- หนังของโนแลนจะเริ่มที่ฉากท้ายๆ เป็นการเกริ่น ก่อนจะย้อนเข้าช่วงต้นของเหตุการณ์
- หนังของโนแลนจะไม่นำเสนออะไรที่ดูล้ำ ต่อให้เป็นโลกอนาคตล้ำสมัยขนาดไหน ตัวละครก็ยังดูทีวี กินข้าวมันไก่อะไรไปตามเรื่อง มีเพียงอุปกรณ์และการกระทำบางอย่างที่ทำให้คนดูตามทันว่า อ๋อ นี่มันไม่ใช่ยุคปัจจุบันของเรานะเฟ้ย
- โนแลนยังชอบเล่าประโยคอะไรที่สำคัญๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา อย่างสมมติเรื่องอาร์มาเกดดอน อุกาบาตจะชนโลก วิธีแก้คือต้องไปวางระเบิดอุกาบาตเป็นเสี่ยงๆ! ผ่าง! เราจะทำยังไงดีครับท่าน!? เราต้องหามือดีที่สุด! ตัดไปที่นักบินมือฉมัง ท่านผู้ว่าพร้อมผู้ติดตามโขยงหนึ่งเข้าพบ คุณคือมือดีที่สุดของเรา ช่วยมากู้โลกด้วย! ไม่ได้หรอกผมมีลูกสาวต้องดูแล ไม่ได้คุณต้องไป! ผ่าง! รวมทีม คนนู้นเก่งอย่างงี้ คนนี้เก่งอย่างงั้น ผ่าง! เดินเรียงแถวมาขึ้นยานอวกาศ ผ่างๆๆ!!
แต่ถ้าโนแลนไปกำกับอาร์มาเกดดอน ทั้งหมดนี้จะรวมอยู่ในบทสนทนาที่ว่า "อุกาบาตจะชนโลกครับ งั้นเราเอาไอ้หมอนี่ไปวางระเบิดให้ทีนะ" จิบกาแฟ จบฉาก ตัดมาอีกทีก็ขึ้นไปอยู่อวกาศกันแล้ว
- หนังโนแลนจะตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เหมือนกับเล่านิทานคนละเรื่อง เรื่องแรกเล่าไปสองประโยค เริ่มเรื่องที่สอง เรื่องที่สองเล่าไปย่อหน้านึง เอ้ากลับมาเรื่องแรกต่อ คนฟังนิทานก็งง แต่เล่าไปเล่ามา สองเรื่องนี้คือนิทานเรื่องเดียวกัน ผ่าง!
- ดนตรีของฮานส์ ซิมเมอร์ ผ่าง! ผ่าง! ผ่าง! ผ่าง!
- บางครั้งดาราโนเนมแสดงเป็นคีย์สำคัญของเรื่อง ส่วนดาราดังๆเป็นตัวเสริมเฉยๆ
- เวลาแฟลชแบ๊คย้อนอดีต บางครั้งก็ไม่มีเสียงในอดีต ตัดมาแต่ภาพ
- คุณจะดูหนังโนแลนอย่างตามติดทุกคำพูดเพราะรู้ว่าเดี๋ยวจะตามไม่ทัน แล้วพอกลางเรื่องคุณก็ตามไม่ทันจริงๆ!
- แต่ไม่ต้องตกใจ อย่าเพิ่งถามคนข้างๆ ดูๆไปเถอะ สักพักคุณจะเข้าใจเอง
- แล้วคุณก็จะจำได้ว่า อ๊ะ ภาพนี้เห็นไปแล้วตอนต้นเรื่องนี่ อ๊ะ โอ๊ะ อ๋อออออออ อย่างงี้นี่เอง!
- ตัดจบห้วนๆ ขึ้นชื่อ Directed by Christopher Nolan
- ไม่ต้องห่วง ไม่มีฉากท้ายเครดิตหรอก (ฮา)
- แล้วคุณก็จะกลับมาเปิดเวบบอร์ด และพบว่ากระทู้หนังที่คุณเพิ่งดูมาเพียบไปหมด!
