สวัสดีค่ะ นี่คือกระทู้แรกที่อยากจะออกมาระบายเรื่องส่วนตัวให้ใครสักคนฟัง ผิดพลาดยังไงขออภัยไว้ด้วยค่ะ
ขอเท้าความตั้งแต่ต้นเลยละกันนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เราได้พบกับผู้ชายคนนึง คนที่เราคิดว่านี่แหล่ะคือคนที่เราตามหามานาน
เราสองคนเจอกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราสองคนเจอกันทุกวัน
หลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน เราสองคนเริ่มทำความรู้จักสนิทสนมกัน จนในที่สุดเราสองคนก็คบกันในฐานะแฟน
2 เดือนต่อมา เราย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเขา ( ยอมรับนะคะว่าเร็วสำหรับการย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของแฟนเรา แต่มันลำบากกับการเดินทางมาก ค่ารถ บลาๆ )
เขามีลูกสาว 1 คน ตอนนี้เรียนอยู่มอต้น ตอนแรกเราก็ชอบเด็กนะคะ แต่หลังๆมารู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กคนนั้น แต่เราทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเด็กคือลูกเขา
เราเก็บอารมณ์มาตลอด 3 เดือน ไม่ได้บอกให้ใครรู้แม้กระทั่งคนรักของเราเอง กลัวจะมีปัญญากัน
และนี่คือจุดเริ่มต้น
เรารู้สึกเหมือนเป็นคนเก็บกด ไม่พูดไม่จา ไม่เจอใคร อะไรทั้งนั้น แล้วมันก็ส่งผลให้เราสองคนทะเลาะกัน จนเราเกือบจะย้ายออกไปหลายครั้งมาก
เราทนไม่ไหวเลยบอกความรู้สึกทั้งหมดออกไป ซึ่งเขาก็รับรู้แล้วบอกว่าจะจัดการเคลียร์ปัญหาให้
เรารอมานานจนคิดว่ารอไม่ได้แล้ว เรารู้สึกเหมือนมีพลังงานอะไรสักอย่างในตัวเด็กคนนั้น...?
เราเลยขอให้แฟนเราเอาไลน์ของเด็กคนนั้นมาเช็ค ปรากฏว่า ข้อความทั้งหมดมีแต่ด่าเราทั้งนั้นเลยค่ะ ( กับแม่ของเด็กคนนั้น )
เราโมโหมาก เราไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะกล้าด่าเราขนาดนี้ เราเลยตัดสินใจบอกกับแฟนเราว่าเลือกเอาว่าจะเคลียร์กับเด็กคนนั้นหรือเราย้ายออก
เราคิดอยู่อย่างเดียวว่าสิ่งที่เรารู้สึกมาตลอด 3 เดือนกว่า ว่ามันไม่มีอะไร แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องจริง
ในใจเราคิดอยู่แล้วตอนนั้นว่าเราต้องเป็นคนออกแน่ๆแต่คือเราคิดผิด เขาส่งเด็กคนนั้นกลับไปอยู่กับแม่ของเด็กเอง
เขาเลือกเรา
หลังจากวันนั้น ทุกอย่างปกติ ชีวิตแฮปปี้มากค่ะ จนกระทั้ง..วันที่เด็กคนนั้นโทรมาว่าขอกลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง
แต่...เราไม่รู้มาก่อน
เราเซอร์ไพร์มากที่เห็นเด็กคนนั้นขนของทุกอย่างกลับมา แต่ทำไมแฟนเราไม่ยอมบอกเราสักคำก่อน
เข้าใจนะคะว่าเด็กมีสิทธิ์ที่จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คือบอกให้เราเตรียมตัวเตรียมใจก่อนได้ไหม
แต่ผลสุดทัายคือเราใจอ่อนเอง เรายอมให้อภัยเด็กคนนั้น
ตอนนั้นเรารู้สึกจริงๆชีวิตคู่ของเราทุกวันนี้เริ่มเหมือนครอบครัวขึ้นไปทุกที ( ซึ่งเราไมีได้หวังไว้แบบนั้น

)
เราสองคนเริ่มทะเลาะกันอีกหลายต่อหลายครั้งกับเรื่องนี้ จนเหตุการณ์มันคูณทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆแบบไม่มีขีดสิ้นสุด
จนครั้งสุดท้ายเราทำให้เขาเดินไม่ได้เกือบสองเดือน โดยความที่ไม่ได้ตั้งใจเลย เราเสียใจมาก
นี้ใช่ไหมที่เรียกว่าความรัก...
