วันก่อนค่ะ ... เราคุยกับรุ่นน้องที่ทำงานในเรื่องทั่วๆไป คุยไป คุยมา ก็พูดถึงเรื่องแม่ซะงั้น เรียกได้ว่าเม้าส์แม่ตัวเองก็ได้นะคะ ซึ่งน้องๆเค้าก็เล่าให้ฟังว่า แม่เป็นแบบนู้น แม่เป็นแบบนี้ ซึ่งก็มีหลากหลายมุมที่ทำให้ตกใจหรือบางทีก็หัวเราะงอหายกันเลยทีเดียว
ทีนี้เราก็นึกถึง “แม่” ของเราบ้างค่ะ ... เมื่อนึกถึงแม่ เราก็จะนึกถึงผู้หญิงคนนึงที่หน้าดุๆ ขี้บ่น และก็จุกจิกเป็นประจำ แต่มักจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ เมื่อลูกๆพาไปเที่ยว หรือได้รับของขวัญ รวมถึงเงินจากลูกๆ
และเมื่อนึกถึงสมัยก่อน ตอนที่เรายังเรียนหนังสือ บ้านเราค่อนข้างลำบากค่ะ เราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะวันหยุดต้องคอยดูแลน้องที่เป็นออทิสติค หรือหากมีเวลาว่างก็ต้องรับจ๊อบทำงานสารพัด เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเป็นค่าขนมไปโรงเรียน เราจึงไม่ค่อยจะได้กินได้เที่ยวเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆเค้า ยอมรับค่ะ ... ในตอนนั้น เห็นชีวิตคนอื่น ก็มีอิจฉาบ้าง น้อยใจบ้าง ทำไมน้า? แม่เราไม่เคยให้เงินใช้แบบคนอื่นเค้าเลย อยากกินขนมก็อด อยากได้อะไรก็ไม่เคยได้ อยากไปเที่ยวก็ไม่เคยอนุญาต หลายครั้งที่ต้องเลือกโกหก เพื่อไม่ให้แม่ดุด่า
แต่มาวันนี้ ... ไม่เป็นไรแล้วค่ะ เพราะเราไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เราเรียนจบและมีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว และพร้อมแล้วที่จะทำให้ครอบครัวของเราสบาย เพื่อให้ “มนุษย์แม่” ของเราได้มีความสุขที่สุด แต่ก่อนที่แม่จะมีความสุข ขอหนูเม้าส์นิดนึงแล้วกันนะ
ดราม่ามาซะนาน มาเข้าเรื่องดีกว่าว่าวีรกรรมของแม่เรา ทำให้แม่กลายเป็น “มนุษย์แม่” ได้อย่างไร
1. ซื้อกับข้าวไม่เคยถูกใจ
ตั้งแต่เด็กจนโต เชื่อมั้ยคะ อายุ 25 ปีแล้ว ... ซื้อกับข้าวไม่เคยถูกใจแม่เลย ก่อนไปตลาด เราถามแม่ตลอด “แม่จะกินอะไร” คำตอบที่ได้ก็คือ “อะไรก็ได้” แต่พอซื้อกลับมา แม่แกบ่นตลอดดดดดด “โอ๊ยซื้อมาทำไมน้ำพริก เบื่อแล้ว” บ้างละ “เจ้านี้ไปซื้อมันทำไม มันเคยโกงแม่” บ้างละ “อันนี้มันกินแล้วมันไม่ดีต่อสุขภาพรู้มั้ย ซื้อมาทำไม” บ้างละ สุดท้ายถามว่าแม่กินมั้ย มนุษย์แม่กินค่ะ แจ๊บๆ อร่อยตลอด
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : จะซื้อกับข้าว ให้ซื้อไปเลย ไม่ต้องถาม
2. เกินงบ
สมัยเรียนค่ะ เรียนอยู่ที่ทับแก้วจึงต้องอยู่หอ แม่ให้ค่าขนมวันจันทร์ 500 บาท (ใช้วันละร้อย) และกลับบ้านทุกวันศุกร์เป็นประจำ ซึ่งพอถึงวันศุกร์ทีไร แม่ก็จะโทมา “ลูกซื้อกับข้าวให้หน่อยนะ แม่ ป๋า น้อง ยังไม่ได้กินข้าวเลย เอาผลไม้ด้วยนะ แม่อยาก” ... เรานับนิ้วไปมา รวมเราด้วยแล้วก็ 4 คน กับข้าวอย่างน้อยก็ต้อง 3-4 อย่าง ผลไม้อีก อืมๆ ยืมตังเพื่อนค่ะ ค่อยคืนวันจันทร์ เป็นแบบนี้เป็นประจำ เราเองทำบัญชีรายรับรายจ่ายเอาไว้ ปรากฎว่าเกินงบทุกที เราเองก็งง ตูไปเอาเงินมาจากไหนมาซื้อกับข้าวเนี่ย! เวลาเพื่อนๆมาเห็นในสมุดจด เพื่อนๆก็สงสารค่ะ แอบเขียนให้กำลังใจกันไว้ว่า “สู้ๆนะ ขอให้แม่ให้เงินเกินงบบ้างก็ดีนะ” อ่านทุกวันนี้แล้วยังขำอยู่เลยค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : เป็นลูกต้องอดทน เป็นคนต้องทำดี
