ว่าที่สามีหายเงียบไป จะเลิกก็น่ะจะบอกกันดีๆ

กระทู้คำถาม
ก่อนหน้ากระทู้นี้ ดิฉันเคยลงกระทู้ไว้ ตามนี้ค่ะ

(ข้อความจากกระทู้เดิม)
ดิฉันกับแฟนคบกันมา5ปี เราทั้งคู่อายุ 33 แล้ว วางแผนว่าปลายปีหน้าจะแต่งงาน ที่บ้านทั้งสองฝ่ายรับทราบและทั้งสองครอบครัวก็โอเคกันดี ตั้งแต่คบกันมาก็ดีมาตลอด ใส่ใจกันดี แต่มาช่วงหลังๆ ช่วงประมาณครึ่งปีมานี้  แฟนก็ห่างๆไป เขาไม่มาหาดิฉันที่บ้านเหมือนที่เคยทำประมาณ 4 เดือนแล้ว แม่เริ่มถามว่าแฟนไปไหน แม้แต่คนงานที่บ้านยังถามว่าแฟนเราหายไปไหน ช่วงหลังๆมานี้ไปไหนไม่บอก ต้องคอยถามอยู่ตลอด ไม่ใส่ใจดิฉันแบบที่เคยทำมาตลอด ขนาดอยู่จังหวัดเดียวกัน เจอกันแค่กินข้าวเย็นวันเสาร์วันเดียว เวลาไปรับรองเจ้านายตอนกลางคืนจะไม่ตอบไลน์ ไม่แม้แต่จะกดอ่านด้วยซ้ำและไม่รับโทรศัพท์เลย ซึ่งเจ้านายก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น ไม่ใช้ทหารหรือคนในระบบราชการอะไรและ เจ้านายแฟนก็รู้จักดิฉันดี เพราะเคยปรึกษากันเรื่องธุรกิจ ล่าสุดเมื่อกลางเดือน แฟนกลับบ้านต่างจังหวัดเอารถ(พร้อมกับกุญแจรถ)มาฝากที่บ้านดิฉัน วันที่ดิฉันเอารถแฟนออกไปใช้ ดิฉันเจอถุงยางกับเครื่องอำอาง(ที่ไม่ใช่ของดิฉัน) อยู่ในรถ ดิฉันโทรไปถาม(ถามดีๆ น้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้โมโห แค่อยากฟังคำอธิบายที่ชัดเจน) แฟนก็บอกว่า ไม่มีอะไรไม่ต้องคิดมาก ถุงยางเป็นของพี่คนนึง พี่คนนั้นไม่อยากเอาถุงยางเข้าบ้าน เดี๋ยวเมียพี่เค้ารู้ ส่วนเครื่องสำอางเป็นของแฟนเพื่อนทำตกไว้ในรถ และแฟนก็บอกว่ากลับค่อยคุยกัน อยู่ไกลกัน ไม่อยากทะเลาะ แต่พอกลับมา 1 อาทิตย์ ยังไม่มาคุยกับดิฉันเลย ดิฉันต้องขับรถไปถามที่บ้านแฟน เราเคลียร์กันเรื่องถุงยาง เครื่องสำอาง ความไม่ใส่ใจและความห่างเหินที่เกิดขึ้น ตอนนั้นดิฉันขอเลิก ซึ่งปกติดิฉันจะไม่เอาเรื่องเลิกมาพูดเล่น หรือท้าเลิก เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่แฟนบอกว่าดิฉันพูดด้วยอารมณ์ ขอเวลา3เดือน เขาจะพยายามทำให้ดีขึ้น และเขาก็ขอให้ดิฉันสนใจเขามากขึ้น อย่ามัวแต่ทำมาค้าขายอย่างเดียว
    ครึ่งเดือนมานี้ดิฉันไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรดีขึ้น กลับกัน ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันเป็นคนพยายาม(ให้ดีขึ้น)อยู่คนเดียว เหมือนวิ่งตามแฟนด้วยซ้ำ เมื่อวานนี้นัดทานข้าวเย็น จะไม่มาก็ไม่บอก โทรหาก็ไม่รับ กว่าจะโทรกลับมาก็ดึกแล้ว ดิฉันไม่รับสายเพราะถ้ารับ ดิฉันต้องโมโหใส่แฟนแน่ๆ และดิฉันก็ไม่อยากโวยวายใส่ใคร ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน 3เดือนที่เค้าเคยขอเวลา ดิฉันอาจจะไม่ไหวถ้ายังบ้าบอพยายามอยู่คนเดียว นี่มันคือสัญญาณของการเลิกราใช่หรือเปล่าคะ หรือผู้ชายเค้าไม่อยากบอกเลิกตรงๆ กลัวดิฉันเสียใจ เลยกดดันให้ดิฉันไปเอง ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และดิฉันอยากจะฟังความคิดเห็นของท่านที่เข้ามาอ่านด้วย ขอบคุณค่ะ