ใช่ เพราะว่าแฟนเราไม่เคยที่จะทิ้งเราเลยสักครั้งเดียว
มีแต่เราที่ทำตัวงี่เง่า ไร้สติ เอาแต่ใจตัวเอง ขี้แพ้ เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งตลอด จนเรารู้ได้ว่าชีวิตแบบนี้มันไม่ใช่ในแบบที่เราคิดไว้ด้วยกันตั้งแต่แรก
ในเมื่อมีแต่เราที่ทำให้สถานะความสัมพันธ์ของเราทั้งสองลดลงได้ ทำไมเราจะทำให้มันกลับมาดีดังเดิมไม่ได้...?
เราเริ่มพยายามปรับตัวกับการใช้ชีวิตคู่มากขึ้น เราเอาใจใส่เเฟนเรามากขึ้น เราเข้าใจความรู้สึกของแฟนเรามากขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นมาก
จนตอนนี้ เรากำลังจะพาแฟนเราไปพบพ่อกับแม่เราค่ะ เราตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครรักเราได้มากเท่ากับ ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ( รองจากพ่อแม่ )
ทุกวันนี้ เราคบกันได้2 ปีกว่าแล้วค่ะ แล้วไม่มีขีดจำกัดด้วยค่ะว่าจะรักกันไปถึงเมื่อไหร่

ปล.ถ้าเราไม่โชคดีที่เจอคนๆนี้ ป่านนี้เราคงเสียคนดีๆที่รักเราคนนึงไปเพราะอารมณ์ที่เป็นใหญ่ของเราเอง
เหตุเกิดเพราะอารมณ์แท้ๆ
ขอเท้าความตั้งแต่ต้นเลยละกันนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เราได้พบกับผู้ชายคนนึง คนที่เราคิดว่านี่แหล่ะคือคนที่เราตามหามานาน
เราสองคนเจอกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราสองคนเจอกันทุกวัน
หลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน เราสองคนเริ่มทำความรู้จักสนิทสนมกัน จนในที่สุดเราสองคนก็คบกันในฐานะแฟน
2 เดือนต่อมา เราย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเขา ( ยอมรับนะคะว่าเร็วสำหรับการย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของแฟนเรา แต่มันลำบากกับการเดินทางมาก ค่ารถ บลาๆ )
เขามีลูกสาว 1 คน ตอนนี้เรียนอยู่มอต้น ตอนแรกเราก็ชอบเด็กนะคะ แต่หลังๆมารู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กคนนั้น แต่เราทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเด็กคือลูกเขา
เราเก็บอารมณ์มาตลอด 3 เดือน ไม่ได้บอกให้ใครรู้แม้กระทั่งคนรักของเราเอง กลัวจะมีปัญญากัน
และนี่คือจุดเริ่มต้น
เรารู้สึกเหมือนเป็นคนเก็บกด ไม่พูดไม่จา ไม่เจอใคร อะไรทั้งนั้น แล้วมันก็ส่งผลให้เราสองคนทะเลาะกัน จนเราเกือบจะย้ายออกไปหลายครั้งมาก
เราทนไม่ไหวเลยบอกความรู้สึกทั้งหมดออกไป ซึ่งเขาก็รับรู้แล้วบอกว่าจะจัดการเคลียร์ปัญหาให้
เรารอมานานจนคิดว่ารอไม่ได้แล้ว เรารู้สึกเหมือนมีพลังงานอะไรสักอย่างในตัวเด็กคนนั้น...?