3. ซักผ้า
ตั้งแต่เรียนจบและทำงาน เรากับพี่สาวให้แม่หยุดขายของ เพื่อให้พักผ่อนและเป็นเพียงแม่บ้านเท่านั้น (แต่ดูเหมือนจะเหนื่อยหนักกว่าเดิมนะคะ) แม่เราก็จะเป็นคนซักผ้าให้เราค่ะ และเรากับพี่มักจะลืมเงินในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อ (ที่ใส่แล้ว) อยู่เป็นประจำ บางครั้งก็สิบยี่สิบบาท บางครั้งก็ร้อยสองร้อยก็มี ซึ่งเราภูมิใจในตัวแม่ของเรามากค่ะ เพราะแม่ของเราเงียบกริบ ... เงียบฉี่ ... พอถามถึงว่าเห็นเงินที่เราลืมไว้บ้างมั้ย แม่ก็จะบอกกับเรา พร้อมกับพยักหน้าหงึกๆว่า “หรอๆ อืมๆ เห็นนะ แต่ใช้ไปแล้ว ถือว่าเป็นค่าอีแจ๋วซักผ้าแล้วกันนะ” สวัสดีค่ะ มนุษย์แม่ของเรา
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ลืมเงินไว้ที่ไหน อย่าคิดได้คืนนะคะ
4. ของขวัญวันเกิด
เดือนเมษายนที่ผ่านมาค่ะ เป็นเดือนเกิดของเรา เราดีใจมากเลยค่ะ แม่ซื้อของขวัญให้ ชิ้นแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ ให้ทายค่ะ ว่าเป็นอะไรเอ่ย??? ... เฉลยค่ะ เราได้เตาปิ้งไฟฟ้าจ้า ดีใจมั้ยคะ เย่ๆๆๆ เพราะ “เตาปิ้งไฟฟ้า” เป็นของที่แม่เราอยากได้มานานแล้วค่ะ ดีใจจังเลย เราได้ของขวัญที่แม่เราบ่นอยากได้มาตั้งนานแล้วค่ะ แม่บอกแม่ซื้อให้เรา แม่คงเห็นเรามีความสุขมั้งคะ เห็นแม่ยิ้มใหญ่เลย แม่ดูมีความสุขมาก ขอบคุณนะคะแม่สำหรับของขวัญวันเกิด และตอนนี้เห็นแม้ปิ้งได้ทีสองที มนุษย์แม่เอามาทำเป็นที่วางโหลกาแฟแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : แม่เห็นลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุขค่ะ
5. หาของ
เราว่ามนุษย์แม่เป็นผู้วิเศษนะ ไม่รู้ว่าเค้าได้พลังแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไร แต่ตั้งแต่จำความได้ ของหายทีไร มนุษย์แม่หาเจอตลอด เป็นมนุษย์ผู้หาเจอทุกสิ่งอย่าง ไม่น่าเชื่อ!!! เราเพิ่งจะหาสิ่งๆนั้นตรงนี้ ตรงนี้เลย ตรงที่แม่หาของเจอ แม่เจอ แต่เรากลับไม่เจอ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ... หรือว่าผีบังตา ไม่นะ ไม่น่าใช่ เราคิดว่า มนุษย์แม่ น่าจะได้รับเรดาห์ในการแสกนหาสิ่งของที่ลูกๆวางไว้เมื่อตอนให้กำเนิดชีวิตใหม่ ทุกวันนี้สกิลการทำของหายของเรา กับสกิลการหาของเจอของแม่เรา มีคะแนนที่ไร่เรี่ยกัน แต่มันติดอยู่ตรงที่ว่า ทำของหายทีไร ถ้าแม่หาเจอ ... โดนด่าทุกที แต่ถ้าแม่ทำของหาย เราไม่มีสิทธิ์ด่าแม่ สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : “ไอ้นี่หาอะไรไม่เคยเจอ” มนุษย์แม่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
