สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อเมริกามั้งครับ เพราะเค้าบอกว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ
ในขณะที่แต่ละคนมีเสรีภาพในการแสดงออกอย่างที่ตนอยากจะทำ
แต่ขณะเดียวกัน แต่ละคนก็มีเสรีภาพในการคัดค้านการแสดงออกของคนอื่นด้วยเช่นกัน
อย่างกรณีทอมดี้จูบกันบนรถไฟฟ้า ถ้าเป็นที่อเมริกา ทอมดี้อยากจูบกันก็จูบไป
แต่ก็อาจจะมีคนเคร่งศีลธรรมอีกพวกที่เห็นว่าการจูบกันแบบนี้ไม่เหมาะสม ก็อาจจะถือป้ายประท้วงอยู่ห่างๆ ได้
แต่จะไม่มีสิทธิ์เดินไปต่อว่าหรือด่าทอคนที่จูบกันอยู่ เพราะอาจจะโดนข้อหาละเมิดสิทธิเสรีภาพได้
ถ้าพวกเขาต้องการไม่ให้มีการจูบกันในที่สาธารณะ ก็ต้องไปผลักดันให้รัฐออก กม. ห้ามจูบกันในที่สาธารณะ
โดยการรวบรวมรายชื่อเสนอกฎหมาย หรือไปล็อบบี้ สส. ของรัฐให้ผ่านร่าง กม. หรืออะไรก็ว่าไป
เมื่อกฎหมายผ่านสภาตามกระบวนการแล้ว ถึงจะมีผลบังคับใช้ได้
และในขณะเดียวกัน ทอมดี้ก็ไม่สามารถไปห้ามคนไม่ให้ถือป้ายประท้วงได้ เพราะเค้าก็มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของตนเช่นกัน
ในขณะที่แต่ละคนมีเสรีภาพในการแสดงออกอย่างที่ตนอยากจะทำ
แต่ขณะเดียวกัน แต่ละคนก็มีเสรีภาพในการคัดค้านการแสดงออกของคนอื่นด้วยเช่นกัน
อย่างกรณีทอมดี้จูบกันบนรถไฟฟ้า ถ้าเป็นที่อเมริกา ทอมดี้อยากจูบกันก็จูบไป
แต่ก็อาจจะมีคนเคร่งศีลธรรมอีกพวกที่เห็นว่าการจูบกันแบบนี้ไม่เหมาะสม ก็อาจจะถือป้ายประท้วงอยู่ห่างๆ ได้
แต่จะไม่มีสิทธิ์เดินไปต่อว่าหรือด่าทอคนที่จูบกันอยู่ เพราะอาจจะโดนข้อหาละเมิดสิทธิเสรีภาพได้
ถ้าพวกเขาต้องการไม่ให้มีการจูบกันในที่สาธารณะ ก็ต้องไปผลักดันให้รัฐออก กม. ห้ามจูบกันในที่สาธารณะ
โดยการรวบรวมรายชื่อเสนอกฎหมาย หรือไปล็อบบี้ สส. ของรัฐให้ผ่านร่าง กม. หรืออะไรก็ว่าไป
เมื่อกฎหมายผ่านสภาตามกระบวนการแล้ว ถึงจะมีผลบังคับใช้ได้
และในขณะเดียวกัน ทอมดี้ก็ไม่สามารถไปห้ามคนไม่ให้ถือป้ายประท้วงได้ เพราะเค้าก็มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของตนเช่นกัน
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ชอบการแสดงบทรักดูดดื่มในที่สาธารณะ แม้ตัวเองจะมีสามีฝรั่งและอยู่เมืองฝรั่ง และเห็นคนอื่นทำกันบ่อยๆ
