สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อซื้อบ้านมือสอง
ประมาณกลางเดือนกันยายน 2557 ค่ะ
ปล.เคยตั้งกระทู้ไปแล้วรอบนึงค่ะ
แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น
เลยต้องการที่จะแชร์สิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ
ปล2.เจ้านายแฟนที่กล่าวถึงไม่ได้เป็นเจ้าขององกรณ์ใหญ่สุดค่ะ
เป็นเหมือนผู้ช่วยอะคะ
เนื่องจากว่าที่บ้านแฟนเราไม่ใช่คนมีฐานะนัก
จึงไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เช่าบ้านอยู่มาตลอดชีวิต
ซึ่งตอนนี้แฟนเราก็อายุ25ปีแล้ว
หน้าที่การงานก็พอไปได้ดี
จึงเริ่มมองหาบ้าน เพื่อซื้อให้แม่และพ่ออยู่
เจ้านายแฟนเราจึงแนะนำบ้านอยู่หลังนึง
ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน สามารถเดินไปทำงานได้
ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
และบ้านหลังนั้นก้เป็นของญาติเจ้านายแฟนเรา
ซึ่งเราของแทนชื่อญาติของเจ้านายแฟนเราว่า คุณม้า
ซึ่งคุณม้าก็เป็นเจ้าของตึกอยู่หน้าปากซอยบ้านด้วย
วันแรกที่เข้าไปดูบ้าน ก็ถือว่าโอเค
บ้าน 17 ตารางวา มีชำรุดหลังคาหน้าบ้านนิดหน่อย
จึงได้ทำการถ่ายรูปไว้ตัดสินใจ
ทั้งห้อง ห้องน้ำ แอร์ หน้าบ้าน ถ่ายไว้หมด
(เนื่องจากว่าคุณม้าได้บอกว่าจะให้แอร์1เครื่อง)
เรากับแฟนจึงตัดสินใจพาแม่แฟนมาดูบ้านหลังนี้
ซึ่งแม่แฟนเราก็ชอบ
แฟนเราเลยตัดสินใจลองกู้ธนาคาร
บ้านราคาอยู่ที่ 1 150 000 บาท
ซึ่งบ้านหลังนี้คุณม้าซื้อไว้ไม่ถึง5ปี
จึงต้องเสียภาษีบ้านจำนวน 50 000บาท
ซึ่งตอนตกลงซื้อขายบ้านนั้น
คุณม้าได้บอกว่า ค่าโอนบ้านทั้งหมดจะออกเอง
ซึ่งเรากับแฟนก้โอเค
เพราะไม่มีเงินก้อนอยู่มากนัก ซึ่งถ้าต้องเสียค่าโอนบ้านด้วย
ก้อาจจะไม่เอาบ้านหลังนี้ อาจจะเก็บเงินก้อนอีกสักหน่อย
แต่ตอนนั้นเรากับแฟนคุยกันว่า
บ้านหลังนี้อยู่ชานเมืองก้จริง
แต่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า และกำลังจะมีห้างชื่อดังเกิดขึ้นในปี2558
ถ้าหาบ้านปีหน้า ราคาคงขึ้นสูงกว่านี้
อีกอย่างค่าโอนบ้านก็ไม่ต้องจ่าย
จึงตกลงซื้อบ้านหลังนี้
พอดำเนินการกู้ยืมธนาคาร
มีอยู่วันนึง เจ้านายแฟนเราก็มาบอกแกมบังคับว่า
