Interstellar - ผมว่าคุณ Nolan ยังหมกมุ่นในสิ่งเดิมๆนะ (spoil สุดๆ)

กระทู้สนทนา
" Love is the one thing that transcends time and space"

ก่อนเข้าเรื่อง Interstellar ผมขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของคุณ Nolan หนังของเค้าที่ผมชอบมาก มีแค่ The Prestige (สำหรับ Inception และ The Dark Knight ผมก็ชอบนะ แต่ไม่ได้ถึงกับชอบมากมาย)

และเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมเพิ่งผ่านความประทับใจสุดๆกับ Gravity มา ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกของหนังกระแทกใจผมมากๆ ตอนจบของหนังยังตราตรึงมาจนถึงวันนี้ และสิ่งที่ได้จากหนัง มันก็ช่วยชีวิตผมจากเรื่องแย่ๆได้มากเลยทีเดียว

เข้าเรื่อง Interstellar ดีกว่า ก่อนเข้าไปดู ผมแทบไม่รู้เรื่องย่ออะไรของหนังเลย เข้าไปดูแบบหัวโล่งสุดๆ

สิ่งที่ผมอยากแชร์และพูดคุยคือ อะไรคือประเด็นหลักที่หนังจะสื่อสาร

ดูตั้งแต่เริ่มเรื่องไปจนถึงกลางๆเรื่อง ผมแทบมองไม่ออกเลยว่า หนังมันจะพูดเรื่องอะไร และยิ่งเข้าสู่ช่วงที่ยานถูกส่งออกไปในอวกาศในช่วงแรกๆ ผมก็เริ่มหวั่นใจนิดหนึ่ง กลัวว่าหนังจะพูดเรื่องเดียวกับ Gravity แต่ก็ยังไม่ปักใจ เพราะยังเชื่อในชื่อของคุณ Nolan อยู่

จนกระทั่งหนังเดินทางมาถึงช่วงกลางเรื่อง เป็นจุดที่ผมเริ่มสนใจมากๆ ซึ่งมันคือฉากที่ แบรนด์และคูเปอร์ หนีออกมาจากดาวดวงแรกได้สำเร็จ และกำลังจะตัดสินใจกันว่าจะเดินทางไปดาวดวงไหนต่อ ระหว่างดาวแมนห์ หรือ ดาวเอ็ดมันท์ ซึ่งตอนนี้แบรนด์จะออกเสียงว่าให้ไปดาวเอ็ดมันท์ แต่ทางคูเปอร์ก็คัดค้านและบอกความลับบางอย่าง นั่นคือ เอ็ดมันท์เป็นแฟนของแบรนด์ และแบรนด์อยากไปดาวเอ็ดมันท์ เพราะอยากเจอแฟน

แต่ทางแบรนด์ก็ได้พยายามบอกเหตุผลให้คูเปอร์และเพื่อนในทีมฟัง ซึ่งผมชอบบทพูดของแบรนด์ในช่วงนี้มาก (ใครมีบทพูดของแบรนด์ตอนนี้ ช่วยอนุเคราะห์หน่อยนะ) ใจความที่ผมจับได้โดยรวม คือ เพราะ "ความรัก" เป็นตัวสื่อสารมาทางความรู้สึกให้แบรนด์ต้องเดินทางไปดาวเอ็ดมันท์ ซึ่งแบรนด์ไม่ได้ให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์เลย แบรนด์พูดเรื่องความรู้สึกที่มันส่งผ่านถึงกัน เธอเลยเชื่อว่า ดาวที่มนุษย์จะอาศัยอยู่ได้ คือ ดาวเอ็ดมันท์ เพราะเธอรู้สึกอย่างนั้น มีประโยคหนึ่งที่แบรนด์พูดในช่วงนี้ คือ "Love is the one thing that transcends time and space" ซึ่งมันกระแทกใจผมอย่างมาก

ณ ตอนที่นั่งดูในโรงฉากนี้ ผมกลับมีความเชื่อคล้อยตามแบรนด์ ผมมีความรู้สึกว่า ดาวเอ็ดมันท์ต้องเป็นดาวที่น่าจะมีโอกาสที่มนุษย์จะไปอยู่อาศัยได้ (ผมไม่มีเหตุผลสนับสนุนเหมือนกัน แต่เกิดจากความรู้สึกที่รับรู้ได้ ผ่านบทพูด น้ำเสียง สีหน้าแววตา ของแบรนด์ มันทำให้ผมเชื่อแบบนั้น และแอน ฮาร์ทอะเวย์ เล่นฉากนี้ได้สุดยอดมาก) และผมก็แอบเชียร์ให้คูเปอร์เปลี่ยนใจเดินทางไปดาวเอ็ดมันท์แทน แต่สุดท้ายก็เชียร์ไม่ขึ้น 55