เราเลยขอให้แฟนเราเอาไลน์ของเด็กคนนั้นมาเช็ค ปรากฏว่า ข้อความทั้งหมดมีแต่ด่าเราทั้งนั้นเลยค่ะ ( กับแม่ของเด็กคนนั้น )
เราโมโหมาก เราไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะกล้าด่าเราขนาดนี้ เราเลยตัดสินใจบอกกับแฟนเราว่าเลือกเอาว่าจะเคลียร์กับเด็กคนนั้นหรือเราย้ายออก
เราคิดอยู่อย่างเดียวว่าสิ่งที่เรารู้สึกมาตลอด 3 เดือนกว่า ว่ามันไม่มีอะไร แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องจริง
ในใจเราคิดอยู่แล้วตอนนั้นว่าเราต้องเป็นคนออกแน่ๆแต่คือเราคิดผิด เขาส่งเด็กคนนั้นกลับไปอยู่กับแม่ของเด็กเอง
เขาเลือกเรา
หลังจากวันนั้น ทุกอย่างปกติ ชีวิตแฮปปี้มากค่ะ จนกระทั้ง..วันที่เด็กคนนั้นโทรมาว่าขอกลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง
แต่...เราไม่รู้มาก่อน
เราเซอร์ไพร์มากที่เห็นเด็กคนนั้นขนของทุกอย่างกลับมา แต่ทำไมแฟนเราไม่ยอมบอกเราสักคำก่อน
เข้าใจนะคะว่าเด็กมีสิทธิ์ที่จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คือบอกให้เราเตรียมตัวเตรียมใจก่อนได้ไหม
แต่ผลสุดทัายคือเราใจอ่อนเอง เรายอมให้อภัยเด็กคนนั้น
ตอนนั้นเรารู้สึกจริงๆชีวิตคู่ของเราทุกวันนี้เริ่มเหมือนครอบครัวขึ้นไปทุกที ( ซึ่งเราไมีได้หวังไว้แบบนั้น
เราสองคนเริ่มทะเลาะกันอีกหลายต่อหลายครั้งกับเรื่องนี้ จนเหตุการณ์มันคูณทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆแบบไม่มีขีดสิ้นสุด
จนครั้งสุดท้ายเราทำให้เขาเดินไม่ได้เกือบสองเดือน โดยความที่ไม่ได้ตั้งใจเลย เราเสียใจมาก
นี้ใช่ไหมที่เรียกว่าความรัก...
ใช่ เพราะว่าแฟนเราไม่เคยที่จะทิ้งเราเลยสักครั้งเดียว
มีแต่เราที่ทำตัวงี่เง่า ไร้สติ เอาแต่ใจตัวเอง ขี้แพ้ เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งตลอด จนเรารู้ได้ว่าชีวิตแบบนี้มันไม่ใช่ในแบบที่เราคิดไว้ด้วยกันตั้งแต่แรก
ในเมื่อมีแต่เราที่ทำให้สถานะความสัมพันธ์ของเราทั้งสองลดลงได้ ทำไมเราจะทำให้มันกลับมาดีดังเดิมไม่ได้...?
เราเริ่มพยายามปรับตัวกับการใช้ชีวิตคู่มากขึ้น เราเอาใจใส่เเฟนเรามากขึ้น เราเข้าใจความรู้สึกของแฟนเรามากขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นมาก
จนตอนนี้ เรากำลังจะพาแฟนเราไปพบพ่อกับแม่เราค่ะ เราตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครรักเราได้มากเท่ากับ ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ( รองจากพ่อแม่ )
ทุกวันนี้ เราคบกันได้2 ปีกว่าแล้วค่ะ แล้วไม่มีขีดจำกัดด้วยค่ะว่าจะรักกันไปถึงเมื่อไหร่
ปล.ถ้าเราไม่โชคดีที่เจอคนๆนี้ ป่านนี้เราคงเสียคนดีๆที่รักเราคนนึงไปเพราะอารมณ์ที่เป็นใหญ่ของเราเอง