สวัสดีชาวพันทิพย์ เรื่องที่จะพูดถึงมันซับซ้อน จนอัดอั้นและน่าเบื่อหน่ายเป็นอย่างยิ่ง มันออกจะยาวสักหน่อย แต่อยากให้ทุกคนรับรู้ เราอยากให้โลกรู้ เผื่อว่าเรื่องนี้มันดังขึ้นมา จะพอมีใครยื่นมามาช่วยเหลือครอบครัวของเราได้บ้าง บางทีถ้าใครเบื่อจะอ่านยาวๆ ก็เลื่อนลงไปอ่านตรง จุดพีคของเรื่อง อย่างเดียวก็ได้ หากใครมีความคิดเห็นอย่างไร หรือพอจะช่วยชี้ทางเดินให้เราได้บ้าง เรายินดีมาก
เรื่องของเรื่องมีว่า บ้านของเราได้มีโอกาสรั้วติดกันกับบ้านผู้ร่ำรวยครอบครัวหนึ่ง (ซึ่งประกอบอาชีพเกี่ยวกับสัตว์สี่ขาที่อยุ่ในมื้ออาหารเป็นส่วนใหญ่) เพราะเค้าได้ซื้อที่ดินตรงกลางที่คั่นระหว่างบ้านเรากับเค้าจนอาณาเขตบ้านติดกัน บ้านเรากับเค้าไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันไม่ว่าด้านไหน จนอยู่มาวันหนึ่ง บ้านผู้ร่ำรวยได้สร้างไซโลเก็บอาหารสัตว์ขนาดช้างอืดตาย10 ตัวยัดลงไปยังไม่เต็ม บ้านเราช็อกมาก เพราะมันติดกับบ้านเราเสียเหลือเกิน ไม่รู้จะทำยังไงดี เราเลยส่งเรื่องร้องเรียนไปยังเทาศบาลให้เข้ามาตรวจสอบเรื่อง และถามเรื่องพื้นที่สีสรุป มันสร้างไซโลในพื้นที่นี้ไม่ได้จ้าาาา แต่พอเทศบาลรุ้ว่าเรากำลังร้องเรียนบ้านนี้ก็หายจ้อยไปเล(เพราะบ้านนี้สนิทสนมกับนายกเป็นอย่างดี) ส่งหนังสือร้องเรียนไปแล้วไม่เกิดผลใดๆ เราจึงส่งเรื่องต่อไปยัง ศ.ดำรงธรรม สนง.อุตสาหกรรม และนายก(ซึ่งตอนนั้นเป็นเจ็ปูวววว) และแล้วทางบ้านผู้ถูกร้องก็ส่งอัยการมาเคลียร์ ซึ่งคุยไปมาก็ตกลงไม่ได้ อัยการคนนั้นบอกบ้านนี้สรา้งได้ ขออนุญาตปากเปล่ากับนายกเทศฯแล้ว และเชิงว่าจะฟ้องเราว่าไปหมิ่นประมาทบ้านนั้น เอ้าเป็นงั้นไป และบอกเราอีกว่าของเก่าเค้าทำมาเป็น10ปี ไม่มีใบอนุญาตด้วยซ้ำยังทำได้!!!!! Ship หายแล้วสรุปบ้านชั้นผิด!!! อัยการนั้นก็พูดว่าขายที่มั้ย แต่สุดท้ายก็ไม่ตกลงกัน ในระหว่างนั้นแก๊งเทศบาลก็ว่าบ้านเราต่างๆนานาให้คนอื่นฟัง เช่น ร้องเค้าไม่ได้หรอก ล้มเค้าไม่ได้หรอก ร้องให้เค้าเกลียดหน้า บลาๆๆๆ สรุปแรงกดดันทั้งหมดตกอยู่ที่บ้านเราทั้งสิ้น ตัวเองเป็นนักการเมืองท้องถิ่นแทนที่จะยื่นเมือมาช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาลูกบ้าน แต่ไม่ทำไรกันเลย ดีแต่ปาก!! จนในที่สุดก็มีผู้ใหญ่ท่านนึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบ้านเรา มีการเร่งรัด สนง.อุตฯ ให้เข้ามาจัดการเรื่อง สนง.เลยเป็นตัวกลางนัดเราทุกฝ่าย (ผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และเทศบาล) เข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่อง ผลสรุปว่าทางเค้าผิดให้รื้อถอนไซโลทั้งหมดให้เสร็จภายใน1ปี