6. รางวัล
เราโชคดีค่ะ ... ไปเล่นเกมส์ตั้งชื่ออาหารในเพจเฟสบุ้คเพจหนึ่ง ได้รางวัลเป็นชุดหม้อและกระทะมาค่ะ เรางี้ดีใจมาก ไม่เคยได้ของรางวัลแบบนี้มาก่อนเลย กลับบ้านมาก็เอามาโม้ให้แม่ฟังใหญ่ ว่าจะมีของใช้ใหม่ แถมได้มาแบบฟรีๆเสียด้วย สุดยอดไปเลย! และแล้ววันที่ไปรษณีย์มาส่งของก็มาถึง เรารีบกลับบ้านมาค่ะ ได้เห็นของรางวัลก็ถูกใจมากๆ กะว่าสุดสัปดาห์จะประเดิมของใหม่ด้วยการทำอาหารอร่อยๆสักหน่อย แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง ... เมื่อถึงวันหยุด เรากลับหาชุดเครื่องครัวนั้นไม่เจอค่ะ มะ มะ มะ มันอันตธาน หายไปค่ะ เรารีบวิ่งไปหาแม่ ไปถามหา ว่ามันหายไปไหน มนุษย์แม่บอกเราว่า “เอาไปเก็บ” ... “เก็บไหนล่ะ จะเอามาใช้” เราตอบ เชื่อมั้ยคะ มนุษย์แม่ไม่บอก แม่บอกให้เก็บไปใช้บ้านใหม่ (พี่สาวเราซื้อบ้านใหม่) เราขอร้องแม่ค่ะ นะนะนะ แม่หนูอยากใช้ มนุษย์แม่ไม่อนุญาตค่ะ สรุปแล้วทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ใช้เลย เอาไปซ่อนไหนก็ไม่รู้!!!
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : มนุษย์แม่หาของเก่ง แต่ก็ซ่อนของเก่งเช่นกัน ...
7. น้อยใจ
ก่อนหน้านี้ เคยตั้งกระทู้ ... แม่น้อยใจเพราะเราซื้อของขวัญวันเกิดให้พ่อเป็นโทรศัพย์มือถือ แต่เนื่องจากมีคนหาว่าเราแต่งเรื่อง แถมพูดเชิงแช่งคนที่บ้านเราอีกต่างหาก เราจึงลบกระทู้ไปแล้ว จริงค่ะ ... มนุษย์แม่ของเราขี้น้อยใจ ให้เงินพ่อมากกว่าก็ไม่ได้ บางทีต้องแอบให้กันเหมือนคนส่งยา หลบๆซ่อนๆ ไม่งั้นพ่อโดนแม่ยึดตังค์หมดแน่ๆ เราเองก็พยายามไม่อยากให้แม่น้อยใจค่ะ อยากให้แม่มีความสุขที่สุด
วันนี้ค่ะ แม่ไม่ต้องน้อยใจอีกต่อไปแล้วนะคะ เพราะวันเกิดแม่ที่จะถึงนี้ เราก็มีโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้แม่เช่นกัน หุหุ เราได้รางวัลจากพันทิพย์เนี่ยแหละ เป็นโทรศัพทย์มือถือ โชคดีสุดๆ เราสามารถมีโทรศัพท์ให้แม่ โดยเสียแค่ภาษี ณ ที่จ่าย เพียง 5% เท่านั้น (350 บาท) แต่ถ้ากลัวบอกแม่ว่าได้มาฟรี เดี๋ยวก็จะน้อยใจ หาว่าเอาของฟรีมาให้อีก เราจึงเก็บงำไว้เป็นความลับ บอกใครไม่ได้ ดังนั้นใครที่รู้จักมนุษย์แม่ของเรา ห้ามเอาไปบอกนะคะ เรากลัวแม่เราหนีออกจากบ้านอีก
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : มนุษย์ลูกให้มนุษย์แม่ได้ทุกอย่าง อย่าน้อยใจเลยนะ รักแม่ค่ะ
อ่านจบแล้ว เป็นไงบ้างคะ “มนุษย์แม่ของเรา” น่ารักมั้ยคะ
อบากรู้ว่ามี “มนุษย์แม่” คนไหนหรือของใครที่เป็นแบบแม่เราบ้าง
หรือจะมีวีรกรรมเด็ดยิ่งกว่า ก็อย่าลืมเอามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
จากใจ : มนุษย์ลูก

[ขอบคุณภาพประกอบจาก Google ค่ะ]
มนุษย์ป้าก็แล้ว มนุษย์ลุงก็แล้ว สารพัดมนุษย์ ... เจอ “มนุษย์แม่” กันบ้างมั้ย!!!
