ขอแนะนำตัวก่อนนะค่ะ อาจจะไม่เก่งเรื่องการเรียบเรียงประโยคให้สวยงามมากนักเพราะภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงถ้าหากบกพร่องประการใดต้องขออภัยคนอ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ก่อนอื่น อยากจะแนะนำตัวเองในนามสมมตุ ชื่อ ' จูน ' นะเราเป็นทอม ตอนนี้เรียนอยู่มหาลัยปีหนึ่ง อายุ 19 ปี
ผู้อ่านอาจจะเห็นกระทู้หลายๆกระทู้ที่พูดถึงปัญหาความรัก(ตอนนี้มันเยอะเหลือเกิน) แล้วก็อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องแต่งหรือเปล่า เรื่องอื่นจูนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่เรื่องของจูน จูนขอย้ำว่าเป็นความจริงทุกประการ และสิ่งที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ
เมื่อ5ปีที่แล้วตอนจูนอายุประมาน 14 ปี จูนศึกษาอยู่ชั้น ม.3 ค่ะ (ทุกคนอาจจะงงว่าทำไมเข้ามหาลัยตอนอายุ19 ทั้งๆ ที่ อายุ14 อยู่ ม.3 อ่านไปเรื่อยๆค่ะเดียวจะเข้าใจเอง)
จูนศึกษาอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ภายใน รร. จูนเป็นคนเฮฮามากค่ะมีเพื่อนฝูงล้อมรอบตลอดเวลา
ตอนม.1 จูนก็ไม่ได้โดดเด่นในโรงเรียนกว่าคนอื่นมากนัก เพราะหน้าตาก็แค่หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้
แต่ตอนหลังจูนหันมาเล่นกีตาร์ค่ะเพราะชอบมาก ตอนนั้นเล่นกีตาร์ไฟฟ้ากับโปร่งมาได้ 2 ปีค่ะ ก็เริ่มพัฒนาฝีมือขึ้นมาเรื่อยๆ คนภายในโรงเรียนก็รู้จักมากขึ้นเพราะออกงานบ่อย
จนมีวันนึง โรงเรียนเปิดรับสมัครวงดนตรีและนักเต้นค่ะ(ถ้าภาษาบ้านๆก็คือหางเครื่องค่ะ._.)เพื่อไปแข่งระดับภาคเป็นหน้าเป็นตาให้โรงเรียน เพื่อนก็เลยมาชวนให้ไปสมัครด้วยกันตอนนั้นก็ลังเลค่ะ ไม่อยากไปหรอกเพราะต้องซ้อมตอนเย็น แต่พอรู้ว่าเวลาซ้อมบางทีชนกับเวลาเรียนด้วย ซึ่งก็แปลว่าเหมือนได้โดดเรียน เท่านั้นแหละค่ะ เราก็รีบไปสมัครเลย ผลสรุปคือเราได้รับการคัดเลือก และคนในวงเป็นคนจากห้องเราหมดเลย
และวันนั้นเป็นวันแรกค่ะที่ทุกคนซ้อมกัน แต่ยังไม่ได้เจอพวกหางเครื่องทีนะค่ะ ทุกอย่างก็เป็นได้สวย จนเดือนกว่าๆจะถึงวันงานแล้วค่ะ เราก็มาเจอกันที่ห้องซ้อมดนตรีภายในโรงเรียนตามเวลาที่ครูผู้คุมฝึกนัดไว้ ตอนนั้นเป็นเวลาเรียนค่ะถ้าจำได้ไม่ผิด
หางเครื่องมีทั้งจากรุ่นพี่รุ่นน้องมีทุกรุ่นค่ะ แล้วครูผู้คุมฝึกก็บอกให้วงลองเล่นให้พวกแดนเซ่อร์ฟังหน่อย เราก็เล่นไปค่ะ ตอนนั้นก็เกร็งๆเนอะ มีหลายคนเลยที่เราไม่รู้จักมานั่งมองเราเล่นใจจดใจจ่อ แต่วันนั้นก็จบได้สวยงามค่ะ
ในบรรดาหางเครื่องอยู่ๆเราก็ส่งสายตาไปมองคนๆนึง หน้าตาเรียกได้เลยว่าไม่สวยออกแนวขี้เหร่ แต่แปลกที่เราเห็นความสวยของเค้า เราถูกชะตากับเค้าอย่างไม่เข้าใจ ..