เกือบ1ปีผ่านไป

เอ๊ย เค้าไม่รื้อ!!! เทศบาลก็ไม่ทำชะเรี่ยอะไรเช่นเคย แถมทางนั้นขอทำประชาวิจารณ์ขอใบประกอบโรงงานของเก่า เราจึงทำหนังสือแสดงความคิดเห็นไป ก็ระงับกันไป แถ่นแท้นนนนนน ตัวละครใหม่ปรากฎ เป็น สจ. นายหนึ่งเข้ามาที่บ้าน พาผู้ใหญ่บ้าน และเดอะแก๊งมาด้วย บอกขอไกล่เกลี่ย ให้ยืดเวลาให้เค้า เค้ารื้อไม่ได้ เราบอกว่ามันผิดกฎหมายนะ จะให้เราฝืนกฎหมายได้ไง เค้ามีเวลาตั้งปีทำไมไม่ทำตั้งนานแล้ว และไมเค้าไม่มาคุยเองล่ะ ส่งคนกลางมาอีก สรุปเราไม่ยอมๆๆ สจ.นั่น

ก็ตื๊อๆสุด มาบ้านอีก หลายครั้ง พร่ำพูดว่ามันทำเพื่อคนจน อย่างงั้นอย่างงี้ ไม่ได้เห็นแก่ทางเค้าเลยนะ มานี่ก็ไม่ได้เงินเลย ฟังแล้วจะอาเจียรอย่างแรง พูดชื่อให้ใครฟังก็มีแต่คนส่ายหน้าหนี แต่แม่มบอกแม่มเป็นคนดี เป็นผ้าขาว มันทำไรไม่เคยผิด!!!!
เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ ทางเราก็มีการดำเนินการต่อ โดยการร้องเรียนว่าเทศบาลไม่ทำงาน ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ไม่บังคับให้เค้ารื้อถอน ส่งเรื่องไปศ.ดำรงฯอีกครั้ง เค้าบอกจะแจ้งเรื่องภายใน15วัน เลยแล้วนะ ก็ยังเงียบบบบ แว่วแค่ว่ากรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้รองนายกเทศฯ ออกจากตำแหน่งก่อน นั่นแหละ นายสจ.นี่ก็ใหญ่มาก ไปเคลียร์มา บอกให้ใครออกไม่ได้ สนิทกัน เดี๋ยวนางจะเคลียร์เอง แล้วเค้าก็โทรไปหานายกอีกตำบลที่พ่อเรารู้จักให้เป็นคนกลางช่วยเคลียร์ ก็มาตามพ่อเราไปคุยอีก พ่อเราบอกไม่รู้ขอปรึกษาลูกเมียก่อน แถมบอกกับพ่อเราอีกว่า คสช.นางก็เคลียร์ได้นะจ๊ะ แหม่!!!!!! นางใหญ่สุดๆ
จุดพีคของเรื่อง
และแล้วนางก็เข้ามาที่บ้านเราอีก แบบไม่มีใครอยู่ มีเราอยู่คนเดียว ออกไปคุยกะนาง ถามมีไร นางก็พล่ามๆๆ ว่าเค้าจะรื้อนะ เดี๋ยวชั้นจะไปหาคนมารื้อ มาบอกให้รู้ เราก็อารมณ์ ไม่เชื่อ ครั้งที่แล้วพูดเองจะรื้อก็ไม่รื้อ แล้วจากนั้นก็ฟาดฟันคำพูดกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกก จำไรไม่ได้มาก บอกนางว่า ตัวเองมาเกี่ยวไรด้วยวะ เค้ารื้อทุกอย่างก็จบแล้ว นางก็ด่าเรากลับ ไปร้องเค้าทำไมนักหนา ประชาชนเค้าเดือดร้อนให้ชั้นมาช่วย (เอ้า สรุปใครเดือดร้อนวะ???? แม่มช่วยให้ยุ่งเข้าไปใหญ่น่ะสิ) แล้วจากนั้นนางก็ด่าเราว่า ควาย!! เราบอกว่าเออ ดีนะ มาด่ากับเด็กเนี่ย ประมาณเนี้ย แล้วมันก็ด่าเราควายอีก เราสาบานได้เลยว่าไม่ได้หลุดคำหยาบใดๆทั้งสิ้น กู ยังไม่มี !!!
