“แสงสว่างที่ปากอุโมงค์”ภาคประสบการณ์จริงจากความพยายามในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) ของหน่วยงานขนส่งมวลชนไทย
โดย ฐาปนา บุณยประวิตร
อีเมล์ thapana.asia@gmail.com
www.asiamuseum.co.th www.smartgrowthasia.com
บทนำ
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development) ตามแนวคิดการเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ระหว่างวันที่ 3- 5 พฤศจิกายน 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายความร่วมมือพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนของประเทศ โดยมีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 50 คนประกอบด้วย ตัวแทนคณะผู้บริหารของ สนข. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด สำนักขนส่งและจราจร กรุงเทพมหานคร สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ผู้ร่วมเสวนาในวันแรก
ในการสัมมนาวันแรก (เฉพาะภาคบ่าย) เป็นการสรุปประสบการณ์สำคัญจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยผู้บริหารจากหน่วยงานขนส่งมวลชนร่วมเสวนา ดังนี้
1. นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
2. ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
3. นายปัตตะพงษ์ บุญแก้ว ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย
4. นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง ผู้แทนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
5. ดร.กฤษ อนุรักษ์กมลกุล ผู้แทนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
ดำเนินการโดย ผศ.ดร. สญชัย ลบแย้ม
สาระสำคัญจากเสวนา

นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช ผู้แทนสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช วิทยากรตัวแทนจาก สนข. ได้กล่าวสรุปภารกิจการของ สนข.ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนซึ่ง สนข. ได้ริเริ่มศึกษาและออกแบบในช่วงของรัฐบาลที่ผ่านมาโดยดำเนินการในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงของจังหวัดเชียงใหม่และพิษณุโลก แต่ได้ชะลอไว้หลังจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก สนข. ได้มองเห็นผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศจากพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ดำเนินการควบคู่กับการวางผังพัฒนาเมือง ดังนั้น จึงมีนโยบายในการส่งเสริมให้การศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่ย่านถนนพหลโยธินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และพื้นที่ในบริเวณอื่นๆ ซึ่งจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
สำหรับประสบการณ์การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ได้กล่าวถึงความสำคัญในการพัฒนาเมืองตามเกณฑ์การเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ว่าเป็นแนวทางหลักของโลกในขณะนี้ที่จะสามารถนำพัฒนาเมืองไปสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกณฑ์การพัฒนาเมืองไปสู่เมืองแห่งการเดินหรือ walkable City นั้น นับเป็นแนวทางเดียวที่จะสร้างโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจและความมั่งคั่งให้เกิดกับเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสุขภาวะให้กับประชาชน สำหรับภารกิจของ รฟม.ในการสร้างแนวทางในการลดปัญหาการคับคั่งการจราจรด้วยระบบขนส่งมวลชนนั้น รฟม.เห็นว่า หน่วยงานต่างๆ ต้องบูรณาการแผนเพื่อให้เกิดสภาพของ BMW ซึ่งได้แก่ Bus, Metro และ walk อย่างสมดุล ต้องพัฒนาระบบการเข้าถึงพื้นที่ TOD ด้วยการเดินและการปั่นจักรยานให้ได้ นอกจากนั้น ต้องสร้างการพัฒนาที่ใช้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยควรให้ภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างแท้จริง โดยภาครัฐเป็นผู้ดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน

คุณสุเทพ พันธุ์เพ็ง (คนกลาง)
ตัวแทนจากบริษัท รถไฟฟ้า รฟม.จำกัด (คุณสุเทพ พันธุ์เพ็ง) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า Airport Link ได้กล่าวถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เด่นชัดของ TOD โดยนำกรณีศึกษาการเกิดขึ้นของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระรามเก้าว่า จากเดิมสถานีมักกะสันมีผู้ใช้บริการต่อวันเพียงแค่ 2,000 คนได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 4,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มในการเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ และได้ยกตัวอย่างการลงทุนของภาคเอกชนในการสร้างทางเดินขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับสถานีรามคำแหงซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานีดังกล่าวเพิ่มปริมาณผู้โดยสารขึ้นอีกมาก กรณีของสถานีทับช้างซึ่งปัจจุบันอยู่ในลักษณะถูกขัดขวางจากอุปสรรคทางกายภาพ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาและหาแนวทางในการสร้างพื้นที่เชื่อมต่อสองฝั่งทั้งคลองและถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้