ให้ช่วยค่าโอนบ้าน 10 000 บาท
จะหักจากเงินเดือนแฟนเราไปเลย
ซึ่งตอนนั้นเราก็โมโหมาก
เพราะแฟนเราเช่าคอนโดอยู่เดือนละ5000บาท
ซึ่งจะย้ายออกสิ้นเดือนตุลาคม จึงต้องจ่ายค่าห้องอีก1เดือน
และเช่าบ้านให้แม่อีก5000บาท
เท่ากับว่ามีรายจ่ายแน่นอนอยู่แล้วเดือนละ10 000บาท
แล้วอีกอย่างก็ตกลงกันแล้วว่าคุณม้าจะออกโอนให้
เราจึงให้แฟนโทรไปฟาคุณม้าว่าตกลงเป็นยังไง
คุณม้าก็บอกแฟนเรามาว่า เค้าไม่รู้เรื่องว่าจะให้ออห10 000บาท
เค้าแค่จะให้ช่วยเท่าไหร่ก็ได้
ณ จุดนี้เราก้ไม่รู้จะเชื่อคุณม้าหรือเจ้านายแฟนเรา
พอถึงวันโอนบ้านที่กรมที่ดินคุณม้าก้ใช้เส้นสายในกรมที่ดิน
จนไม่ต้องเสียค่าโอนถึง50 000 บาท
เราจึงมาคิดว่าถ้าคุณม้ารู้ว่าไม่ต้องเสียถึง50 000บาท
แล้วทำไมยังให้เราช่วยจ่ายอีก10 000บาท
เราจึงปล่อยไปไม่คิดอะไรมาก
วันที่เรากับแฟนไปโอนบ้านเป็นช่วงกลางเดือนกันยายน2557
ซึ่งถ้าโอนบ้านแล้ว ก็หมายความว่าบ้านนั้นเป็นของเรา
ซึ่งคุณม้าไม่มีสิทธิ์ถอดอะไรออกจากบ้าน
แต่!! คุณม้ามาขอย้ายออกสิ้นเดือนกันยายน
เรากับแฟนโอเค ให้เวลาย้ายของอีกครึ่งเดือน
พอช่วงสิ้นเดือนก้ไม่เห็นคุณม้าโทรมาว่าจะให้กุญแจบ้านักที
เราจึงให้แฟนเราโทรไปถามว่าจะย้ายออกวันไหน
เพราะแม่แฟนเราก้ได้ฤกษ์ย้านเข้าบ้านมาแล้ว
จึงอยากเข้าไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ณ วันที่โทรไปก้เป็นวันสิ้นเดือนแล้ว
เราได้คำตอบจากคุณม้าว่าทำความสะอาดให้หมดแล้ว
ขอเวลาอีก2-3วัน
ประมาณวันที่3ตุลาคม2557
แฟนเราถึงได้กุญแจบ้านมา
เรื่องนี้เราก็ปล่อยไปไม่คิดอะไรมาก
ถือว่าเกินมาแค่3-4วัน
พอเข้าไปในบ้าน ก็ไม่เห็นว่าจะสะอาดตรงไหน
(อ่อ ลืมบอกไปว่า คุณม้าจะขายตู้เสื้อผ้าต่อแฟนเราด้วย
ราคา2500บาท เนื่องจากเอาลงจากบ้านไม่ได้
ซึ่งเราก้ปฏิเสธไป)
ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทความสะอาดอีกรอบ
แต่ฤกษ์ย้ายเข้าบ้านได้มาแล้ว
ซึ่งมีเวลาทำความสะอาดไม่ถึง2วัน
หลังจากนั้นเราก้คิดว่าเรื่องซื้อบ้านจบแล้ว
แต่พอขึ้นไปชั้น2 ปรากฎว่าแอร์ไม่ใช่ตัวที่เรามาดูตอนแรก
เป็นแอร์จีนแดง
จึงออกไปดูคอมเพลสเซอแอร์ ปรากฏว่าเป็นเครื่องเก่ามาก
