ผมคิดว่าบางครั้งเราต้องโกหกเพื่อช่วยชีวิตคนจริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับพ่อตาแม่ยายของผมครับ ผมขอเรียกว่าตากับยายแล้วกันนะครับ ทั้งคู่อยู่ต่างจังหวัด ตาอายุเกือบ80 สุขภาพไม่แข็งแรงนักเป็นโรคหัวใจและกล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง ยายก็เป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายายต้องขึ้นกทม.เพื่อมาผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจตืบ3เส้น(กว่าจะได้คิวนัดยากมากๆ) ยายอยากจะพาตาขึ้นมาด้วยเพราะเป็นห่วงตากลัวไม่มีคนดูแลเพราะลูกไม่ค่อยอยู่บ้าน ต้องเดินทางไปที่อื่นตลอด ลูกๆก็คัดค้านกลัวว่าตาจะเดินทางไม่ไหวเหนื่อยเกินเพราะต้องนั่งรถทั้งคืน และที่สำคัญยายมารพ. ก็ยังไม่มีเตียงต้องมานั่งรอเตียงในรพ.รัฐซึ่งคนแออัดมาก จึงไม่ให้ตาไป ให้ตาอยู่กับลูกชายที่บ้าน คืนวันเสาร์ตาโทรมาหายายแต่ยายไม่รับโทรศัพท์เพราะยายกลัวคิดถึงแล้วร้องไห้. แต่แล้วเช้าวันอาทิตย์ตาก็ได้สิ้นลมหายใจ ลูกๆทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าจะบอกกับยายยังไง เพราะยายต้องผ่าตัดวันอังคารนี้ ลูกๆจึงคิดว่าไม่ควรจะบอกยาย จึงต้องแบ่งคนส่วนหนึ่งไปทำงานศพตา อีกส่วนนึงอยู่เฝ้ายายและคอยให้กำลังใจยาย ช่างเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดและทรมานใจอะไรเช่นนี้ จะบอกก็บอกไม่ได้ต้องคอยโกหกยายทุกครั้งที่ยายถามถึงตา เวลายายโทรไปหาตา ลูกก็จะรับแทนแล้วก็บอกว่าตาเดินไปที่อื่นบ้างเข้าห้องน้ำบ้างสารพัดเหตุผล ยายก็จะสั่งว่าให้ทำอะไรให้ตากินบ้างที่ตาชอบ บ้างก็ถามว่าตาสบายดีไหม ลูกๆก็ต้องบอกสบายดีไม่ต้องห่วง ลูกที่เฝ้ายายก็อยากไปงานศพตาใจจะขาดก็ทำไม่ได้ กลัวยายรู้ ส่วนลูกที่อยู่ทำงานศพตา. ยายก็อยากเจอ ลูกเขาก็ต้องอ้างว่าติดงานขึ้นมาเยี่ยมไม่ได้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดมากๆ แล้วยังไม่รู้ว่าจะบอกยายเมื่อไหร่และอย่างไรดีครับ
เรื่องจริงที่ไม่ควรจะบอกใช่หรือไม่ครับ