"ๆคนนั้นชื่ออะไรหรออยู่ ม.ไหน" ตอนพวกแดนเซ่อร์หันหลังคุยกัน เราก็แอบสะกิดถามเพื่อนในวง
"อ่อ น้องคนนี้ชื่อ ริน(นามสมมติ) อยู่ม.2 อยู่ตึกเดียวกับเราแถมอยู่ห้องใต้เราเลย น้องเค้าเต้นเก่งมากๆ เต้นสวยสุดๆ" เพื่อนที่เป็นมือคีย์บอร์ดตอบ เราก็พยักหน้าให้เบาๆ
มาอีกวันนึง ครูก็นัดทุกคนไปที่ห้องนาฏศิลป์(เขียนไม่ถูกแงะ) เพื่อไปดู
แดนเซ่อร์เต้นบ้าง เราก็นั่งดูไปเรื่อยๆ ขนาดเพลงที่น้องเค้าเต้นเป็นเพลงพระราชนิพน ยังเต้นได้ดีมากๆ หน้าตาท่วงท่าทุกอย่างดูแล้วน่าหลงไหลมากๆ จากวันนั้น เราก็รู้เลย ว่ามันคือรักแรกพบ เราไม่ได้น้ำเน่านะแต่มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ
เราก็กระวนกระวายไม่รู้จะทำยังไงดี จะไปคุยยังไงดี ตอนนั้นก็ไม่กล้าบอกใครเลยว่าแอบชอบน้องเค้า จนเราต้องไปตีสนิทเอง เริ่มต้นจากการทำความรู้จัก
โดนปรกติเราเป็นคนที่กวนติน* มากๆอยู่แล้วเราด้วยความที่ไม่เคยจีบใคร กับไม่เคยมีความรู้สึกว่าชอบใครแค่แรกเห็นแบบนี้เลย ต้องใช้ความกวนนี้แหละให้เป็นประโยชน์ ทุกๆครั้งเราจะชอบแกล้งริน โดยการแอบขโมยมือถือรินมา แล้วบอกรินว่า ถ้าอยากได้คืน ตอนเย็นให้มาเจอกันเดียวจะคืนให้ เราแกล้งแบบนั้นบ่อยมากๆ แต่รินก็ไม่เคยมีท่าทีจะโกรธหรือรำคาญ
และยิ่งกว่านั้นเราชอบแอบไปขโมยรองเท้ารินแล้วเอามาพันสก้อตเทปแล้วก็พันปิ๊กกีตาร์ไว้ด้วย แล้วก็เอาไปซ่อน ไม่ก็เอาขึ้นมาวางไว้หน้าห้องเรา (ถ้าถามว่าจำรองเท้ารินได้ไง ก็เพราะรินเท้าเล็กมากๆ และเป็นคนเดียวที่ใส่รองเท้า hush puppies ในชั้นเรียน) ที่ทำแบบนี้เพราะถ้ารินจะไปไหนรินจะได้มาเอารองเท้าหน้าห้องเราก่อน นั้นคือวิธีการแอบเกรียนเพื่อได้เจอหน้าคนที่แอบชอบ
เราก็แกล้งไปเรื่อยๆจน คนอื่นๆในคณะ (คณะแดนซ์เซอร์กับวง ต่อไปนี้ขอเรียกว่าคณะ) เริ่มสังเกตุว่าเราแกล้งรินมากจนเกินไปและใส่ใจรินมากเกินคำว่าพี่น้องหรือคำว่าเพื่อน
ตอนกลับบ้านเรากับริน เอมเอสเอ็นคุยกันทุกคืน อิอิ พูดแล้วก็อดคิดถึง msn ไม่ได้ แถมหลังๆนี้เรารุกหนัก เราบอกชอบรินทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่พิมพ์ (เราเป็นคนที่ความมุ่งมั่นสูงมาก เราก็พิมพ์ทุกวันจริงๆ)แต่รินไม่เคยบอกชอบเรากลับเลย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราท้อ
ณ โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้หน้าอาคาร ตอนนั้นเป็นเวลา ซ้อมแต่ครูคุมฝึกกลับไม่มา พวกเราก็เลยต้องนั่งรอ วันนั้นรินไม่มาด้วย T^Tจากรอก็กลายเป็นความเบื่อ เราก็เลยหาเกมส์เล่นกัน และเกมส์นี้ก็คือเกมส์ พูดจริงทำจริง(ใครไม่เคยเล่นนี้ถือว่าแปลกมาก) เราก็เล่นแบบไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้ เพราะปกติเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยแพ้เพราะดวงดีมาก