ป้าที่อยู่ข้างบ้านจึงบอกว่า
ป้าเค้าเห็นคุณม้าให้คนงานเอาแอร์มาเปลี่ยนประาณ4-5วันที่แล้ว
แล้วก็ถอดหลอดไฟหน้าบ้านออกไปด้วย
พอดูที่หลอดไฟปรากฏว่าหลอดหายไปจริงๆ
เราโมโหมากๆ เพราะตามกฎหมายถ้าหลังจากโอนบ้านแล้ว
คุณม้าไม่มีสิทธิที่จะถอดอะไรออกจากตัวบ้านแล้ว
แต่แฟนเราไม่อยากมีปันหา จึงบอกให้เราปล่อยๆไป
หลังจากที่แฟนเราย้ายเข้ามาอยู่ประมาณ1เดือน
ปรากฎว่าคุณม้าไม่จ่ายค่าไฟของเดือนที่แล้ว
แฟนเราจึงโทรไปถาม
คุณม้าบอกว่าไม่มีเวลาไปจ่าย เด้วไปจ่ายให้แน่นอน
ผ่านๆปอาทิดนึงคุณม้าก็จ่ายค่าไฟให้เรียบร้อย
แต่!!!หลังจากนั้นยังไม่จบค่ะ
คุณม้าโทรไปขอที่คว่ำจานในในครัว
ซึ่งมันติดอยู่กับผนังบ้านในครัว
และราคาไม่ถึง200-300บาท
ถามว่าเราอยากได้มั๊ย เราก็ไม่ได้อยากได้
แต่เราก็รู้สึกว่ามันมากเกินไปที่ทำแบบนี้นะ
เราจึงทำเฉยๆกับเรื่องนี้
แต่คุณม้าก็ไม่หยุดที่จะโทรมาหาอยู่บ่อยๆจนแฟนเรารำคาน
พี่ๆที่ทำงานแฟนเราก็ให้คำปรึกษามามากมาย
ทั้งอย่าไปยอม หรือบอกว่าให้ไปแต่ต้องทำให้ข้างฝาเหมือนเดิม
มีอยู่คืนนึงคุณม้าเห็นเรานั่งแทกซี่เข้ามา
จึงรีบให้ลูกชาย เดินตามแฟนเรามา
ถือค้อนมาเรียบร้อยเลย
แฟนเราจึงบอกว่ารออยู่นี่แหละ เด้วถอดมาให้
เพราะเราก้ไม่อยากให้เข้ามาบ้านแล้ว
แล้วแฟนเราไม่อยากมีปันหา
พอถอดออกมาให้ ลูกชายคุณม้าก้ไม่ได้อยู่รอแล้ว
เราจึงบอกแฟนว่าให้วางไว้หน้าบ้านนี่แหละ
แอบร้ายนิดนึงนะคะ คือแบบต้องให้เดินไปให้ด้วยร๋อ
เราไม่ให้แฟนเราเดินไปหรอก
ผ่านไปประมาณ2-3วัน คุณม้ายังไม่เข้ามาเอาค่ะ
อ่อลืมบอกว่าตอนคุณม้าโทรมา
คุณม้าบอกว่า ไม่ได้ตกลงว่าจะให้ที่คว่ำจานด้วย
ดู๊ดูคำพูดของผู้ใหญ่นะคะ
พอถึงวันนี้ค่ะ วันอาทิด ต้องชายแฟนเรามาที่บ้านแฟนเราค่ะ
แล้วคุณม้าเฟ็นว่าน้องชายแฟนเรามาค่ะ
จึงให้เจ้านายแฟนเราโทรมาค่ะ
เจ้านายแฟนเราพูดไงรู้มั๊ยคะ
เจ้านายแฟนเราบอกว่า ไปตกลงอะไรกันไว้ก้ถอดให้เค้าด้วย
พูดประมาณว่าแฟนเราไม่ยอมให้ของๆเค้าอะคะ
ทั้งๆที่แฟนเราไม่เคยไปตกลงอะไรกับคุณม้าเลย
และตอนตกลงซื้อขายบ้านก้ไม่เคยพูดถึงไอ้ที่คว่ำจานนี้เลย
แล้วเราก็แบบโมโหสุดๆแล้วคะ
เลยบอกใฟ้แฟนเราโทรไปหาคุณม้า
ครั้งนี้เราขอคุยเอง
