สนช.มีมติรับเรื่องถอดถอนอดีตประธานรัฐสภาและอดีตประธานวุฒิสภา
เฉียดฉิว 87 ต่อ 75 โดยไม่ใช่แค่ลงมติลับ แต่การถกเถียงยังปิดลับ ทั้งที่
ถกกันเรื่องกฎหมาย ถกธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 5-6 ว่ามีอำนาจถอดถอน
หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องความมั่นคงของชาติหรือวิพากษ์บุคคลให้เสียหาย
ทำไมต้องประชุมลับ
หรือประชุมลับเพราะ สนช.กลัวตัวเองเสียหาย หรือเพราะต้องพูดอะไรเกิน
หลักกฎหมาย เช่น Agenda ทางการเมือง
ถ้าพูดแค่เรื่องกฎหมายทำไมต้องลับถึง 3 ชั่วโมง เพราะพูดได้องอาจผ่าเผย
ว่ามีอำนาจถอดถอนหรือไม่ แต่นี่ชวนให้ชาวบ้านคิดว่ามีอะไรที่พูดได้ไม่เต็มปาก
แน่นอน มตินี้จะส่งผลข้ามช็อตให้สนช.รับเรื่องถอด ถอนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ในวันที่ 12 พ.ย.
โถก็ขนาดสมศักดิ์-นิคม ถูกชี้ว่าแก้รัฐธรรมนูญผิดมาตรา 68 "เพื่อให้ได้มา
ซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่
บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ" ทั้งที่ คสช.ฉีกรัฐธรรมนูญไปแล้ว นิรโทษไปแล้ว
สนช.ยังรับเรื่องถอดถอน คดียิ่งลักษณ์ที่อ้างว่าไม่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ
จะไปเหลืออะไร
ดีครับ ก็ให้ชัดกันไป อย่าแทงกั๊กอยู่เลย เชิญลงมติตามใจชอบ ผลที่ออก
มาเห็นอยู่แล้ว ถ้าถอดถอน พันธมิตรนกหวีดก็ไชโยโห่ร้อง เสื้อแดงขบเขี้ยว
เคี้ยวฟัน ถ้าไม่ถอดถอนก็กลับกัน ทั้งขึ้นทั้งล่อง
ทั้งที่จริง ถ้าตรงไปตรงมาในหลักกฎหมาย ก็ควร ชี้ชัดว่า สนช.ไม่มีอำนาจ
ถอดถอน ไม่ว่าจะสมศักดิ์ นิคม หรือยิ่งลักษณ์
หลักการถอดถอนเอาง่ายๆ หนึ่ง สนช.มีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งหรือ
ไม่ มีสิครับ สนช.มีอำนาจถอดถอนนายกฯ ครม. องค์กรอิสระทั้งหลาย แม้
ธรรมนูญชั่วคราวไม่บัญญัติไว้ แต่นี่เป็นหลักทั่วไป เมื่อให้ สนช.ใช้อำนาจ
นิติบัญญัติแทนรัฐสภา ท่านย่อมมีอำนาจถอดถอน
แต่สองสนช.มีอำนาจถอดถอนผู้พ้นตำแหน่งไปแล้วเพื่อตัดสิทธิ 5 ปีหรือไม่
การตัดสิทธิไม่อยู่ในหลักทั่วไป เป็นบทบัญญัติพิเศษในรัฐธรรมนูญ 2540
และ 2550 ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลก หลัก Impeachment มีไว้เพื่อขับผู้ดำรง
ตำแหน่งที่ส่อว่าประพฤติมิชอบ เมื่อพ้นแล้วจะถูกลงโทษอย่างไรก็เป็นไป
ตามกระบวนการยุติธรรม
ย้อนถามผู้อยากถอดถอนยิ่งลักษณ์ สมศักดิ์ นิคม ก็ได้ว่าคุณจะถอดถอนเขา
ทำไมในเมื่อพ้นตำแหน่งไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะอยากตัดสิทธิ 5 ปี นี่จึงไม่ใช่
"อำนาจถอดถอน" แต่เป็น "อำนาจลงโทษ" ธรรมนูญชั่วคราวให้อำนาจนี้ไว้
ไหม ไม่ได้ให้นะครับ ในหลักทั่วไป "อำนาจลงโทษ" เป็นอำนาจตุลาการ
เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ให้อำนาจพิเศษ สนช.ก็ลงโทษไม่ได้
