เมื่ออดีตมันยังทำร้ายฉันถึงปัจจุบัน ดิฉันขอถามหน่อย…. ดิฉันควรจะวางตัวอย่างไร
ประเด็น คือ ปัจจุบันนี้ดิฉันต้องเจอกับแฟนเก่าและแฟนของเขาโดยบังเอิญ และบังเอิญมากกว่า 1 ครั้ง มันทำให้ดิฉันวางตัวไม่ถูกเลย
(อาจจะยาวนิดนะคะ กว่าจะเข้าเรื่อง….)
ดินฉันคบกับแฟนเก่าตอนเรียนมหาลัย และถึงขั้นเลยเถิดมีอะไรกันเพราะดิฉันรักเขามากและเขาก็แสดงออกว่ารักดิฉันมาก
ดิฉันกับแฟนเก่าเรียนมหาลัยเดียวกัน แต่พอเข้าเทอมที่ 2 แฟนเก่าของดิฉันโดนรีไทร์ จึงย้ายไปเรียนอีกมหาลัย
และนั้นคือจุดเปลี่ยน แฟน(เก่า)ดิฉัน กับดิฉันห่างกันมากขึ้นในความรู้สึกเขา
เพราะดิฉันเลิกเรียนต้องกลับบ้านไม่เกิน 17.30 น. และเสาร์อาทิตย์ ก็ต้องอยู่บ้านแม่ดิฉันไม่ค่อยปล่อยให้ไปไหน
กับแฟน(เก่า) ไปไหนมาไหนกันก็อาศัยวันไหนเรียนเลิกเร็ว หรือเรียนครึ่งวัน แล้วไปเที่ยวด้วยกัน หรือไปบ้านเขา แต่ไม่เคยกลับบ้านผิดเวลา หรือ ออกจากบ้านเสาร์อาทิตย์
เมื่ออยู่คนละมหาวิทยาลัยเวลาเรียนไม่ตรงกัน ฉันกับเขาจึงได้เจอกันน้อยลง และเขาก็มีสังคมให้เพื่อนใหม่
และที่สำคัญเขาได้เจอผู้หญิงคนใหม่ เขาเปลี่ยนไปมากจนดิฉันสืบรู้และเขายอมรับว่าไปแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่ยังไม่ถึงขั้นจีบ
แฟน(เก่า) ของดิฉันเขาอยากให้ดิฉันมีเวลาให้เขาเยอะ ๆ ได้อยู่ด้วยกันเยอะ ๆ ไปเที่ยวกลางคืนกับเขาได้ ไปค้างต่างจังหวัดกับเขาได้ ไปค้างเสาร์ อาทิตย์ที่บ้านเขาได้ แต่ที่พูดมาทั้งหมดดิฉันทำให้เขาไม่ได้เลย
เขาจึงหาคนใหม่ ที่มีเวลาให้เขาได้ มีอิสระจากที่บ้าน
ซึ่งเขาเริ่มสานสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผู้หญิงคนนั้นมีเวลาให้เขาตามที่เขาต้องการมากกว่าดิฉันมากมายหลายเท่า
จนทำให้เขาพยายามจะตัดดิฉันออกให้ได้
ดิฉันจะไม่เล่านะคะว่าเขาทำไม่ดีกับดิฉันยังไงบ้าง เอาเป็นว่าทุกพฤติกรรมของผู้ชายที่ต้องการเลิกกับคนเก่าเพื่อไปหาคนใหม่ พึ่งมีนั้นแหละค่ะ เขาทำกับดิฉันหมด
แต่ก็ผิดที่ฉันเองแหละค่ะ ไม่ยอมเลิกกับเขาง่าย ๆ ซะก็สิ้นเรื่อง
มาถึงจุดหักเหมาก ๆ ดิฉันมีปัญหากับเขามากมายทะเลาะกันตลอดๆ แต่ดิฉันก็ยังไปหาเขาที่บ้านอยู่บ่อย ๆ ดิฉันพยายามรั้งเขาไว้ไม่ให้เขาเลิกกับดิฉัน
เรายังคงทะเลากันตลอด
ช่วงนั้นดิฉันเครียดมาก เรียกได้ว่าไม่เป็นผู้เป็นคนเลยก็ว่าได้ จนดิฉันผอมน้ำหนักลดไปประมาณ 10 กก. ในเวลา 2- 3 เดือน
ดิฉันเริ่มคิดจะตัดใจ เพราะเขาหนีดิฉันตลอด แต่ปรากฏว่าดิฉันท้องคะ ใช่ดิฉันท้อง
ดิฉันพยายามจะบอกเขา แต่เขาพยายามทำตัวให้ดิฉันติดต่อเขาไม่ได้ โทรไปมือถือไม่รับ
โทรเข้าบ้านให้คนอื่นรับสายและบอกว่าไม่อยู่
ดิฉันเครียดและสับสนมากไม่รู้จะทำยังไง เรียนก็ยังไม่จบ คิดไปต่าง ๆ นานา คนเดียว
สุดท้าย….ใช่ค่ะดิฉันทำเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตฉัน…
ช่วงดิฉันพักฟื้น อยุ่ดีดีเขาก็โทรมาหาดิฉัน
ดิฉันจึงบอกเขาเรื่องท้อง แต่เขาไม่เชื่อดิฉัน เขาบอกว่าดิฉันจะผูกมัดเขาโดยเอาเรื่องท้องมาอ้าง