แต่วันนั้นเหมือนโชคไม่เข้าข้างอย่างที่แล้วๆมา เพราะเราแพ้ เราก็เลยเลือกว่าเราจะ'พูดจริง' เพราะมีแค่น้อยคนหรอกที่จะ 'ทำจริง' เพราะเพื่อนชอบแกล้ง ให้ไปรูดเสา ไม่ก็แหกปากบ้าง ถามจริงใครจะทำ 55
ในคณะ ก็ปรึกษากัน จน มติเป็นเอกฉันท์ แล้วคำถามก็ไม่ได้เหนือจากความคาดหมายเท่าไหร่ 'จูนชอบน้องรินหรอ ' ณ ตอนนั้นบอกเลยว่ายังจำความเขินอายได้จนวันนี้ เราก็ได้แต่พยักหน้า
วันเวลาก็ผ่านไป เหลือ2 อาทิตก่อนแข่ง เราก็คุยกับเพื่อนอยู่หน้าห้องเรียน ตอนนั้นเราหนักใจเรื่องรินมากเพราะรินไม่เคยพูดดีๆกับเราเลย แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบคำว่าฝันดีก็ไม่เคยพิมพ์ และเราเป็นฝ่ายทักไปตลอด จนเราว้าวุ้นมากเลยขอดูโทรศัพท์เพื่อนเพื่อดู msn ว่ารินคุยกับคนอื่นแบบที่คุยกับเรามั้ย ปรากฏว่ามันคุยกับเพื่อนเราดีมาก แถมมีหยอดกันด้วยนะแบบหวานๆ พูดว่าฝันดี แล้วปลุกกันทุกเช้า ตอนนั้นเราจุกแบบพูดไม่ออก เพราะคิดว่ารินคงชอบเพื่อนเรา เราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมรู้จักกันไม่นานถึงทำให้เราเสียใจได้แล้ว
ค่อยมาต่อนะทุกคน ราตรีสวัสดิ์

)
คนที่ไม่เคยลืมได้ และทุกวันเรายังยอมทุกอย่าง (ติดเรทแต่ไม่18+)
ก่อนอื่น อยากจะแนะนำตัวเองในนามสมมตุ ชื่อ ' จูน ' นะเราเป็นทอม ตอนนี้เรียนอยู่มหาลัยปีหนึ่ง อายุ 19 ปี
ผู้อ่านอาจจะเห็นกระทู้หลายๆกระทู้ที่พูดถึงปัญหาความรัก(ตอนนี้มันเยอะเหลือเกิน) แล้วก็อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องแต่งหรือเปล่า เรื่องอื่นจูนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่เรื่องของจูน จูนขอย้ำว่าเป็นความจริงทุกประการ และสิ่งที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ
เมื่อ5ปีที่แล้วตอนจูนอายุประมาน 14 ปี จูนศึกษาอยู่ชั้น ม.3 ค่ะ (ทุกคนอาจจะงงว่าทำไมเข้ามหาลัยตอนอายุ19 ทั้งๆ ที่ อายุ14 อยู่ ม.3 อ่านไปเรื่อยๆค่ะเดียวจะเข้าใจเอง)
จูนศึกษาอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ภายใน รร. จูนเป็นคนเฮฮามากค่ะมีเพื่อนฝูงล้อมรอบตลอดเวลา
ตอนม.1 จูนก็ไม่ได้โดดเด่นในโรงเรียนกว่าคนอื่นมากนัก เพราะหน้าตาก็แค่หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้
แต่ตอนหลังจูนหันมาเล่นกีตาร์ค่ะเพราะชอบมาก ตอนนั้นเล่นกีตาร์ไฟฟ้ากับโปร่งมาได้ 2 ปีค่ะ ก็เริ่มพัฒนาฝีมือขึ้นมาเรื่อยๆ คนภายในโรงเรียนก็รู้จักมากขึ้นเพราะออกงานบ่อย