นี่ยังไม่ได้ พูดถึงความชอบธรรม ว่ามาจากเลือกตั้งกับไม่มาจากเลือกตั้ง โถ
ก็มาจากการยึดอำนาจ จะพูดไปทำไมมี อันที่จริงท่านใช้อำนาจอย่างไรก็ได้
แต่เมื่อจะแถว่าชอบธรรม ก็ต้องเถียงสักหน่อย
พูดอย่างนี้ปก ป้องยิ่งลักษณ์โดยไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือ กับนโยบายจำนำข้าว ที่
อ.นิคม พัวพงศกร TDRI ออกมาระบุว่า
ถึง 5.4 แสนล้าน ท่านไม่ต้อง
พูดผมก็รู้ว่าเสียหายเพียงไร แต่นั่นคือ "ความรับผิดทางการเมือง" ของ
พรรคเพื่อไทย ที่ควรเสื่อมความนิยมในการเลือกตั้ง ไม่ใช่ความผิดที่ สนช.จะ
ฉวยมาตัดสินแทนประชาชนเจ้าของอำนาจ และไม่ใช่หลักฐานในคดีอาญา
เว้นแต่จะดำเนินคดีทุจริตเป็นรายๆ
ว่าไปก็น่าเห็นใจท่าน นายกฯ ที่ไม่สบายใจกับการแพร่ภาพยิ่งลักษณ์ ทักษิณ
ซึ่งคงไม่หมายถึงฝ่ายคนนิยมเท่านั้น แต่ฝ่ายเกลียดชังอาการหนักกว่า ขนาด
มีคนขุดภาพ "อีปู" ถ่ายแบบสมัยเอ๊าะๆ มาให้ดูยังรุมด่า
ห้าเดือนที่ผ่านมา คสช.พยายามไม่ไล่ล่า ไม่ "ปลุกผีทักษิณ" สรุปบทเรียน
รัฐประหาร 49 และรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งทำให้ "ทักกี้" กลายเป็นผีอมตะ
เลือกตั้งทีไรชนะทุกที
นึกว่าเข้าใจตรงกันเสียอีก แต่ก็คงเป็นสัจธรรมว่าต่อให้รัฐประหารก็บังคับให้คน
เลิกรักเลิกเกลียดกันไม่ได้
ที่จริงทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็มีคดีความที่มวลชนต้องการชำระสะสางอยู่
ไม่น้อย ข้อแรกเลย "นิรโทษสุดซอย" ที่พา
กันหมด ถ้าการเมืองปกติ
เพื่อไทยคงส่งหมากับเสาไฟฟ้าให้เลือกไม่ได้อีก เพราะมวลชนต้องการ
ไพรมารีโหวต ต้องการอำนาจตัดสินใจ แต่ถ้าเมื่อไหร่เห็นความอยุติธรรม ถ้า
เมื่อไหร่อำนาจเลือกตั้งของตนถูกลิดรอน เรื่องข้างต้นก็ยกไว้ก่อน
คนเกลียดทักษิณไม่เคยสรุปบทเรียน จึงสร้าง "ทักกี้ ผีอมตะ" แต่ข่าวดี ระยะนี้
ผีทักกี้เริ่มเสื่อม "ผียิ่งลักษณ์" สิมาแรงแซงพี่ชาย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5UTTN
"ทักกี้" ผีอมตะ คอลัมน์ ใบตองแห้ง ข่าวสดออนไลน์ .... sao..เหลือ..noi
เฉียดฉิว 87 ต่อ 75 โดยไม่ใช่แค่ลงมติลับ แต่การถกเถียงยังปิดลับ ทั้งที่
ถกกันเรื่องกฎหมาย ถกธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 5-6 ว่ามีอำนาจถอดถอน
หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องความมั่นคงของชาติหรือวิพากษ์บุคคลให้เสียหาย
ทำไมต้องประชุมลับ
หรือประชุมลับเพราะ สนช.กลัวตัวเองเสียหาย หรือเพราะต้องพูดอะไรเกิน
หลักกฎหมาย เช่น Agenda ทางการเมือง
ถ้าพูดแค่เรื่องกฎหมายทำไมต้องลับถึง 3 ชั่วโมง เพราะพูดได้องอาจผ่าเผย
ว่ามีอำนาจถอดถอนหรือไม่ แต่นี่ชวนให้ชาวบ้านคิดว่ามีอะไรที่พูดได้ไม่เต็มปาก
แน่นอน มตินี้จะส่งผลข้ามช็อตให้สนช.รับเรื่องถอด ถอนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ในวันที่ 12 พ.ย.