วันนั้นลึกๆดิฉันดีใจมากที่เขาโทรมา และทำให้ดิฉันก็ยังติดต่อเขามาอีกสักพัก แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
เรื่องราวปัญหาระหว่างดิฉันกับเขามากมายนัก
มันทำให้ดิฉันเครียดมากถึงขั้นทำร้ายตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจให้เขากลับมาสนใจดิฉันค่ะ ได้ผลค่ะเขากลับมาสนใจดิฉันจริงๆ
แค่ช่วงที่พักรักษาตัว เมื่อดิฉันหายดี เขาก็ตีตัวออกห่างอีก
ดิฉันก็พยายามยื้อเขาไว้ รั้งเขาไว้ด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา จนเป็นมหากาพย์เลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวระหว่างดิฉันกับเขา
จนสุดท้ายดิฉันตัดใจเลิกกับเขา เพราะแม่เขาโทรมาที่บ้านของดิฉัน เรื่อง “ให้อบรมเลี้ยงดูลูกของคุณให้ดีอย่าให้มายุ่งกับลูกของฉัน”
ดิฉันไม่ได้ตัดใจเลิกกับมัน เพราะที่บ้านดิฉันสั่ง หรือกลัวแม่มันแต่อย่างใด
แต่ดิฉันรู้สึกเกลียดมัน ที่มันเหมือน หน้า

ตัว

เมีย

ในความคิดของดิฉัน
เรื่องราวของเด็ก 2 คน ทำไมต้องให้ผู้ใหญ่เดือดร้อน
ทีเรื่องท้องดิฉันยังไม่วิ่งแจ้นไปหาแม่มันเพื่อร้องขอความรับผิดชอบเลย
ดิฉันตัดใจจากมัน ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา
จบค่ะ เรื่องอดีตระหว่างดิฉันกับมัน
OK ค่ะดิฉันยอมรับเลยในอดีต ในสายตาของมันดิฉันทำเรื่องแย่ ๆ กับมันไว้มาก เรื่องการยื้อการรั้งการไม่ยอมเลิกนะค่ะ
เรื่องอื่นดิฉันดีกับมันหมดแม้กระทั้งให้เงินมันกินเหล้าจนดิฉันไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้านต้องเดินครึ่งทางขึ้นรถขึ้นทาง
ตัดมาถึงปัจจุบัน
ดิฉันทำงานหน้าที่การงานมั่นคงรับราชการค่ะ
แต่งงานแล้วสามีหน้าที่การงานดีทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนเกือบครึ่งแสน
มีลูกน้อยที่น่ารักอีก 1 คน ^_^
ส่วนมัน ก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแหละค่ะ ที่เลิกกับดิฉันไป ก็ดูครอบครัวมีความสุขดี
รู้เพราะว่าเห็นเฟสมัน เพื่อนดิฉันสมัยเรียนก็เป็นเพื่อนมันด้วย เลยบังเอิญเห็นความเป็นไปของมันจากเฟสเนื่องจากมันตั้ง Public ไว้
แล้วก็ประจวบเหมาะบ้านดิฉันกับบ้านมันพื้นที่อยู่บริเวณเดียวกันอีก จึงทำให้ได้บังเอิญเจอกัน จากการที่ต้องใช้ โลตัส บิ๊กซีที่เดียวกัน
และเมื่อเวลาเจอกันนี่และค่ะ มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ หดหู่ไม่รู้จะวางตัวอย่างไร
กล้าพูดได้เลยค่ะว่าไม่ได้คิดอยากกลับไปอะไรอีกแล้ว ไม่ได้คิดมีใจอะไรเลย
เมื่อเวลาเจอมันและผู้หญิงคนนั้น มันจะทำตัวลักษณะเย้ยหยั๋น ดูถูกรังเกียจดิฉัน
สำหรับผู้หญิงก็ประมาณว่า ฉันนี่แหละ ชนะ ได้ผู้ชายมาครอบครอง
ส่วนไอ้ผู้ชายก็แสดงท่าทางเหมือนรังเกียจดิฉันมาก ประมาณว่ากลัวว่าดิฉันจะกลับไปหามันอีกอะไรประมาณนั้น
อันนี้บอกตรง ๆ เลยนะคะ ดิฉันเห็นแล้วเพลียเลยค่ะ
อยากจะบอกเหลือเกิน หรือตะโกนดังเลยค่ะว่า ดิฉันไม่หลงผิดแล้ว ที่ผ่านมามันเกิดขึ้นสมัยวุฒิภาวะน้อย
และช่วยดูด้วยดิฉันมีครอบครัวแล้วนะคะรักกันดีมากนะค่ะ จะกลับไปเพื่อ?
