พี่ชายไปเซ็นต์หนังสือสัญญาฉบับหนึ่ง ใจความว่า ขอยืมบ้านพร้อมที่ดินเพื่อไปจำนองธนาคาร และนำเงินมาลงทุนในธุรกิจส่วนตัว
และจะชำระเงินที่กู้จากธนาคารจนหมด และจะโอนที่ดินนั้นคืนเจ้าของที่เดิม แต่เจ้าของเดิมอ้างว่าถูกหลอกลวงให้หลงเชื่อ จึงยอมโอนที่ดินให้
เค้าฟ้องฉ้อโกงพี่ชาย ซึ่งเราสู้คดี และฟ้องกลับ เพราะความเป็นจริง บ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวติดจำนองธ.ธกสอยู่ กำลังจะถูกยืด ขณะ
นั้นลูกชายเจ้าของที่ดิน มาทำงานกับพี่ชายซึ่งเป็นเพื่อนกัน เห็นว่าพี่ชายมีเครดิตดี จึงเสนอให้พี่ชายช่วยรับโอนและนำที่ดังกล่าวไป
จำนองธ.กสิกร ลูกชายเค้าบอกว่าเค้าจะเป็นคนส่งหนี้นี้เอง และดำเนินการทำธุรกรรมกับธนาคารกสิกรไทยดังนี้
1. กู้เงิน 1.3ล้านบาท สั่งจ่ายธ.ธกส.ตามจำนวนที่เป็นหนี้ มีหลักฐานเป็นเช็คสั่งจ่าย
2. กู้เงิน 1.2ล้านบาท เป็นเช็คเงินสด สั่งจ่ายชื่อพี่ชายไม่ขีดคร่อม เจ้าของบ้านเป็นคนเอาไปขึ้นเงิน
3. ต่อมาลูกชายเจ้างของบ้านซึ่งเป็นเพื่อนพี่ชาย แจ้งว่าอยากร่วมลงทุน แต่ไม่มีทุน จึงเสนอขอเปิด OD จำนวน 1ล้าน
โดยของมีอำนาจในการลงชื่อเบิกถอนเงิน ODนี้ด้วย เค้าจึงของเบิกไปส่วนตัว 5แสน อ้างว่าจะนำมาใช้ลงทุน
ลูกชายเค้านำส่งเงินธ.กสิกรได้ไม่นานก็ขาดส่ง พี่ชายจึงส่งแทนไประยะหนึ่ง จนมีเรื่องขัดแย้งกันเกี่ยวกับงาน เป็นเหตุให้เพื่อนต้องหยุด
ทำงาน เค้าฟ้องฉ้อโกงพี่ชาย ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว คดีขาดอายุความ
ขณะที่มีคดีความกัน เราให้พี่ชายหยุดส่งเงินกับธ.กสิกรไทย เพราะเราคิดว่าให้ธนาคารยึดไปคงจะดีกว่า เราก็ไม่ได้อยากได้ และแจ้งให้
เค้านำเงินมาใช้หนี้ให้ครบ และจะทำการโอนคืนให้ แต่เค้าก็นิ่งเฉย จนพี่ชายถูกธ.กสิกรฟ้อง ซึ่งเราแจ้งต่อศาล ขอยอมความ และให้ยึด
ทรัพย์ได้ทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ทนายแนะนำให้เราไปฟ้องขับไล่ก่อนและทำเรื่องขาย แล้วค่อยนำเงินมาใช้หนี้ธนาคาร ตอนนี้เรายอมความ
ไปแล้วคดีธนาคารสิ้นสุด
เล่าซะยาว อีกนิดนึงนะคะ ตอนนี้เจ้าของบ้านจ้างสำนักงานกฏหมาย มีใจความให้คืนโฉนดตัวจริง ภายใน7วัน ถ้าไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี
อยากทราบว่า เค้าจะสามารถนำหนังสือสัญญาฉบับนั้นมาดำเนินดดีเราได้อีกหรือไม่ และเราควรทำอย่างไร เราสามารถฟ้องเค้ากลับในข้อ
หาอะไรได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้เราเกิดความเสียหาย
ท่านใดที่พอจะให้คำแนะนำได้บ้าง รบกวนด้วยนะคะ ตอนนี้ไม่รู้จะพ