ทีนี้เราก็นึกถึง “แม่” ของเราบ้างค่ะ ... เมื่อนึกถึงแม่ เราก็จะนึกถึงผู้หญิงคนนึงที่หน้าดุๆ ขี้บ่น และก็จุกจิกเป็นประจำ แต่มักจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ เมื่อลูกๆพาไปเที่ยว หรือได้รับของขวัญ รวมถึงเงินจากลูกๆ
และเมื่อนึกถึงสมัยก่อน ตอนที่เรายังเรียนหนังสือ บ้านเราค่อนข้างลำบากค่ะ เราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะวันหยุดต้องคอยดูแลน้องที่เป็นออทิสติค หรือหากมีเวลาว่างก็ต้องรับจ๊อบทำงานสารพัด เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเป็นค่าขนมไปโรงเรียน เราจึงไม่ค่อยจะได้กินได้เที่ยวเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆเค้า ยอมรับค่ะ ... ในตอนนั้น เห็นชีวิตคนอื่น ก็มีอิจฉาบ้าง น้อยใจบ้าง ทำไมน้า? แม่เราไม่เคยให้เงินใช้แบบคนอื่นเค้าเลย อยากกินขนมก็อด อยากได้อะไรก็ไม่เคยได้ อยากไปเที่ยวก็ไม่เคยอนุญาต หลายครั้งที่ต้องเลือกโกหก เพื่อไม่ให้แม่ดุด่า
แต่มาวันนี้ ... ไม่เป็นไรแล้วค่ะ เพราะเราไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เราเรียนจบและมีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว และพร้อมแล้วที่จะทำให้ครอบครัวของเราสบาย เพื่อให้ “มนุษย์แม่” ของเราได้มีความสุขที่สุด แต่ก่อนที่แม่จะมีความสุข ขอหนูเม้าส์นิดนึงแล้วกันนะ
1. ซื้อกับข้าวไม่เคยถูกใจ
ตั้งแต่เด็กจนโต เชื่อมั้ยคะ อายุ 25 ปีแล้ว ... ซื้อกับข้าวไม่เคยถูกใจแม่เลย ก่อนไปตลาด เราถามแม่ตลอด “แม่จะกินอะไร” คำตอบที่ได้ก็คือ “อะไรก็ได้” แต่พอซื้อกลับมา แม่แกบ่นตลอดดดดดด “โอ๊ยซื้อมาทำไมน้ำพริก เบื่อแล้ว” บ้างละ “เจ้านี้ไปซื้อมันทำไม มันเคยโกงแม่” บ้างละ “อันนี้มันกินแล้วมันไม่ดีต่อสุขภาพรู้มั้ย ซื้อมาทำไม” บ้างละ สุดท้ายถามว่าแม่กินมั้ย มนุษย์แม่กินค่ะ แจ๊บๆ อร่อยตลอด
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : จะซื้อกับข้าว ให้ซื้อไปเลย ไม่ต้องถาม
2. เกินงบ
สมัยเรียนค่ะ เรียนอยู่ที่ทับแก้วจึงต้องอยู่หอ แม่ให้ค่าขนมวันจันทร์ 500 บาท (ใช้วันละร้อย) และกลับบ้านทุกวันศุกร์เป็นประจำ ซึ่งพอถึงวันศุกร์ทีไร แม่ก็จะโทมา “ลูกซื้อกับข้าวให้หน่อยนะ แม่ ป๋า น้อง ยังไม่ได้กินข้าวเลย เอาผลไม้ด้วยนะ แม่อยาก” ... เรานับนิ้วไปมา รวมเราด้วยแล้วก็ 4 คน กับข้าวอย่างน้อยก็ต้อง 3-4 อย่าง ผลไม้อีก อืมๆ ยืมตังเพื่อนค่ะ ค่อยคืนวันจันทร์ เป็นแบบนี้เป็นประจำ เราเองทำบัญชีรายรับรายจ่ายเอาไว้ ปรากฎว่าเกินงบทุกที เราเองก็งง ตูไปเอาเงินมาจากไหนมาซื้อกับข้าวเนี่ย! เวลาเพื่อนๆมาเห็นในสมุดจด เพื่อนๆก็สงสารค่ะ แอบเขียนให้กำลังใจกันไว้ว่า “สู้ๆนะ ขอให้แม่ให้เงินเกินงบบ้างก็ดีนะ” อ่านทุกวันนี้แล้วยังขำอยู่เลยค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : เป็นลูกต้องอดทน เป็นคนต้องทำดี
