พอใกล้จะแข่งกีฬาระหว่างคณะทีไร นึกขึ้นมาได้ทุกที ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวผมเองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นช่วงของปี 1 ครับ ตอนนี้ผมอยู่ ปี 3 แล้วน่ะครับ เรียนคณะวิทยาศาสตร์ อยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏฯ แห่งหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยชื่อน่ะครับ) พอดีปี 1 ใช่มั้ยครับ มันก็จะมีกิจกรรมมากมายเยอะมาก กิจกรรมที่เหนื่อยสุด ก็คงจะหนีไม่พ้นกีฬาระหว่างคณะแน่นอน ผมได้เป็นหนึ่งในกองเชียร์กับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อนผู้ชายที่เหลือเค้าไปเป็นหลีดแดนซ์หมด (ประมาณว่า ผมโดนคัดออกเพราะตัวเล็ก TT )ก็เลยได้เป็นกองเชียร์ซ่ะงั้น ก็ซ้อมทุกวันครับตอนเย็น 16.00-20.00น. วันที่เกิดเหตุ ก็เหลือซ้อมอีก 3 วันสุดท้าย ก็เหนื่อยมากกว่าเดิม ซ้อมหนักมาก เพราะใกล้ถึงวันแข่งแล้ว อยู่ซ้อมดึกกว่าเดิมครับ วันนั้นพอซ้อมเสร็จ ห้าทุ่มกว่าๆ พอพี่สตาฟปล่อย เค้าก็วานให้ผมช่วยปิดไฟบนห้องประชุม ก็เลยเหลือผม กับเพื่อนฟู้หญิงคนนึง กลับทีหลังเค้า พอปิดไฟเสร็จก็ลงมาจากตึก จะกลับหอ พอดีเพื่อนผู้หญิงที่อยู่ช่วยปิดไฟ เค้าเอาจักรยานมา พอดีเค้าอยู่หอใน ก็เป็นห่วงเค้าก็เลย ขี่มอไซค์ไปส่งเค้าที่หอ
พอจอดรถหน้าหอ (หอมี 4 ชั้นครับ) เพื่อนบอกให้ไปส่งที่หน้าห้องหน่อย เค้ากลัว ก็น่ากลัวอยู่ครับ เพราะหอมืดมากครับ มีไฟส่องตรงบรรไดทางขึ้น 2 ดวงเอง ก็จำใจเดินไปส่งครับ ( ผมก็กลัวน่ะ แต่พูดอะไรไม่ได้เพราะเป็นผู้ชาย ต้องใจกล้าโชว์สาวหน่อย TT ) ก็เลยเดินไปส่ง แค่ขึ้นบรรไดยังหลอนเลย ห้องเพื่อนอยู่ชั้น 4 ครับ พอมาส่งที่หน้าห้องเสร็จครับ เพื่อนก็บอกขอบใจมาก ขับรถกลับดีๆน่ะ พรุ่งนี้เจอกัน ผมก็บอกโอเคร พรุ่งนี้เจอกัน แล้วก็กำลังจะลงมาข้างล่าง ครั้งแรกว่าจะลงบรรไดทางเดิม ไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจให้ผมลงลิฟต์ คงคิดว่ามันไวกว่ามั้ง ( 4 ชั้นเอง แต่