เหตุการณ์ดังกล่าวมันทำให้เราอัดอั้นมาก คือ เราไม่ได้รู้สึกผิดเลยนะที่ด่ากับนางไป แต่มันแบบ เห้ย เนี่ยนะคนของประชาชน อยากให้ทุกคนที่อ่านจินตนาการดู วิทยายุทธ์ของคนอายุ24 กับ ตาลุงดีกรีสจ. อายุก็50 ปลายแล้วมั้ง มันช่างน่าอดสู เราไม่ได้คิดว่าเราทำถูกนะ แต่เราเบื่อฟังนางพูดเอาดีเข้าตัว แก่แล้วแต่ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เลย (เราไปรู้มาว่านางเอาบ้านเราไปนินทา เช่นว่า อิจฉาเค้าที่เค้ารวยกว่า ทั้งที่เมื่อก่อนรวยกว่าเค้า หวังเงินเค้า พี่น้อง(ของพ่อ)มีที่ทางก็ขายกินหมด บลาๆๆๆ) แบบมันทนไม่ได้ที่เค้ายังมีหน้าเข้ามาคุยกับที่บ้านเราอีก ไม่ละอายการกระทำตัวเองบ้างเลย นั่นแหละคือสิ่งที่เราอยากระบาย และถ้าเราเกิดถูกฆ่าตาย ก็เพราะสจ.คนนี้แหละ อยากให้ทุกคนช่วยเป็นพยาน
ปล.รายละเอียดทั้งหมดที่เขียน มันเป็นเรื่องราวที่พอเปิดเผยได้ มันมีลายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านี้มาก บางส่วนอาจไม่สำคัญจะทำให้บทความยืดยาวมากกว่านี้มาก และบางส่วนเปิดเผยไม่ได้เพราะตอนนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการณ์อยู่ แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนรับรู้คือพฤติกรรมอุบาทว์ของวงการการเมืองท้องถิ่น
ปล.ขอบคุณที่ท่านอ่านจบจบ ขอบอกว่าเราซาบซึ้งมาก
ปล.อีกครั้ง เราไม่ค่อยได้โพสกระทู้ มีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษด้วย
ปล.อะเกนนนน ตอนนี้รู้สึกเริ่มอยู่ในพื้นที่นี้ยาก
มันอัดอั้น!! มันคาใจ!! กับพฤติกรรมนักการเมืองท้องถิ่น
เรื่องของเรื่องมีว่า บ้านของเราได้มีโอกาสรั้วติดกันกับบ้านผู้ร่ำรวยครอบครัวหนึ่ง (ซึ่งประกอบอาชีพเกี่ยวกับสัตว์สี่ขาที่อยุ่ในมื้ออาหารเป็นส่วนใหญ่) เพราะเค้าได้ซื้อที่ดินตรงกลางที่คั่นระหว่างบ้านเรากับเค้าจนอาณาเขตบ้านติดกัน บ้านเรากับเค้าไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันไม่ว่าด้านไหน จนอยู่มาวันหนึ่ง บ้านผู้ร่ำรวยได้สร้างไซโลเก็บอาหารสัตว์ขนาดช้างอืดตาย10 ตัวยัดลงไปยังไม่เต็ม บ้านเราช็อกมาก เพราะมันติดกับบ้านเราเสียเหลือเกิน ไม่รู้จะทำยังไงดี เราเลยส่งเรื่องร้องเรียนไปยังเทาศบาลให้เข้ามาตรวจสอบเรื่อง และถามเรื่องพื้นที่สีสรุป มันสร้างไซโลในพื้นที่นี้ไม่ได้จ้าาาา แต่พอเทศบาลรุ้ว่าเรากำลังร้องเรียนบ้านนี้ก็หายจ้อยไปเล(เพราะบ้านนี้สนิทสนมกับนายกเป็นอย่างดี) ส่งหนังสือร้องเรียนไปแล้วไม่เกิดผลใดๆ เราจึงส่งเรื่องต่อไปยัง ศ.