แต่ไม่ชอบมากกว่ากับคนที่เดินไปต่อว่าเขา ถือสิทธิ์อะไร
เห็นข่าวเรื่องทอมดี้ในBTS ที่เมืองไทย เห็นคอมเม้นด่าทอกันแล้ว เพลียใจจริงๆ คนดีเต็มไปหมด ดีจนบ้านเมืองเป็นอย่างนี้แล้วก็ยังไม่รู้สึก
แต่ไม่ชอบมากกว่ากับคนที่เดินไปต่อว่าเขา ถือสิทธิ์อะไร
เห็นข่าวเรื่องทอมดี้ในBTS ที่เมืองไทย เห็นคอมเม้นด่าทอกันแล้ว เพลียใจจริงๆ คนดีเต็มไปหมด ดีจนบ้านเมืองเป็นอย่างนี้แล้วก็ยังไม่รู้สึก
ความคิดเห็นที่ 20
เราว่าประเทศที่เคารพสิทธิผู้อื่น (นั่นหมายถึงว่าคนละอย่างกับทำอะไรตามใจตัวเอง)
ประเทศที่เคารพกฏหมาย คือถ้าคุรปกครองด้วยกฏหมาย อะไรท่ไม่ผิดกฏหมาย คุรก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายคนอื่น
อย่างถ้าคนจูบกันริมถนน บางคนอาจจะหมั่นไส้ ...แต่มันไม่ได้ผิดกฏหมาย ตอนที่เค้าจบกัน เค้ายืนเฉยๆ ไม่ได้ไปยืนเหยีบเท้าใคร ปิดทางเดินใคร
มันก็เป้นสิทธิที่เค้ากระทำได้ตามกรอบกฏหมาย เค้าไม่ได้ทำผิดกฏหมาย
ยกตัวอย่างนะ
ถ้า ช-ญ กอด จูบ กัน ในที่สาธารณะ ...โอเคอาจจะมีถูกใจคนบางคน หรือไม่ถูกใจศีลธรรมของคนบางคน
แต่ มันไม่ได้ผิดกฏหมายข้อไหน คนเราไม่ควรเอาความไม่ชอบส่วนตัวไปตัดสินคนอื่น คุณไม่มีสิทธินั้น ตราบใดท่เค้าอยู่ในกรอบของกฏหมาย
ไม่งั้นก็ไม่ต้องมีกฏหมาย ตั้งศาลเตี้ย ตัดสินตาใจฉันกันไปเลย กฏหมายไม่ต้องสนกันแล้ว
แต่ถ้า ช-ญ แก้ผ้า ทำอนาจร ซึ่งมันผิดกฏหมาย อันนี้มีโทษตามกฏหมาย ต้องรับโทษตามนั้น
คือ ทุกอย่างมันมีกฏหมายเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่บอกเสรีภาพ ก็เหมาะว่า อย่างี้ต่อไปไม่เอากันกลางห้างเลยหละ
คือแบบนี้มันก็ด่วนสรุปเหมารวม โดยไม่หาข้อมูลไปหน่อย ต้องแยกแยะให้ออกนะ
อะไรไม่ผิดกฏหมาย ก็แปลว่าธรรมได้ ตราบเท่าที่เรายังอยู่ในประเทศที่ปกครองด้วยระบบกฏหมายนี้
และประเทศที่มีความเจริญทางสิทธิมนุษยชน ...เค้าไม่เอาศีลธรรมส่วนตัวของตัวเองไปตัดสินคนอื่น
เพราะคนเราหลากหลาย เติบโตมาจากหลายวัฒนธรรม แม้จะประเทศเดียวกันก็ตาม
เติบโตมาจากหลายแนวคิด ดังนั้นจะเอาศิลธรรมของคนหนึ่งไปตัดสินคนอีกคนหนึ่ง ย่อมไม่ได้
แต่คนไทยชอบตัดสินเหมารวมว่าคนต้องเป็นแบบนี้ถึงจะถูก แล้วไปชี้หน้าว่าคนอื่นผิด
เสรีภาพไม่ใช่การไม่ข้ามทางม้าลาย ขับรถฝ่าไฟแดง แซงคิว หรืออะไรแบบนั้นนะคะ
แบบนั้นเค้าเรียกว่าทำผิดกฏหมาย และละเมิดสิทธิผู้อื่นเห็นๆค่ะ - -"
เมืองไทยไม่ค่อยมีบทเรียนที่สอนเรื่องสิทธิมนุษยชน ตามแบบประเทศที่อยากให้คนในชาติมีแนวคิดแบบล้าหลัง
ทำให้คนไม่ตระหนัก และเข้าใจคำว่าสิทธิมนุษยชน
แต่เอาจริงๆ ในเน็ต มีคนอัพโหลดคลิป สัมนาทางวิชาการเกี่ยวกับการถกกันเรื่องสิทธิมนุษยชน
เสรีภาพ การแสดงออก สิทธิสตรี บลาๆๆๆ เยอะมาก ถ้าขยันหา มีให้ฟังเพียบ
เปิดโลกมากๆค่ะ ทำให้เห้นมุมมองคิดแบบใหม่ๆ
เราว่าพวกชาติในยุโรปนี้ เค้าจะเคารพสิทธิคนอื่นนะ เคารพความคิดต่าง คือถกเถียงได้
แต่ไม่ใช่ไปตัดสินแล้วบอกว่าทุกคนต้องเหมือนกัน หรือว่าอย่างจีน เราว่าเค้าก็ทำอะไรไม่ค่อยแคร์ใคร
จริงๆจูบกันในท่สาธารณะ อะไรแบบนี้ เหมือนจะเคยได้ยินว่า เวียดนาม(?) ก็เสรีเรื่องนี้
ประเทศที่เคารพกฏหมาย คือถ้าคุรปกครองด้วยกฏหมาย อะไรท่ไม่ผิดกฏหมาย คุรก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายคนอื่น
อย่างถ้าคนจูบกันริมถนน บางคนอาจจะหมั่นไส้ ...แต่มันไม่ได้ผิดกฏหมาย ตอนที่เค้าจบกัน เค้ายืนเฉยๆ ไม่ได้ไปยืนเหยีบเท้าใคร ปิดทางเดินใคร
มันก็เป้นสิทธิที่เค้ากระทำได้ตามกรอบกฏหมาย เค้าไม่ได้ทำผิดกฏหมาย
ยกตัวอย่างนะ
ถ้า ช-ญ กอด จูบ กัน ในที่สาธารณะ ...โอเคอาจจะมีถูกใจคนบางคน หรือไม่ถูกใจศีลธรรมของคนบางคน
แต่ มันไม่ได้ผิดกฏหมายข้อไหน คนเราไม่ควรเอาความไม่ชอบส่วนตัวไปตัดสินคนอื่น คุณไม่มีสิทธินั้น ตราบใดท่เค้าอยู่ในกรอบของกฏหมาย
ไม่งั้นก็ไม่ต้องมีกฏหมาย ตั้งศาลเตี้ย ตัดสินตาใจฉันกันไปเลย กฏหมายไม่ต้องสนกันแล้ว
แต่ถ้า ช-ญ แก้ผ้า ทำอนาจร ซึ่งมันผิดกฏหมาย อันนี้มีโทษตามกฏหมาย ต้องรับโทษตามนั้น
คือ ทุกอย่างมันมีกฏหมายเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่บอกเสรีภาพ ก็เหมาะว่า อย่างี้ต่อไปไม่เอากันกลางห้างเลยหละ
คือแบบนี้มันก็ด่วนสรุปเหมารวม โดยไม่หาข้อมูลไปหน่อย ต้องแยกแยะให้ออกนะ
อะไรไม่ผิดกฏหมาย ก็แปลว่าธรรมได้ ตราบเท่าที่เรายังอยู่ในประเทศที่ปกครองด้วยระบบกฏหมายนี้
และประเทศที่มีความเจริญทางสิทธิมนุษยชน ...เค้าไม่เอาศีลธรรมส่วนตัวของตัวเองไปตัดสินคนอื่น
เพราะคนเราหลากหลาย เติบโตมาจากหลายวัฒนธรรม แม้จะประเทศเดียวกันก็ตาม
