[CR] [CR] South Korea 30/10/57 - 4/11/57 Autumn Season ใบไม้เปลี่ยนสี Seoul-Nami-Seoraksan




DAY 0 - ก่อนเริ่มต้นการเดินทาง
ผมใช้หลายกระทู้ใน PANTIP , หนังสือเกาหลีเที่ยวล่าสุด(ปกส้ม) และ หนังสือโซล เป็นข้อมูลในการกำหนดแผนเที่ยวครั้งนี้
เลยอยากจะขอกล่าวขอบคุณคนทำหนังสือ 2 เล่ม และคนรีวิวกระทู้ทั้งหลายใน PANTIP เสียก่อน

ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ช่วยให้ผมสามารถอยู่รอดตลอด 6 วัน ที่เกาหลีใต้ได้ เพราะภาษาเกาหลีที่ติดสมองของผมไปมีอยู่แค่ 2 คำ คือ
ฮันยองอาเซโย กับ ซารังเฮโย ซึ่งคำหลังยิ้มไม่ได้ใช้แน่ๆ เพราะฉะนั้นแปลว่ามันเหลือแค่คำเดียว ฮันยองอาเซโย รวด


เข้าเรื่องกันเลยนะครับ


ผมไปสายการบิน AirasiaX รอบ 7.50 ครับ เครื่องบินออกตามเวลา (ราคาตั๋วก็แล้วแต่ใครจะจองได้) บินขึ้นจากดอนเมืองไปลงสนามบินอินชอนอย่างสวัสดิภาพ

ผมเลือกเดินทางต่อด้วยรถไฟใต้ดินออกจากสนามบิน (รับกระเป๋าเดินออกมาด้านนอกพยายามแหงนหน้ามองป้าย หาสัญลักษณ์รถไฟที่มีตัว M ตรงกลาง แล้วเดินตามไปครับ ที่เกาหลีป้ายบอกทางค่อยข้างละเอียดและชัดเจนมาก) เมื่อลงมาถึงทางเข้าสถานี ใกล้ทางเข้าจะมีร้านค้าที่ขาย T-money อยู่ ให้แวะซื้อบัตรที่ร้านนี้ก่อนราคา 2,500 วอน และค่อยมาเติมเงินที่ตู้เติมเงินอีกทีครับ (ของผมเติมทั้งสิ้น 24,000 วอน เดินทางด้วยรถไฟเป็นหลักตลอดทริป+เดินทางด้วยรถไฟไปเกาะนามิ+รถไฟกลับมาสนามบิน เหลือเงินติดบัตรไม่ถึง 100 วอนตอนกลับ)


บรรยากาศบนรถไฟ


ผมนั่งรถไฟจาก INcheon Int'l Airport -----------------------> Hongik University (ุ50นาที)
และ ต่อจาก Hongik University--->Hapjeong (20 นาที *การเดินเปลี่ยนสายรถไฟจากสายสนามบินมาสายสีเขียวค่อนข้างยาว)
เรามาเข้าที่พักกันก่อนครับ ที่พักชื่อว่า Issue Seoul

หน้าตาแบบนี้



สถานที่จริงเหมือนในภาพถ่ายใน AGODA ทุกระเบียบนิ้ว แค่แสงน้อยกว่าในรูป ที่พักสะอาดมาก ตอนเราเข้าพักมีแต่คนเกาหลีกับคนจีน คุณป้าและพนักงานพิเศษที่ดูแลเกตส์เฮ้าส์น่ารักดีครับ อาหารเช้าที่นี่ก็อร่อย ตัวเกตส์เฮ้าส์ตั้งอยู่ใกล้ 3 สถานีคือ Hapjeong, Hongik สายสีเขียว และ Mangwon สายสีน้ำตาล พอเราว่างกระเป๋ากันเสร็จก็ออกเที่ยวต่อทันทีครับ


สถานที่แรกของเราคือ ดงแดมุน ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าที่เปิดตลอดคืน ครั้งนี้เราเลือกเดินมาขึ้นสถานี Hongik------->Dongdeamun History & Culture Park ค่าเดินทาง 1050 วอน โผล่หน้าออกจากสถานีมาเราก็มาเจอตึกหน้าตาแบบนี้ครับ


เราเดินข้ามถนนตามผู้คนกันมา เข้าห้างที่ชื่อว่า DOOTA ครับ ห้างนี้มีอยู่หลายชั้นขายเสื้อผ้าล้วนๆ มีเสื้อผ้าชายอยู่ชั้นใต้ดิน กับชั้นแรกอีกหน่อย พอขึ้นบันไดเลื่อนก็เป็นเสื้อผ้าผู้หญิงล้วนๆครับ เชิญช๊อปกันได้เต็มที่ เราวนๆแวะชมบรรยากาศมาชั้นบนสุดที่เป็นศูนย์อาหาร เดินวนอีก 2 รอบก่อนจะเลือกได้ว่าจะทานอะไร เมนูอาหารที่นี่หน้ากินทุกร้านเลย ผมเลือกเมนูมาได้เหมือนข้าวหน้าเนื้อเลย


ส่วนอันนี้ของแฟนผม


พอกินกันจนท้องอิ่มก็เดินวนมาช๊อปปิ้ง แฟนผมแวะเข้าร้านเครื่องสำอางค์ Innisfree ผมชำเลืองมองเสื้อผ้าอย่างห่างๆ เสื้อโค้ทสวยๆเพียบเลยที่นี่ อยากได้แต่ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวขากลับจะใส่กระเป๋าไม่พอ (ผมแบกเป้มา) และกลัวว่าเอากลับไปเมืองไทยคงจะไม่ได้ใช้

เราเดินวนแวะมาซื้อน้ำทานที่ร้านชื่อ Smoothie King ผมเลือกเมนู banana in berry อร่อยเลย ที่นี่เวลารอคิวจะให้เครื่องสั่นทุกที่ สั่งเสร็จรับเครื่องไปนั่งรอ พอได้ของเครื่องก็จะสั่นค่อยมาเอา แก้วที่ใช้เป็นแก้วโฟม(คิดเองว่าน่าจะเป็นโฟมที่ย่อยสลายได้) ให้ความรู้สึกตอนสัมผัสแปลกมือ แต่ดีเพราะไม่เย็นมือและไม่มีเหงื่อน้ำตามแก้ว



เราเดินต่อกันจนครบทุกชั้น ไม่ได้ของอะไรเพิ่มเติมก็ออกมาด้านหน้าห้าง หมุนเล่นกันซักหนึ่งรอบ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ก่อนจะเดินลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยของย่านดงแดมุน (ที่ร้าน ETUDE กับ SKINFOOD ที่นี่มีพนักงานคนไทยด้วย)




ตอนเราเดินกลับกันก็ประมาณ 4 ทุ่มเราไม่แน่ใจว่ารถไฟใต้ดินที่นี่ปิดกี่โมง แต่ช่วงเราที่เราเดินทางกลับก็มีคนเกาหลีเดินกันอยู่เต็มย่านและดูจะมีคนมาเพิ่มเรื่อยๆอีกด้วย
ชื่อสินค้า:   เกาหลีใต้, โซล, ซอรักซาน, นามิ, แบกกระเป๋า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่