บางครั้งเราก็มานั่งคิดน้ะว่า เราตัดสินใจถูกไหม ที่ไม่ให้โอกาสพ่อของเจ้าตัวเล็ก แต่เราก็บอกตัวเองเสมอว่า เราคิดถูกแล้ว เรามีความสุขแล้วที่มีเจ้าตัวเล็ก คอยเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด เราไม่อยากให้เค้าเห็นสภาพที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวัน เราไม่อยากให้เค้ารับรู้ว่าที่ผ่านมาพ่อของเค้าทำอะไรไว้กับแม่ของเค้าบ้าง เราจึงตัดสินใจที่จะตัดพ่อของเค้าออกไปจากชีวิตของเราและลูก
หลายคนคงจะถามว่าทำไมเราถึงตัดสินใจแบบนั้น เหตุผลของเรามีอยู่ว่า
1. ระหว่างที่เรากำลังท้อง รวมทั้งก่อนที่จะท้อง เค้ามีคนอื่น และเค้าเห็นคนอื่นดีกว่าเรา ซึ่งเค้าทำร้ายจิตใจเรามาตลอด ยิ่งตอนช่วงท้องอ่อนๆ เป็นช่วงที่อันตรายมากที่สุด เราร้องไห้แทบทุกวัน เค้าถึงขนาดพูดว่า เมิงจะไปตายที่ไหนก็ไป ด้วยเหตุผลที่ว่า พี่ชายของเราไปถามผู้หญิงคนนั้นว่า รู้ไหมว่าเราท้อง
2. เราไม่เชื่อว่าเค้าจะเป็นพ่อที่ดี หรือสามีที่ดีของเราได้ ด้วยเหตุที่ว่า เค้าเคยพูดกับคนอื่นว่า ลูกในท้องเรา ใช่ลูกเค้ารึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย และเรารู้จักเค้า เค้าทำงานเป็นชาวเกาะ เกาะพ่อ เกาะแม่ กินค่ะ ดังนั้น เราเลยไม่รู้ว่า ถ้าเรายังให้โอกาสเค้าต่อไป หลังจากนี้ นอกจากเราจะต้องรับภาระเลี้ยงลูก แล้วเราจะต้องรับภาระเลี้ยงสามีด้วยหรือไม่
3. ทางบ้านเราไม่โอเค กับคนๆนี้ ตอนที่เราตัดสินใจบอกแม่ แม่ถามคำเดียว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร แล้วสามารถจะเป็นสามีที่ดีของเรา และ พ่อที่ดีของหลานแม่ ได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็ตัดไป หลานคนเดียว แม่เลี้ยงได้ เราเลยตัดสินใจตัดผู้ชายคนนี้ออกไป
ถ้าถามว่าผู้ชายคนนี้ ปัจจุบันเค้าทำอะไร ตอนนี้เค้ามาเปิดกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง เค้าง้อเราไหม เค้าเคยง้อน้ะค้ะ แต่เห็นว่าเรายังไงก็ไม่ยอมกลับไปเค้าเลยเลิกง้อ แล้วไปบ่นกับพี่ที่เราสนิทด้วย (เค้ากับพี่เราเป็นเพื่อนกัน) ส่วนเรื่องค่าเลี้ยงดู ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ตั้งแต่ท้องมา เพิ่งมีโอนมาให้แค่ 5000 บาทเท่านั้น เราก็เป็นคนที่ไม่ขอเงินใครอยู่แล้วน้ะ เราพยายามเลี้ยงลูกของเราด้วยมือของเรา ถ้าเงินเราไม่พอ เราก็ค่อยให้พ่อ ให้แม่ เราช่วย จนตอนนี้ ลูกชายเราอายุ ขวบครึ่ง แล้ว เค้าก็ยังไม่เคยคิดที่จะมาดูลูกเลย เค้าเคยพูดน้ะว่า เราขาดเหลืออะไร ก็บอกเค้าสิ แต่เราก็คิดว่า ถ้าคุณมีจิตสำนึก ไม่ต้องให้เราพูดสิ เลขบัญชีเราก็มี ก็โอนมา ทำไมต้องให้เราขอ เราก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรเค้า ลูกเราขนาดในสูติบัตร ยังไม่มีชื่อพ่อเลย เนื่องจากว่า เราบอกเค้าแล้วว่าจะให้ลูกชายมีชื่อพ่อ ก็ให้ส่งเอกสารมา เค้าไม่ส่งมา จนเราออกจากโรงบาล เอกสารค่อยมาถึงเรา แล้วอย่างงี้เค้าเรียกว่าอะไร ความรับผิดชอบมีไหม แต่เราก็ผิดเองแหละ ที่พลาดทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ที่เรายังคิด เพราะหลายคนก็บอกว่า ลูกต้องการทั้งพ่อและแม่ ทำไมเราไม่ให้โอกาสเค้า เค้าเองก็สำนึกแล้ว และพยายามที่จะตั้งตัว แต่เราเข็ดแล้วจริงๆ
เราคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ ที่ตัดสินใจเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
หลายคนคงจะถามว่าทำไมเราถึงตัดสินใจแบบนั้น เหตุผลของเรามีอยู่ว่า
1. ระหว่างที่เรากำลังท้อง รวมทั้งก่อนที่จะท้อง เค้ามีคนอื่น และเค้าเห็นคนอื่นดีกว่าเรา ซึ่งเค้าทำร้ายจิตใจเรามาตลอด ยิ่งตอนช่วงท้องอ่อนๆ เป็นช่วงที่อันตรายมากที่สุด เราร้องไห้แทบทุกวัน เค้าถึงขนาดพูดว่า เมิงจะไปตายที่ไหนก็ไป ด้วยเหตุผลที่ว่า พี่ชายของเราไปถามผู้หญิงคนนั้นว่า รู้ไหมว่าเราท้อง
2. เราไม่เชื่อว่าเค้าจะเป็นพ่อที่ดี หรือสามีที่ดีของเราได้ ด้วยเหตุที่ว่า เค้าเคยพูดกับคนอื่นว่า ลูกในท้องเรา ใช่ลูกเค้ารึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย และเรารู้จักเค้า เค้าทำงานเป็นชาวเกาะ เกาะพ่อ เกาะแม่ กินค่ะ ดังนั้น เราเลยไม่รู้ว่า ถ้าเรายังให้โอกาสเค้าต่อไป หลังจากนี้ นอกจากเราจะต้องรับภาระเลี้ยงลูก แล้วเราจะต้องรับภาระเลี้ยงสามีด้วยหรือไม่
3. ทางบ้านเราไม่โอเค กับคนๆนี้ ตอนที่เราตัดสินใจบอกแม่ แม่ถามคำเดียว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร แล้วสามารถจะเป็นสามีที่ดีของเรา และ พ่อที่ดีของหลานแม่ ได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็ตัดไป หลานคนเดียว แม่เลี้ยงได้ เราเลยตัดสินใจตัดผู้ชายคนนี้ออกไป
ถ้าถามว่าผู้ชายคนนี้ ปัจจุบันเค้าทำอะไร ตอนนี้เค้ามาเปิดกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง เค้าง้อเราไหม เค้าเคยง้อน้ะค้ะ แต่เห็นว่าเรายังไงก็ไม่ยอมกลับไปเค้าเลยเลิกง้อ แล้วไปบ่นกับพี่ที่เราสนิทด้วย (เค้ากับพี่เราเป็นเพื่อนกัน) ส่วนเรื่องค่าเลี้ยงดู ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ตั้งแต่ท้องมา เพิ่งมีโอนมาให้แค่ 5000 บาทเท่านั้น เราก็เป็นคนที่ไม่ขอเงินใครอยู่แล้วน้ะ เราพยายามเลี้ยงลูกของเราด้วยมือของเรา ถ้าเงินเราไม่พอ เราก็ค่อยให้พ่อ ให้แม่ เราช่วย จนตอนนี้ ลูกชายเราอายุ ขวบครึ่ง แล้ว เค้าก็ยังไม่เคยคิดที่จะมาดูลูกเลย เค้าเคยพูดน้ะว่า เราขาดเหลืออะไร ก็บอกเค้าสิ แต่เราก็คิดว่า ถ้าคุณมีจิตสำนึก ไม่ต้องให้เราพูดสิ เลขบัญชีเราก็มี ก็โอนมา ทำไมต้องให้เราขอ เราก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรเค้า ลูกเราขนาดในสูติบัตร ยังไม่มีชื่อพ่อเลย เนื่องจากว่า เราบอกเค้าแล้วว่าจะให้ลูกชายมีชื่อพ่อ ก็ให้ส่งเอกสารมา เค้าไม่ส่งมา จนเราออกจากโรงบาล เอกสารค่อยมาถึงเรา แล้วอย่างงี้เค้าเรียกว่าอะไร ความรับผิดชอบมีไหม แต่เราก็ผิดเองแหละ ที่พลาดทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ที่เรายังคิด เพราะหลายคนก็บอกว่า ลูกต้องการทั้งพ่อและแม่ ทำไมเราไม่ให้โอกาสเค้า เค้าเองก็สำนึกแล้ว และพยายามที่จะตั้งตัว แต่เราเข็ดแล้วจริงๆ