เด้วมาต่อนะคะ
อุทาหรณ์ ซื้อบ้านมือสอง
ประมาณกลางเดือนกันยายน 2557 ค่ะ
ปล.เคยตั้งกระทู้ไปแล้วรอบนึงค่ะ
แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น
เลยต้องการที่จะแชร์สิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ
ปล2.เจ้านายแฟนที่กล่าวถึงไม่ได้เป็นเจ้าขององกรณ์ใหญ่สุดค่ะ
เป็นเหมือนผู้ช่วยอะคะ
เนื่องจากว่าที่บ้านแฟนเราไม่ใช่คนมีฐานะนัก
จึงไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เช่าบ้านอยู่มาตลอดชีวิต
ซึ่งตอนนี้แฟนเราก็อายุ25ปีแล้ว
หน้าที่การงานก็พอไปได้ดี
จึงเริ่มมองหาบ้าน เพื่อซื้อให้แม่และพ่ออยู่
เจ้านายแฟนเราจึงแนะนำบ้านอยู่หลังนึง
ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน สามารถเดินไปทำงานได้
ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
และบ้านหลังนั้นก้เป็นของญาติเจ้านายแฟนเรา
ซึ่งเราของแทนชื่อญาติของเจ้านายแฟนเราว่า คุณม้า
ซึ่งคุณม้าก็เป็นเจ้าของตึกอยู่หน้าปากซอยบ้านด้วย
วันแรกที่เข้าไปดูบ้าน ก็ถือว่าโอเค
บ้าน 17 ตารางวา มีชำรุดหลังคาหน้าบ้านนิดหน่อย
จึงได้ทำการถ่ายรูปไว้ตัดสินใจ
ทั้งห้อง ห้องน้ำ แอร์ หน้าบ้าน ถ่ายไว้หมด
(เนื่องจากว่าคุณม้าได้บอกว่าจะให้แอร์1เครื่อง)
เรากับแฟนจึงตัดสินใจพาแม่แฟนมาดูบ้านหลังนี้
ซึ่งแม่แฟนเราก็ชอบ
แฟนเราเลยตัดสินใจลองกู้ธนาคาร
บ้านราคาอยู่ที่ 1 150 000 บาท
ซึ่งบ้านหลังนี้คุณม้าซื้อไว้ไม่ถึง5ปี
จึงต้องเสียภาษีบ้านจำนวน 50 000บาท
ซึ่งตอนตกลงซื้อขายบ้านนั้น
คุณม้าได้บอกว่า ค่าโอนบ้านทั้งหมดจะออกเอง
ซึ่งเรากับแฟนก้โอเค
เพราะไม่มีเงินก้อนอยู่มากนัก ซึ่งถ้าต้องเสียค่าโอนบ้านด้วย
ก้อาจจะไม่เอาบ้านหลังนี้ อาจจะเก็บเงินก้อนอีกสักหน่อย
แต่ตอนนั้นเรากับแฟนคุยกันว่า
บ้านหลังนี้อยู่ชานเมืองก้จริง
แต่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า และกำลังจะมีห้างชื่อดังเกิดขึ้นในปี2558
ถ้าหาบ้านปีหน้า ราคาคงขึ้นสูงกว่านี้
อีกอย่างค่าโอนบ้านก็ไม่ต้องจ่าย
จึงตกลงซื้อบ้านหลังนี้
พอดำเนินการกู้ยืมธนาคาร
มีอยู่วันนึง เจ้านายแฟนเราก็มาบอกแกมบังคับว่า