รบกวนด้วยค่ะ เมื่อได้รับหนังสือจากสำนักงานกฏหมายควรทำอย่างไรคะ
และจะชำระเงินที่กู้จากธนาคารจนหมด และจะโอนที่ดินนั้นคืนเจ้าของที่เดิม แต่เจ้าของเดิมอ้างว่าถูกหลอกลวงให้หลงเชื่อ จึงยอมโอนที่ดินให้
เค้าฟ้องฉ้อโกงพี่ชาย ซึ่งเราสู้คดี และฟ้องกลับ เพราะความเป็นจริง บ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวติดจำนองธ.ธกสอยู่ กำลังจะถูกยืด ขณะ
นั้นลูกชายเจ้าของที่ดิน มาทำงานกับพี่ชายซึ่งเป็นเพื่อนกัน เห็นว่าพี่ชายมีเครดิตดี จึงเสนอให้พี่ชายช่วยรับโอนและนำที่ดังกล่าวไป
จำนองธ.กสิกร ลูกชายเค้าบอกว่าเค้าจะเป็นคนส่งหนี้นี้เอง และดำเนินการทำธุรกรรมกับธนาคารกสิกรไทยดังนี้
1. กู้เงิน 1.3ล้านบาท สั่งจ่ายธ.ธกส.ตามจำนวนที่เป็นหนี้ มีหลักฐานเป็นเช็คสั่งจ่าย
2. กู้เงิน 1.2ล้านบาท เป็นเช็คเงินสด สั่งจ่ายชื่อพี่ชายไม่ขีดคร่อม เจ้าของบ้านเป็นคนเอาไปขึ้นเงิน
3. ต่อมาลูกชายเจ้างของบ้านซึ่งเป็นเพื่อนพี่ชาย แจ้งว่าอยากร่วมลงทุน แต่ไม่มีทุน จึงเสนอขอเปิด OD จำนวน 1ล้าน
โดยของมีอำนาจในการลงชื่อเบิกถอนเงิน ODนี้ด้วย เค้าจึงของเบิกไปส่วนตัว 5แสน อ้างว่าจะนำมาใช้ลงทุน
ลูกชายเค้านำส่งเงินธ.กสิกรได้ไม่นานก็ขาดส่ง พี่ชายจึงส่งแทนไประยะหนึ่ง จนมีเรื่องขัดแย้งกันเกี่ยวกับงาน เป็นเหตุให้เพื่อนต้องหยุด
ทำงาน เค้าฟ้องฉ้อโกงพี่ชาย ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว คดีขาดอายุความ
ขณะที่มีคดีความกัน เราให้พี่ชายหยุดส่งเงินกับธ.กสิกรไทย เพราะเราคิดว่าให้ธนาคารยึดไปคงจะดีกว่า เราก็ไม่ได้อยากได้ และแจ้งให้
เค้านำเงินมาใช้หนี้ให้ครบ และจะทำการโอนคืนให้ แต่เค้าก็นิ่งเฉย จนพี่ชายถูกธ.กสิกรฟ้อง ซึ่งเราแจ้งต่อศาล ขอยอมความ และให้ยึด
ทรัพย์ได้ทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ทนายแนะนำให้เราไปฟ้องขับไล่ก่อนและทำเรื่องขาย แล้วค่อยนำเงินมาใช้หนี้ธนาคาร ตอนนี้เรายอมความ
ไปแล้วคดีธนาคารสิ้นสุด
เล่าซะยาว อีกนิดนึงนะคะ ตอนนี้เจ้าของบ้านจ้างสำนักงานกฏหมาย มีใจความให้คืนโฉนดตัวจริง ภายใน7วัน ถ้าไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี
อยากทราบว่า เค้าจะสามารถนำหนังสือสัญญาฉบับนั้นมาดำเนินดดีเราได้อีกหรือไม่ และเราควรทำอย่างไร เราสามารถฟ้องเค้ากลับในข้อ
หาอะไรได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้เราเกิดความเสียหาย
ท่านใดที่พอจะให้คำแนะนำได้บ้าง รบกวนด้วยนะคะ ตอนนี้ไม่รู้จะพ