    หลังจากนั้นเราก็คุยกันทางโทรศัพย์ตามปกติ ไลน์คุยกันบ้าง แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือชวนไปไหนบอกเหนื่อย ไปไม่ไหว ขนาดกินข้าวก็เหนื่อยนะคะ ไปไม่ไหว มีครั้งหนึ่งดิฉันจะไปขึ้นเครื่องตอน 7 โมงเช้า ดิฉันก็บอกเค้าว่าช่วยมารับที่บ้านไปส่งสนามบินหน่อย เค้าก็บอกว่าเค้าไปไม่ไหวค่ะ (7โมงเช้านะคะ ไม่ใช่ตี4 แต่ไปไม่ไหว) จนครั้งสุดท้ายชวนไปกินข้าว ก็ได้คำตอบเดิมคือไปไม่ไหว ดิฉันเลยตัดสินใจบอกเค้าว่าถ้าเค้าจัดการเรื่องงานสำคัญเสร็จ ดิฉันจะขอเคลียร์เรื่องของเรา หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ 1 เดือนเต็ม ดิฉันไม่ได้รับการติดต่อจากเค้าอีกเลย ดิฉันก็ยังคิดถึงเค้า คิดถึงเรื่องราวดีๆของเราแต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะรั้งอีกแล้ว กะว่าถ้าเรื่องงานสำคัญของเค้าเสร็จเมื่อไหร่ ก็จะนัดกินข้าวและจบเรื่องของเราซักที เพราะคนจะแต่งงานกัน แต่กลับไม่เห็นความสำคัญของเรา ไม่ใส่ใจแถมหายหัวไป 1 เดือน ไม่ติดต่อมาเลยอย่างงี้ อย่าเก็บไว้เป็นพ่อของลูกเลยจะดีกว่า
     เล่าสู่กันฟังนะคะ ดิฉันต้องมาโสดตอนอายุ 33 เหอะๆ เอาน่า...ก็ยังดีกว่าแต่งงานแล้วไม่มีความสุข แปลกใจที่ตัวดิฉันเองก็ไม่ได้ฟูมฟายอะไร แถมค่อยๆคิดได้อย่างใจเย็น อาจจะเป็นเพราะอายุก็ไม่น้อยแล้ว แถมมีกิจการต้องดูแล มีงานต้องทำอีกมาก ช่วงที่เครียดๆเรื่องความรักประมาณ 2 เดือนก็ไปออกกำลังกายแก้เครียดค่ะ น้ำหนักลดไป 6 กิโล (ลดจาก 56 เหลือ 50 สูง 169 ^^) ตอนนี้ใส่เสื้อผ้าเก่าได้แล้ว ดีใจจัง ขอบคุณอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามา ขอบคุณครอบครัวที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ขอบคุณสติและความเข้มแข็งที่ทำให้เราไม่ล้มทั้งยืน ขอบคุณเพื่อนๆที่ให้กำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตอบกระทู้เมื่อครั้งที่แล้ว และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
พวกกล้าบอกรัก แต่ไม่กล้าบอกเลิก  เรียกพวกใจฮีมด
ความคิดเห็นที่ 10
เราว่าคุณไม่ต้องไปตามตัวเค้ามาเคลียร์หรอกค่ะ หายไปจากชีวิตเค้าเลยดีกว่า แล้วเดินหน้าเชิดๆ ไปเลย มีใครเข้ามาก็พิจารณาห่างๆ ก่อนในช่วงที่ยังไม่เคลียร์