ให้ช่วยค่าโอนบ้าน 10 000 บาท
จะหักจากเงินเดือนแฟนเราไปเลย
ซึ่งตอนนั้นเราก็โมโหมาก
เพราะแฟนเราเช่าคอนโดอยู่เดือนละ5000บาท
ซึ่งจะย้ายออกสิ้นเดือนตุลาคม จึงต้องจ่ายค่าห้องอีก1เดือน
และเช่าบ้านให้แม่อีก5000บาท
เท่ากับว่ามีรายจ่ายแน่นอนอยู่แล้วเดือนละ10 000บาท
แล้วอีกอย่างก็ตกลงกันแล้วว่าคุณม้าจะออกโอนให้
เราจึงให้แฟนโทรไปฟาคุณม้าว่าตกลงเป็นยังไง
คุณม้าก็บอกแฟนเรามาว่า เค้าไม่รู้เรื่องว่าจะให้ออห10 000บาท
เค้าแค่จะให้ช่วยเท่าไหร่ก็ได้
ณ จุดนี้เราก้ไม่รู้จะเชื่อคุณม้าหรือเจ้านายแฟนเรา
พอถึงวันโอนบ้านที่กรมที่ดินคุณม้าก้ใช้เส้นสายในกรมที่ดิน
จนไม่ต้องเสียค่าโอนถึง50 000 บาท
เราจึงมาคิดว่าถ้าคุณม้ารู้ว่าไม่ต้องเสียถึง50 000บาท
แล้วทำไมยังให้เราช่วยจ่ายอีก10 000บาท
เราจึงปล่อยไปไม่คิดอะไรมาก
วันที่เรากับแฟนไปโอนบ้านเป็นช่วงกลางเดือนกันยายน2557
ซึ่งถ้าโอนบ้านแล้ว ก็หมายความว่าบ้านนั้นเป็นของเรา
ซึ่งคุณม้าไม่มีสิทธิ์ถอดอะไรออกจากบ้าน
แต่!! คุณม้ามาขอย้ายออกสิ้นเดือนกันยายน
เรากับแฟนโอเค ให้เวลาย้ายของอีกครึ่งเดือน
พอช่วงสิ้นเดือนก้ไม่เห็นคุณม้าโทรมาว่าจะให้กุญแจบ้านักที
เราจึงให้แฟนเราโทรไปถามว่าจะย้ายออกวันไหน
เพราะแม่แฟนเราก้ได้ฤกษ์ย้านเข้าบ้านมาแล้ว
จึงอยากเข้าไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ณ วันที่โทรไปก้เป็นวันสิ้นเดือนแล้ว
เราได้คำตอบจากคุณม้าว่าทำความสะอาดให้หมดแล้ว
ขอเวลาอีก2-3วัน
ประมาณวันที่3ตุลาคม2557
แฟนเราถึงได้กุญแจบ้านมา
เรื่องนี้เราก็ปล่อยไปไม่คิดอะไรมาก
ถือว่าเกินมาแค่3-4วัน
พอเข้าไปในบ้าน ก็ไม่เห็นว่าจะสะอาดตรงไหน
(อ่อ ลืมบอกไปว่า คุณม้าจะขายตู้เสื้อผ้าต่อแฟนเราด้วย
ราคา2500บาท เนื่องจากเอาลงจากบ้านไม่ได้
ซึ่งเราก้ปฏิเสธไป)
ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทความสะอาดอีกรอบ
แต่ฤกษ์ย้ายเข้าบ้านได้มาแล้ว
ซึ่งมีเวลาทำความสะอาดไม่ถึง2วัน
หลังจากนั้นเราก้คิดว่าเรื่องซื้อบ้านจบแล้ว
แต่พอขึ้นไปชั้น2 ปรากฎว่าแอร์ไม่ใช่ตัวที่เรามาดูตอนแรก
เป็นแอร์จีนแดง
จึงออกไปดูคอมเพลสเซอแอร์ ปรากฏว่าเป็นเครื่องเก่ามาก
ป้าที่อยู่ข้างบ้านจึงบอกว่า