ดร.กฤษ อนุรักษ์กมลกุล ผู้แทนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
สำหรับข้อเสนอของ ดร.กฤษ อนุรักษ์กมลกุล ตัวแทนจากบริษัท รถไฟฟ้า รฟม.จำกัดอีกท่าน ที่เป็นวิทยากรร่วมเสวนา ได่ให้แนวคิดการพัฒนาโครงการ TOD ว่าควรศึกษาตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก และให้ใช้หลักการสร้างความมีชีวิตชีวาแก่พื้นที่ด้วยการสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนที่ชัดเจน
สำหรับปัญหาในการพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับการกล่าวถึงมากในวันนี้คือ ข้อกำหนดและกฎหมายหลายฉบับที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่ เช่น การอนุญาตให้ รฟม.ทำการพัฒนาพื้นที่ได้ในกิจการของ รฟม.เท่านั้น ตามการตีความของกฤษฎีกา ได้ทำให้ รฟม.ไม่อาจพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งเพื่อการพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัยได้ หรือแม้แต่ข้อกำหนดจากกฎหมายฉบับต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคซึ่งจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ต่อไป

คุณปัตตะพงษ์ บุญแก้ว ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (คนกลาง)
สำหรับคุณปัตตะพงษ์ บุญแก้ว ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนา TOD รอบสถานีรถไฟ ในช่วงที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้พยายามมองหาศักยภาพของพื้นที่ในบริเวณต่างๆ ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ของการรถไฟ โดยเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาพื้นที่รอบสถานีได้ จะเป็นผลดีต่อการสร้างเสถียรภาพในการเดินทางด้วยรถไฟ และพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟเอง ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังเช่นในขณะนี้ การรถไฟกำลังมีโครงการร่วมกับ สนข. ในการพัฒนาพื้นที่บริเวณที่ดินของการรถไฟฯ เชิงสะพานสารสิน จังหวัดพังงา ซึ่งอยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษาดำเนินการออกแบบ พร้อมไปกับการพัฒนารถไฟฟ้าเชื่อมต่อภายในเขตจังหวัดภูเก็ต และจะใช้รูปแบบเดียวกันนี้ ในการพัฒนาพื้นที่สองข้างทางรถไฟของจังหวัดขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการรถไฟฯ ได้ประสบปัญหาอย่างมากจากการบุกรุก การใช้พื้นที่ของประชาชน โดยการรถไฟฯ ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ตามนโยบายที่คาดหวังไว้ได้ สำหรับความต้องการที่แท้จริงของการรถไฟฯ การรถไฟฯ ประสงค์จะพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างเศรษฐกิจโดยรวมให้กับเมือง โดยยังคงเอกลักษณ์ และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆไว้ ดังเช่น การปรับปรุงฟื้นฟูสถานีรถไฟหัวหิน การรถไฟฯ ได้มีนโยบาย ให้คงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของสถานีไว้ เพื่อให้เป็นจุดหมายตา เป็นเอกลักษณ์ที่ดีของชาวเมืองหัวหินต่อไป

ภาพการบรรยาย เรื่อง “แนวทางการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและเมืองอย่างยั่งยืน”
โดย ผศ.ดร. สญชัย ลบแย้ม
กลุ่มวิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยี่พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

อาจารย์ฐาปนา บุณยประวิตร และ อาจารย์ ดร.ฐกลพัศ เจนวิวัฒนกุล
ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันการเติบโตอย่างชาญฉลาด

ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 50 คนประกอบด้วย ตัวแทนคณะผู้บริหารของ สนข. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด สำนักขนส่งและจราจร กรุงเทพมหานคร สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“แสงสว่างที่ปากอุโมงค์”ภาคประสบการณ์จริงจากความพยายามในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) ของหน่วยงานขนส่งมวลชนไทย
“แสงสว่างที่ปากอุโมงค์”ภาคประสบการณ์จริงจากความพยายามในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) ของหน่วยงานขนส่งมวลชนไทย
โดย ฐาปนา บุณยประวิตร
อีเมล์ thapana.asia@gmail.com
www.asiamuseum.co.th www.smartgrowthasia.com
บทนำ
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development) ตามแนวคิดการเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ระหว่างวันที่ 3- 5 พฤศจิกายน 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายความร่วมมือพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนของประเทศ โดยมีตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 50 คนประกอบด้วย ตัวแทนคณะผู้บริหารของ สนข. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด สำนักขนส่งและจราจร กรุงเทพมหานคร สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้ร่วมเสวนาในวันแรก
ในการสัมมนาวันแรก (เฉพาะภาคบ่าย) เป็นการสรุปประสบการณ์สำคัญจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยผู้บริหารจากหน่วยงานขนส่งมวลชนร่วมเสวนา ดังนี้
1. นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
2. ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
3. นายปัตตะพงษ์ บุญแก้ว ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย
4. นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง ผู้แทนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
5. ดร.กฤษ อนุรักษ์กมลกุล ผู้แทนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
ดำเนินการโดย ผศ.ดร. สญชัย ลบแย้ม
สาระสำคัญจากเสวนา
นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช ผู้แทนสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช วิทยากรตัวแทนจาก สนข. ได้กล่าวสรุปภารกิจการของ สนข.ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนซึ่ง สนข. ได้ริเริ่มศึกษาและออกแบบในช่วงของรัฐบาลที่ผ่านมาโดยดำเนินการในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงของจังหวัดเชียงใหม่และพิษณุโลก แต่ได้ชะลอไว้หลังจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก สนข. ได้มองเห็นผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศจากพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ดำเนินการควบคู่กับการวางผังพัฒนาเมือง ดังนั้น จึงมีนโยบายในการส่งเสริมให้การศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่ย่านถนนพหลโยธินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และพื้นที่ในบริเวณอื่นๆ ซึ่งจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
สำหรับประสบการณ์การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ได้กล่าวถึงความสำคัญในการพัฒนาเมืองตามเกณฑ์การเติบโตอย่างชาญฉลาด (Smart Growth) ว่าเป็นแนวทางหลักของโลกในขณะนี้ที่จะสามารถนำพัฒนาเมืองไปสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกณฑ์การพัฒนาเมืองไปสู่เมืองแห่งการเดินหรือ walkable City นั้น นับเป็นแนวทางเดียวที่จะสร้างโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจและความมั่งคั่งให้เกิดกับเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสุขภาวะให้กับประชาชน สำหรับภารกิจของ รฟม.ในการสร้างแนวทางในการลดปัญหาการคับคั่งการจราจรด้วยระบบขนส่งมวลชนนั้น รฟม.เห็นว่า หน่วยงานต่างๆ ต้องบูรณาการแผนเพื่อให้เกิดสภาพของ BMW ซึ่งได้แก่ Bus, Metro และ walk อย่างสมดุล ต้องพัฒนาระบบการเข้าถึงพื้นที่ TOD ด้วยการเดินและการปั่นจักรยานให้ได้ นอกจากนั้น ต้องสร้างการพัฒนาที่ใช้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยควรให้ภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างแท้จริง โดยภาครัฐเป็นผู้ดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน
คุณสุเทพ พันธุ์เพ็ง (คนกลาง)