ลงลิฟต์ บ้าไปแล้ว ) พอเข้าไปในลิฟต์ ก็ได้กลิ่นสาปครับ เหมือนหนูตาย ประมาณเนี้ย ก็คิดในใจ อะไรวะ? ลิฟต์ก็ใหม่ ยังเหม็นอีก ( ลิฟต์ใหม่มากครับ สียังสดๆอยู่เลย ) พอเปิดลิฟต์ ก็เดินออกมาได้ ซัก 4-5 เมตรมั้งครับ น่าจะได้ ลิฟต์ก็เปิดเอง แล้วมีนักศึกษาเดินออกตามมา คิดในใจเห้ย...กูลงมาคนเดียวนี้หว่า จังหวะนั้น วิ่งมาที่รถเลยครับ เอาหมวกกันน๊อคที่วางครอบกระจก กำลังจะใส่ ตาเจ้ากรรม ก็ดันเหลือบไปมองกระจก เห็นนักศึกษาคนนั้นกำลังมองมาทางผม เห็นแต่ท่อนบนครับ ท่อนล่าง ตั้งแต่ขามองไม่เห็น ยืนกวักมืออยู่ ผมสตาร์ทรถ รีบบิดรถมอไซค์ออกมาจากหอนั้นอย่างไวเลยครับ ขนลุกหมดเลยครับ มาถึงหอผม ก็อาบน้ำนอนเลย กินไรไม่ลงเลยครับ กลัวมาก ตื่นมาตอนเช้าก็ไปเรียนปกติ เพื่อนก็แซว
เพื่อน : เห้ย เมื่อคืนมารับสาวไหนไปเที่ยวว่ะ...ฮั่นแน่
ผม : สาวไหน...? มีแต่กูไปส่งเพื่อนที่ซ้อมเชียร์ด้วยกัน
เพื่อน: ก็เห็นรับออกมาจากหอในอยู่...อย่ามาเนียน ใส่ชุดนักศึกษาอ่ะ
ผมนี่พูดอะไรไม่ออกเลย ตอนเรียนเสร็จกลับมาห้อง ก็เลยหาข่าวการตายของนักศึกษามหาลัยผมจากอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่มีข่าวไหนเลย วันต่อมาก็ซ้อมวันสุดท้าย ก่อนรอซ้อมก็ไปนั่งรอที่ร้านกาแฟ ข้างสหกรณ์ ก็มีภารโรงมาสั่งชาเย็น(มั้ง น่าจะใช่) ผมก็เลยลองถามภารโรงดู
ผม: น้าครับ ที่หอในของมหาลัยเราเคยมีคนตายใช่มั้ยครับ (เจ้าของร้านกาแฟกับภารโรงก็มองหน้ากัน)
ภารโรง : น้องรู้ได้ไง ....!?
ผม : (ผมก็เล่าเรื่องเมื่อคืนก่อนให้ฟัง)
ภารโรง : ถ้าน้องรู้ น้องอย่าไปบอกใครน่ะ ก่อนที่น้องจะมาเรียนที่เนี้ย ตอนปิดเทอมเนี้ยมีเด็กมหาลัยเราตายในลิฟต์ (ผมนี่อึ้งเลย...) น่าจะช่างปิดเทอม เค้ากลับมาเอาของอะไรซักอย่างมั้ง แล้วลงลิฟต์ ลิฟต์มันค้าง ออกไม่ได้ ก็ตายในลิฟต์ ผมนี่แหละเป็นคนไปเจอศพ ตอนไปเอาเครื่องตัดหญ้าข้างลิฟต์ สภาพศพตอนนั้น ก็หนังแห้งติดกระดูกแล้ว น่าสงสารมาก สภาพคือนั่งกินผมตัวเองคาปากเลย
ผม : อ้าว...แล้วทำไมผมไม่รู้ข่าวครับ...!?
ภารโรง : มหาลัยเค้าปิดข่าวมั้ง น้าก็ไม่รู้ว่ะ แต่ถ้ารู้แล้วก็อย่าไปบอกใครนะ
ผมที่จากกลัวๆมาก รู้สึกสงสารพี่เค้ามากเลย...คือ (เท่าทีคิดได้) เค้าทำไมไม่โทรบอกคนมาช่วย หรือพี่เค้าไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือหรือป่าว ไม่งั้นก็คงไม่จบชีวิตแบบนี้หรอก น่าสงสารมาก หลังจากแข่งกีฬาเสร็จ วันต่อมาเป็นวันพระพอดี ผมก็เลยโดดเรียนไปทำบุญเลยครับ อุทิศส่วนกุศลให้พี่เค้า... ก็หอนั้นผมก็ไม่กล้าไปอีกเลยครับ บอกเลย น่ากลัวมาก...