โถก็ขนาดสมศักดิ์-นิคม ถูกชี้ว่าแก้รัฐธรรมนูญผิดมาตรา 68 "เพื่อให้ได้มา
ซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่
บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ" ทั้งที่ คสช.ฉีกรัฐธรรมนูญไปแล้ว นิรโทษไปแล้ว
สนช.ยังรับเรื่องถอดถอน คดียิ่งลักษณ์ที่อ้างว่าไม่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ
จะไปเหลืออะไร
ดีครับ ก็ให้ชัดกันไป อย่าแทงกั๊กอยู่เลย เชิญลงมติตามใจชอบ ผลที่ออก
มาเห็นอยู่แล้ว ถ้าถอดถอน พันธมิตรนกหวีดก็ไชโยโห่ร้อง เสื้อแดงขบเขี้ยว
เคี้ยวฟัน ถ้าไม่ถอดถอนก็กลับกัน ทั้งขึ้นทั้งล่อง
ทั้งที่จริง ถ้าตรงไปตรงมาในหลักกฎหมาย ก็ควร ชี้ชัดว่า สนช.ไม่มีอำนาจ
ถอดถอน ไม่ว่าจะสมศักดิ์ นิคม หรือยิ่งลักษณ์
หลักการถอดถอนเอาง่ายๆ หนึ่ง สนช.มีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งหรือ
ไม่ มีสิครับ สนช.มีอำนาจถอดถอนนายกฯ ครม. องค์กรอิสระทั้งหลาย แม้
ธรรมนูญชั่วคราวไม่บัญญัติไว้ แต่นี่เป็นหลักทั่วไป เมื่อให้ สนช.ใช้อำนาจ
นิติบัญญัติแทนรัฐสภา ท่านย่อมมีอำนาจถอดถอน
แต่สองสนช.มีอำนาจถอดถอนผู้พ้นตำแหน่งไปแล้วเพื่อตัดสิทธิ 5 ปีหรือไม่
การตัดสิทธิไม่อยู่ในหลักทั่วไป เป็นบทบัญญัติพิเศษในรัฐธรรมนูญ 2540
และ 2550 ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลก หลัก Impeachment มีไว้เพื่อขับผู้ดำรง
ตำแหน่งที่ส่อว่าประพฤติมิชอบ เมื่อพ้นแล้วจะถูกลงโทษอย่างไรก็เป็นไป
ตามกระบวนการยุติธรรม
ย้อนถามผู้อยากถอดถอนยิ่งลักษณ์ สมศักดิ์ นิคม ก็ได้ว่าคุณจะถอดถอนเขา
ทำไมในเมื่อพ้นตำแหน่งไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะอยากตัดสิทธิ 5 ปี นี่จึงไม่ใช่
"อำนาจถอดถอน" แต่เป็น "อำนาจลงโทษ" ธรรมนูญชั่วคราวให้อำนาจนี้ไว้
ไหม ไม่ได้ให้นะครับ ในหลักทั่วไป "อำนาจลงโทษ" เป็นอำนาจตุลาการ
เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ให้อำนาจพิเศษ สนช.ก็ลงโทษไม่ได้
นี่ยังไม่ได้ พูดถึงความชอบธรรม ว่ามาจากเลือกตั้งกับไม่มาจากเลือกตั้ง โถ
ก็มาจากการยึดอำนาจ จะพูดไปทำไมมี อันที่จริงท่านใช้อำนาจอย่างไรก็ได้
แต่เมื่อจะแถว่าชอบธรรม ก็ต้องเถียงสักหน่อย
พูดอย่างนี้ปก ป้องยิ่งลักษณ์โดยไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือ กับนโยบายจำนำข้าว ที่
อ.นิคม พัวพงศกร TDRI ออกมาระบุว่า
พูดผมก็รู้ว่าเสียหายเพียงไร แต่นั่นคือ "ความรับผิดทางการเมือง" ของ
พรรคเพื่อไทย ที่ควรเสื่อมความนิยมในการเลือกตั้ง ไม่ใช่ความผิดที่ สนช.จะ
ฉวยมาตัดสินแทนประชาชนเจ้าของอำนาจ และไม่ใช่หลักฐานในคดีอาญา
เว้นแต่จะดำเนินคดีทุจริตเป็นรายๆ
ว่าไปก็น่าเห็นใจท่าน นายกฯ ที่ไม่สบายใจกับการแพร่ภาพยิ่งลักษณ์ ทักษิณ
ซึ่งคงไม่หมายถึงฝ่ายคนนิยมเท่านั้น แต่ฝ่ายเกลียดชังอาการหนักกว่า ขนาด
มีคนขุดภาพ "อีปู" ถ่ายแบบสมัยเอ๊าะๆ มาให้ดูยังรุมด่า
ห้าเดือนที่ผ่านมา คสช.พยายามไม่ไล่ล่า ไม่ "ปลุกผีทักษิณ" สรุปบทเรียน
รัฐประหาร 49 และรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งทำให้ "ทักกี้" กลายเป็นผีอมตะ
เลือกตั้งทีไรชนะทุกที
นึกว่าเข้าใจตรงกันเสียอีก แต่ก็คงเป็นสัจธรรมว่าต่อให้รัฐประหารก็บังคับให้คน
เลิกรักเลิกเกลียดกันไม่ได้
ที่จริงทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็มีคดีความที่มวลชนต้องการชำระสะสางอยู่
ไม่น้อย ข้อแรกเลย "นิรโทษสุดซอย" ที่พา
เพื่อไทยคงส่งหมากับเสาไฟฟ้าให้เลือกไม่ได้อีก เพราะมวลชนต้องการ
ไพรมารีโหวต ต้องการอำนาจตัดสินใจ แต่ถ้าเมื่อไหร่เห็นความอยุติธรรม ถ้า
เมื่อไหร่อำนาจเลือกตั้งของตนถูกลิดรอน เรื่องข้างต้นก็ยกไว้ก่อน
คนเกลียดทักษิณไม่เคยสรุปบทเรียน จึงสร้าง "ทักกี้ ผีอมตะ" แต่ข่าวดี ระยะนี้
ผีทักกี้เริ่มเสื่อม "ผียิ่งลักษณ์" สิมาแรงแซงพี่ชาย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5UTTN