ซึ่งพอผ่านฉากนี้ไป ผมเริ่มเอะใจละว่า หรือหนังจะพูดเรื่อง "ความรัก" พอผมเริ่มคิดย้อนไปตั้งแต่ต้นเรื่อง ผมว่าแกนหลักที่หนังยึดและเดินตามมาตลอดทางคือสิ่งนี้แหละ ผมไม่รู้สึกว่าหนังให้ความสำคัญกับเรื่องใหญ่ๆอย่างโลกหรือมวลมนุษยชาติอะไรเลย แต่ผมกลับรู้สึกว่า หนังเน้นความสัมพันธ์ระหว่าง คูเปอร์ กับ เมิร์ฟ มากๆ (และผมก็คิดว่าทำได้ดีมากๆมาตลอดทาง ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย)

แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่า สุดท้ายหนังจะบอกอะไรและจะพาเราไปไหน

จนกระทั่งหนังเดินทางมาถึงฉากสำคัญท้ายเรื่อง ที่คูเปอร์เหมือนจะหลุดเข้าไปอีกมิติหนึ่ง (ไม่รู้ว่ามันคือมิติหรือเปล่า แต่สำหรับผม มันไม่ใช่สาระสำคัญ) ทำให้ผมมั่นใจว่า หนังอวกาศที่ผมดูอยู่เนี่ย พูดเรื่อง "ความรัก" แน่นอน และผมก็คิดว่า มันพูดอย่างตั้งใจและหนักแน่นมากด้วย

ในฉากนี้จะเห็นได้ว่า คูเปอร์พยายามสื่อสารอะไรหลายๆอย่างให้เมิร์ฟในหลายๆช่วงวัยรับทราบ ซึ่งผมรู้สึกว่าฉากนี้ หนังกำลังจะบอกว่า ด้วยอานุภาพแห่ง "ความรัก" ทำให้คูเปอร์สื่อสารถึงเมิร์ฟได้ และสิ่งที่สื่อสารกันมีแค่ระหว่างพวกเขา 2 คนเท่านั้นที่เข้าใจ ด้วยรัก สามารถให้คนเราสื่อสารถึงกันได้ แม้อยู่ไกลกันแค่ไหน หรืออาจจะอยู่ในคนละช่วงมิติเวลาก็ตาม

ผมรู้สึกว่า ถ้าเราคิดแค่ส่วนของเมิร์ฟ เราจะไม่รู้เลยว่า สัญญานที่เธอได้รับนั้นมันมากจากไหน มีคนตั้งใจส่งมาให้ หรือแค่เรื่องบังเอิญ หากย้อนกลับไปฉากเหล่านี้ตอนต้นเรื่อง ผมก็ยังไม่เชื่อเลยว่ามีผี หรือมีใครพยายามจะบอกอะไรเมิร์ฟ นี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่า "ความรัก" มันเกิดจากความรู้สึกที่ส่งผ่านมาจากที่ไกลโพ้นซักแห่ง คนละมิติเวลา แต่ "ความรัก" มันอยู่เหนือข้อจำกัดเหล่านี้

"ความรัก" คือ สิ่งที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ พลังแห่งรัก มันอยู่เหนือวิทยาศาสตร์
"ความรัก" มันยิ่งใหญ่กว่านั้น มันอยู่เหนือเหตุและผลทุกอย่าง
"ความรัก" มันเป็นการสื่อสารที่ไม่มีสสาร มันผ่านทางความรู้สึก
"ความรัก" มันคือสิ่งที่คน 2 คนรู้สึกและรับรู้ต่อกัน
"ความรัก" มันขับเคลื่อนชีวิตมนุษย์ให้เดินไปข้างหน้า
"ความรัก" ทำให้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทำให้ทุกปัญหามีทางออก
ตราบใดที่ยังมี "ความรัก" มนุษย์จะไม่มีทางสูญสิ้นแน่นอน

ดูจบ ผมก็สรุปเอาเองเลยว่า คุณ Nolan ยังสนใจหน่วยเล็กๆที่เรียกว่า มนุษย์ อยู่ดี เค้าไม่ได้มองไปไกลถึงอนาคตโลก มวลมนุษยชาติอะไรทั้งนั้น เค้ายังคงหมกมุ่นกับ "ความรู้สึกของมนุษย์" อยู่ดี ถึงแม้หนังเรื่อง Interstellar จะพาเราไปไกลสุดลูกหูลูกตา แต่สุดท้าย เราก็ต้องกลับมาอยู่กับสิ่งที่ใกล้ตัวเราที่สุด ซึ่งมันก็ คือ หัวใจของเรานั่นเอง
เพราะเรามีชีวิตอยู่ได้ด้วย "ความรัก"

"Love is the one thing that transcends time and space"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่