ดำรงธรรม สนง.อุตสาหกรรม และนายก(ซึ่งตอนนั้นเป็นเจ็ปูวววว) และแล้วทางบ้านผู้ถูกร้องก็ส่งอัยการมาเคลียร์ ซึ่งคุยไปมาก็ตกลงไม่ได้ อัยการคนนั้นบอกบ้านนี้สรา้งได้ ขออนุญาตปากเปล่ากับนายกเทศฯแล้ว และเชิงว่าจะฟ้องเราว่าไปหมิ่นประมาทบ้านนั้น เอ้าเป็นงั้นไป และบอกเราอีกว่าของเก่าเค้าทำมาเป็น10ปี ไม่มีใบอนุญาตด้วยซ้ำยังทำได้!!!!! Ship หายแล้วสรุปบ้านชั้นผิด!!! อัยการนั้นก็พูดว่าขายที่มั้ย แต่สุดท้ายก็ไม่ตกลงกัน ในระหว่างนั้นแก๊งเทศบาลก็ว่าบ้านเราต่างๆนานาให้คนอื่นฟัง เช่น ร้องเค้าไม่ได้หรอก ล้มเค้าไม่ได้หรอก ร้องให้เค้าเกลียดหน้า บลาๆๆๆ สรุปแรงกดดันทั้งหมดตกอยู่ที่บ้านเราทั้งสิ้น ตัวเองเป็นนักการเมืองท้องถิ่นแทนที่จะยื่นเมือมาช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาลูกบ้าน แต่ไม่ทำไรกันเลย ดีแต่ปาก!! จนในที่สุดก็มีผู้ใหญ่ท่านนึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบ้านเรา มีการเร่งรัด สนง.อุตฯ ให้เข้ามาจัดการเรื่อง สนง.เลยเป็นตัวกลางนัดเราทุกฝ่าย (ผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และเทศบาล) เข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่อง ผลสรุปว่าทางเค้าผิดให้รื้อถอนไซโลทั้งหมดให้เสร็จภายใน1ปี
เกือบ1ปีผ่านไป
เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ ทางเราก็มีการดำเนินการต่อ โดยการร้องเรียนว่าเทศบาลไม่ทำงาน ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ไม่บังคับให้เค้ารื้อถอน ส่งเรื่องไปศ.ดำรงฯอีกครั้ง เค้าบอกจะแจ้งเรื่องภายใน15วัน เลยแล้วนะ ก็ยังเงียบบบบ แว่วแค่ว่ากรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้รองนายกเทศฯ ออกจากตำแหน่งก่อน นั่นแหละ นายสจ.นี่ก็ใหญ่มาก ไปเคลียร์มา บอกให้ใครออกไม่ได้ สนิทกัน เดี๋ยวนางจะเคลียร์เอง แล้วเค้าก็โทรไปหานายกอีกตำบลที่พ่อเรารู้จักให้เป็นคนกลางช่วยเคลียร์ ก็มาตามพ่อเราไปคุยอีก พ่อเราบอกไม่รู้ขอปรึกษาลูกเมียก่อน แถมบอกกับพ่อเราอีกว่า คสช.นางก็เคลียร์ได้นะจ๊ะ แหม่!!!!!! นางใหญ่สุดๆ
จุดพีคของเรื่อง