3. ซักผ้า
ตั้งแต่เรียนจบและทำงาน เรากับพี่สาวให้แม่หยุดขายของ เพื่อให้พักผ่อนและเป็นเพียงแม่บ้านเท่านั้น (แต่ดูเหมือนจะเหนื่อยหนักกว่าเดิมนะคะ) แม่เราก็จะเป็นคนซักผ้าให้เราค่ะ และเรากับพี่มักจะลืมเงินในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อ (ที่ใส่แล้ว) อยู่เป็นประจำ บางครั้งก็สิบยี่สิบบาท บางครั้งก็ร้อยสองร้อยก็มี ซึ่งเราภูมิใจในตัวแม่ของเรามากค่ะ เพราะแม่ของเราเงียบกริบ ... เงียบฉี่ ... พอถามถึงว่าเห็นเงินที่เราลืมไว้บ้างมั้ย แม่ก็จะบอกกับเรา พร้อมกับพยักหน้าหงึกๆว่า “หรอๆ อืมๆ เห็นนะ แต่ใช้ไปแล้ว ถือว่าเป็นค่าอีแจ๋วซักผ้าแล้วกันนะ” สวัสดีค่ะ มนุษย์แม่ของเรา
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ลืมเงินไว้ที่ไหน อย่าคิดได้คืนนะคะ
4. ของขวัญวันเกิด
เดือนเมษายนที่ผ่านมาค่ะ เป็นเดือนเกิดของเรา เราดีใจมากเลยค่ะ แม่ซื้อของขวัญให้ ชิ้นแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ ให้ทายค่ะ ว่าเป็นอะไรเอ่ย??? ... เฉลยค่ะ เราได้เตาปิ้งไฟฟ้าจ้า ดีใจมั้ยคะ เย่ๆๆๆ เพราะ “เตาปิ้งไฟฟ้า” เป็นของที่แม่เราอยากได้มานานแล้วค่ะ ดีใจจังเลย เราได้ของขวัญที่แม่เราบ่นอยากได้มาตั้งนานแล้วค่ะ แม่บอกแม่ซื้อให้เรา แม่คงเห็นเรามีความสุขมั้งคะ เห็นแม่ยิ้มใหญ่เลย แม่ดูมีความสุขมาก ขอบคุณนะคะแม่สำหรับของขวัญวันเกิด และตอนนี้เห็นแม้ปิ้งได้ทีสองที มนุษย์แม่เอามาทำเป็นที่วางโหลกาแฟแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : แม่เห็นลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุขค่ะ
5. หาของ
เราว่ามนุษย์แม่เป็นผู้วิเศษนะ ไม่รู้ว่าเค้าได้พลังแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไร แต่ตั้งแต่จำความได้ ของหายทีไร มนุษย์แม่หาเจอตลอด เป็นมนุษย์ผู้หาเจอทุกสิ่งอย่าง ไม่น่าเชื่อ!!! เราเพิ่งจะหาสิ่งๆนั้นตรงนี้ ตรงนี้เลย ตรงที่แม่หาของเจอ แม่เจอ แต่เรากลับไม่เจอ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ... หรือว่าผีบังตา ไม่นะ ไม่น่าใช่ เราคิดว่า มนุษย์แม่ น่าจะได้รับเรดาห์ในการแสกนหาสิ่งของที่ลูกๆวางไว้เมื่อตอนให้กำเนิดชีวิตใหม่ ทุกวันนี้สกิลการทำของหายของเรา กับสกิลการหาของเจอของแม่เรา มีคะแนนที่ไร่เรี่ยกัน แต่มันติดอยู่ตรงที่ว่า ทำของหายทีไร ถ้าแม่หาเจอ ... โดนด่าทุกที แต่ถ้าแม่ทำของหาย เราไม่มีสิทธิ์ด่าแม่ สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : “ไอ้นี่หาอะไรไม่เคยเจอ” มนุษย์แม่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