แต่ก็ทำไม่ได้ บอกตรง ๆ ค่ะ รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกเมื่อต้องเห็นสายตาและสีหน้าท่าทางแบบนั้น
คือยอมรับนะคะว่าตัวเองแย่จริง ๆ ที่ไม่ยอมเลิกกับมันให้ง่าย ๆ ไปเลยในตอนนั้น จะได้ไม่มีอดีตอันเลวร้ายในวันนั้นมาคอยทำร้ายในปัจจุบันวันนี้
ส่งผลให้ทุกวันปัจจุบันนี้ที่เจอมันรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูกค่ะ
ดิฉันควรจะวางตัวยังไงค่ะเมื่อเจอ…
จะแสดงออกยังไงดีค่ะว่าไม่ต้องกลัว ตูไม่กลับไปหาMungแน่นอน และใช่ว่าพลาดจากมันแล้วดิฉันจะหาผู้ชายอื่นอีกไม่ได้ เลิกทำท่าทนงค์กันเสียทีเถอะ
เล่ายาวจริงๆ
สุดท้ายขอบคุณนะคะที่อ่าน…
เห้อ...
เมื่ออดีตมันยังทำร้ายฉันถึงปัจจุบัน ดิฉันขอถามหน่อย…. ดิฉันควรจะวางตัวอย่างไร
ประเด็น คือ ปัจจุบันนี้ดิฉันต้องเจอกับแฟนเก่าและแฟนของเขาโดยบังเอิญ และบังเอิญมากกว่า 1 ครั้ง มันทำให้ดิฉันวางตัวไม่ถูกเลย
(อาจจะยาวนิดนะคะ กว่าจะเข้าเรื่อง….)
ดินฉันคบกับแฟนเก่าตอนเรียนมหาลัย และถึงขั้นเลยเถิดมีอะไรกันเพราะดิฉันรักเขามากและเขาก็แสดงออกว่ารักดิฉันมาก
ดิฉันกับแฟนเก่าเรียนมหาลัยเดียวกัน แต่พอเข้าเทอมที่ 2 แฟนเก่าของดิฉันโดนรีไทร์ จึงย้ายไปเรียนอีกมหาลัย
และนั้นคือจุดเปลี่ยน แฟน(เก่า)ดิฉัน กับดิฉันห่างกันมากขึ้นในความรู้สึกเขา
เพราะดิฉันเลิกเรียนต้องกลับบ้านไม่เกิน 17.30 น. และเสาร์อาทิตย์ ก็ต้องอยู่บ้านแม่ดิฉันไม่ค่อยปล่อยให้ไปไหน
กับแฟน(เก่า) ไปไหนมาไหนกันก็อาศัยวันไหนเรียนเลิกเร็ว หรือเรียนครึ่งวัน แล้วไปเที่ยวด้วยกัน หรือไปบ้านเขา แต่ไม่เคยกลับบ้านผิดเวลา หรือ ออกจากบ้านเสาร์อาทิตย์
เมื่ออยู่คนละมหาวิทยาลัยเวลาเรียนไม่ตรงกัน ฉันกับเขาจึงได้เจอกันน้อยลง และเขาก็มีสังคมให้เพื่อนใหม่
และที่สำคัญเขาได้เจอผู้หญิงคนใหม่ เขาเปลี่ยนไปมากจนดิฉันสืบรู้และเขายอมรับว่าไปแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่ยังไม่ถึงขั้นจีบ
แฟน(เก่า) ของดิฉันเขาอยากให้ดิฉันมีเวลาให้เขาเยอะ ๆ ได้อยู่ด้วยกันเยอะ ๆ ไปเที่ยวกลางคืนกับเขาได้ ไปค้างต่างจังหวัดกับเขาได้ ไปค้างเสาร์ อาทิตย์ที่บ้านเขาได้ แต่ที่พูดมาทั้งหมดดิฉันทำให้เขาไม่ได้เลย
เขาจึงหาคนใหม่ ที่มีเวลาให้เขาได้ มีอิสระจากที่บ้าน
ซึ่งเขาเริ่มสานสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผู้หญิงคนนั้นมีเวลาให้เขาตามที่เขาต้องการมากกว่าดิฉันมากมายหลายเท่า
จนทำให้เขาพยายามจะตัดดิฉันออกให้ได้