คุณรู้ว่าหนังเรื่องนี้ คริสโตเฟอร์ โนแลน กำกับ ก็ต่อเมื่อ....
- หนังของโนแลนจะไม่นำเสนออะไรที่ดูล้ำ ต่อให้เป็นโลกอนาคตล้ำสมัยขนาดไหน ตัวละครก็ยังดูทีวี กินข้าวมันไก่อะไรไปตามเรื่อง มีเพียงอุปกรณ์และการกระทำบางอย่างที่ทำให้คนดูตามทันว่า อ๋อ นี่มันไม่ใช่ยุคปัจจุบันของเรานะเฟ้ย
- โนแลนยังชอบเล่าประโยคอะไรที่สำคัญๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา อย่างสมมติเรื่องอาร์มาเกดดอน อุกาบาตจะชนโลก วิธีแก้คือต้องไปวางระเบิดอุกาบาตเป็นเสี่ยงๆ! ผ่าง! เราจะทำยังไงดีครับท่าน!? เราต้องหามือดีที่สุด! ตัดไปที่นักบินมือฉมัง ท่านผู้ว่าพร้อมผู้ติดตามโขยงหนึ่งเข้าพบ คุณคือมือดีที่สุดของเรา ช่วยมากู้โลกด้วย! ไม่ได้หรอกผมมีลูกสาวต้องดูแล ไม่ได้คุณต้องไป! ผ่าง! รวมทีม คนนู้นเก่งอย่างงี้ คนนี้เก่งอย่างงั้น ผ่าง! เดินเรียงแถวมาขึ้นยานอวกาศ ผ่างๆๆ!!
แต่ถ้าโนแลนไปกำกับอาร์มาเกดดอน ทั้งหมดนี้จะรวมอยู่ในบทสนทนาที่ว่า "อุกาบาตจะชนโลกครับ งั้นเราเอาไอ้หมอนี่ไปวางระเบิดให้ทีนะ" จิบกาแฟ จบฉาก ตัดมาอีกทีก็ขึ้นไปอยู่อวกาศกันแล้ว
- หนังโนแลนจะตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เหมือนกับเล่านิทานคนละเรื่อง เรื่องแรกเล่าไปสองประโยค เริ่มเรื่องที่สอง เรื่องที่สองเล่าไปย่อหน้านึง เอ้ากลับมาเรื่องแรกต่อ คนฟังนิทานก็งง แต่เล่าไปเล่ามา สองเรื่องนี้คือนิทานเรื่องเดียวกัน ผ่าง!
- ดนตรีของฮานส์ ซิมเมอร์ ผ่าง! ผ่าง! ผ่าง! ผ่าง!
- บางครั้งดาราโนเนมแสดงเป็นคีย์สำคัญของเรื่อง ส่วนดาราดังๆเป็นตัวเสริมเฉยๆ
- เวลาแฟลชแบ๊คย้อนอดีต บางครั้งก็ไม่มีเสียงในอดีต ตัดมาแต่ภาพ
- คุณจะดูหนังโนแลนอย่างตามติดทุกคำพูดเพราะรู้ว่าเดี๋ยวจะตามไม่ทัน แล้วพอกลางเรื่องคุณก็ตามไม่ทันจริงๆ!
- แต่ไม่ต้องตกใจ อย่าเพิ่งถามคนข้างๆ ดูๆไปเถอะ สักพักคุณจะเข้าใจเอง
- แล้วคุณก็จะจำได้ว่า อ๊ะ ภาพนี้เห็นไปแล้วตอนต้นเรื่องนี่ อ๊ะ โอ๊ะ อ๋อออออออ อย่างงี้นี่เอง!
- ตัดจบห้วนๆ ขึ้นชื่อ Directed by Christopher Nolan
- ไม่ต้องห่วง ไม่มีฉากท้ายเครดิตหรอก (ฮา)
- แล้วคุณก็จะกลับมาเปิดเวบบอร์ด และพบว่ากระทู้หนังที่คุณเพิ่งดูมาเพียบไปหมด!