หลังจากที่เราดูคลิปรถขนเบียร์คว่ำกลางทาง แล้วมีชาวบ้านมาหอบกล่องเบียร์ ขึ้นรถตัวเองคนละลังสองลัง ด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
พร้อมกับเสียงในคลิปที่บอกว่า "เอาไปได้ๆ คนละลัง" แค่ดูก็รู้สึกหดหู่แล้ว เลยมาตั้งกระทู้นี้ก็ว่าเพราะอ่านคอมเม้นของคนไทยบางส่วน
นี้ทำเอาปี๊ดจริงๆๆ มันบ่งบอกว่ายังมีคนไทยบางส่วนกำลังเข้าใจผิดอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องการเอาของคนอื่นแล้วคิดว่าของฟรี ได้กำไร
เลยอยากทำอะไรสักอย่าง ที่ทำให้คนที่กำลังเข้าใจผิดเหล่านี้ เข้าใจให้ถูกต้องมากขึ้น ไม่งั้นปล่อยไว้ต่อไปปท.ไทยคงจะมีคนแบบนี้เพิ่มจำนวนขึ้นแน่ๆๆ
จากคอมเม้นในเฟส ของคนไทยบางส่วนที่ดูคลิปนี้ ที่อ่านเจอแล้วเพลีย ยกตัวอย่าง
"เป็นกู กูก็เอา"
"ของฟรีนะคะ คนชอบ"
"เอามันเยอะๆๆ มันขายแพงเกิน แค่นี้ไม่เท่าไรหรอก
"มันเป็นสิทธิของเค้าครับ"
"คืนกำไรให้ลูกค้า"
"อยากขายเบียร์แพงดีนัก เอาแค่นี้ไม่ขาดทุนหรอก"
"บริษัทมีประสินสินค้านะคะ...บราๆ"
และอีกความคิดเห็นที่เห็นแก่ตัวมากมายที่อ่านไม่หมด
การมีคอมเม้นแบบนี้เกิดขึ้น แสดงว่าคนเหล่านี้กำลังเข้าใจผิดคิดว่า ข้าวของที่หล่นเสียหายจากอุบัติเหตุ เป็นของได้ฟรี มีสิทธิจะเอาได้ แล้วเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน
ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย แม้แต่ในสามัญสำนึกการเอาของ ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองก็เป็นเรื่องที่ผิดอยู่แล้ว
แต่เหตุการณ์แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นบ่อยๆจนกลายเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย
แล้วรู้บ้างมั้ยว่าจริงๆๆแล้ว คนที่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงๆๆ คือ ใคร ?
ซึ่งในบางคนที่คิดว่าบริษัทเป็นคนรับผิดชอบ มันรวยอยู่แล้ว เอาแค่นี้ขนไม่ร่วงหรอก เพราะมีประกัน ต่างๆบราๆๆ มโนเอง
ลองคิดดูซิว่า ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท หรือร้านค้าที่ซื้อของมา แล้วคนขับรถขนของทำของเราเสียหาย คุณจะเอาโทษใครก่อน
ความผิดแน่ๆๆคือ คนขับรถ แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นคุณจะไปเอากับใครก่อน ก็คือ คนขับรถ ทั้งหักเงิน ไล่ออก จ่ายค่าเสียหาย เป็นหนี้
ทุกอย่างมาลงที่คนขับรถก่อนเลยแน่ๆๆ ซึ่งทั้งบาดเจ็บแล้วต้องชดใช้ให้อีก มันขูดเลือดชัดๆๆ
ส่วนบริษัทจะมีประกันหรือไม่ มันเป็นส่วนที่เค้าจะไปจัดการอีกที แต่ไม่ใช่ว่านั้นจะเป็นของฟรี ยิ่งของเหลือเยอะเท่าไร การชดเชยความเสียหายก็จะน้อยลง ซึ่งการที่ไปเอาของคนอื่นมานั้น เท่ากับว่ายิ่งไปทำให้เรื่องมันแย่ลงกว่าเดิม ซ้ำเติมเข้าไปอีก ชั่วร้ายมาก...
แล้วขอยกตัวอย่างอีกเรืองนึงที่เกิดขึ้นจริงบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนแล้วอีกหลายๆคนที่กำลังเข้าใจผิด เอาของคนอื่นแล้วคิดว่าเป็นของฟรี ได้กำไร ทำความเข้าใจซะใหม่ นั้นคือ "เรื่องของเงินทอน"
ไม่มีสสารใด หายไปเองได้ ถ้าหากมีการเกินก็แสดงว่าต้องมีการขาดเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า เซเว่น หรือแม้แต่ธนาคาร ถ้าหากคุณได้เงินทอนมาเกินกรุณาให้คืนเค้าไปค่ะ
มันไม่ใช่ความโชคดีของคุณเลย หรือคุณได้กำไรแม้แต่น้อย เพราะการที่เงินคุณเกิน ก็เท่ากับว่าเงินของพนักงานคนนั้นขาด
แล้วบริษัท ร้านค้า ไม่ได้มาชดเชยเงินที่ขาดให้นะ ทุกบาททุกสตางค์ พนักงานคนนั้นจะต้องรับผิดชอบควักเงินตัวเองจ่ายคืนให้แทนคุณ
อย่ามองแต่ว่ามันเป็นคราวซวยของพนักงาน ที่ทำงานผิดพลาดเองช่วยไม่ได้ ก็ในเมื่อคุณรู้ว่าได้มาเกิน และจะต้องมีสามัญสำนึกคิดได้
ขนาดแม้แต่ตัวพนักงานเองก็ยังคืนเงินให้ถ้าได้รับมาเกินเช่นกัน เพราะเค้าเข้าใจ ใจเขาใจเรา ไม่ต่างกัน
ดังนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การที่คนนึงได้รับมา จะต้องมีอีกคนสูญเสีย หากแต่ละคนยังมีความคิดเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ และยังไม่เข้าใจว่า ใครคือคนที่จะเดือนร้อนจริงๆแล้วต้องรับผิดชอบจากการกระทำมากที่สุด เหตุการณ์อย่างที่เป็นข่าวก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ซ้ำเต็มไปเรื่อยๆ สังคมไทยก็จะแย่ลงแบบนี้ตลอดไป
ถ้าเราช่วยมือกัน แอนตี้ไม่เห็นด้วยกับคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ช่วยบอกให้คนเหล่านี้ได้รู้ ได้เข้าใจ มันคงจะดีกว่าปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเฉยๆ
และสุดท้ายขอบคุณ หวังว่าจะมีคนเปลี่ยนความคิดเข้าใจที่ผิดๆซะใหม่ให้ดีขึ้น เพราะทุกอย่างยังไม่สายยังเริ่มต้นใหม่ได้
จากข่าวที่รถขนเบียร์คว่ำ อยากให้คนไทยบางส่วนที่กำลังเข้าใจผิด..ของฟรี เปลี่ยนความคิดใหม่
หลังจากที่เราดูคลิปรถขนเบียร์คว่ำกลางทาง แล้วมีชาวบ้านมาหอบกล่องเบียร์ ขึ้นรถตัวเองคนละลังสองลัง ด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
พร้อมกับเสียงในคลิปที่บอกว่า "เอาไปได้ๆ คนละลัง" แค่ดูก็รู้สึกหดหู่แล้ว เลยมาตั้งกระทู้นี้ก็ว่าเพราะอ่านคอมเม้นของคนไทยบางส่วน
นี้ทำเอาปี๊ดจริงๆๆ มันบ่งบอกว่ายังมีคนไทยบางส่วนกำลังเข้าใจผิดอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องการเอาของคนอื่นแล้วคิดว่าของฟรี ได้กำไร
เลยอยากทำอะไรสักอย่าง ที่ทำให้คนที่กำลังเข้าใจผิดเหล่านี้ เข้าใจให้ถูกต้องมากขึ้น ไม่งั้นปล่อยไว้ต่อไปปท.ไทยคงจะมีคนแบบนี้เพิ่มจำนวนขึ้นแน่ๆๆ
จากคอมเม้นในเฟส ของคนไทยบางส่วนที่ดูคลิปนี้ ที่อ่านเจอแล้วเพลีย ยกตัวอย่าง
"เป็นกู กูก็เอา"
"ของฟรีนะคะ คนชอบ"
"เอามันเยอะๆๆ มันขายแพงเกิน แค่นี้ไม่เท่าไรหรอก
"มันเป็นสิทธิของเค้าครับ"
"คืนกำไรให้ลูกค้า"
"อยากขายเบียร์แพงดีนัก เอาแค่นี้ไม่ขาดทุนหรอก"
"บริษัทมีประสินสินค้านะคะ...บราๆ"
และอีกความคิดเห็นที่เห็นแก่ตัวมากมายที่อ่านไม่หมด
การมีคอมเม้นแบบนี้เกิดขึ้น แสดงว่าคนเหล่านี้กำลังเข้าใจผิดคิดว่า ข้าวของที่หล่นเสียหายจากอุบัติเหตุ เป็นของได้ฟรี มีสิทธิจะเอาได้ แล้วเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน
ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย แม้แต่ในสามัญสำนึกการเอาของ ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองก็เป็นเรื่องที่ผิดอยู่แล้ว
แต่เหตุการณ์แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นบ่อยๆจนกลายเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย
แล้วรู้บ้างมั้ยว่าจริงๆๆแล้ว คนที่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงๆๆ คือ ใคร ?
