชิ้นส่วนตัวถัง ไม่เคยซื้อครับ ไม่รู้ราคาด้วย ยกเว้นไฟเลี้ยวที่ซื้อวัดโสมคู่ละพันนิด ๆ จำราคาเป๊ะ ๆ ไม่ได้แล้วเช่นกัน แต่มั่นใจว่าสองพันมีเงินทอน หากมีอะไรแพงมาก ๆ ผมก็คงใช้บริการเซียงกง ที่หัวท้ายตัดทั้งคันไม่ถึงแสน
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ นึกไม่ออกเลยว่าเปลี่ยนอะไรไปนอกจากหัวเทียน ถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง ตามระยะทางที่เหมาะสม คือ 7พัน-15000กิโลเมตรแล้วแต่น้ำมันเครื่องที่ใช้ และ ลักษณะการขับขี่ น้ำมันเครื่องที่ไม่อยากใช้อีกเลยที่ได้เรียนรู้จากรถคันนี้คือ Castrol ที่แนะนำโดยบริษัท BMW เอง เพราะมันแพงเกินคุณภาพ
ช่วงล่าง ผมพอจะทำเองได้บ้าง ให้คนที่สนิทกันทำให้บ้าง เกียร์ที่เคยมีปัญหาก็ช่วย ๆ กันทำบ้าง เรียกว่าค่าแรงช่างแทบไม่เคยจ่าย อะไหล่บางตัวซื้อกับร้านที่เปลี่ยนให้ด้วย ซื้อผ้าเบรครวมค่าแรง
ระบบคอมพิวเตอร์ ผมพอมีความรู้อยู่บ้าง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเอาบ้าง ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเสียไปกว่ากดลบError code เปลี่ยนฟิวส์ ทำ Adaptation เวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ตัดต่อสายไฟเซนเซอร์ที่เกี่ยวถูกอะไรขาด ทั้งหมดนี้ ไม่รวมเครื่องมือวิเคราะห์* ใช้เงินไม่เกิน300 บาทเป็นค่าสายไฟ ค่าฟิวส์ ค่าอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น Resistor, Capacitor, Diode, Thermistor, Transistorสำหรับลัดวงจร seat occupancy sensor ก็ดี ซ่อมเซนเซอร์วัดอุณหภูมิของแอร์ภายในรถยนต์ เป็นต้น
*เครื่องมือวิเคราะห์ตอนนั้นซื้อมา พันกว่าบาทครับ
ซึ่งถึงตรงนี้ คุณพอจะเห็นภาพนะครับว่ามันคือรถที่ดูแลเองได้ซะส่วนใหญ่ อะไรเสียก็เปลี่ยนเนิ่น ๆ
เท่าที่ผมได้ฟังมา จากคนที่มาบ่น ส่วนใหญ่ เอาเฉพาะคนที่ใช้รุ่นเดียวกับผมนะ คือ รถชนหนักมา รถเคยถูกชำแหละ ถูกซ่อมมั่ว ๆ จมน้ำ สภาพไม่ค่อยดีนักก็ว่าได้ บางคน ซื้อ E46 ที่เคยจมน้ำมา แต่เห็นราคาถูก เลยไม่ทันได้ดูว่ารถมันเน่ามาก ๆ เพิ่งมารู้ก็ตอนที่ผมแนะนำให้ไปหาอู่ที่ไว้ใจได้ดูรถให้นั่น ถ้าดูรถได้เองรู้ดูเป็นว่าดีไหม คงไม่ต้องบ่นกันระงมแบบนี้ เครื่องตัวอื่นโดยเฉพาะ N42 ที่ผมแอบไปอ่านในเว็บบอร์ด ที่บอกเทพ ๆ ใช้ไปปีสองปีก็มีซ่อมเครื่องกันแล้วครับ อันนี้มันเป็นเรื่องเฉพาะ ที่ทำให้ทะเลาะกันในคลับเลยทีเดียว ไม่ขอเล่า ไปหาอ่านกันเองครับ อ่านแล้วขำทุกทีไป และลาทีไม่ขอยุ่งครับ
อธิบายมาเยอะ ใช้พื้นที่เลอะเทอะ หวังว่าคงจะเข้าใจ และนำไปใช้ นำไปคิดได้ถูก หากเกิดประโยชน์ ก็ขอให้เป็นประโยชน์ของท่านเอง หากเป็นโทษบอกเล่ากันมาได้ยินดีรับฟัง แต่ให้ไปช่วยซ่อมช่วยจ่ายตัง อย่าหวังเลยครับ
สวัสดี