ถ้าเค้าอยากเลิก ให้เค้าเป็นฝ่ายติดต่อคุณมาเอง คุณไม่ต้องติดต่อไปแล้วค่ะ เพียงแต่ว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทกับผู้ใหญ่คุณก็แจ้งให้พวกท่านทราบถึงปัญหาและความคิดเห็นของคุณว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เช่น ให้เวลา 3 เดือนถ้าพฤติกรรมไม่เปลี่ยน คุณก็จำใจต้องเดินไปตามทางของคุณนะคะ แล้วก็ขอให้ผู้ใหญ่ท่านเข้าใจด้วย

เราเคยเป็นอย่างนี้เลย อ้างว่าไม่ว่างหลายเดือนมาก เราเลยถอยห่างออกมาเอง ปรากฏว่าเราได้พบกับผู้ชายอีกคนที่เข้ามาในชีวิตผ่านทางเพื่อน คบกันได้ 6 เดือนก็ตัดสินใจแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี น้องชายเราบอกว่า เฮ้ยย มีผู้ชายโทรมาถามหาอ่ะ ชื่อ..... ไอ้เราก็ขำนะ เพราะกว่าทางนั้นจะคิดได้นี่คือผ่านมาเกือบ 3 ปี

อย่าเอาชีวิตสาว สวย โสดไปยึดติดกับผู้ชายคนเดียวค่ะ ถ้าเค้าแคร์ความรู้สึกคุณจริง เค้าจะไม่ทำให้คุณเสียใจ
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ก็ทุ่มเทให้กับงานเป็นหลัก เวลาว่างก็ออกกำลัง(กลายเป็นคนติดออกกำลังไปแล้ว ก็ดีเหมือนกันนะคะ^^) ตระเวนกินเที่ยวกับเพื่อนๆ (พอดีเพื่อนโสดๆเหลือเยอะคะ ชวนไปไหนไปหมด) ช๊อปปิ้ง ทำผม เข้าสปา ฯลฯ ทำกิจกรรมเยอะๆค่ะ จะได้ไม่จิตตก ส่วนเรื่องผู้ชาย เมื่อเรามีคำตอบให้ตัวเองแล้ว ตัดสินใจแล้ว เลิกคิดวนๆซ้ำๆ มันก็ผ่อนคลายไปได้มาก รอเวลาที่จะได้พูดคุยกันเท่านั้นค่ะเพี้ยนโบ๊ะหน้า
ความคิดเห็นที่ 85
จริง อินด้วย เรามีศัพท์พิเศษเรียกไอ้พวกนี้ว่า "ชักปลั๊ก" หมายถึงไอ้พวกที่ คุยๆ คบๆ กันอยู่ดีๆ แล้วจู่ๆ มันหายหัวไปจากชีวิตแบบติดต่อไม่ได้เหมือนตายจาก ประดุจโดนชักปลั๊กลากสายหายไปสู่มิติที่สี่ ทิ้งให้คนข้างหลังงุนนงงสงสัยโศกเศร้าข้าวปลากินไม่ลง ว่าตูทำรัยผิด เมิงโดนมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไป หรือเมิงตาย ถ้าเมิงตายเมิงอยู่ศาลาไหน สวดกี่วัน ทุรนทุรายตามหาอยากบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายยยยย  สุดท้ายก็แค่ได้พบว่า อ่อ จริงๆ มันก็แค่อยากเลิกแต่ปอดแหกไม่กล้าสู้ความจริง

ห่วย
ความคิดเห็นที่ 63
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนมาให้กำลังใจมากมายขนาดนี้ สำหรับคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ดิฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านช่วงเวลาแย่ๆไปให้ได้ รักตัวเองให้มากๆนะคะ ตอนที่ดิฉันร้องไห้เพราะผู้ชายคนนี้ แม่ดิฉันพูดว่าแม่เลี้ยงลูกมาอย่างดี ให้การศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่ให้ได้ ไม่เคยให้ต้องลำบากอะไรเลย ถ้าลูกจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายแบบนี้ แม่คงไม่สบายใจนะ เท่านั้นแหละค้าาาาาาา สติมาปัญญาเกิด แล้วก็เริ่มเข้มแข็งและตัดสินใจได้ จนมาเขียนเรื่องราวให้พันทิปนี่แหละค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและขอให้กำลังใจคนที่ประสบเรื่องราวแย่ๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่