ดิฉันจะไม่เล่านะคะว่าเขาทำไม่ดีกับดิฉันยังไงบ้าง เอาเป็นว่าทุกพฤติกรรมของผู้ชายที่ต้องการเลิกกับคนเก่าเพื่อไปหาคนใหม่ พึ่งมีนั้นแหละค่ะ เขาทำกับดิฉันหมด
แต่ก็ผิดที่ฉันเองแหละค่ะ ไม่ยอมเลิกกับเขาง่าย ๆ ซะก็สิ้นเรื่อง
มาถึงจุดหักเหมาก ๆ ดิฉันมีปัญหากับเขามากมายทะเลาะกันตลอดๆ แต่ดิฉันก็ยังไปหาเขาที่บ้านอยู่บ่อย ๆ ดิฉันพยายามรั้งเขาไว้ไม่ให้เขาเลิกกับดิฉัน
เรายังคงทะเลากันตลอด
ช่วงนั้นดิฉันเครียดมาก เรียกได้ว่าไม่เป็นผู้เป็นคนเลยก็ว่าได้ จนดิฉันผอมน้ำหนักลดไปประมาณ 10 กก. ในเวลา 2- 3 เดือน
ดิฉันเริ่มคิดจะตัดใจ เพราะเขาหนีดิฉันตลอด แต่ปรากฏว่าดิฉันท้องคะ ใช่ดิฉันท้อง
ดิฉันพยายามจะบอกเขา แต่เขาพยายามทำตัวให้ดิฉันติดต่อเขาไม่ได้ โทรไปมือถือไม่รับ
โทรเข้าบ้านให้คนอื่นรับสายและบอกว่าไม่อยู่
ดิฉันเครียดและสับสนมากไม่รู้จะทำยังไง เรียนก็ยังไม่จบ คิดไปต่าง ๆ นานา คนเดียว
สุดท้าย….ใช่ค่ะดิฉันทำเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตฉัน…
ช่วงดิฉันพักฟื้น อยุ่ดีดีเขาก็โทรมาหาดิฉัน
ดิฉันจึงบอกเขาเรื่องท้อง แต่เขาไม่เชื่อดิฉัน เขาบอกว่าดิฉันจะผูกมัดเขาโดยเอาเรื่องท้องมาอ้าง
วันนั้นลึกๆดิฉันดีใจมากที่เขาโทรมา และทำให้ดิฉันก็ยังติดต่อเขามาอีกสักพัก แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
เรื่องราวปัญหาระหว่างดิฉันกับเขามากมายนัก
มันทำให้ดิฉันเครียดมากถึงขั้นทำร้ายตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจให้เขากลับมาสนใจดิฉันค่ะ ได้ผลค่ะเขากลับมาสนใจดิฉันจริงๆ
แค่ช่วงที่พักรักษาตัว เมื่อดิฉันหายดี เขาก็ตีตัวออกห่างอีก
ดิฉันก็พยายามยื้อเขาไว้ รั้งเขาไว้ด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา จนเป็นมหากาพย์เลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวระหว่างดิฉันกับเขา
จนสุดท้ายดิฉันตัดใจเลิกกับเขา เพราะแม่เขาโทรมาที่บ้านของดิฉัน เรื่อง “ให้อบรมเลี้ยงดูลูกของคุณให้ดีอย่าให้มายุ่งกับลูกของฉัน”
ดิฉันไม่ได้ตัดใจเลิกกับมัน เพราะที่บ้านดิฉันสั่ง หรือกลัวแม่มันแต่อย่างใด
แต่ดิฉันรู้สึกเกลียดมัน ที่มันเหมือน หน้า
เรื่องราวของเด็ก 2 คน ทำไมต้องให้ผู้ใหญ่เดือดร้อน
ทีเรื่องท้องดิฉันยังไม่วิ่งแจ้นไปหาแม่มันเพื่อร้องขอความรับผิดชอบเลย
ดิฉันตัดใจจากมัน ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา
จบค่ะ เรื่องอดีตระหว่างดิฉันกับมัน