ตัวแทนจากบริษัท รถไฟฟ้า รฟม.จำกัด (คุณสุเทพ พันธุ์เพ็ง) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า Airport Link ได้กล่าวถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เด่นชัดของ TOD โดยนำกรณีศึกษาการเกิดขึ้นของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระรามเก้าว่า จากเดิมสถานีมักกะสันมีผู้ใช้บริการต่อวันเพียงแค่ 2,000 คนได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 4,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มในการเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ และได้ยกตัวอย่างการลงทุนของภาคเอกชนในการสร้างทางเดินขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับสถานีรามคำแหงซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานีดังกล่าวเพิ่มปริมาณผู้โดยสารขึ้นอีกมาก กรณีของสถานีทับช้างซึ่งปัจจุบันอยู่ในลักษณะถูกขัดขวางจากอุปสรรคทางกายภาพ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาและหาแนวทางในการสร้างพื้นที่เชื่อมต่อสองฝั่งทั้งคลองและถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้
ดร.กฤษ อนุรักษ์กมลกุล ผู้แทนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
สำหรับข้อเสนอของ ดร.กฤษ อนุรักษ์กมลกุล ตัวแทนจากบริษัท รถไฟฟ้า รฟม.จำกัดอีกท่าน ที่เป็นวิทยากรร่วมเสวนา ได่ให้แนวคิดการพัฒนาโครงการ TOD ว่าควรศึกษาตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก และให้ใช้หลักการสร้างความมีชีวิตชีวาแก่พื้นที่ด้วยการสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนที่ชัดเจน
สำหรับปัญหาในการพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับการกล่าวถึงมากในวันนี้คือ ข้อกำหนดและกฎหมายหลายฉบับที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่ เช่น การอนุญาตให้ รฟม.ทำการพัฒนาพื้นที่ได้ในกิจการของ รฟม.เท่านั้น ตามการตีความของกฤษฎีกา ได้ทำให้ รฟม.ไม่อาจพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งเพื่อการพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัยได้ หรือแม้แต่ข้อกำหนดจากกฎหมายฉบับต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคซึ่งจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ต่อไป
คุณปัตตะพงษ์ บุญแก้ว ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (คนกลาง)
สำหรับคุณปัตตะพงษ์ บุญแก้ว ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนา TOD รอบสถานีรถไฟ ในช่วงที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้พยายามมองหาศักยภาพของพื้นที่ในบริเวณต่างๆ ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ของการรถไฟ โดยเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาพื้นที่รอบสถานีได้ จะเป็นผลดีต่อการสร้างเสถียรภาพในการเดินทางด้วยรถไฟ และพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟเอง ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังเช่นในขณะนี้ การรถไฟกำลังมีโครงการร่วมกับ สนข. ในการพัฒนาพื้นที่บริเวณที่ดินของการรถไฟฯ เชิงสะพานสารสิน จังหวัดพังงา ซึ่งอยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษาดำเนินการออกแบบ พร้อมไปกับการพัฒนารถไฟฟ้าเชื่อมต่อภายในเขตจังหวัดภูเก็ต และจะใช้รูปแบบเดียวกันนี้ ในการพัฒนาพื้นที่สองข้างทางรถไฟของจังหวัดขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการรถไฟฯ ได้ประสบปัญหาอย่างมากจากการบุกรุก การใช้พื้นที่ของประชาชน โดยการรถไฟฯ ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ตามนโยบายที่คาดหวังไว้ได้ สำหรับความต้องการที่แท้จริงของการรถไฟฯ การรถไฟฯ ประสงค์จะพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างเศรษฐกิจโดยรวมให้กับเมือง โดยยังคงเอกลักษณ์ และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆไว้ ดังเช่น การปรับปรุงฟื้นฟูสถานีรถไฟหัวหิน การรถไฟฯ ได้มีนโยบาย ให้คงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของสถานีไว้ เพื่อให้เป็นจุดหมายตา เป็นเอกลักษณ์ที่ดีของชาวเมืองหัวหินต่อไป
ภาพการบรรยาย เรื่อง “แนวทางการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและเมืองอย่างยั่งยืน”
โดย ผศ.ดร. สญชัย ลบแย้ม
กลุ่มวิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยี่พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
อาจารย์ฐาปนา บุณยประวิตร และ อาจารย์ ดร.ฐกลพัศ เจนวิวัฒนกุล
ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันการเติบโตอย่างชาญฉลาด
ตัวแทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 50 คนประกอบด้วย ตัวแทนคณะผู้บริหารของ สนข. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด สำนักขนส่งและจราจร กรุงเทพมหานคร สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง