[CR] หด มันส์ ฮา...จากมะนิลา สู่ปักกิ่ง ตอนที่ 3

ความเดิมตอนที่แล้ว...http://pantip.com/topic/32767633

วันนี้จะเป็นวันแรกที่เราจะได้ตะลอนเที่ยวโดนรถไฟทั้งใต้ดินและบนดินของเมืองปักกิ่งกัน ด้วยราคาแสนถูก 10 บาทตลอดสาย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง กินข้าวเช้าแล้ว ไปกันเลย...

อาหารเช้ามื้อแรกที่ Pullman





สถานีนี้แหละ ใกล้โรงแรมที่เรานอน


เป้าหมายที่แรก หอฟ้า เทียนถาน โชคดี วันนี้คนไม่เยอะมาก ต่อแถวไม่นานก็ได้ตั๋วมาแระ




บริเวณหอฟ้านี้มีสถานที่หลายแห่ง รวมทั้ง echo hall ก็อยู่บริเวณนี้ด้วย มีมุมให้ถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ
เรามาถ่ายรูปอย่างเดียว ไม่ค่อยสนใจอ่านป้าย และอ่านความรู้ คู่มือต่างๆ สักเท่าไหร่





และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิด (แต่เคยได้ยิน) ก็บังเกิดขึ้นกับตาตัวเอง...ขณะที่กำลังเพลินอยู่กับการชมหอบูชาฟ้าอยู่นั้น เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงจีนคนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก แก้มแดงน่าหยิก...กำลังจะเอ่ยปากชวนเพื่อนดูเด็กๆพอดี เจ้าหนูน้อยก็แก้กางเกงพรวด ทั้งชั้นนอก ชั้นใน นั่งยองๆ จนเห็นตับไตไส้พุงหมด พ่นของเสียออกมาตรงลานหอบูชาฟ้า ต่อหน้าต่อตาเรา และนักท่องเที่ยวทั้งหลาย เราเห็นแค่ว่าน้องฉี่ออกมาก็รีบเผ่น ไม่อยู่ดูต่อ กลัวมีก้อนๆ ออกมาด้วย...ยี้  แล้วแม่มันไปไหนฟะ สถานที่แบบนี้ ปล่อยให้ลูกแก้ผ้าขี้เยี่ยวอยู่ได้หรา ???

ว่าแล้วก็รีบออกเดินไปชมสถานที่อื่นๆแถวนั้นต่อ เริ่มเหนื่อยก็เดินลัดสวนไปชมสวนกุหลาบ ดูของสวยๆงามๆ ดีกว่า พร้อมพักยกกินเลย์ที่พกมาตั้งแต่เมืองไทยด้วย อิอิ




เวลาเลยเที่ยงมาแระ เริ่มหิว คิดไรไม่ออก นึกได้ว่าแถววัดหยง เหอ กง มีของกินเพียบ เลยมุดลงใต้ดิน ไปโผล่สถานที่ Yong He Kong ดีกว่า อิ่มแล้วค่อยไปไหว้พระเป็นศิริมงคลแห่งชีวิต




เลือกร้านที่มีรูปภาพเป็นเมนู สั่งง่ายดี ราคาก็สมเหตุสมผล




อิ่มแล้วเดินย้อนมาทางรถไฟใต้ดิน จะเห็นทางเข้าวัดใหญ่เด่นเป็นสง่า ค่าเข้าราคา 25 หยวน (ร้อยกว่าบาท)





วัดนี้ใหญ่มาก มีหลายชั้น แต่ละชั้นก็มีหอบูชาพระ และเทพต่างๆ เยอะแยะไปหมด อบอวลไปด้วยกลิ่นธูป ถึงขั้นแสบตาอย่างแรง ใครจะไปไหว้ควรซื้อธูปสักห่อใหญ่ และเอาผ้าปิดจมูกไปด้วย

โดยส่วนตัว เราชอบสถาปัตยกรรมของวัดนี้ เป็นแบบจีนผสมธิเบต หอพระสองชั้น มีทางเชื่อมติดกันที่ชั้นสอง ข้างในเป็นพระองค์ใหญ่น่าเกรงขาม ไหว้พระ อธิษฐาน 2-3 นาที แล้วก็ออกมาถ่ายรูปข้างนอกดีกว่า เพราะเพื่อนดูเหมือนไม่ค่อยชอบอยากอยู่ที่นี่นาน (เพราะควันธูปแน่เลย)