OK ค่ะดิฉันยอมรับเลยในอดีต ในสายตาของมันดิฉันทำเรื่องแย่ ๆ กับมันไว้มาก เรื่องการยื้อการรั้งการไม่ยอมเลิกนะค่ะ
เรื่องอื่นดิฉันดีกับมันหมดแม้กระทั้งให้เงินมันกินเหล้าจนดิฉันไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้านต้องเดินครึ่งทางขึ้นรถขึ้นทาง
ตัดมาถึงปัจจุบัน
ดิฉันทำงานหน้าที่การงานมั่นคงรับราชการค่ะ
แต่งงานแล้วสามีหน้าที่การงานดีทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนเกือบครึ่งแสน
มีลูกน้อยที่น่ารักอีก 1 คน ^_^
ส่วนมัน ก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแหละค่ะ ที่เลิกกับดิฉันไป ก็ดูครอบครัวมีความสุขดี
รู้เพราะว่าเห็นเฟสมัน เพื่อนดิฉันสมัยเรียนก็เป็นเพื่อนมันด้วย เลยบังเอิญเห็นความเป็นไปของมันจากเฟสเนื่องจากมันตั้ง Public ไว้
แล้วก็ประจวบเหมาะบ้านดิฉันกับบ้านมันพื้นที่อยู่บริเวณเดียวกันอีก จึงทำให้ได้บังเอิญเจอกัน จากการที่ต้องใช้ โลตัส บิ๊กซีที่เดียวกัน
และเมื่อเวลาเจอกันนี่และค่ะ มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ หดหู่ไม่รู้จะวางตัวอย่างไร
กล้าพูดได้เลยค่ะว่าไม่ได้คิดอยากกลับไปอะไรอีกแล้ว ไม่ได้คิดมีใจอะไรเลย
เมื่อเวลาเจอมันและผู้หญิงคนนั้น มันจะทำตัวลักษณะเย้ยหยั๋น ดูถูกรังเกียจดิฉัน
สำหรับผู้หญิงก็ประมาณว่า ฉันนี่แหละ ชนะ ได้ผู้ชายมาครอบครอง
ส่วนไอ้ผู้ชายก็แสดงท่าทางเหมือนรังเกียจดิฉันมาก ประมาณว่ากลัวว่าดิฉันจะกลับไปหามันอีกอะไรประมาณนั้น
อันนี้บอกตรง ๆ เลยนะคะ ดิฉันเห็นแล้วเพลียเลยค่ะ
อยากจะบอกเหลือเกิน หรือตะโกนดังเลยค่ะว่า ดิฉันไม่หลงผิดแล้ว ที่ผ่านมามันเกิดขึ้นสมัยวุฒิภาวะน้อย
และช่วยดูด้วยดิฉันมีครอบครัวแล้วนะคะรักกันดีมากนะค่ะ จะกลับไปเพื่อ?
แต่ก็ทำไม่ได้ บอกตรง ๆ ค่ะ รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกเมื่อต้องเห็นสายตาและสีหน้าท่าทางแบบนั้น
คือยอมรับนะคะว่าตัวเองแย่จริง ๆ ที่ไม่ยอมเลิกกับมันให้ง่าย ๆ ไปเลยในตอนนั้น จะได้ไม่มีอดีตอันเลวร้ายในวันนั้นมาคอยทำร้ายในปัจจุบันวันนี้
ส่งผลให้ทุกวันปัจจุบันนี้ที่เจอมันรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูกค่ะ
ดิฉันควรจะวางตัวยังไงค่ะเมื่อเจอ…
จะแสดงออกยังไงดีค่ะว่าไม่ต้องกลัว ตูไม่กลับไปหาMungแน่นอน และใช่ว่าพลาดจากมันแล้วดิฉันจะหาผู้ชายอื่นอีกไม่ได้ เลิกทำท่าทนงค์กันเสียทีเถอะ
เล่ายาวจริงๆ
สุดท้ายขอบคุณนะคะที่อ่าน…
เห้อ...