ณ วันที่ 4 พ.ย. เที่ยวบิน DD4239 จากย่างกุ้ง - ดอนเมือง เวลา 21.00 (เวลาย่างกุ้ง)
บริเวณที่ผมนั่งอยู่ด้านท้ายของเครื่องบิน ผู้โดยสารบริเวณที่ผมนั่งจะมี ครอบครัวชาวพม่า 3 คน พ่อแม่ลูก(เด็กเล็กอายุประมาณ2-3ขวบ) และอีกส่วนจะเป็นกลุ่มคนงานที่มาทำงานที่พม่าประมาณ 9-10 คน ท่าทางตื่นเต้นๆกันทุกคน(ความเห็นส่วนตัว น่าจะดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย แต่ไม่ถึงกับเมามากแต่ก็พอกึ่มๆ)
หลังจากที่ผู้โดยสารเข้าประจำที่เรียบร้อยแล้วแต่เครื่องยังไม่สามารถออกได้เนื่องจากฝนตกหนัก...พวกพี่ๆแรงงานก็มีแซวน้องๆแอร์โฮสเตสบ้างเป็นระยะตามการเดินผ่านไปมา(ไม่ได้เสียงดังนะครับประมาณคุยกันแค่ผมอยู่ใกล้) ระหว่างนั้นก็มีการสาธิตอุปกรณ์กันตามธรรมเนียมหลังจากสาธิตเสร็จแอร์สองท่านได้มาอธิบายพ่อแม่ของเด็กว่าควรอุ้มเด็กยังไงเวลาเครื่องขึ้นและลง.......
หลังจากเตรียมตัว Take off เครื่องถอยออกเข้ารันเวย์พร้อมดับไฟ.....เท่านั้นแหล่ะเด็กน้อยน้องเสียงดังมากกกกกก ดิ้น ๆๆๆแล้วก็ยืนขึ้นแอร์ท่านนึงก็ประกาศแต่ไม่เป็นผลแอร์ก็ได้เดินมาบอกให้ทำตามกฎประมาณนั้นแต่ก็ไม่เป็นผลหนูน้อยยังแผลงฤทธิ์มากกว่าเดิมร้องดังมากจนเรื่องTake off แต่เนื่องจากอากศที่แปรปรวนมากทั้งตกหลุมอากาศทั้งกระแสลมและฝนตกอย่างหนัก ไฟสัญญาณคาดเข็มขัดยังแดงอยู่.....นอกจากเสียงเด็กแล้วก็จะได้ยินเสียงถอดและใส่เข็มขัดดังตลอดหลายครั้ง แต่ด้วยสภาพอากาศกว่ากัปตันจะปิดไฟก็ร่วมๆ 20 นาที (สงสัยจะปวดฉี่มาก) ถ้ารวมเสียงเด็กน้อยด้วยก็ร่วมๆ 3นาทีน่าจะได้
ระหว่างแจกขนมสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติอย่างที่ควรจะเป็น.......
หลังจากเก็บขยะเสร็จมีพี่แรงงานคนหนึ่งขอให้แอร์เขียนใบ arrival immigration ให้เนื่องจากเขียนไม่เป็นแต่จริงๆแล้วทั้งกลุ่มไม่มีใครกรอกเลย แฮร์หลายท่านต้อง
มาช่วยกรอกให้ แทนที่จะช่วยให้ข้อมูลให้แอร์เขียนให้บางคนก็กวนอีกไม่บอกบ้างอะไรบ้างน่าปวดหัว.....แต่แอร์ทุกท่านก็ยังยิ้มได้อยู่กว่าจะแล้วเสร็จเครื่องก็เตรียมลงจอดแล้ว
ระหว่างเตรียม landing ปิดไฟในห้องโดยสาร ทันใดนั้นเด็กน้อยก็ส่งเสียงอีกครั้งคราวนี้ดังกว่าเดิมเยอะจากที่หูอื้อๆกลายเป็นแก้วหูจะขาดหลายสิ่ง......