ป้าเค้าเห็นคุณม้าให้คนงานเอาแอร์มาเปลี่ยนประาณ4-5วันที่แล้ว
แล้วก็ถอดหลอดไฟหน้าบ้านออกไปด้วย
พอดูที่หลอดไฟปรากฏว่าหลอดหายไปจริงๆ
เราโมโหมากๆ เพราะตามกฎหมายถ้าหลังจากโอนบ้านแล้ว
คุณม้าไม่มีสิทธิที่จะถอดอะไรออกจากตัวบ้านแล้ว
แต่แฟนเราไม่อยากมีปันหา จึงบอกให้เราปล่อยๆไป
หลังจากที่แฟนเราย้ายเข้ามาอยู่ประมาณ1เดือน
ปรากฎว่าคุณม้าไม่จ่ายค่าไฟของเดือนที่แล้ว
แฟนเราจึงโทรไปถาม
คุณม้าบอกว่าไม่มีเวลาไปจ่าย เด้วไปจ่ายให้แน่นอน
ผ่านๆปอาทิดนึงคุณม้าก็จ่ายค่าไฟให้เรียบร้อย
แต่!!!หลังจากนั้นยังไม่จบค่ะ
คุณม้าโทรไปขอที่คว่ำจานในในครัว
ซึ่งมันติดอยู่กับผนังบ้านในครัว
และราคาไม่ถึง200-300บาท
ถามว่าเราอยากได้มั๊ย เราก็ไม่ได้อยากได้
แต่เราก็รู้สึกว่ามันมากเกินไปที่ทำแบบนี้นะ
เราจึงทำเฉยๆกับเรื่องนี้
แต่คุณม้าก็ไม่หยุดที่จะโทรมาหาอยู่บ่อยๆจนแฟนเรารำคาน
พี่ๆที่ทำงานแฟนเราก็ให้คำปรึกษามามากมาย
ทั้งอย่าไปยอม หรือบอกว่าให้ไปแต่ต้องทำให้ข้างฝาเหมือนเดิม
มีอยู่คืนนึงคุณม้าเห็นเรานั่งแทกซี่เข้ามา
จึงรีบให้ลูกชาย เดินตามแฟนเรามา
ถือค้อนมาเรียบร้อยเลย
แฟนเราจึงบอกว่ารออยู่นี่แหละ เด้วถอดมาให้
เพราะเราก้ไม่อยากให้เข้ามาบ้านแล้ว
แล้วแฟนเราไม่อยากมีปันหา
พอถอดออกมาให้ ลูกชายคุณม้าก้ไม่ได้อยู่รอแล้ว
เราจึงบอกแฟนว่าให้วางไว้หน้าบ้านนี่แหละ
แอบร้ายนิดนึงนะคะ คือแบบต้องให้เดินไปให้ด้วยร๋อ
เราไม่ให้แฟนเราเดินไปหรอก
ผ่านไปประมาณ2-3วัน คุณม้ายังไม่เข้ามาเอาค่ะ
อ่อลืมบอกว่าตอนคุณม้าโทรมา
คุณม้าบอกว่า ไม่ได้ตกลงว่าจะให้ที่คว่ำจานด้วย
ดู๊ดูคำพูดของผู้ใหญ่นะคะ
พอถึงวันนี้ค่ะ วันอาทิด ต้องชายแฟนเรามาที่บ้านแฟนเราค่ะ
แล้วคุณม้าเฟ็นว่าน้องชายแฟนเรามาค่ะ
จึงให้เจ้านายแฟนเราโทรมาค่ะ
เจ้านายแฟนเราพูดไงรู้มั๊ยคะ
เจ้านายแฟนเราบอกว่า ไปตกลงอะไรกันไว้ก้ถอดให้เค้าด้วย
พูดประมาณว่าแฟนเราไม่ยอมให้ของๆเค้าอะคะ
ทั้งๆที่แฟนเราไม่เคยไปตกลงอะไรกับคุณม้าเลย
และตอนตกลงซื้อขายบ้านก้ไม่เคยพูดถึงไอ้ที่คว่ำจานนี้เลย
แล้วเราก็แบบโมโหสุดๆแล้วคะ
เลยบอกใฟ้แฟนเราโทรไปหาคุณม้า
ครั้งนี้เราขอคุยเอง
เด้วมาต่อนะคะ