เติบโตมาจากหลายแนวคิด ดังนั้นจะเอาศิลธรรมของคนหนึ่งไปตัดสินคนอีกคนหนึ่ง ย่อมไม่ได้
แต่คนไทยชอบตัดสินเหมารวมว่าคนต้องเป็นแบบนี้ถึงจะถูก แล้วไปชี้หน้าว่าคนอื่นผิด
เสรีภาพไม่ใช่การไม่ข้ามทางม้าลาย ขับรถฝ่าไฟแดง แซงคิว หรืออะไรแบบนั้นนะคะ
แบบนั้นเค้าเรียกว่าทำผิดกฏหมาย และละเมิดสิทธิผู้อื่นเห็นๆค่ะ - -"
เมืองไทยไม่ค่อยมีบทเรียนที่สอนเรื่องสิทธิมนุษยชน ตามแบบประเทศที่อยากให้คนในชาติมีแนวคิดแบบล้าหลัง
ทำให้คนไม่ตระหนัก และเข้าใจคำว่าสิทธิมนุษยชน
แต่เอาจริงๆ ในเน็ต มีคนอัพโหลดคลิป สัมนาทางวิชาการเกี่ยวกับการถกกันเรื่องสิทธิมนุษยชน
เสรีภาพ การแสดงออก สิทธิสตรี บลาๆๆๆ เยอะมาก ถ้าขยันหา มีให้ฟังเพียบ
เปิดโลกมากๆค่ะ ทำให้เห้นมุมมองคิดแบบใหม่ๆ
เราว่าพวกชาติในยุโรปนี้ เค้าจะเคารพสิทธิคนอื่นนะ เคารพความคิดต่าง คือถกเถียงได้
แต่ไม่ใช่ไปตัดสินแล้วบอกว่าทุกคนต้องเหมือนกัน หรือว่าอย่างจีน เราว่าเค้าก็ทำอะไรไม่ค่อยแคร์ใคร
จริงๆจูบกันในท่สาธารณะ อะไรแบบนี้ เหมือนจะเคยได้ยินว่า เวียดนาม(?) ก็เสรีเรื่องนี้
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดว่าประเทศหรือเมืองไหนที่มีเสรีภาพในการแสดงออกมากที่สุด ??
เสรีภาพในที่นี้คืออาจจะสร้างมลพิษทางสายตา แต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอื่นๆให้กับคนอื่นนะคะ
อย่างเช่น จะแต่งตัวยังไง กระโปรงสั้นเกาะอกสายเดี่ยวก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะแต่งกันเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่แล้ว อย่างมากก็หันไปนินทากับเพื่อนแล้วก็ปล่อยไป
การแสดงออกทางความรักในที่สาธารณะแบบเปิดเผย เดินกอดกัน จูบทักทายและอำลาแบบคนรัก มีให้เห็นโดยทั่วไป
มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เด็กและผู้ใหญ่เท่าเทียมกัน เป็นต้น
ไม่รวมถึงพฤติกรรมอย่างเช่น แซงแถว ทิ้งขยะบนพื้น ด่าทอใส่ร้ายผู้อื่น ไม่ข้ามถนนบนทางม้าลาย อะไรทำนองนี้นะคะ เพราะมันสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นนอกเหนือจากมลพิษทางสายตาแล้วค่ะ
ถามเพราะอยากรู้เฉยๆนะคะ ไม่ได้มีแพลนอะไร
ขอคำตอบแบบข้อมูลที่ได้พบเจอมา ว่าเมืองนี้ หรือประเทศนี้มีเสรีภาพอะไร ยังไง ไม่ขอดราม่านะคะ เพราะตั้งกระทู้อยากได้ข้อมูล ไม่ได้อยากดราม่า