จนมีวันนึง โรงเรียนเปิดรับสมัครวงดนตรีและนักเต้นค่ะ(ถ้าภาษาบ้านๆก็คือหางเครื่องค่ะ._.)เพื่อไปแข่งระดับภาคเป็นหน้าเป็นตาให้โรงเรียน เพื่อนก็เลยมาชวนให้ไปสมัครด้วยกันตอนนั้นก็ลังเลค่ะ ไม่อยากไปหรอกเพราะต้องซ้อมตอนเย็น แต่พอรู้ว่าเวลาซ้อมบางทีชนกับเวลาเรียนด้วย ซึ่งก็แปลว่าเหมือนได้โดดเรียน เท่านั้นแหละค่ะ เราก็รีบไปสมัครเลย ผลสรุปคือเราได้รับการคัดเลือก และคนในวงเป็นคนจากห้องเราหมดเลย
และวันนั้นเป็นวันแรกค่ะที่ทุกคนซ้อมกัน แต่ยังไม่ได้เจอพวกหางเครื่องทีนะค่ะ ทุกอย่างก็เป็นได้สวย จนเดือนกว่าๆจะถึงวันงานแล้วค่ะ เราก็มาเจอกันที่ห้องซ้อมดนตรีภายในโรงเรียนตามเวลาที่ครูผู้คุมฝึกนัดไว้ ตอนนั้นเป็นเวลาเรียนค่ะถ้าจำได้ไม่ผิด
หางเครื่องมีทั้งจากรุ่นพี่รุ่นน้องมีทุกรุ่นค่ะ แล้วครูผู้คุมฝึกก็บอกให้วงลองเล่นให้พวกแดนเซ่อร์ฟังหน่อย เราก็เล่นไปค่ะ ตอนนั้นก็เกร็งๆเนอะ มีหลายคนเลยที่เราไม่รู้จักมานั่งมองเราเล่นใจจดใจจ่อ แต่วันนั้นก็จบได้สวยงามค่ะ
ในบรรดาหางเครื่องอยู่ๆเราก็ส่งสายตาไปมองคนๆนึง หน้าตาเรียกได้เลยว่าไม่สวยออกแนวขี้เหร่ แต่แปลกที่เราเห็นความสวยของเค้า เราถูกชะตากับเค้าอย่างไม่เข้าใจ ..
"ๆคนนั้นชื่ออะไรหรออยู่ ม.ไหน" ตอนพวกแดนเซ่อร์หันหลังคุยกัน เราก็แอบสะกิดถามเพื่อนในวง
"อ่อ น้องคนนี้ชื่อ ริน(นามสมมติ) อยู่ม.2 อยู่ตึกเดียวกับเราแถมอยู่ห้องใต้เราเลย น้องเค้าเต้นเก่งมากๆ เต้นสวยสุดๆ" เพื่อนที่เป็นมือคีย์บอร์ดตอบ เราก็พยักหน้าให้เบาๆ
มาอีกวันนึง ครูก็นัดทุกคนไปที่ห้องนาฏศิลป์(เขียนไม่ถูกแงะ) เพื่อไปดู
แดนเซ่อร์เต้นบ้าง เราก็นั่งดูไปเรื่อยๆ ขนาดเพลงที่น้องเค้าเต้นเป็นเพลงพระราชนิพน ยังเต้นได้ดีมากๆ หน้าตาท่วงท่าทุกอย่างดูแล้วน่าหลงไหลมากๆ จากวันนั้น เราก็รู้เลย ว่ามันคือรักแรกพบ เราไม่ได้น้ำเน่านะแต่มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ
เราก็กระวนกระวายไม่รู้จะทำยังไงดี จะไปคุยยังไงดี ตอนนั้นก็ไม่กล้าบอกใครเลยว่าแอบชอบน้องเค้า จนเราต้องไปตีสนิทเอง เริ่มต้นจากการทำความรู้จัก
โดนปรกติเราเป็นคนที่กวนติน* มากๆอยู่แล้วเราด้วยความที่ไม่เคยจีบใคร กับไม่เคยมีความรู้สึกว่าชอบใครแค่แรกเห็นแบบนี้เลย ต้องใช้ความกวนนี้แหละให้เป็นประโยชน์ ทุกๆครั้งเราจะชอบแกล้งริน โดยการแอบขโมยมือถือรินมา แล้วบอกรินว่า ถ้าอยากได้คืน ตอนเย็นให้มาเจอกันเดียวจะคืนให้ เราแกล้งแบบนั้นบ่อยมากๆ แต่รินก็ไม่เคยมีท่าทีจะโกรธหรือรำคาญ