ปล. เวลาขึ้นลิฟต์ก็อย่าลืมพกโทรศัพท์มือถือนะครับ กันไว้ดีกว่าแก้ครับ อันตรายเหมือนกัน ก็ขอบคุณพื้นที่ของเว็บบอร์ดพันทิปมากมายครับ ผมอาจพิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ
เสียวสันหลัง...ในลิฟต์หอใน...(อาจมีคนเคยเจอแบบผม)
พอจอดรถหน้าหอ (หอมี 4 ชั้นครับ) เพื่อนบอกให้ไปส่งที่หน้าห้องหน่อย เค้ากลัว ก็น่ากลัวอยู่ครับ เพราะหอมืดมากครับ มีไฟส่องตรงบรรไดทางขึ้น 2 ดวงเอง ก็จำใจเดินไปส่งครับ ( ผมก็กลัวน่ะ แต่พูดอะไรไม่ได้เพราะเป็นผู้ชาย ต้องใจกล้าโชว์สาวหน่อย TT ) ก็เลยเดินไปส่ง แค่ขึ้นบรรไดยังหลอนเลย ห้องเพื่อนอยู่ชั้น 4 ครับ พอมาส่งที่หน้าห้องเสร็จครับ เพื่อนก็บอกขอบใจมาก ขับรถกลับดีๆน่ะ พรุ่งนี้เจอกัน ผมก็บอกโอเคร พรุ่งนี้เจอกัน แล้วก็กำลังจะลงมาข้างล่าง ครั้งแรกว่าจะลงบรรไดทางเดิม ไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจให้ผมลงลิฟต์ คงคิดว่ามันไวกว่ามั้ง ( 4 ชั้นเอง แต่
เพื่อน : เห้ย เมื่อคืนมารับสาวไหนไปเที่ยวว่ะ...ฮั่นแน่
ผม : สาวไหน...? มีแต่กูไปส่งเพื่อนที่ซ้อมเชียร์ด้วยกัน
เพื่อน: ก็เห็นรับออกมาจากหอในอยู่...อย่ามาเนียน ใส่ชุดนักศึกษาอ่ะ
ผมนี่พูดอะไรไม่ออกเลย ตอนเรียนเสร็จกลับมาห้อง ก็เลยหาข่าวการตายของนักศึกษามหาลัยผมจากอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่มีข่าวไหนเลย วันต่อมาก็ซ้อมวันสุดท้าย ก่อนรอซ้อมก็ไปนั่งรอที่ร้านกาแฟ ข้างสหกรณ์ ก็มีภารโรงมาสั่งชาเย็น(มั้ง น่าจะใช่) ผมก็เลยลองถามภารโรงดู
ผม: น้าครับ ที่หอในของมหาลัยเราเคยมีคนตายใช่มั้ยครับ (เจ้าของร้านกาแฟกับภารโรงก็มองหน้ากัน)
ภารโรง : น้องรู้ได้ไง ....!?
ผม : (ผมก็เล่าเรื่องเมื่อคืนก่อนให้ฟัง)
ภารโรง : ถ้าน้องรู้ น้องอย่าไปบอกใครน่ะ ก่อนที่น้องจะมาเรียนที่เนี้ย ตอนปิดเทอมเนี้ยมีเด็กมหาลัยเราตายในลิฟต์ (ผมนี่อึ้งเลย...) น่าจะช่างปิดเทอม เค้ากลับมาเอาของอะไรซักอย่างมั้ง แล้วลงลิฟต์ ลิฟต์มันค้าง ออกไม่ได้ ก็ตายในลิฟต์ ผมนี่แหละเป็นคนไปเจอศพ ตอนไปเอาเครื่องตัดหญ้าข้างลิฟต์ สภาพศพตอนนั้น ก็หนังแห้งติดกระดูกแล้ว น่าสงสารมาก สภาพคือนั่งกินผมตัวเองคาปากเลย
ผม : อ้าว...แล้วทำไมผมไม่รู้ข่าวครับ...!?
ภารโรง : มหาลัยเค้าปิดข่าวมั้ง น้าก็ไม่รู้ว่ะ แต่ถ้ารู้แล้วก็อย่าไปบอกใครนะ
ผมที่จากกลัวๆมาก รู้สึกสงสารพี่เค้ามากเลย...คือ (เท่าทีคิดได้) เค้าทำไมไม่โทรบอกคนมาช่วย หรือพี่เค้าไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือหรือป่าว ไม่งั้นก็คงไม่จบชีวิตแบบนี้หรอก น่าสงสารมาก หลังจากแข่งกีฬาเสร็จ วันต่อมาเป็นวันพระพอดี ผมก็เลยโดดเรียนไปทำบุญเลยครับ อุทิศส่วนกุศลให้พี่เค้า... ก็หอนั้นผมก็ไม่กล้าไปอีกเลยครับ บอกเลย น่ากลัวมาก...
ปล. เวลาขึ้นลิฟต์ก็อย่าลืมพกโทรศัพท์มือถือนะครับ กันไว้ดีกว่าแก้ครับ อันตรายเหมือนกัน ก็ขอบคุณพื้นที่ของเว็บบอร์ดพันทิปมากมายครับ ผมอาจพิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