6. รางวัล
เราโชคดีค่ะ ... ไปเล่นเกมส์ตั้งชื่ออาหารในเพจเฟสบุ้คเพจหนึ่ง ได้รางวัลเป็นชุดหม้อและกระทะมาค่ะ เรางี้ดีใจมาก ไม่เคยได้ของรางวัลแบบนี้มาก่อนเลย กลับบ้านมาก็เอามาโม้ให้แม่ฟังใหญ่ ว่าจะมีของใช้ใหม่ แถมได้มาแบบฟรีๆเสียด้วย สุดยอดไปเลย! และแล้ววันที่ไปรษณีย์มาส่งของก็มาถึง เรารีบกลับบ้านมาค่ะ ได้เห็นของรางวัลก็ถูกใจมากๆ กะว่าสุดสัปดาห์จะประเดิมของใหม่ด้วยการทำอาหารอร่อยๆสักหน่อย แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง ... เมื่อถึงวันหยุด เรากลับหาชุดเครื่องครัวนั้นไม่เจอค่ะ มะ มะ มะ มันอันตธาน หายไปค่ะ เรารีบวิ่งไปหาแม่ ไปถามหา ว่ามันหายไปไหน มนุษย์แม่บอกเราว่า “เอาไปเก็บ” ... “เก็บไหนล่ะ จะเอามาใช้” เราตอบ เชื่อมั้ยคะ มนุษย์แม่ไม่บอก แม่บอกให้เก็บไปใช้บ้านใหม่ (พี่สาวเราซื้อบ้านใหม่) เราขอร้องแม่ค่ะ นะนะนะ แม่หนูอยากใช้ มนุษย์แม่ไม่อนุญาตค่ะ สรุปแล้วทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ใช้เลย เอาไปซ่อนไหนก็ไม่รู้!!!
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : มนุษย์แม่หาของเก่ง แต่ก็ซ่อนของเก่งเช่นกัน ...
7. น้อยใจ
ก่อนหน้านี้ เคยตั้งกระทู้ ... แม่น้อยใจเพราะเราซื้อของขวัญวันเกิดให้พ่อเป็นโทรศัพย์มือถือ แต่เนื่องจากมีคนหาว่าเราแต่งเรื่อง แถมพูดเชิงแช่งคนที่บ้านเราอีกต่างหาก เราจึงลบกระทู้ไปแล้ว จริงค่ะ ... มนุษย์แม่ของเราขี้น้อยใจ ให้เงินพ่อมากกว่าก็ไม่ได้ บางทีต้องแอบให้กันเหมือนคนส่งยา หลบๆซ่อนๆ ไม่งั้นพ่อโดนแม่ยึดตังค์หมดแน่ๆ เราเองก็พยายามไม่อยากให้แม่น้อยใจค่ะ อยากให้แม่มีความสุขที่สุด
วันนี้ค่ะ แม่ไม่ต้องน้อยใจอีกต่อไปแล้วนะคะ เพราะวันเกิดแม่ที่จะถึงนี้ เราก็มีโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้แม่เช่นกัน หุหุ เราได้รางวัลจากพันทิพย์เนี่ยแหละ เป็นโทรศัพทย์มือถือ โชคดีสุดๆ เราสามารถมีโทรศัพท์ให้แม่ โดยเสียแค่ภาษี ณ ที่จ่าย เพียง 5% เท่านั้น (350 บาท) แต่ถ้ากลัวบอกแม่ว่าได้มาฟรี เดี๋ยวก็จะน้อยใจ หาว่าเอาของฟรีมาให้อีก เราจึงเก็บงำไว้เป็นความลับ บอกใครไม่ได้ ดังนั้นใครที่รู้จักมนุษย์แม่ของเรา ห้ามเอาไปบอกนะคะ เรากลัวแม่เราหนีออกจากบ้านอีก
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : มนุษย์ลูกให้มนุษย์แม่ได้ทุกอย่าง อย่าน้อยใจเลยนะ รักแม่ค่ะ
อบากรู้ว่ามี “มนุษย์แม่” คนไหนหรือของใครที่เป็นแบบแม่เราบ้าง
หรือจะมีวีรกรรมเด็ดยิ่งกว่า ก็อย่าลืมเอามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
[ขอบคุณภาพประกอบจาก Google ค่ะ]