(ขอพอแค่นี้แล้วกันง่วงนอนแล้ว555)
สุดท้ายนี้ขออนุญาตชมเชยแอร์โฮสเตสทุกท่าน ที่มีความอดทนสูงมากกกกก ที่มีรอยยิ้มตลอดแม้ว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวายมากมายก็ตามที
ขอเป็นกำลังให้ทุกท่านจากใจจริงครับ
ขออนุญาตชมเชยแอร์โฮสเตสสายการบินนกแอร์
บริเวณที่ผมนั่งอยู่ด้านท้ายของเครื่องบิน ผู้โดยสารบริเวณที่ผมนั่งจะมี ครอบครัวชาวพม่า 3 คน พ่อแม่ลูก(เด็กเล็กอายุประมาณ2-3ขวบ) และอีกส่วนจะเป็นกลุ่มคนงานที่มาทำงานที่พม่าประมาณ 9-10 คน ท่าทางตื่นเต้นๆกันทุกคน(ความเห็นส่วนตัว น่าจะดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย แต่ไม่ถึงกับเมามากแต่ก็พอกึ่มๆ)
หลังจากที่ผู้โดยสารเข้าประจำที่เรียบร้อยแล้วแต่เครื่องยังไม่สามารถออกได้เนื่องจากฝนตกหนัก...พวกพี่ๆแรงงานก็มีแซวน้องๆแอร์โฮสเตสบ้างเป็นระยะตามการเดินผ่านไปมา(ไม่ได้เสียงดังนะครับประมาณคุยกันแค่ผมอยู่ใกล้) ระหว่างนั้นก็มีการสาธิตอุปกรณ์กันตามธรรมเนียมหลังจากสาธิตเสร็จแอร์สองท่านได้มาอธิบายพ่อแม่ของเด็กว่าควรอุ้มเด็กยังไงเวลาเครื่องขึ้นและลง.......
หลังจากเตรียมตัว Take off เครื่องถอยออกเข้ารันเวย์พร้อมดับไฟ.....เท่านั้นแหล่ะเด็กน้อยน้องเสียงดังมากกกกกก ดิ้น ๆๆๆแล้วก็ยืนขึ้นแอร์ท่านนึงก็ประกาศแต่ไม่เป็นผลแอร์ก็ได้เดินมาบอกให้ทำตามกฎประมาณนั้นแต่ก็ไม่เป็นผลหนูน้อยยังแผลงฤทธิ์มากกว่าเดิมร้องดังมากจนเรื่องTake off แต่เนื่องจากอากศที่แปรปรวนมากทั้งตกหลุมอากาศทั้งกระแสลมและฝนตกอย่างหนัก ไฟสัญญาณคาดเข็มขัดยังแดงอยู่.....นอกจากเสียงเด็กแล้วก็จะได้ยินเสียงถอดและใส่เข็มขัดดังตลอดหลายครั้ง แต่ด้วยสภาพอากาศกว่ากัปตันจะปิดไฟก็ร่วมๆ 20 นาที (สงสัยจะปวดฉี่มาก) ถ้ารวมเสียงเด็กน้อยด้วยก็ร่วมๆ 3นาทีน่าจะได้
ระหว่างแจกขนมสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติอย่างที่ควรจะเป็น.......
หลังจากเก็บขยะเสร็จมีพี่แรงงานคนหนึ่งขอให้แอร์เขียนใบ arrival immigration ให้เนื่องจากเขียนไม่เป็นแต่จริงๆแล้วทั้งกลุ่มไม่มีใครกรอกเลย แฮร์หลายท่านต้อง
มาช่วยกรอกให้ แทนที่จะช่วยให้ข้อมูลให้แอร์เขียนให้บางคนก็กวนอีกไม่บอกบ้างอะไรบ้างน่าปวดหัว.....แต่แอร์ทุกท่านก็ยังยิ้มได้อยู่กว่าจะแล้วเสร็จเครื่องก็เตรียมลงจอดแล้ว
ระหว่างเตรียม landing ปิดไฟในห้องโดยสาร ทันใดนั้นเด็กน้อยก็ส่งเสียงอีกครั้งคราวนี้ดังกว่าเดิมเยอะจากที่หูอื้อๆกลายเป็นแก้วหูจะขาดหลายสิ่ง......
(ขอพอแค่นี้แล้วกันง่วงนอนแล้ว555)
สุดท้ายนี้ขออนุญาตชมเชยแอร์โฮสเตสทุกท่าน ที่มีความอดทนสูงมากกกกก ที่มีรอยยิ้มตลอดแม้ว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวายมากมายก็ตามที
ขอเป็นกำลังให้ทุกท่านจากใจจริงครับ