และแล้วนางก็เข้ามาที่บ้านเราอีก แบบไม่มีใครอยู่ มีเราอยู่คนเดียว ออกไปคุยกะนาง ถามมีไร นางก็พล่ามๆๆ ว่าเค้าจะรื้อนะ เดี๋ยวชั้นจะไปหาคนมารื้อ มาบอกให้รู้ เราก็อารมณ์ ไม่เชื่อ ครั้งที่แล้วพูดเองจะรื้อก็ไม่รื้อ แล้วจากนั้นก็ฟาดฟันคำพูดกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกก จำไรไม่ได้มาก บอกนางว่า ตัวเองมาเกี่ยวไรด้วยวะ เค้ารื้อทุกอย่างก็จบแล้ว นางก็ด่าเรากลับ ไปร้องเค้าทำไมนักหนา ประชาชนเค้าเดือดร้อนให้ชั้นมาช่วย (เอ้า สรุปใครเดือดร้อนวะ???? แม่มช่วยให้ยุ่งเข้าไปใหญ่น่ะสิ) แล้วจากนั้นนางก็ด่าเราว่า ควาย!! เราบอกว่าเออ ดีนะ มาด่ากับเด็กเนี่ย ประมาณเนี้ย แล้วมันก็ด่าเราควายอีก เราสาบานได้เลยว่าไม่ได้หลุดคำหยาบใดๆทั้งสิ้น กู ยังไม่มี !!!
เหตุการณ์ดังกล่าวมันทำให้เราอัดอั้นมาก คือ เราไม่ได้รู้สึกผิดเลยนะที่ด่ากับนางไป แต่มันแบบ เห้ย เนี่ยนะคนของประชาชน อยากให้ทุกคนที่อ่านจินตนาการดู วิทยายุทธ์ของคนอายุ24 กับ ตาลุงดีกรีสจ. อายุก็50 ปลายแล้วมั้ง มันช่างน่าอดสู เราไม่ได้คิดว่าเราทำถูกนะ แต่เราเบื่อฟังนางพูดเอาดีเข้าตัว แก่แล้วแต่ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เลย (เราไปรู้มาว่านางเอาบ้านเราไปนินทา เช่นว่า อิจฉาเค้าที่เค้ารวยกว่า ทั้งที่เมื่อก่อนรวยกว่าเค้า หวังเงินเค้า พี่น้อง(ของพ่อ)มีที่ทางก็ขายกินหมด บลาๆๆๆ) แบบมันทนไม่ได้ที่เค้ายังมีหน้าเข้ามาคุยกับที่บ้านเราอีก ไม่ละอายการกระทำตัวเองบ้างเลย นั่นแหละคือสิ่งที่เราอยากระบาย และถ้าเราเกิดถูกฆ่าตาย ก็เพราะสจ.คนนี้แหละ อยากให้ทุกคนช่วยเป็นพยาน
ปล.รายละเอียดทั้งหมดที่เขียน มันเป็นเรื่องราวที่พอเปิดเผยได้ มันมีลายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านี้มาก บางส่วนอาจไม่สำคัญจะทำให้บทความยืดยาวมากกว่านี้มาก และบางส่วนเปิดเผยไม่ได้เพราะตอนนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการณ์อยู่ แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนรับรู้คือพฤติกรรมอุบาทว์ของวงการการเมืองท้องถิ่น
ปล.ขอบคุณที่ท่านอ่านจบจบ ขอบอกว่าเราซาบซึ้งมาก
ปล.อีกครั้ง เราไม่ค่อยได้โพสกระทู้ มีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษด้วย
ปล.อะเกนนนน ตอนนี้รู้สึกเริ่มอยู่ในพื้นที่นี้ยาก