[สปอยล์] Interstellar และวรรณกรรม

สวัสดีค่ะ

พอดีเห็นว่าช่วงนี้กระทู้หนังเรื่องนี้เยอะแยะมากมาย บูรณาการกันมันแทบจะศาสตร์และศิลป์ทุกแขนง แต่ยังไม่เห็นแขนงวรรณกรรม เลยลองมาเสี่ยงเขียนดู (ถ้ามีแล้วซ้ำกันยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ)


ประเด็นที่จะนำมาเขียนวันนี้มีแค่สองประเด็นนิ่มๆ สั้นนิดดดดเดียว (เหรอ)

1. Do Not Go Gentle Into That Good Night  (จงประจันหันสู้กับความตาย)

2. โลกแห่งความแห้งแล้งและการโยกย้ายถิ่นฐาน

(ตอนแรกว่าจะเขียนที่มาของชื่อ Project Lazarus ด้วย แต่มีคนเขียนไปแล้ว อ่านได้ที่นี่นะคะ http://pantip.com/topic/32835368 )


ประเด็นแรก กวีนิพนธ์ที่นำมาให้ดอคเตอร์แบรนด์ท่อง (แทบจะกรอกหู) ให้เหล่านักบินอวกาศฟังคือ Do Not Go Gentle Into That Good Night โดยคุณ Dylan Thomas ค่ะ



เราจำซับไทยไม่ได้เพราะเพิ่งมาเห็นตอนใกล้จบว่าซับของกวีนิพนธ์บทนี้แปลไว้เพราะมาก (มัวแต่กรีดร้องชื่นชมภาพไอแม็กซ์ และคือชอบบทนี้อยู่แล้ว เลยยิ่งดีดดิ้นไปกันใหญ่ 555555555) เลยรีบๆจำมาได้แต่วรรคแรก ส่วนที่นำมาให้อ่านนี่คือกวีนิพนธ์ทั้งหมดค่ะ

Do not go gentle into that good night,
Old age should burn and rave at close of day;
Rage, rage against the dying of the light.

Though wise men at their end know dark is right,
Because their words had forked no lightning they
Do not go gentle into that good night.

Good men, the last wave by, crying how bright
Their frail deeds might have danced in a green bay,
Rage, rage against the dying of the light.

Wild men who caught and sang the sun in flight,
And learn, too late, they grieved it on its way,
Do not go gentle into that good night.

Grave men, near death, who see with blinding sight
Blind eyes could blaze like meteors and be gay,
Rage, rage against the dying of the light.

And you, my father, there on the sad height,
Curse, bless, me now with your fierce tears, I pray.
Do not go gentle into that good night.
Rage, rage against the dying of the light.

ถอดความอย่างย่อๆก็คือ "จงประจันหันสู้กับความตาย" เน้นๆเลยค่ะ จงอย่ายอมพ่ายให้สังขารอายุขัย อย่ายอมจากโลกนี้ไปโดยง่ายและไม่มีการต่อสู้ดิ้นรน จงโมโหว่าทำไมต้องตาย จงอย่ายอม
ทว่า ในบาทสุดท้าย ก็เปิดเผยว่าจริงๆแล้วนั่นก็เพราะพ่อของผู้พูด (the speaker - ถ้าเป็นนิยายก็เป็นคนบรรยาย (the narrator) ) กำลังจะตายนั่นเอง

And you, my father, there on the sad height,
Curse, bless, me now with your fierce tears, I pray.
Do not go gentle into that good night.
Rage, rage against the dying of the light.

ลูกขอวอนกับบิดรใกล้จรจาก
ปลอบโยนลูกผู้ทุกข์ยากอย่าหลีกหนี
ด้วยดิ้นรนเข้าประจันกับราตรี
ฝืนวิถีฝ่าแสงไฟใกล้ดับลง

(เราแปลไม่เพราะ เราขอโทษ 555555 พยายามแล้ว)