ซึ่งในบางคนที่คิดว่าบริษัทเป็นคนรับผิดชอบ มันรวยอยู่แล้ว เอาแค่นี้ขนไม่ร่วงหรอก เพราะมีประกัน ต่างๆบราๆๆ มโนเอง
ลองคิดดูซิว่า ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท หรือร้านค้าที่ซื้อของมา แล้วคนขับรถขนของทำของเราเสียหาย คุณจะเอาโทษใครก่อน
ความผิดแน่ๆๆคือ คนขับรถ แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นคุณจะไปเอากับใครก่อน ก็คือ คนขับรถ ทั้งหักเงิน ไล่ออก จ่ายค่าเสียหาย เป็นหนี้
ทุกอย่างมาลงที่คนขับรถก่อนเลยแน่ๆๆ ซึ่งทั้งบาดเจ็บแล้วต้องชดใช้ให้อีก มันขูดเลือดชัดๆๆ
ส่วนบริษัทจะมีประกันหรือไม่ มันเป็นส่วนที่เค้าจะไปจัดการอีกที แต่ไม่ใช่ว่านั้นจะเป็นของฟรี ยิ่งของเหลือเยอะเท่าไร การชดเชยความเสียหายก็จะน้อยลง ซึ่งการที่ไปเอาของคนอื่นมานั้น เท่ากับว่ายิ่งไปทำให้เรื่องมันแย่ลงกว่าเดิม ซ้ำเติมเข้าไปอีก ชั่วร้ายมาก...
แล้วขอยกตัวอย่างอีกเรืองนึงที่เกิดขึ้นจริงบ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนแล้วอีกหลายๆคนที่กำลังเข้าใจผิด เอาของคนอื่นแล้วคิดว่าเป็นของฟรี ได้กำไร ทำความเข้าใจซะใหม่ นั้นคือ "เรื่องของเงินทอน"
ไม่มีสสารใด หายไปเองได้ ถ้าหากมีการเกินก็แสดงว่าต้องมีการขาดเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า เซเว่น หรือแม้แต่ธนาคาร ถ้าหากคุณได้เงินทอนมาเกินกรุณาให้คืนเค้าไปค่ะ
มันไม่ใช่ความโชคดีของคุณเลย หรือคุณได้กำไรแม้แต่น้อย เพราะการที่เงินคุณเกิน ก็เท่ากับว่าเงินของพนักงานคนนั้นขาด
แล้วบริษัท ร้านค้า ไม่ได้มาชดเชยเงินที่ขาดให้นะ ทุกบาททุกสตางค์ พนักงานคนนั้นจะต้องรับผิดชอบควักเงินตัวเองจ่ายคืนให้แทนคุณ
อย่ามองแต่ว่ามันเป็นคราวซวยของพนักงาน ที่ทำงานผิดพลาดเองช่วยไม่ได้ ก็ในเมื่อคุณรู้ว่าได้มาเกิน และจะต้องมีสามัญสำนึกคิดได้
ขนาดแม้แต่ตัวพนักงานเองก็ยังคืนเงินให้ถ้าได้รับมาเกินเช่นกัน เพราะเค้าเข้าใจ ใจเขาใจเรา ไม่ต่างกัน
ดังนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การที่คนนึงได้รับมา จะต้องมีอีกคนสูญเสีย หากแต่ละคนยังมีความคิดเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ และยังไม่เข้าใจว่า ใครคือคนที่จะเดือนร้อนจริงๆแล้วต้องรับผิดชอบจากการกระทำมากที่สุด เหตุการณ์อย่างที่เป็นข่าวก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ซ้ำเต็มไปเรื่อยๆ สังคมไทยก็จะแย่ลงแบบนี้ตลอดไป
ถ้าเราช่วยมือกัน แอนตี้ไม่เห็นด้วยกับคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ช่วยบอกให้คนเหล่านี้ได้รู้ ได้เข้าใจ มันคงจะดีกว่าปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเฉยๆ
และสุดท้ายขอบคุณ หวังว่าจะมีคนเปลี่ยนความคิดเข้าใจที่ผิดๆซะใหม่ให้ดีขึ้น เพราะทุกอย่างยังไม่สายยังเริ่มต้นใหม่ได้