เผลอแป๊บเดียวก็เย็นแระ จะไปไหนดี....สถานที่อื่นๆก็คงปิดแระ มาปักกิ่งรอบแรก พลาดไม่ได้ดูสนามกีฬาโอลิมปิค รอบนี้เลยไม่พลาด ไปดูสนามกีฬารังนกเปิดไฟสีๆ ตอนค่ำๆค่อยกลับโรงแรม...ว่าแล้วก็มุดลงใต้ดิน ดูแผ่นที่เอาว่าต้องไปต่อสายไหน จึงจะไปถึงสถานีโอลิมปิค สเตเดียม
...กำลังจะไปหยอดตังค์ซื้อตั๋ว อ้าว ตู้ซื้อตั๋วเสียซะนิ ต้องไปต่อแถวคนจีน ด้วยความเคยชิน เลยบอกเขาว่าจะไปลงโอลิมปิค เขาก็ไม่สนใจ ส่งตั๋วมาให้พร้อมรับเงินไป 4 หยวน...อ้าว เราลืมไป สถานีไหนก็ 2 หยวนเหมือนกัน (flat rate) นี่หว่า เฮ้อ อายจัง



ระหว่างเดินออกมาถึงทางเข้าโอลิมปิค สเตเดียม พระเจ้า ทำไมคนเยอะขนาดนี้ มันมีแจกของฟรีกันหรือไง นี่ขนาดคนมาเดินเล่นนะ ยังเยอะขนาดนี้ ถ้ามีคอนเสิร์ตฟรี คงเหยียบกันตาย (หามุมที่คนน้อยที่สุดแล้วนะ)







ดูไฟ แสง สี อยู่ดีๆ เพลินๆ ก็ปวดฉี่ ปวดอึขึ้นมาทันใด อาหารจีนที่กินเมื่อตอนเที่ยงทำพิษเสียแล้วมั้ง เหลือบไปรอบๆ มีห้องน้ำเรียงอยู่เป็นแถว เราให้เพื่อนไปเข้าก่อน ส่วนตัวก็หาที่นั่งพักขาสักหน่อย ค่อยไปห้องน้ำหลังเพื่อนมา (เฝ้ากล้องและของในเป้)



เข้าไปใกล้ๆม้านั่ง เฮ๊ย นี่มันสนามหลวงเมื่อหลายปีก่อน ที่พ่อค้าแม่ค้าจะเอาของมาขายกันเยอะแยะดีๆนี่เอง แต่ที่เป็นเอกลักษณ์กว่านั้นคือ ขยะเต็มไปหมด ขายกันแล้วก็ทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ


เพื่อนมา เราไปห้องน้ำบ้าง เห็นประตูแง้มอยู่ห้องหนึ่ง พอเปิดเข้าไป เสียงอาหวยร้อง "กรี๊ด" สวนออกมา หล่อนกำลังนั่งเบ่งกันอย่างเต็มที่ เห็นหมด ทั้งข้างบนข้างล่าง เฮ๊ย "จะกรี๊ดหาพระแสงไร ทำไมขี้อยู่ไม่ปิดประตูฟะ" คิดในใจเงียบๆ แล้วเดินออกมา หายปวดท้อง ชวนเพื่อนกลับห้องพักพูลแมนทันที

ระหว่างเดินกลับ ก็เห็นตำรวจขับรถเปิดหวอ พูดใส่ลำโพงผ่านมา พ่อค้าแม่ค้าก็เก็บของกันเรียบร้อย พอรถตำรวจผ่านไปไม่ทันพ้นสายตา ก็วางขายกันใหม่ เฮ้อ ขายกันเก่งจริงๆ ในขบวนรถไฟใต้ดิน ก็มีคนเอาของมากางขายนะ เราเห็นมีคนซื้อด้วยแหละ

วันนี้เห็นสัจธรรมหลายอย่าง สถานที่ใหญ่โต มโหฬาร และสวยงาม ก็มีมุมที่ "น่าเกลียด" ในตัวมันเอง ...