เลือกร้อยกรองมาใช้ได้ดีมากๆ ทั้งในแง่ของอารมณ์และความหมาย
อารมณ์คือ ถ้าฉากนั้น ดอคเตอร์พูดๆๆอะไรไปเรื่อยๆ "ซักวันหนึ่งพวกเธอจะกลับมา พวกเธอคือความหวังของมนุษยชาติ จงอย่าได้กลัวตาย ฯลฯ" เราก็คงเฉยๆกับฉากนั้น แต่ในเมื่อบทร้อยกรองมันคือการ 'เค้น' เอาอารมณ์และสานส์ทุกหยาดหยดใส่ลงไปโดยการใช้คำให้น้อยกว่ารอยแก้ว มันเลยเข้มข้นกว่า มีผลกระทบต่อจิตใจคนดูอย่างแรง (โดยเฉพาะถ้ารู้จักกลอนบทนี้ไปก่อนดู ปลื้มมากจริงๆ)



ด้านความหมาย มีสี่แยกอีก คือความหมายโดยตรงว่า พวกเธอจงอย่าได้กลัวตายในภารกิจนี้ พวกเธอทำเพื่อมนุษยชาติ กำลังจะได้ทำในสิ่งที่น้อยคนนักได้ทำมาก่อน (เหมือนจะมีแค่พวกดอคเตอร์แมนน์อีกแค่สามคน)
อีกแยกหนึ่งคือมันเป็นกวีที่พูดถึง 'พ่อ' จากความรู้สึกของลูก ทำให้นึกถึงน้องเมิร์ฟ น้องแกใจสลายเมื่อพ่อแมทธิวอยู่ๆก็ยินยอมพร้อมจะไปเฉยเลย ไม่มีการต่อสู้เพื่อหนูเพื่อพี่ทอมบ้างเลยเหรอพ่อ? (น้องแกยังเด็กน่ะ คิดแต่ว่าพ่อไม่รักๆ อยู่ๆก็จะไปไหนก็ไม่รู้ จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีก แล้วยังจะไป)
พอโตขึ้นมา ก็พาลสงสัยและผิดหวังในตัวพ่อไปอีกระลอกว่า นี่พ่อรู้รึเปล่าว่าแผนเอมันไม่ได้ตั้งใจจะเอาออกมาใช้แต่แรกอยู่แล้ว พ่อไม่ได้สู้ แต่พ่อหนีไปทิ้งพวกเราให้ตายใช่มั้ย นี่พ่อจะไม่ได้กลับมาช่วยเราใช่มั้ย หนูขอเห็นการดิ้นรนของพ่อหน่อยเถอะ จะได้รู้ว่าพ่อไม่ได้ทิ้งเรา



บทและอารมณ์ความรุ้สึกของเมิร์ฟ ทั้งตอนเด็กและโต เหมือนบาทสุดท้ายของร้อยกรองนี้ที่ยกมาเลยเนาะ  



อีกสองแยก เรา over-interpret เอาเอง (มีความสุขกับการตีความมากเกินไป) ว่า that good night อาจจะหมายถึงในรูหนอนนั่นและโลกถัดๆจากนั้น เมื่อขาดการติดต่อกันแล้ว แม้บนโลกจะไม่รับรู้ความเป็นอยู่ เป็นตายร้ายดียังไงของเหล่านักบินอวกาศ แต่จงอย่ายอมล้มหายตายจากไปโดยละม่อม อย่างน้อยก็ให้ดิ้นรนต่อสู้เพื่อข้อมูลหรือกระทำการใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติดูบ้าง

หรือไม่ก็ใกล้เคียงอย่างที่ คห. 1 ว่าค่ะ อาจจะตีความได้ว่า dying of the light คือ หลุมดำ (ที่ซึ่งแสงไม่สามารถส่องออกมาได้เพราะต้องใช้เวลาเป็นอนันต์ในการเดินทางออกมา จึงเหมือนกับว่าไม่มีแสง -- ส่วน คห 1 ตีความจากคำว่า gentle)
โดยสิ่งที่คูปทำในตอนสุดท้ายและช่วยเหลือมนุษยชาติเอาไว้ได้ก็คือการ rage against the dying of the light ฝ่าวิถีการดับลงของแสงไฟ รุดเข้าไปในความมืดของหลุมดำนั่นเอง

ส่วนประเด็นที่ 2 ขอตัดไปไว้อีกเมนท์นะคะ น่าจะเสร็จพรุ่งนี้ คืนนี้ขอไปทำงานแพร่พ

ยืมไอดีเพื่อนมาอีกเช่นกัน ขอบคุณเจ้าของไอดีที่เห็นใจเด็กตาดำๆค่ะ  

ป.ล. แท็กนิยายเพราะประเด็น 2 จ่ะ รอนิด


*แก้กลอนภาษาไทยค่า*
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่