และยิ่งกว่านั้นเราชอบแอบไปขโมยรองเท้ารินแล้วเอามาพันสก้อตเทปแล้วก็พันปิ๊กกีตาร์ไว้ด้วย แล้วก็เอาไปซ่อน ไม่ก็เอาขึ้นมาวางไว้หน้าห้องเรา (ถ้าถามว่าจำรองเท้ารินได้ไง ก็เพราะรินเท้าเล็กมากๆ และเป็นคนเดียวที่ใส่รองเท้า hush puppies ในชั้นเรียน) ที่ทำแบบนี้เพราะถ้ารินจะไปไหนรินจะได้มาเอารองเท้าหน้าห้องเราก่อน นั้นคือวิธีการแอบเกรียนเพื่อได้เจอหน้าคนที่แอบชอบ
เราก็แกล้งไปเรื่อยๆจน คนอื่นๆในคณะ (คณะแดนซ์เซอร์กับวง ต่อไปนี้ขอเรียกว่าคณะ) เริ่มสังเกตุว่าเราแกล้งรินมากจนเกินไปและใส่ใจรินมากเกินคำว่าพี่น้องหรือคำว่าเพื่อน
ตอนกลับบ้านเรากับริน เอมเอสเอ็นคุยกันทุกคืน อิอิ พูดแล้วก็อดคิดถึง msn ไม่ได้ แถมหลังๆนี้เรารุกหนัก เราบอกชอบรินทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่พิมพ์ (เราเป็นคนที่ความมุ่งมั่นสูงมาก เราก็พิมพ์ทุกวันจริงๆ)แต่รินไม่เคยบอกชอบเรากลับเลย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราท้อ
ณ โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้หน้าอาคาร ตอนนั้นเป็นเวลา ซ้อมแต่ครูคุมฝึกกลับไม่มา พวกเราก็เลยต้องนั่งรอ วันนั้นรินไม่มาด้วย T^Tจากรอก็กลายเป็นความเบื่อ เราก็เลยหาเกมส์เล่นกัน และเกมส์นี้ก็คือเกมส์ พูดจริงทำจริง(ใครไม่เคยเล่นนี้ถือว่าแปลกมาก) เราก็เล่นแบบไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้ เพราะปกติเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยแพ้เพราะดวงดีมาก
แต่วันนั้นเหมือนโชคไม่เข้าข้างอย่างที่แล้วๆมา เพราะเราแพ้ เราก็เลยเลือกว่าเราจะ'พูดจริง' เพราะมีแค่น้อยคนหรอกที่จะ 'ทำจริง' เพราะเพื่อนชอบแกล้ง ให้ไปรูดเสา ไม่ก็แหกปากบ้าง ถามจริงใครจะทำ 55
ในคณะ ก็ปรึกษากัน จน มติเป็นเอกฉันท์ แล้วคำถามก็ไม่ได้เหนือจากความคาดหมายเท่าไหร่ 'จูนชอบน้องรินหรอ ' ณ ตอนนั้นบอกเลยว่ายังจำความเขินอายได้จนวันนี้ เราก็ได้แต่พยักหน้า
วันเวลาก็ผ่านไป เหลือ2 อาทิตก่อนแข่ง เราก็คุยกับเพื่อนอยู่หน้าห้องเรียน ตอนนั้นเราหนักใจเรื่องรินมากเพราะรินไม่เคยพูดดีๆกับเราเลย แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบคำว่าฝันดีก็ไม่เคยพิมพ์ และเราเป็นฝ่ายทักไปตลอด จนเราว้าวุ้นมากเลยขอดูโทรศัพท์เพื่อนเพื่อดู msn ว่ารินคุยกับคนอื่นแบบที่คุยกับเรามั้ย ปรากฏว่ามันคุยกับเพื่อนเราดีมาก แถมมีหยอดกันด้วยนะแบบหวานๆ พูดว่าฝันดี แล้วปลุกกันทุกเช้า ตอนนั้นเราจุกแบบพูดไม่ออก เพราะคิดว่ารินคงชอบเพื่อนเรา เราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมรู้จักกันไม่นานถึงทำให้เราเสียใจได้แล้ว
ค่อยมาต่อนะทุกคน ราตรีสวัสดิ์